บทที่ 3 เขินอาย
บทที่ 3 เขินอาย
บ้านใต้เท้าโจ
วันนี้อากาศช่างสดใส ลมพัดเย็นสบายหลิ่งฟู่กับท่านแม่ของนางช่วยกันทำขนมไว้ทานเล่น หลิ่งฟู่นางมักจะทำอาหารอร่อยแม้จะเป็นบุตรสาวของใต้เท้าแต่ท่านแม่ของนางก็มักจะสอนให้นางเก่งทุกอย่างภายในบ้านเพื่อวันหนึ่งนางมีครอบครัวจะได้ไม่ขาดตกบกพร่องเอาได้
“ท่านแม่ ขนมฝีมือท่านแม่อร่อยมากๆ เลยเจ้าค่ะ ข้าชอบมากๆ เมื่อไหร่ที่ท่านแม่ทำ ดูพุงน้อยๆ ของข้าสิเจ้าคะ ตอนนี้บวมเบ่งอย่างกับมีเด็กอยู่ด้านใน ฮาฮ่า” คำพูดคำจาของหลิ่งฟู่ที่ออดอ้อนประจบประแจงแม่ของนางจนทำให้ท่านแม่เอามือมาลูบหัวอย่างเอ็นดู
“เจ้านี่ก็ช่างพูดเหลือเกินนะหลิ่งฟู่ เอานี่ขนมเอาไปให้ท่านพ่อเจ้าที เห็นว่าวันนี้ท่านจวิ้นอ๋องมาหาที่ห้องทำงานซูฮวาส่วนเจ้าก็เอาน้ำชานี่เดินตามคุณหนูของเจ้าไปด้วย”
หลิ่งฟู่ได้ยินผู้ใดมาเยือนนางรีบลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าอาภรณ์ให้ดูสะอาดตาและหันไปถามท่านแม่ของตนว่าตอนนี้ใบหน้าของนางดูดีหรือไม่
“ท่านแม่ใบหน้าของข้ามีอันใดติดอยู่หรือไม่ ซูฮวาเจ้าดูเสื้อผ้าให้ข้าทีมีตรงไหนที่หลุดลุ่ยหรือไม่”
ท่านแม่ของนางถึงกับหัวเราะออกมาในความใส่ใจเมื่อเห็นลูกสาวของตนตื่นเต้นดีใจเมื่อจะได้เห็นจวิ้นอ๋องใกล้ๆ ช่างเหมือนนางตอนเป็นสาวยิ่งนัก
“คุณหนูของข้างามมากเจ้าค่ะ แต่คุณหนูต้องสำรวมกิริยานิดหน่อยนะเจ้าคะ”
“แม่ก็ว่าเช่นเดียวกันกับซูฮวานะ ทุกอย่างบนร่างกายของเจ้าดูดีอยู่แล้ว แต่เจ้าต้องสำรวจกิริยาอย่าทำให้ท่านพ่อของเจ้าขายหน้าเชียวล่ะ” ทุกคนต่างพากันหัวเราะชอบใจ หลิ่งฟู่นางมีกริยาที่ต่างจากบุตรสาวบ้านอื่นแม้ว่านางจะทำทุกอย่างเก่งแต่ทว่านางไม่ค่อยความเป็นกุลสตรีสักเท่าไหร่ นางมักจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตนเองเพราะถูกเลี้ยงมาอย่างดี
“ท่านแม่ ข้าเองก็รู้ว่าสิ่งไหนข้าควรทำไม่ควรทำ ซูฮวาไปกันเถอะ “หลิ่งฟู่เดินถือถ้วยขนมเข้าไปหาท่านพ่อของนางที่ห้อง นางพยายามสำรวมกิริยาอย่างที่ท่านแม่สอนอย่างดีเพื่อให้จวิ้นอ๋องได้เห็น
“ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าหลิ่งฟู่ขอเข้าไปนะเจ้าคะท่านแม่ให้ข้านำขนมมาและน้ำชามาให้ท่านพ่อกับแขกของท่านเจ้าค่ะ”
เมื่อมาถึงหน้าห้องนางจึงบอกท่านพ่อเพื่อให้เป็นมารยาทเพราะท่านพ่ออาจจะคุยเรื่องสำคัญกันอยู่
“หลิ่งฟู่รึ เข้ามาสิพอเลยข้ากำลังจะให้บ่าวรับใช้ไปตามเจ้าพอดี”
หลิ่งฟู่เดินเข้ามาก้มหน้าและวางถ้วยขนมลงบนโต๊ะและหันไปรับน้ำชาจากซูฮวามาวางไว้ข้างๆ กัน
“หลิ่งฟู่ นี่ท่านจวิ้นอ๋อง”
หลิ่งฟู่เงยหน้าขึ้นยิ้มอ่อนๆ อย่างเหนี่ยมอายก่อนจะย่อตัวลงเพื่อเป็นการทักทายกับคนตรงหน้า
“ข้าหลิ่งฟู่คาระวะท่านจวิ้นอ๋องเพคะ”
จวิ้นอ๋องที่เฝ้าคิดถึงนางอยู่แล้วเมื่อมาเห็นนางในฝันใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้เขาหลงรักนางมากกว่าเดิม
“ช่างงดงามยิ่งนักไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือกิริยา สมแล้วที่จะมาเป็นพระชายาของข้า” จวิ้นอ๋องพยุงตัวของหลิ่งฟู่ขึ้นเพื่อไม่ให้นางคำนับต่อเขา
“หลิ่งฟู่ที่ท่านจวิ้นอ๋องมาวันนี้ พ่อเองก็มีเรื่องแจ้งต่อเจ้านี่คือราชโองการของฝ่าบาทให้เจ้าเข้ารับตำแหน่งพระชายาของจวิ้นอ๋อง ในอีก 3วัน”
แม้ในใจหลิ่งฟูอยากตะโกนกรี๊ดออกมาอย่างเต็มอก แต่ตอนนี้นางต้องคุมจิตใจของตนให้นิ่งเข้าไว้
“ข้าหลิ่งฟู่น้อมรับราชโองการเพคะ” หลิ่งฟูยิ้มกริ่มก่อนจะโค้งคำนับราชโองการนั้นอย่างดีใจ
“ข้าเองก็หมดธุระกับท่านจวิ้นอ๋องแล้ว หลิ่งฟู่เจ้าเดินไปส่งท่านจวิ้นอ๋องแทนข้าที” เหมือนท่านพ่อจะรู้ใจของนาง ว่านางอยากใช้เวลาและพูดคุยกับจวิ้นอ๋องเลยพูดเปิดโอกาศให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน
“ได้เจ้าค่ะท่านพ่อ เชิญท่านจวิ้นอ๋องเพคะ”
“ข้าไปก่อนนะใตเท้าโจ อีก3วันข้าจะส่งเกี้ยวมารับว่าที่ชายาของข้าอย่างสมเกียรติขอบใจท่านที่มอบบุตรสาวให้แก่ข้า”
“กระหม่อมต่างหากที่ต้องขอบใจท่านที่เลือกบุตรสาวของกระหม่อมเป็นเกียรติของตระกูลของกระหม่อมยิ่งนัก”
เมื่อทั้งคู่พูดลากันเสร็จหลิ่งฟู่ก็เดินมาส่งจวิ้นอ๋องที่หน้าบ้านของตนโดยมีซูฮวาเดินตามหลังอย่างห่างๆ
ระหว่างทางจวิ้นอ๋องได้เอ่ยถามนางเรื่องที่จะไปเป็นฮูหยินของเขา นางเองลำบาคใจหรือไม่
“หลิ่งฟู่เจ้ารู้สึกเช่นไรที่จะไปเป็นชายาของข้า ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าลำบาคใจใช่หรือไม่” หลิ่งฟู่ไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองใบหน้าของจวิ้นอ๋องเมื่ออยู่ใกล้กันแค่คืบ
“หม่อมฉันไม่ลำบาคใจเลยเพคะ หม่อมฉันเต็มใจ” นางยืนกุมมือเข้าหากันเพื่อยับยั้งอารมณ์ของตนไว้
“ข้าสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี และจะยกเจ้าเป็นหนึ่งเดียวในใจของข้าตลอดไป”
จวิ้นอ๋องจับมือเรียวสวยของหลิ่งฟู่ทั้งสองข้างมาทาบที่อกด้านซ้ายของตนเองเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขานั้นรู้สึกเช่นไรกับนาง หลิ่งฟู่สัมผัสได้ถึงหัวใจของจวิ้นอ๋องเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมือน้อยๆ ของนางสัมผัส นางรีบดึงมือของตนเองออกมา
“ท่านไม่ต้องทำถึงเพียงนี้ก็ได้เพคะ วันนี้ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัยนะเพคะ หม่อมฉันขอมาส่งท่านเพียงเท่านี้” หลิ่งฟู่รีบหันหลังให้จวิ้นอ๋องเพราะตอนนี้หัวใจของนางเองก็จะระเบิดออกมาเพียงแค่มือของจวิ้นอ๋องสัมผัสนางก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยืนแล้ว ยิ่งเขามาทำเช่นนี้แถมยังให้คำมั่นสัญญานางยิ่งอ่อนระทวยกับคำพูดของเขา จวิ้นอ๋องยืนมองหลิ่งฟู่ที่เดินจากเขาไปเมื่อครู่เขาได้เห็นแววตาของนางและรอยยิมที่เขินอาย ทำให้เขาเองก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ในท่าทางเขินอายของนางนั้นยิ่งทำให้เขาหลงนางและเฝ้ารอวันที่เขาจะมารับนางเข้าที่จวนไม่ไหว แต่เขาก็ทำได้เพียงกลับจวนของตนไปเช่นนั้น