บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ท่านเจ้าเมืองคนใหม่

บทที่ 5 ท่านเจ้าเมืองคนใหม่

ทั้งสองพากันเดินเข้ามาในตลาดช่างคึกคักตื่นตาตื่นใจของจิ้นหยางเหลือเกิน การที่เขาทะลุมิติมายังที่แห่งนี้ไม่ได้มีเรื่องร้ายอะไรนอกจากความยากจน ที่นี่ทั้งบรรยากาศสิ่งแวดล้อมแตกต่างจากที่เขาอยู่ยิ่งนัก แม้จะลำบากอยู่บ้างแต่เขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

“พี่จิ้นหยางรีบเดินตามข้ามาขอรับ เดินไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่จะเจอเรือนของท่านเจ้าเมืองแล้วขอรับเห็นด้านหน้านั้นหรือไม่? ผู้คนจอแจเต็มหน้าเรือนสงสัยจะมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ข้าได้ยินมาว่าท่านเจ้าเมืองที่ย้ายมาใหม่มีใบหน้าที่หล่อเหลาข้าชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าจะหล่อเท่าข้ามั้ย” จิ้นหยางมองใบหน้าของเจียวซิ่งก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขบขันในความมั่นอกมั่นใจของเขาเหลือเกิน

“พี่จิ้นหยางหัวเราะข้าอย่างนั้นหรือ? ท่านไม่รู้สินะว่าข้านะมีใบหน้าหล่อเหลาที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว หากข้าเติบโตอีกสักหน่อยคงจะมีสตรีมากมายเข้าหาจนน่ารำคาญแน่นอน”

“ข้ายังไม่ได้ว่าอะไรเจ้าเลยนะ ไหนล่ะทางที่เจ้าจะพาหาเข้าไปหาอาหาร เท่าที่ข้าดูผู้ที่เข้าไปต้องมีเทียบเชิญมิใช่หรือ” สองเท้าก้าวมาถึงหน้าเรือนเห็นคนที่เข้าไปต้องยื่นเทียบเชิญให้แก่บ่าวรับใช้ที่อยู่หน้าเรือนถึงจะเข้าไปด้านในได้ แล้วอย่างนี้เจียวซิ่งจะพาเขาเข้าไปยังไงกัน คงไม่คิดจะพาเขากระโดดข้ามกำแพงหรอกนะ!

“มันต้องมีทางสิขอรับ เชื่อใจข้าตามข้ามาทางด้านนี้ขอรับ” เจียวซิ่งเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจพาจิ้นหยางเดินเรียบไปอีกทาง และแล้วก็เป็นอย่างที่จิ้นหยางคิด เจียวซิ่งจะพาเขาปีนกำแพงเข้าไปจริง ๆ

“นี่เจ้าจะพาข้าปีนกำแพงอย่างนั้นหรือ? ไม่เอาล่ะ!! เดี๋ยวจะได้รับบาดเจ็บ”

“โธ่! ท่านจะกลัวอะไรกัน!! ท่านมิใช่สตรีเสียหน่อยแถมร่างกายของท่านยังแข็งแกร่งบึกบึนขนาดนี้ มาเถิดหากชักช้าเดี๋ยวจะถูกจับได้ ข้าจะปีนเข้าไปก่อนนะขอรับ” เอ่ยจบเจียวซิ่งกระโดดข้ามไปทันที จิ้นหยางจ้องมองพลางถอนหายใจ

“เฮ้อ! ทำไมต้องมาทำอะไรที่อันตรายอย่างนี้ด้วยนะ เอาว่ะยังไงก็ต้องเอาอาหารไปให้ท่านแม่ให้ได้” เขาสูดลมหายใจเข้ากระโดดข้ามกำแพงอย่างรวดเร็ว เห็นเจียวซิ่งยืนกอดอกยิ้มแย้มอย่างภูมิใจจนน่าหมั่นไส้

“เห็นมั้ยขอรับไม่ยากเลย มาเถิดเดินตามข้ามา”

“เดี๋ยวสิ แล้วถ้าเราถูกจับได้ล่ะ? แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าจะไปทางใด ทำไมเจ้าคุ้นชินอย่างนี้ล่ะ?”

“เพราะข้าคือเจียวซิ่งอย่างไรขอรับ แต่ว่าข้ามิได้เป็นขโมยนะขอรับ ข้ามีสหายที่ทำงานในอยู่เรือนแห่งนี้ ยามที่มีงานเลี้ยงเขามักให้ข้าเข้ามาเพื่อนำอาหารไปกินอยู่บ่อยครั้ง เพราะอย่างไรเมื่อยามอาหารเหลือเหล่าคนรวยก็พากันทิ้งอย่างไม่เสียดายหรือรู้จักคุณค่าของกิน ข้าอิ่มท้องเพราะสหายหลายคราแล้วขอรับ อีกอย่างไม่ต้องกลัวว่าจะถูกจับได้ข้าจะพาท่านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์เป็นบ่าวของที่นี่ก่อนขอรับ” หัวใจของจิ้นหยางเต้นแรงระรัวอย่างกับเจียวซิ่งพาเขาเข้ามาขโมยของอย่งไรอย่างนั้น แต่เมื่อเขาเอ่ยปากว่ามีสหายอยู่ในนี้คงไม่เกิดเรื่องขึ้นหรอกกระมั่ง

ทั้งสองพากันมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นบ่าวในเรือนแฝงตัวเดินเข้าไปในงานเลี้ยง

จนกระทั่งท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว แสงไฟจากโคมไฟเริ่มสว่างประดับตามระเบียงหรือแม้แต่ทางเดิน จิ้นหยางยืนดูการแสดงอย่างเพลิดเพลินจนลืมไปเลยว่ายามนี้ตัวเองเข้ามาเพื่อเอาอาหารไปให้ท่านแม่ จนกระทั่งเจียวซิ่งเข้ามาสะกิดใบหน้าของเจียวซิ่งเริ่มแดงด้วยฤทธิ์สุรา

“พี่จิ้นหยางเรากลับกันเถิด เอิ้ก! ข้าอิ่มแล้วขอรับ”

“นี่เจ้าดื่มสุราอย่างนั้นหรือ?”

“แฮ่ แฮ่ ข้าดื่มเล็กน้อยเท่านั้นเองขอรับ ท่านได้อาหารไปให้ท่านป้าหรือยัง?”

“ข้าได้บ้างแล้ว เอาอย่างที่เจ้ากล่าวมาเถิดช่วงนี้ทุกคนกำลังสนใจการแสดงอยู่คงไม่มีใครสังเกตเห็นเราที่แอบออกไปหรอก”

“อย่างนั้นไปกันเถิดขอรับ” ทั้งสองเมื่อหารือกันเสร็จพากันเดินแอบไปที่ห้องเสื้อผ้า แต่ทว่าเรื่องไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ ทั้งสองได้เดินมาพบกับคุณชายชาติตระกูลสูงส่งดวงตาล้ำลึกวาวงาม แต่งกายภูมิฐานบุคลิกน่าเลื่อมใส ใบหน้าคมเข็มมีกลิ่นอายดุดัน นัยน์ตาลึกเป็บเบ้าชัด คิ้วเที่ยงตรงตลอดร่างฮึกเหิมสง่างาม ทำให้จิ้นจ้องมองไม่ละสายตาหากเขาอยู่ในยุคปันจุบันต้องเป็นดาราเบอร์ต้น ๆ ของประเทศแน่ ๆ

“พวกเจ้าจะไปที่ใดกันเจ้าคงเป็นบ่าวรับในเรือนนี้สินะ!!” เจ้าของน้ำเสียงทุ่มต่ำเอ่ยถามทั้งสองยามนี้เจียวซิ่งกลับสั่นกลัวว่าจะถูกจับได้ ร่างกายสั่นเทาขยับกายไปอยู่ด้านหลังของจิ้นหยางอย่างรวดเร็ว

“ขอรับ ..มิทราบว่าคุณชายต้องการอันใดหรือ? หรือว่าท่านหลงทางในงานเลี้ยงฉลองต้อนรับท่านเจ้าเมืองคนใหม่” จิ้นหยางตั้งสติแม้จะตกใจแต่ถ้าหากถูกจับได้คงไม่เป็นเรื่องที่ดีแน่ ๆ เขาจะต้องหาทางออกห่างจากคุณชายผู้นี้ให้ได้โชคดีที่เคยเป็นพนักงานร้านกาแฟกับร้านเหล้ามาก่อนเรื่องรับมือกับคนแปลกหน้าจึงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเท่าไหร่

“ข้าไม่ได้หลงทาง แต่ข้ากำลังเบื่อหน่าย เจ้านี่มีใบหน้างดงามต่างจากบ่าวรับใช้ยิ่งนักอกผายไหล่ผึ่งดีจริง ๆ ข้าชักจะชอบเจ้าแล้วสิ อีกอย่างเจ้ายังไม่เคยพบท่านเจ้าเมืองนายท่านคนใหม่ของพวกเจ้าสินะ! ข้าเองคือท่านเจ้าเมืองคนใหม่และเป็นนายท่านของเจ้า เจ้าจงตามข้ามาส่วนเจ้าอีกคนจะไปทำอะไรก็ไปท่าทางสั่นกลัวของเจ้าทำให้ข้ารำคาญตายิ่งนัก” ราวกับเสียงฟ้าผ่า เขามิใช่คุณชายที่เข้ามาร่วมงานแต่เป็นท่านเจ้าเมืองเจ้าของเรือนแห่งนี้ แล้วอย่างนี้จิ้นหยางจะทำอย่างไรดี เพราะหากไม่ตามเขาไปต้องถูกจับได้แน่ ๆ อีกอย่างยามนี้เขายังคงสวมใส่ชุดของบ่าวรับใช้ในเรือนอีก

“ขอรับท่านใต้เมืองแต่ข้าขอคุยกับสหายข้าครู่หนึ่งก่อนนะขอรับ”

“ได้ข้าจะรอ” จิ้นหยางรีบดึงแขนของเจียวซิ่งเดินไปไกลจากท่านเจ้าเมืองพร้อมให้เขาตั้งสติและนำอาหารไปให้ท่านแม่และห้ามบอกให้ท่านแม่รู้ว่านำอาหารมาจากที่ใด

“เจียวซิ่งฟังข้าให้ดี เจ้าจงนำอาหารนี้กลับไปให้ท่านแม่เสียก่อนและบอกว่าคืนนี้ข้าจะกลับเรือนดึกหน่อยท่านแม่มิต้องคอยและห้ามให้ท่านแม่รู้เด็ดขาดว่าเราเข้ามาที่นี่ แล้วข้าจะหาทางออกไปจากที่นี่เองเข้าใจหรือไม่?”

“ขอรับ แต่ว่าข้าเป็นห่วงท่านนี่น่าข้าไม่น่าพาท่านมาเลย ท่านจะต้องเจอกับอะไรกันนะอย่าให้ถูกจับได้นะขอรับ”

“ไปเถิดข้าจะพยายามไม่ให้ถูกจับได้” เจียวซิ่งรับของจากจิ้นหยางก่อนจะเดินแยกออกไป ส่วนด้านจิ้นหยางได้เดินกลับมาหาท่านเจ้าเมืองที่ยืนคอยเขาอยู่ เขาต้องการอะไรกันนะทั้งที่จริงยามนี้เขาควรอยู่ในงานเลี้ยงมิใช่หรือ?

“เสร็จแล้วหรือ? ตามข้ามา”

“ขอรับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel