3
เรียวขาเรียวยาวได้สัดส่วนบนรองเท้าส้นเข็ม ไม่มีกล้ามเนื้อมัดใหญ่ปูดหรือไขมันส่วนเกินให้น่ากังขา
ความปราดเปรียวคล่องแคล่ว...ทำให้เวทีนี้แทบจะตกเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว
ทุกสายตาจดจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียวกัน...ความสวยหมดจดบนใบหน้ารับกับหุ่นเพรียวสมส่วน ไม่ได้แห้งก้าง..เหมือนนางแบบทั่วไป
ส่วนที่ต้องนูน...ก็นูนเด่น ส่วนที่ต้องเว้าก็เข้ารูปสวย
ช่างเป็นหุ่น...ที่เหมือนสวรรค์ปั้นแต่งมาให้ แบบไม่ปรานีใครอื่น
การเดินแบบเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเจ้าพ่อแห่งรถยนต์ แปลกใหม่ตรง...แทนที่จะให้พริตตี้มาเต้นล้างรถโชว์ กลับจัดงานเดินแบบ
เปิดตัวอย่างหรูหรา และหนึ่งในนางแบบคนนั้น...
คือคนที่กำลังถูกลือว่าเป็นเด็กในความดูแลของเจ้าของบริษัทด้วย
“เก่งมากค่ะ...ปั้นหยา” เสี่ยกรรชัยประธานบริษัทยื่นช่อดอกไม้ช่อโตที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงสด มาให้หลังจากที่เธอเดินลงมาจากเวทีแล้ว
“ให้คนเดียวแบบนี้ ปั้นหยาจะไม่โดนหมั่นไส้เอาหรือคะ” เธอปรายตาไปมองนางแบบคนอื่นๆ ที่มองมาด้วยสายตาริษยาและแสนจะเกลียดชัง
“เย็นนี้ พอจะว่างมั้ยคะ...พอดีว่า เสี่ยมีข้อเสนอดีๆ ที่จะหยิบยื่นให้ เผื่อหนูสนใจจะรับไว้พิจารณา...” น้ำเสียงเชิงเบากระซิบนั่น ส่งผลต่อมุมปากอวบอิ่ม
ให้เผยรอยยิ้มเพียงนิดตามแบบฉบับ
จริตพองามของเธอ ใครๆ ก็ลือกันว่า เป็นการอัพค่าตัวแบบเนียนๆ ที่ได้ผลตอบรับมากโข
“เย็นนี้ยังไม่ว่างหรอกค่ะ เสี่ยลองยื่นข้อเสนอผ่านผู้จัดการของปั้นหยามาก็ได้นะคะ เดี๋ยวว่าง...ปั้นหยาจะพิจารณาดู”
แม้คำพูดจะดูไว้ที หากแต่สายตากลับเยิ้มคล้ายมีใจ
“หรือว่า...หนูจะลองเสนอมาก่อนก็ได้นะคะ เสี่ยสัญญาว่าจะไม่ต่อรองอะไรเลย”
แววตากรุ้มกริ่มของหนุ่มรุ่นพ่อที่ยังดูดีอยู่ ทำให้เธอต้องเผยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มตอบกลับไม่ต่าง...
เธอขยับลำคอระหงเข้าหาเขาเพียงนิด แววตาเป็นประกายไม่ยอมที่จะหลบเลี่ยงเขาแม้สักหน่อย
คนอย่าง โยศิตาไม่เคยกลัวอิทธิพลหรืออำนาจของใคร และคิดว่าคงไม่เป็นไรที่จะล้อเล่นกับไฟดู
“ต่อรองหน่อยก็ดีนะคะ เดี๋ยวปั้นหยาได้ใจ”
“เอาไปเลยค่ะ...เอาใจเสี่ยไปเลย เสี่ยจะเปลื้องทั้งขั้วหัวใจให้หนูเลยค่ะ” น้ำเสียงนุ่มทุ้มที่ทั้งวงการเด็กเสี่ย ต่างก็ลือกันอย่างหนาหูว่า
เขาเป็นเสี่ยที่แสนเสน่ห์แค่ไหน ทำให้เธอจำต้องขยับตัวออกห่าง
“ปั้นหยาขอตัวก่อนนะคะ วันนี้ปั้นหยามาในนามของเครือข่ายน่ะค่ะ กลัวว่าจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เดี๋ยวปั้นหยาว่าง...จะติดต่อกลับไปนะคะ”
ร่างระหงเดินไปยังจุดพักของตัวเอง เครือข่ายที่เธอว่า คืองานเดินแบบอิสระที่เธอรับอยู่ ใครๆ ก็มองว่าเธอรับงานพวกนี้เพื่อที่จะอยู่ในแวดวงของเสี่ยรวยๆ
ซึ่งคนที่ทำให้คนอื่นพูดกันแบบนั้นก็เป็นเธอเองนั่นแหละ!
ผู้ชายต่อคิวกันเป็นหางว่าว...ไม่ใช่คนมาจีบนะ “ลูกค้า” ภาพสวยๆ จากงานเดินแบบวันนี้ถูกโพสต์ลงโลกโซเชียลพร้อมแคปชั่นที่ทำเอาคนแห่มาด่า
รถสปอร์ตยี่ห้อหรูหราที่เธอยืนถ่ายคู่ด้วย ลือกันหนาหูว่า เสี่ยใหญ่คนไหนก็ไม่ทราบเป็นคนซื้อให้...
ไม่ใช่เสี่ยพุงพลุ้ยที่เธอเคยนัดคุย และไม่ใช่เสี่ยหัวหงอกที่ให้เธอเป็น พรีเซ็นเตอร์สินค้า และที่สำคัญไม่ใช่เสี่ยรุ่นพ่อที่ให้เธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์รถของเขา
ภาพที่ถูกโพสต์ลงไป ได้รับการสนใจอย่างเนืองแน่น ผู้คนแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา แต่ผู้ที่กำลังฟังเสียงแจ้งเตือน...
ขณะที่ยังไม่วางตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หาได้สนใจอย่างที่ควรจะเป็นไม่
‘โอ๊ย โคตรนัมเบอร์วัน’
‘เด็กเสี่ยสมัยนี้ ดูมีหน้ามีตาที่สุุดในสังคมละ’
‘อยากเป็นเด็กเสี่ย อยากเป็นเด็กเสี่ย!’
‘ไม่ต้องประกาศก็ได้ม้างงง’
‘ระวังไม่มีผัวนะ ประกาศขนาดนี้’
เธอไม่ได้เห็นการแสดงความเห็นพวกนี้...มีแต่คนพวกนี้ที่พากันอินกับความเห็นต่าง และต่อว่ากันไปต่างๆ นานา
นักสืบโซเชียลก็แอบทำงานกันเงียบๆ
‘นี่รู้มาว่า...’ ความคิดเห็นนี้ดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจและตอบกลับมากที่สุด ทำเอาผู้คนไม่ได้หลับได้นอน เพราะตามติดในสิ่งที่เขาเล่า...
หากแต่คนที่โพสต์ปลุกกระแส...กลับไม่ได้แยแสต่อกระแสพวกนั้นเลยแม้สักนิด
“เฮลโหลเพื่อน! ฉันว่าตอนนี้มันจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วนะเว้ย!” ความไม่แยแสของเธอ...ทำให้เหล่าชาวแกงค์เพื่อนสนิท
ผู้ติดตามอ่านความคิดเห็นในโพสต์จนทนไม่ได้ รีบหอบกันบึ่งมาหาเธอถึงที่คอนโด!
“แปบนึง...ฉันยังเคลียงานไม่เสร็จ” โยศิตาขยับแว่นสายตาที่มีความสามารถในการกรองแสงคอมพิวเตอร์ให้เข้าที่ ก่อนสนใจงานตรงหน้าต่อ...
นอกจากงานเดินแบบ เธอยังมีงานหลักที่ไม่ได้ประกาศให้ใครทราบทำอยู่ด้วย
“วางก่อนเลยจ้ะแม่ แม่วางทุกอย่างลงเลยตอนนี้!” เพื่อนสาวประเภทสองนามว่า ริชชี่หรือโรจน์ ดึงมือเธอลุกออกมาจากตรงนั้น
ให้มานั่งท่ามกลางสายตาไม่ชอบใจของเพื่อนทั้งสาม บนโซฟารับแขกในห้องทำงานเล็กๆ ของเธอนี่
โยศิตาอาศัยอยู่ในคอนโดหรูย่านใจกลางเมือง...ที่จัดทุกอย่างออกมาอย่างลงตัว เธอเป็นคนชอบแยกทุกอย่างออกจากกันและเป็นสัดส่วน
ห้องนอนคือห้องนอน ห้องทำงานต้องทำงานเท่านั้น
ส่วนห้องที่ไม่มีคือห้องครัว...มีเป็นเพียงบาร์เตรียมอาหารเล็กๆ เพราะเธอไม่เคยคิดที่จะทำอาหารกินเองเลยแม้แต่น้อย
“ฉันว่า...เรื่องมันกำลังไปกันใหญ่อยู่นะเว้ย ไอ้พวกนักสืบโซเชียลอะไรนั่น มันกำลังกุเรื่องแกขึ้นมาให้คนสนอกสนใจ
มันทำไปด้วยความสนุก แต่คนที่กำลังจะได้รับผลจากเรื่องนั้นมันคือตัวแกเองนะเว้ย” ปรียาดาหรือปลี เพื่อนสาวผู้เนี้ยบกว่าใคร ว่าอย่างเป็นกังวล
เธอเป็นเพื่อนที่ได้รับการสถาปนาด่วนให้เป็นผู้จัดการส่วนตัวนางแบบอิสระอย่างเธอ แบบมิอาจมีโอกาสตกลงหรือปฏิเสธ
“คนอื่นๆ ล่ะ มีอะไรจะพูดอีกไหม?” เธอผู้ทำหน้านิ่งๆ ใส่เพื่อนเสมอ หันไปถามเพื่อนรักอีกสองคน ที่เป็นชาวรักร่วมเพศทั้งคู่
คนหนึ่งสาวประเภทสอง...อีกคนเป็นหนุ่มประเภทสองหรือทอมบอยหนุ่ม