บทที่ 4
เพลานี้ท้องฟ้าในโลกหลังความตายมีดวงจันทร์ลอยเด่นเป็นสง่า ท่ามกลางกลุ่มหมู่ดาวนับร้อยนับพันแข่งกันส่องแสงวิบวับ สายลมเอื่อยพัดมาเป็นระยะบ่อยครั้งกว่ายามกลางวัน
เลี่ยงซูนั่งเหม่อลอยนึกไพล่ถึงการตายของตัวเองที่ต้องตายอย่างอยุติธรรมทั้งที่ตัวเธอเองนั้นยังไม่หมดอายุขัย ดวงวิญญาณของหญิงสาวนั่งมองทะเลดาวพลางใช้ความคิดอยู่อย่างนั้นอยู่นาน
ใครก็ตามอย่ามาบอกเธอว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร สำหรับตระกูลสุ่ยแล้วพวกมันไม่คู่ควรกับการได้รับการอโหสิกรรมเลยสักนิด เธออยากแก้แค้นคนพวกนี้มากถึงมากที่สุดแต่ก็นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี
ในเมื่อตอนนี้เธอเป็นเพียงดวงวิญญาณที่กำลังรอคอยวันกลับไปเกิดอีกครั้งเท่านั้น
ดวงวิญญาณหญิงสาวนั่งเหม่อมองบรรยากาศรอบตัวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นด้ายแดงที่ผูกอยู่กับข้อมือของตัวเองก็พลันมีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมา
ย้อนกลับไปเมื่อวันแรกหลังจากเลี่ยงซูตายเพราะถูกฆ่าปิดปาก วิญญาณของหญิงสาวก็จมอยู่ในทะเลอารมณ์โกรธและความเศร้าเสียใจ เพราะทำใจไม่ได้ที่จู่ ๆ ตัวเองก็ต้องมาจบชีวิตลงอย่างกะทันหัน
วิญญาณของเลี่ยงซูจิตตกมากที่ต้องตายเพราะพวกคนเลว อย่าว่าแต่ให้ปลง เธอยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองได้ตายไปแล้วจริง ๆ
เลี่ยงซูที่กลายเป็นดวงวิญญาณเดินเตร็ดเตร่อยู่ในโลกหลังความตายแห่งนี้ไปทั่วด้วยอาการเหม่อลอย จนเกือบจะพลัดตกลงไปในบ่อเดรัจฉาน
แต่ว่าโชคยังพอเข้าข้างอยู่บ้าง เมื่อฮุ่ยเจียงบังเอิญเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะร่วงลงไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
นับตั้งแต่วันนั้นเลี่ยงซูเลยถือว่าฮุ่ยเจียงนั้นเป็นผู้มีพระคุณของตัวเอง และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอในโลกหลังความตายแห่งนี้
เลี่ยงซูหลุดออกจากภวังค์เมื่อสายตาของเธอหันไปเห็นผู้คุมสูงสุดแห่งโลกหลังความตายกำลังเดินกอดไหเหล้าคู่ใจโซซัดโซเซก้าวไปด้านหน้าสามก้าวถอยหลังสองก้าวผ่านมา ไม่ไกลจากบริเวณที่เธอนั่งอยู่เท่าใดนัก
หญิงสาวหัวใจกระตุกเห็นท่าไม่ดีรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปหาชายชราทันที เมื่อเห็นว่าคนเมาหนักกำลังเดินตรงเข้าไปใกล้กับบ่อเดรัจฉานเข้าทุกทีจนน่าหวาดเสียว
“ท่านผู้คุม!”
“ท่านผู้คุมระวังเจ้าค่ะ!”
ฮุ่ยเจียงเองที่ตั้งใจจะเดินมาหาเลี่ยงซูก็เห็นเหตุการณ์เข้าด้วยพอดี ดวงวิญญาณของหญิงสาวทั้งสองจึงสามารถช่วยไม่ให้ผู้คุมสูงสุดแห่งโลกหลังความตายตกบ่อเดรัจฉานไว้ได้อย่างหวุดหวิดเพียงปลายนิ้ว
“อ้ะ เอ้อ ขอบใจ ๆ ขอบใจทั้งสองคนมาก”
ผู้คุมสูงสุดถึงกับสร่างเมาทันทีเมื่อได้สติขึ้นมาแล้วเห็นว่าตรงหน้าตัวเองนั้นเป็นบ่อเดรัจฉาน แถมยังอยู่ห่างตัวเองออกไปไม่ถึงสองช่วงแขนด้วยซ้ำ
ชายชราหน้าซีดเผือดก่อนจะเริ่มขึ้นสีเรื่อรีบเดินตรงแหน่วกลับเข้าที่ทำการตัวเองไปเพราะความอับอาย