บทที่ 2 หมู่บ้านจั๋วมู่หลาง
บทที่ 2 หมู่บ้านจั๋วมู่หลาง
“ท่านป้าเมื่อไหร่ท่านพี่จิ้นหยางจะฟื้นเสียที นี่ก็หลายชั่วยามแล้วหรือว่าท่านพี่จะจากข้าไปแล้ว” เสียงเจี้ยวจ้าวของใครกันนะมารบกวนฉันแบบนี้รู้มั้ยว่าเวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนของฉันโอ๊ยอยากจะบ้าตาย ลี่หยางบ่นพึ่มพำก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างล้า ๆ
“โอ๊ะ! ท่านป้าท่านพี่ฟื้นแล้ว ท่านพี่ท่านฟื้นแล้วท่านรู้มั้ยว่าข้าตกใจแค่ไหนที่คิดว่าท่านพี่จะจากไปตอนอายุเพียงเท่านี้ จากนี้ไปท่านพี่ห้ามไปที่แม่น้ำเพียงผู้เดียวอีกนะ” เด็กหนุ่มก้มลงมากอดร่างของลี่หยางทำให้เขาตกใจเพราะไม่เคยพบเจอกับเด็กนี่ัสักครั้งแต่เขาก็ต้องแปลกใจมากกว่าเดิมที่เห็นสภาพบ้านที่เก่าทรุดโทรมทำด้วยไม้คล้ายกระท่อม และเสื้อผ้าที่สวมใส่และต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเห็นผู้หญิงแก่คนหนึ่งเดินมาหาเขาด้วยรอยยิ้มพร้อมโอบกอด
“จิ้นหยางของข้า โล่งอกไปทีสวรรค์เมตตาเจ้ายิ่งนัก” เธอเข้ามาสวมกอดลี่หยางอีกคนทำให้เขาเริ่มหายใจไม่ออกและตะโกนออกมา
“โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ” ทั้งสองผละออกห่างจากร่างกายของลี่หยางและจ้องมองเขาอย่างแปลกใจ
“เอ๊ะ! เจ้าเป็นอะไรหรือว่าไม่สบายตรงไหนข้าจะไปตามท่านหมอประจำหมู่บ้านมาตรวจเจ้าอีกที นี่เจียวซิ่งเจ้าอยู่นี่กับจิ้นหยางก่อนนะ เดี๋ยวข้ามา” หญิงชราก็ได้เดินออกไป สมองของลี่หยางเริ่มประมวณผลก็ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขานั้นถูกรถชนและกระเด็นตกทะเลหรือว่าที่นี่จะเป็นสวรรค์แต่เอ๊ะสวรรค์เหตุใดถึงเป็นแบบนี้ เจ้าเด็กที่อยู่ตรงหน้าก็จ้องไม่ละสายตา
“นี่นาย ...ที่นี่ไหน ที่นี่ใช่สวรรค์ใช่มั้ย? นายคงจะเป็นผีสินะ”
คำพูดของลี่หยางสร้างความแปลกใจให้เจียวซิ่งยิ่งนักเขาคิ้วขมวดและจับที่ใบหน้าของลี่หยางส่ายไปมา
“ท่านพูดจาแปลกไปหรือว่าน้ำเข้าไปในสมองของท่านถึงได้พูดจาเช่นนี้ จำแม้กระทั่งข้าไม่ได้เช่นนี้ ข้ายังไม่ตายสักหน่อย ที่ ๆ เราอยู่ก็หมู่บ้านจั๋วมู่หลางเป็นบ้านเกิดของท่านพี่ ข้าว่าท่านพี่ต้องมีปัญหาแน่ๆ ” ลี่หยางเบิกตาโพลงโตหากว่าเขาไม่ตายแล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันนะ และเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่นี้ช่างเหมือนกับชุดสมัยโบราณหรือว่าเขานั้นย้อนเวลากลับมา เมื่อคิดได้เช่นนั้นลี่หยางจึงได้ถามเด็กที่นั่งอยู่ต่อหน้าออกไป
“หากฉันไม่ตาย นายไม่ตายแล้วตอนนี้ที่บ้านเมืองใครเป็นคนปกครองรัฐมนตรีชื่อว่าอะไร”
“รัฐมนตรีอะไรของท่านนะข้าไม่เข้าใจ แต่หากท่านถามว่าฮ่องเต้ชื่อว่าอะไรนั้นข้าตอบให้ท่านได้ ตอนนี้ราชวงศ์ซ่งปกครองอยู่”
สมองของลี่หยางเริ่มคำนวนหากนี่เป็นราชวงศ์ซ่งก็หมายความว่าเขานั้นได้ตายและทะลุมิติเข้ามา แล้วร่างของชายผู้นี่ก็คงเป็นบุตรของผู้เฒ่าคนเมื่อครู่สินะ
“ไม่จริง ไม่จริงฉันไม่เชื่อ!!!” ลี่หยางใช้มือทั้งสองข้างกุมขมับของตนเองอย่างไม่น่าเชื่อ
“ท่านเป็นอันใด ท่านฟื้นมาก็ดีแล้วท่านป้าเป็นห่วงท่านมากหากไม่มีท่าน ท่านป้าจะอยู่อย่างไร? ท่านพี่ก็รู้ว่าใต้เท้ามู่นั้นขูดรีดเรายิ่งนักยิ่งไม่มีของไปให้อย่างนี้ ท่านป้าก็อาจจะโดนทุบตีได้ โชคดีเหลือเกินที่ท่านฟื้นขึ้นมา” พูดจบเด็กหนุ่มก็ได้กอดลี่หยางด้วยความโล่งใจใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“แล้วทำไมเราต้องกลัวใต้เท้านั้นด้วย” ลี่หยางยังคงติดคำพูดของตนเอง ที่มาจากอนาคตทำให้เจียวซิ่งถึงกับทำหน้างงไม่เข้าใจเล็กน้อย
“ข้าว่าสมองท่านคงต้องเกิดเรื่องอันใดขึ้นเป็นแน่ ท่านป้าไปตามท่านหมอนานมาเหลือเกิน” เจียวซิ่งเหลียวออกไปมองด้านนอกเพื่อดูว่าท่านป้าของตนมาถึงหรือยังก็พบว่ากำลังเดินมากับท่านหมอประจำหมู่บ้าน
“ท่านป้ามาแล้ว” เจียวซิ่งเดินไปรับกล่องเครื่องมือของท่านหมอและเดินเข้ามาด้านในพร้อมกับบอกอาการของลี่หยาง
“ท่านหมอ พี่จิ้นหยางของข้าสมองน่าจะมีปัญหาคำพูดคำจาเขาดูเปลี่ยนไปท่านช่วยตรวจดูให้ด้วยขอรับ” ใบหน้าแสดงความกังวลของหญิงชราหรือท่านแม่ก็ได้พูดขึ้นมานางรีบเดินไปหาบุตรของตนด้วยความห่วงใย
“โธ่! จิ้นหยางของข้า ร่างกายของเจ้าก็บอบบางอยู่แล้ว เจ้าไม่น่าจะออกไปหาปลามาให้ข้าเลยแค่งานที่เจ้าทำอยู่ก็หนักเกินไปแล้ว” แม้ลี่หยางจะยังไม่ค่อยชินนักแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าหญิงชราผู้นี้รักและเป็นห่วงเขาอย่างจริงใจ เขาจึงโอบกอดร่างที่ผอมแห้งของท่านแม่ อย่างไม่เคยได้รับไออุ่นมาก่อนในชีวิต นี่เขาจะมีแม่กับเขาจริง ๆ นะหรือ?
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันจะสบายดีแม่นั่นแหละที่ดูไม่แข็งแรง” คำพูดที่ออกมาจากปากของลี่หยางทำให้หญิงชราตื่นตระหนกที่เห็นอาการของบุตรนั้นแย่กว่าที่คิด นางรีบลุกขึ้นจากเตียงของเขาและรีบใช้ท่านหมอตรวจดูโดยด่วน
“ท่านหมอรีบมาตรวจดูให้ข้าที ข้าว่าน้ำต้องเข้าไปสู่สมองของเขาเป็นแน่”
ท่านหมอไม่รอช้ารีบคว้าเข็มที่ยาวมาก ๆ จนลี่หยางเห็นก็กลัวจนแทบจะวิ่งออกไปด้านนอก เขานึกขึ้นได้นี่มันเป็นเข็มที่ใช้รักษาในสมัยอดีต หากไม่อยากที่จะถูกฝังเข็มเขาต้องปรับตัวและปรับการพูดเป็นการโดยด่วนโชคดีที่ลี่หยางนั้นชอบดูซีรี่ส์จึงไม่ยากที่จะพูดเช่นเดียวกับผู้คนที่นี่
“ท่านแม่ ข้าไม่ได้เป็นอันใด ท่านหมอท่านโปรดวางเข็มลงก่อน ข้าแค่รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้เล็กน้อย ท่านช่วยจัดยาและกลับไปเถอะขอรับ แฮะ ๆ” ลี่หยางรีบจับมือของท่านหมอให้เก็บเข็มโดยด่วน
“เอาอย่างที่เจ้าว่าก็ได้ นี่คือยาต้มข้าจะให้เจ้าโดยไม่คิดแม้แต่สลึงเดียว เพราะเจ้าเคยช่วยข้าไว้หลาย ๆ อย่างหากเจ้าสบายดีแล้วก็อย่าลืมไปเก็บยาสมุนไพรมาขายให้กับข้าอีก หากเจ้าไม่อยากได้เบี้ยก็เอาเป็นข้าวสารก็ย่อมได้” ท่านหมอวางยาและเดินออกไป ลี่หยางครุ่นคิดนี่เขาได้ย้อนเวลากลับมาเกิดเป็นคนจนอย่างนั้นหรือ? ขนาดข้าวยังไม่มีจะกิน ทำไมโชคชะตาถึงได้กลั่นแกล้งเขาทุกภพชาติเช่นนี้ ไม่ได้การในเมื่อย้อนมาแล้ว เขาจะลิขิตชะตาชีวิตของตนเองให้มีชีวิตที่ร่ำรวยให้ได้
“หากเจ้าไม่เป็นอันในใดแล้วข้าก็โล่งใจ เช่นนี้เจ้าเองก็นอนพักเถิดนะ ข้าจะออกไปแบกฟืนมาไว้ก่อไฟเสียก่อน” ลี่หยางมองดูรอยเหี่ยวย่นของใบหน้าและตามตัว นางน่าจะอายุไม่ใช่น้อย ๆ เพราะความจนจึงต้องใช้ชีวิตดิ้นรน ลี่หยางคว้ามือที่เหี่ยวหยาบกระด่างของมารดาตนเองมาจับไว้
“ท่านแม่ ข้าจะไปเองท่านพักผ่อนเถอะ ข้าไม่อยากให้ท่านแม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไปแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะดูแลท่านแม่เอง”
“ท่านพี่จิ้นหยาง ท่านพึ่งฟื้นนะ จะไปแบกฟืนไหวหรือ” เจียวซิ่งรีบห้ามปราม ลี่หยางจึงได้ลุกขึ้นและแสดงความแข็งแกร่งให้เจียวซิ่งได้ดูโดยการอุ้มร่างกายของเจียวซิ่งลอยขึ้นกับพื้น
“ท่านพี่ปล่อยข้าลง ข้ากลัวความสูง” เจียวซิ่งร้องโวกเวกโวยวายออกมาด้วยความกลัวทำให้ท่านแม่ของจิ่นหยางหัวเราะออกมาเมื่อเห็นบุตรชายของตนเองหายดีแล้ว
นางจึงเดินไปหยิบผ้าที่ใช้มัดฟืนเพื่อแบกกลับบ้านให้แก่จิ้นหยาง
จิ้นหยางเดินออกมาด้านนอกเงยหน้ามวลเมฆฟ้ามืดครึ้มเกาะรวมตัวเป็นท้องฟ้าหม่นแสง คล้าย ๆ กับว่ากำลังจะเกิดพายุฝนเช่นนี้เขาจะออกไปตัดฟืนได้อย่างไร เขากำลังหันหลังกลับไปที่กระท่อมเพื่อถอดใจ แต่แล้วเจียวซิ่งก็วิ่งออกมาพร้อมหมวกถักไม้ไผ่
"ท่านพี่ ข้าจะออกไปกับท่านพี่ด้วยกลัวว่าท่านจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น " จิ่นหยางมองด้วยสายตาดีใจเขาพึ่งนึกได้ว่าเขานั้นไม่รู้ว่าป่าที่ไปเอาไม้ฟืนอยู่ที่ใด อย่างน้อยก็มีเจ้าเด็กนี่ตามไปด้วยก็ดีเช่นกัน
"ก็ดีเช่นกันที่มีเจ้าไปด้วย ช่วงนี้ข้าจำไม่ค่อยได้ว่าป่าไปทางใดเจ้านำทางไปแล้วกัน แต่ข้าว่าฝนต้องตกแน่เลยเจ้าดูท้องฟ้านั้นสิ"
"ท่านไม่ต้องกังวลไป หากว่ามีฝนตกระหว่างทางข้าจะพาท่านไปหลบฝนเอง รีบไปเถอะเดี๋ยวจะมืดเสียก่อน" เจียวซิ่งมองไปบนท้องฟ้าและพูดออกมาเพื่อให้จิ้นหยางสบายใจ ทั้งคู่ก็ได้ออกเดินทางยังป่าที่ไม่ห่างไกลจากหมู่บ้านนัก