7.ไม่เหมือนใคร
คุณพิมดันไม่รับสาย ธนินมั่นใจว่านี่เบอร์โทรของคุณพิมอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าเขาจะโทรไปสักกี่ครั้งก็ไม่มีใครรับ เขาสั่งให้ลูกน้องไปตามสืบเรื่องที่อยู่ของคุณพิมมาให้ก่อนที่จะเดินไปที่หน้าประตูห้องทำงานของนายท่าน
วันนี้เจ้านายของเขาอารมณ์ไม่ดีสักเท่าไหร่นัก เขายกมือขึ้นมาเพื่อเคาะประตู
“คุณพิมยังไม่รับสายครับนายท่าน ผมกำลังส่งคนไปตามสืบเรื่องที่อยู่ของคุณพิมอยู่”
อาเชอร์เลิกคิ้วขึ้นมามองที่ประตู เขาวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากจางๆ
เธออาจจะเหนื่อยจนลุกไม่ขึ้นซึ่งเรื่องนั้นไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่เพราะว่าเมื่อคืนเขาทุ่มเทแรงทั้งหมดเพื่อเชยชมเธอซะขนาดนั้น
“หากได้ที่อยู่ของพิมมาแล้วให้นำมันมาให้ฉัน..”
ธนินมองเข้าไปด้านในเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ
“ครับนายท่าน”
นายท่านเป็นผู้ที่เคยชินกับการได้ดั่งใจ แถมไม่เคยออกปากหรือว่าจะเดินทางไปหาผู้หญิงคนไหนเลย เพราะเพียงแค่นายท่านเรียกหา ผู้หญิงเหล่านั้นก็วิ่งกรูกันมาให้นายท่านได้ชี้นิ้วเลือก
มีไม่กี่คนบนโลกนี้หรอกที่ทั้งมีใบหน้าแสนสะดุดตาและรวยในระดับมหาเศรษฐี สมบูรณ์แบบในทุกๆด้านอย่างเจ้านายของเขา
........
พิมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเมื่อเธอได้ยินเสียงประตูปิด.. ให้ตายเถอะนี่เธอนอนหลับสนิทจนมืดขนาดนี้เลยงั้นเรอะ! เธอค่อยๆลุกขึ้นมาจากโซฟาพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปากที่กำลังหาว ความอ่อนเพลียฉายชัดบนใบหน้าของเธอ
เธอกำลังจะลุกขึ้นไปเปิดไฟ แต่เมื่อเธอลุกขึ้นมาก็มีมือมาคว้าตัวเธอไปกอด..ตอนแรกเธอกำลังจะกรีดร้องออกมาหากว่าเธอไม่ได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่เตะจมูกอยู่
ไม่มีโจรหรือว่าผีที่ไหนใช้น้ำหอมขวดละเป็นหมื่นหรอก มีแต่ไอ้คนบ้ากามที่ไม่ยอมให้เธอได้หลับนอนเมื่อคืนเท่านั้น ถึงจะแปลกใจที่เขารู้จักบ้านของเธอ แต่หากว่าเขารวยขนาดแม่ของเธอ เขาก็น่าจะสืบเรื่องของเธอได้ไม่ยาก
เธอหลับตาลงช้าๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการขัดขืนออกไปก่อนจะแสยะยิ้มออกมา
“อ่า..ทิวเขา เราบอกเธอไปแล้วนี่ว่าอย่ามาพบกันสักระยะ พอดีเราแต่งงานแล้ว”
เธอยกมือขึ้นมาโอบล้อมรอบคอของเขาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปทั่วสันกรามของเขา
ในใจของพิมกำลังลิงโลด ถึงแม้ว่าเธอมองไม่เห็นแต่ใบหน้าของเขาในตอนนี้จะต้องกำลังโกรธอย่างแน่นอน
สะใจชะมัดเลย!
“ทิวเขาสินะ..แล้ว หมอนั่นเอาเก่งได้ครึ่งหนึ่งของผัวเธอรึเปล่า?”
เขาทุ่มตัวเธอลงไปบนโซฟา ใช่แล้วมันไม่ใช่การผลักแต่มันคือการทุ่มตัวเธอลงไปบนโซฟาอย่างแรงพอสมควร
พิมลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา เธอกระโดดไปด้านหลังโซฟาก่อนจะวิ่งเข้าไปในครัว ทว่าดูเหมือนอาเชอร์จะเร็วกว่าเพราะเขาเอื้อมมือมาคว้าคอเสื้อของเธอเอาไว้
เขาออกแรงดึงอย่างแรงจนเธอหงายหลังลงไปในอ้อมแขนของเขา หลังจากนั้นเขาก็หิ้วเธอด้วยมือข้างเดียวก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปด้านบน
“ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะ พิมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง..กะ..กรี๊ด!”
เขาเปิดประตูห้องนอนของเธอเข้าไปก่อนจะโยนเธอลงบนเตียง คงโชคดีที่เตียงของเธอมันนุ่ม แต่วินาทีต่อมาเขาก็ถาโถมร่างกายของเขามาคล่อมทับร่างของเธอเอาไว้
“ฉันเป็นเพื่อนเล่นงั้นเหรอ ถึงสามารถล้อเล่นอะไรแบบนั้นได้”
เธอขบเม้มริมฝีปากก่อนที่จะพยายามหาทางออกจากเรื่องนี้ ไม่ไหวแน่หากว่าเขาจะทำมัน แผลเก่ายังไม่ทันหายจะมาสร้างแผลใหม่ให้เธอไม่ได้นะเฟ้ย!
เธอช้อนสายตาขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนจะยกมือขึ้นมากอบกุมใบหน้าของเขาเอาไว้
พิมกระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างใบหูของเขา
“พิมขอโทษค่ะ..ที่รัก”
เธอพรมจูบเบาๆ ที่แก้มทั้งสองข้าง ไล่ลงมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก
เอาวะ แค่ยอมเขาวันนี้..วันนี้เธอขอยอมแพ้เขา
เธอทาบทับริมฝีปากลงไปด้วยความแผ่วเบา กลิ่นบุหรี่และรสชาติขมปร่าของบรั่นดีติดอยู่ที่ปลายลิ้น เขาไม่ขยับเขยื้อนแถมดวงตาของเขายังจ้องมองที่ใบหน้าของเขาอย่างไม่วางตา
พิมคิดว่าเธอคิดถูกที่ชิงหลับตาซะ จะได้ไม่ต้องมองสบตาเขา เธอใช้ปลายลิ้นงัดง้างเปิดตามแนวไรฟันเพื่อให้เขาเปิดริมฝีปากออก
คราแรกดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมแต่ในเวลาต่อมาเขาก็ยอมลงให้เธอด้วยการเปิดริมฝีปากเพื่อให้เกลียวลิ้นของเธอได้สอดลึกเข้าไปด้านใน
ลมหายใจอุ่นร้อนของเธอมันชวนให้ร่างกายของเขารู้สึกร้อนผ่าว เขารู้ว่าเธอกำลังง้อในแบบของเธอ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ทำรุนแรงหรือแม้กระทั่งการสัมผัสที่ลึกซึ้งมากกว่านี้ ตรงส่วนนั้นยังไม่หายสินะ..
แบบนี้เป็นปัญหาแน่เพราะว่าเขาไม่ใช่คนที่จะสามารถอดทนรอได้นานขนาดนั้น
ความวาบหวิวแล่นริ้วขึ้นมาเมื่อปลายลิ้นของเราสัมผัสกัน และเป็นเธอเองที่ใจสั่นเป็นเจ้าเข้า ไอ้ความต้องการบ้าบอนี่มันจะเกิดขึ้นมาในเวลานี้ทำไมกันนะ..
หลังจากนั้นไม่นานดูเหมือนว่าคนที่คุมเกมนี้จะไม่ใช่เธออีกต่อไป ริมฝีปากของเขาขบเม้มไปมา มันทั้งยั่วยวนและร้ายกาจในเวลาเดียวกัน ทั้งที่กำลังหลับตาอยู่แต่ภาพใบหน้าของเขากลับฉายชัดในสมอง ราวกับว่าเธอกำลังลืมตาขึ้นมามองหน้าเขายังไงอย่างนั้นเลย
อาเชอร์ผละริมฝีปากออกด้วยความเชื่องช้า เขามองหน้าเธออีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง
“หากไม่อยากให้ทำมากกว่านี้ก็ลุกขึ้นมา”
และเมื่อเขาพูดจบพิมก็ดีดตัวขึ้นมาจากเตียงในทันที เธอจัดการเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง
“ไปข้างนอกกัน คงหลับเพลินจนไม่ได้ทานมื้อเย็นเลยสินะ”
อย่าว่าแต่มื้อเย็นเลย เธอยังไม่ได้ทานมื้อเช้าเลยด้วยซ้ำ..พอพูดถึงอาหารท้องก็พลันส่งเสียงคำรามออกมา
“ยังไม่ได้ทานสักมื้อเลยค่ะ”
“รีบตามมา”
เขากล่าวพร้อมกลับเดินนำเธอลงไปด้านล่าง หลังจากนั้นเขาก็พาเธอมาที่รถ พิมเดินขึ้นไปนั่งอีกฝั่งพร้อมกับรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย เขาไม่ได้ถามเธอเลยสักคำว่าอยากทานอะไร ตลอดระยะการเดินทางของเราบนรถ ไม่มีบทสนทนาเลยแม้แต่คำเดียว
สุดท้ายรถมาจอดที่โรงแรมสุดหรูที่แสนคุ้นเคย..เพราะว่าเมือคืนเธอนอนที่นี่ยังไงล่ะ แถมยังจัดงานแต่งที่นี่อีกด้วย เขาขับรถลงไปที่ชั้นใต้ดินก่อนจะมาจอดยังที่จอดรถที่ติดป้ายเอาไว้ว่าเป็นที่จอดรถของผู้บริหาร
อย่าบอกนะว่าโรงแรมนี้..เป็นของเขา
ถึงจะสงสัยแต่เธอก็เลือกจะไม่ถามอะไรออกมา เราคงไม่ได้สนิทกันถึงขนาดที่เขาจะบอกกล่าวเรื่องส่วนตัวกับเธอ พิมเดินตามอาเชอร์เข้าไปในลิฟต์ เธอก้มหน้าลงมองมือตัวเองเพื่อที่จะลดอาการประหม่าในตอนที่อยู่ตามลำพังกับเขา
“ไม่ถามอะไรหน่อยเหรอ?”
เธอมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“พิมคิดว่าหากคุณอยากให้พิมรู้ คุณจะเป็นฝ่ายบอกพิมเอง ส่วนเรื่องไหนที่คุณไม่ได้บอก แสดงว่าคุณไม่ได้อยากให้พิมรู้”
อาเชอร์ละสายตาจากใบหน้าของพิมเพื่อหันไปมองทางอื่น..ไม่เหมือนใครจริงๆ ด้วยสินะ