6.ไว้ใจไม่ได้
แสงแรกของวันสาดส่องเข้ามาในห้องที่พิมกำลังนอนอยู่ เธอเกลียดชังความเคยชินของตัวเองนิดหน่อย เพราะเธอดันตื่นขึ้นมาในเวลาหกโมงเช้าทั้งที่พึ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
ทว่าเมื่อกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นแม้เงาของชายที่ทรมานเธอทั้งคืนเลย..
เขาไม่ได้นอนร่วมเตียงกับเธอด้วยซ้ำ เมื่อทุกอย่างจบสิ้นลงก่อนที่ดวงตาทั้งสองข้างของเธอจะปิด เขาก็เดินออกไปจากห้องนี้แล้ว
แต่แล้วอย่างไรล่ะ เธอไม่ได้คาดหวังอะไรกับการกระทำของเขาสักนิดเลย ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้นอนที่นี่ อย่างน้อยก็ลดทอนความอึดอัดลงไปได้บาง
พิมลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดการล้างเนื้อล้างตัว ภาพที่เธอมองเห็นในกระจกมันชวนให้รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเลย เพราะทุกพื้นที่บนร่างกายล้วนแล้วแต่เป็นรอยแดงที่เกิดมาจากฝีมือของเขา
พิมเดินผ่านกระจกนั้นไปก่อนจะนั่งลงในอ่างน้ำ เธอหลับตาลงช้าๆ แล้วเอนหลังพิงขอบอ่างด้วยความเหนื่อยล้า แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็นอนต่อไม่ไหวแล้ว เธอจะต้องกลับบ้าน..
ไปนอนที่บ้านตัวเองน่าจะดีกว่าที่นี่
ในตอนที่เธออายุยี่สิบปี พิมได้เงินมรดกที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้รวมไปถึงประกันชีวิต เธอเริ่มต้นจากการนำเงินจำนวนนั้นไปซื้อทองเก็บเอาไว้
หลังจากเรียนจบพิมเริ่มต้นทำงานในโรงงานตัดเสื้อขนาดใหญ่ เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่สองปีเต็มๆ ก่อนจะมาลุยธุรกิจนี้ด้วยตัวเอง
แบรนด์เสื้อผ้าของเธอไม่ได้เน้นเรียบหรู แต่เน้นการสวมใส่ได้ทุกโอกาส ทุกวันและทุกช่วงวัย
เธอมีบริษัทของตัวเอง และตอนนี้กำลังไปได้สวย เส้นทางความฝันไม่ได้ติดขัดอะไรเลย เพราะก่อนจะลงมือทำเธอสำรวจตลาดและความเสี่ยงเอาไว้หมดแล้ว เรียกว่าไม่มีปัญหาไหนที่อยู่นอกเหนือการคาดเดาของเธอเลย
เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วพิมเดินออกมาแต่งตัว เธอสวมเดรสสีชมพูอ่อนเอาไว้ด้านในก่อนจะสวมทับด้วยเบรเซอร์สีขาว
พิมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเปิดประตูเดินออกไปจากห้องนี้ เธอลงมาชั้นล่างโดยที่ไม่ได้ทักทายใครทั้งนั้น ก่อนจะขับรถเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน
บ้านเดี่ยวที่อยู่ใจกลางเมือง มีสวนหน้าบ้านเล็กๆ และมีขนาดสองห้องนอน เธอพาร่างที่แทบจะหมดแรงของตัวเองเข้าไปด้านในก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนโซฟา
ส่วนนั้นเจ็บจนแทบจะหุบขาไม่ไหว เธอกร่นด่าเขาไปไม่รู้จักกี่รอบในใจ
พิมหลับตาลง และในตอนที่เธอกำลังจะหลับนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
“...”
เมื่อมองชื่อของคนที่โทรมาพิมก็รีบกดรับสายในทันที
“บอสพิม ทางห้างพร้อมจะปล่อยล็อคต่อสิ้นเดือนนี้ค่ะ ในทุกสาขาเลย บอสอยากจะให้ไปลงที่ไหนก่อนดีคะ”
พิมดีดตัวลุกขึ้นมาจากเตียงในทันที
“จริงเหรอเนเน่ เอาสาขา..ก่อนเลยเพราะว่าที่นั่นมีลูกค้ากลุ่มวัยทำงานเยอะ”
“รับทราบค่ะบอส ยินดีกับเจ้าสาวป้ายแดงด้วยนะคะ บอสจะเข้ามาที่บริษัทวันไหนคะ”
พิมยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ
“พรุ่งนี้..”
“โอเคค่ะ แค่นี้นะคะเนรบกวนเวลาบอสมานานแล้ว”
พิมโยนโทรศัพท์เอาไว้บนโซฟาก่อนจะดึงตุ๊กตามากอดเอาไว้ ริมฝีปากของเธอหยักยิ้มขึ้นมาด้วยความดีใจ เพราะว่านี่คือผลของความพยายาม
เธอพยายามมามากทีเดียวกว่าจะสามารถพาแบรนด์ของตัวเองมาได้ไกลมากขนาดนี้
..........
“เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้างั้นเหรอ?”
อาเชอร์กล่าวถามธนินเพื่อเน้นย้ำว่าข้อมูลที่หามานั้นเป็นความจริง
“ครับนาย คุณพิมเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่กำลังดังในขณะนี้ มียอดขายในไลฟ์สดวันละหลายหมื่นตัวและกำลังจะวางขายในห้างชั้นนำ”
อาเชอร์เคาะโต๊ะอย่างใช้ความคิด เพราะว่าเป็นผู้หญิงเก่งที่สามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้ เพราะแบบนั้นเธอก็เลยไม่ได้มองเขาด้วยสายตาแห่งความคาดหวังสินะ..
อ่า..ดูเหมือนว่าเขากำลังหงุดหงิด
“ห้างสรรพสินค้าที่คุณพิมจะไปวางขายเป็นห้างที่เราถือหุ้นเอาไว้ หากว่านายท่านจะขัดขวางก็สามารถทำได้เลยครับ”
อาเชอร์ยกมือขึ้นมาเพื่อเป็นการห้ามปรามธนิน
“ขัดขวางตอนนี้ไม่สนุกหรอกธนิน”
ต้องให้เธอมีความหวังซะก่อน ให้เธอได้ลิ้มรสกับความสำเร็จที่สร้างจากมือของตัวเอง แล้วค่อยทำลายมันลง..
หากเป็นแบบนั้นบริษัทของเธอจะล้มลงมาเป็นโดมิโน่ สุดท้าย..ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสร้างมาจะสลายหายไปกับตา
ธนินก้มหน้าลงเล็กน้อย
“เรื่องจดหมายของนายหญิงใหญ่..จะไม่แจ้งนายท่านใหญ่จริงๆ หรือครับ”
อาเชอร์เอนหลังเพื่อพิงเก้าอี้ ในมือของเขาถือบุหรี่ที่พึ่งผ่านการจุด ควันสีขาวลอยฟุ้งออกมาอยู่เบื้องหน้าของเขา
เขามองควันเหล่านั้นที่ค่อยๆ จางหายไปก่อนจะพ่นมันออกมาใหม่ราวกับว่าเขาไม่คิดตอบคำถามของธนินเลย
ธนินรับใช้นายท่านของเขามานานหลายปี เขารู้ดีว่าในยามนี้จะต้องทำเช่นไร เขาก้มหน้าลงอีกครั้งเมื่อรู้ว่าตัวเองได้กล่าวคำที่ไม่สมควรพูดออกไป หลังจากนั้นธนินก็เดินออกจากห้องด้วยฝีเท้าที่เบาที่สุด
จดหมายของแม่..
เมื่อเขามาถึงที่ไทย สิ่งแรกที่อาเชอร์ทำคือการไปบ้านคุณตา ท่านส่งมอบจดหมายฉบับหนึ่งมาให้เขา
ในจดหมายคือลายมือของแม่ไม่ผิดแน่ เนื้อความในนั้นทำให้เขาเข้าใจได้ว่าแม่ไม่ได้ถูกลักพาตัวไป
แม่กำลังหลบหนีจากมือของพ่อเขา..เพราะว่าแม่มีคนรักใหม่ มันน่าเหลือเชื่อเกินกว่าที่เขาจะคาดคิดเพราะว่าแม่ของเขาเชื่อฟังพ่อทุกอย่าง แม่ทำเหมือนว่าเขาและพ่อสำคัญแต่แม่กลับ..ทอดทิ้งครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของเราไป
“อาเชอร์ หลานมีน้องชายนะ..ถึงจะต่างพ่อแต่เขาก็นับเป็นน้องชาย”
คุณตาพูดออกมาแบบนั้นได้ยังไงกัน หากว่าแม่มีลูกชายอีกคนก็แสดงว่าทุกครั้งที่แม่อ้างว่ากลับมาเยี่ยมตา แม่กลับมาหาน้องชายและชู้รักของแม่งั้นสิ
ตลกร้ายเกินไปแล้ว ทั้งแม่และคุณตา..ทุกคนหลอกลวงหักหลังเขาและพ่อ
ทว่าเขากลับต้องกลืนเรื่องนี้ลงคอเพราะหากพ่อรู้..จะไม่มีใครรอดชีวิตแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นชู้รักของแม่ ลูกชายของทั้งสองคน แม่หรือว่าตา..ไม่มีใครรอดจากเงื้อมมือของพ่อแน่นอน
การแต่งงานเพื่อตามหาท่านแม่..ย่อมผิดวัตถุประสงค์ไปบ้างแล้วเพราะว่าเขาไม่คิดจะตามหาแม่อีกแล้ว
แต่เขาแค่อยากจะอยู่ที่นี่อีกหน่อยจนกว่าเขาจะรู้สึกว่าที่นี่มันไม่มีอะไรน่าสนุกแล้ว เขาถึงจะกลับไปหาพ่อ
อาเชอร์ยกแก้วบรั่นดีขึ้นมากลืนลงคอ เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดในใจ
ขนาดแม่ที่ดูรักพ่อมากขนาดนั้นยังหักหลังพ่อได้เลย ผู้หญิงนี่ไว้ใจไม่ได้จริงๆ!!
“ธนิน เรียกพิมมาให้ที ฉันต้องการทานมื้อเย็นกับเธอ”
ธนินที่ยืนอยู่หน้าประตูรับคำสั่งของนายท่าน ก่อนที่เขาจะเดินออกไปโทรศัพท์เพื่อนัดหมายคุณพิม