8.ห้ามหวั่นไหว
ไซคีมองหน้าของเฟลิกซ์ด้วยสีหน้าที่เจือปนไปด้วยความตกใจ ท่านแม่..อย่างนั้นหรือ? ไหนว่าส่งเธอมาเพื่อหยุดยั้งสงครามแล้วทำไม..
หรือว่าเจตนาที่แท้จริงของท่านแม่ในการก่อสงครามขึ้นมาอีกครั้งเพื่อปลุกปั่นความเกลียดชังของคนที่นี่ ให้เกลียดชังเธอมากขึ้นกว่าเดิม เจตนาของท่านแม่คือส่งเธอมาตายอยู่แล้วนี่!
แต่ต้องทำถึงขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรือ?
เขาใช้มือข้างหนึ่งโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างกำดาบเอาไว้แน่น ดูจากที่เธอนิ่งอึ้งเมื่อเห็นการโจมตีของนักเวทแสดงว่าไซคีไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
ความจริงไม่แน่ชัดสักเท่าไหร่เรื่องสงครามที่เกิดขึ้นในวันนี้ เพราะว่านักบุญหญิงที่รักลูกสาวนักหนากล้าสั่งให้คนภายใต้ปกครองโจมตีแกรนด์ดัชชีเมนเคลทั้งที่พึ่งจะส่งตัวลูกสาวเข้ามาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์
นังแม่มดนั่นต้องการกำจัดลูกสาวของตัวเองอย่างนั้นหรือ? ในขณะที่เฟลิกซ์กำลังใช้ความคิดเสียงระเบิดก็ดังขึ้นใกล้ๆไซคีรีบยกมือขึ้นมาเพื่อปิดหูของตัวเอง..
เธอหวาดกลัวเสียงดังมากตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะชาติที่แล้วพ่อและแม่ของเธอถูกรถชน เรานั่งอยู่ในรถยนต์คันหนึ่งเพื่อเดินทางไปงานวันเกิดเพื่อนของแม่ ก่อนที่ความสุขของเธอจะจางหายไป มีเสียงบีบแตรที่ดังขึ้นมาลากยาวหลายนาทีจนเกิดแรงกระแทกอย่างแรงขึ้น..
เธอลืมตาตื่นมาพร้อมกับการสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปในเวลาเดียวกัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็หวาดกลัวอะไรก็ตามที่มีเสียงดังโดยเฉพาะเสียงรถบรรทุก
แต่ทว่านี่เรายืนอยู่ท่ามกลางสงครามที่มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาเป็นระลอกๆ ร่างกายของไซคีพลันสั่นเทาขึ้นมาด้วยอาการความหวาดกลัว ดวงตาสีอเมทิสต์แวววาวไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความหวาดหวั่น
เฟลิกซ์โอบกอดเธอเอาไว้แน่น เรายืนอยู่เงียบๆในซอกตึกที่ทั้งคับแคบและมืดมน ทั้งที่เขาควรจะปล่อยมือที่กอดเธออยู่ออกแล้วไปจัดการกับนักบุญพวกนั้นซะ แต่ทว่าเขาไม่อาจปล่อยมือออกจากร่างกายที่สั่นเทาของไซคีได้เลย
เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา
"...ข้าคิดว่าท่านลอร์ดควรจะออกไปช่วยชาวบ้าน"
"ดูสภาพตัวเองก่อนเถอะ จะให้ข้าทิ้งเจ้าในสภาพเช่นนี้ออกไปอย่างนั้นหรือ?"
ไซคีเม้มปากแน่น อย่างน้อยเขาก็ยังปลอบโยนเธอในเวลาที่เธอหวาดกลัวบางทีเฟลิกซ์อาจจะไม่ได้เกลียดเธอขนาดที่เธอคิดเอาไว้ก็ได้
"ท่านลอร์ดไปเถอะค่ะ ข้าอยู่คนเดียวได้ที่นี่คือเมนเคล และท่านต้องปกป้องทุกคนที่นี่"
เธอตัวเล็กและดูอ่อนแอจนใครๆก็คงคิดอยากจะปกป้อง ไซคีคือสตรีที่เรียกได้ว่าเธอใช้ความงดงามได้คุ้มค่ายิ่งนัก ความสวยงามที่เย้ายวนใจและปลุกเร้าอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยผ่านสตรีมาก่อนแต่ทว่าไม่เคยมีใครที่งดงามขนาดนี้ต่างหาก อีกทั้งนางยังช่างขยันขัดใจเขา เป็นสตรีที่เถียงเก่งเกินไปแล้ว..
"เช่นนั้นก็ตามข้าออกไปข้างนอกพร้อมๆกันเถอะ เพราะที่ที่เจ้าจะยืนอย่างปลอดภัยคือข้างกายของข้าไงล่ะ"
ไม่ใช่ว่าจะหลอกเธอออกไปให้โดนลูกหลงหรอกนะ
เขาจับจูงมือของเธอเพื่อให้เธอเดินตามเขาออกไป ด้านนอกไม่เหลือเคล้าโครงเมืองที่สวยงามอย่างที่ไซคีเห็นเมื่อชั่วโมงที่แล้วเลย เพราะเบื้องหน้าของเธอในตอนนี้มันคือซากปะลักหักพัง รูปปั้นของท่านดยุคถูกทำลายลงไปจนเหลือแค่เศษดินและปูนเท่านั้น
"ท่านพ่อจะต้องโกรธมากแน่ๆ.."
เธอไม่รู้จะทำหน้าเช่นไร เพราะมันราวกับว่าเรื่องนี้เธอก็มีส่วนผิดอยู่
"สำนึกหน่อยไซคี เจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลยล่ะ"
เธอถอนหายใจก่อนจะปล่อยมือที่กอบกกุมมือของเขาออก
"เรื่องนั้น..ต่อให้ข้าอธิบายไปก็คงไม่มีใครรับฟังหรอก"
เฟลิกซ์เลิกคิ้วมองหน้าของไซคีพร้อมกับจับดาบเอาไว้แน่น
"เจ้าไม่พูดออกมาก็ไม่มีใครรู้หรอกนะ จะเชื่อหรือไม่มันอีกเรื่องแต่เจ้ามีหน้าที่ในการยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง"
เขากล่าวพร้อมกับเริ่มจัดการนักเวทที่ดาหน้ากันเข้ามาทีละคนสองคน การกวัดแกว่งดาบของเฟลิกซ์นั้นเหนือชั้นมากทีเดียว ฝีมือของเขามันเกินคำว่าเก่งกาจไปมากเพราะว่าเขาคนเดียวสามารถเอาชนะพวกนักเวทของคาร์โลนับสิบได้อย่างง่ายดาย นี่คือครั้งแรกที่เธอมองดูสงครามด้วยดวงตาคู่นี้
มันคือการเข่นฆ่ากันจริงๆแบบที่โหดร้ายและน่าหวาดกลัวมากทีเดียว เขายืนอยู่ท่ามกลางร่างอันไร้วิญญาณของชุดนักบุญสีขาวบริสุทธิ์ ดาบของเขาเคลือบไปด้วยเลือดสีแดงเหนียวข้นดูน่าหวาดเสียวไม่น้อย
ใบหน้าที่หล่อเหลาฉายแววเหนื่อยล้าออกมาอย่างเห็นได้ชัดและเมื่อมองดูดีๆ แขนซ้ายของเขาบาดเจ็บอย่างหนักมันมิใช่รอยถูกแทงหรือว่าถูกนักบุญทำร้ายเพราะว่าไม่มีใครสามารถประชิดตัวของเขาได้เลยในยามที่เขาถือดาบ
แผลที่แขนของเขาได้มาจากการปกป้องเธอจากแรงระเบิดตอนที่เราอยู่ในตรอกนั่น.. หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นมาเมื่อรู้ว่าเขาปกป้องเธอ
"หล่อใช่ไหมล่ะ รู้แล้วว่าข้าน่ะหน้าตาดีอย่าพึ่งรีบตกหลุมรักข้าก็แล้วกันเพราะสิ่งที่ข้าต้องการมันคือร่างกายของเจ้าไซคี คือร่างกายและใบหน้าที่งดงามนี้ มิใช่หัวใจหรือว่าความรัก"
เธอกำลังคาดหวังอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ? กำลังคาดหวังว่าเขาจะตกหลุมรักเธอทั้งที่แม่ของเธอคือศัตรูตัวฉกาจของเขาเนี่ยนะ เรื่องราวแบบนั้นมันมีแต่ในนิทานก่อนนอนเท่านั้นแหละ ตั้งสติหน่อยสิไซคี
ไซคีสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะแตะที่แขนของเขาเบาๆ
"ตรงนี้บาดเจ็บมาอย่างนั้นหรือ?"
"นิดหน่อย ไม่ได้เจ็บปวดอะไรมาก..โอ๊ย!!"
เธอออกแรงกดลงไปบนบาดแผลของเขาเบาๆและเฟลิกซ์ก็ร้องลั่นออกมาตามที่เธอคิดเอาไว้ เธอพาเขาเดินมายังใต้ต้นไม้เพื่อทำการรักษาแผลให้เขา
"อย่าบอกว่าจะใช้เวทนะ เจ้าคงไม่อยากถูกชาวเมื่อรุมทึ้งหรอกใช่ไหม?"
"ความจริงแล้วข้ามิได้มีพลังเวทอย่างที่ผู้อื่นเข้าใจ พลังของข้ามันคือการปัดเป่าแต่ทว่ามิใช่การรักษา ข้าแค่จะมาห้ามเลือดให้ท่านเท่านั้น"
เขากำลังมองไซคีที่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอซับเลือดให้เขาอย่างแผ่วเบาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ความรู้สึกมากมายกำลังตีกันมั่วไปหมดในหัว เขาไม่ควรหวั่นไหวไปกับเธอเลยแม้แต่น้อย การกล่าวออกไปเมื่อครู่มิใช่การเตือนสติของเธอแต่มันคือการเตือนสติของเขาด้วย ว่าสิ่งที่เขาต้องการคือการเล่นสนุกกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวนี้ก็เท่านั้น
อย่าได้หลงรักนางเพราะในวันข้างหน้า บางทีการลงมือฆ่านางอาจจะเป็นหน้าที่ของเขาก็ได้...