5.ชู้
เรือนผมสีเงินสว่างสะท้อนแสงจันทร์จนเกิดเป็นความโด่ดเด่นขึ้นมาในสายตาที่พร่ามัวของเฟลิกซ์ เขาวางขวดเหล้าลงก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าของเรือนผมสีเงินสว่างนั่น
"นางฟ้าอย่างนั้นหรือ?"
ไซคีขมวดคิ้วมองใบหน้าที่อยู่เหนือร่างของเธอก่อนที่เธอจะลุกขึ้น กลิ่นเหล้าที่ทั้งฉุนและมีกลิ่นคาวเลือดผสมกับเหงื่อไคลคละคลุ้งจนเธอต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก
เขาอยู่นชุดเกราะที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด ดูราวกับว่าเป็นปีศาจที่พร้อมจะมาพรากชีวิตของเธอไปทุกเมื่อ ไซคีเดินถอยหลังไปตามสัญชาตญาณเพราะว่าเธอกำลังรู้สึกหวาดกลัวและขนลุกไปพร้อมๆกัน
"ไม่ต้องกลัวเพราะข้าไม่นิยมเข่นฆ่าสตรีหรอกนะ โดยเฉพาะสตรีที่งดงามเช่นนี้ จริงอยู่ที่ข้าชื่นชอบการฆ่าผู้มีพลังวิเศษมันทั้งสนุกสนานและท้าทายแต่ทว่า..หากเป็นเจ้า หากว่าเป็นเจ้าแล้วละก็ มีเรื่องราวมากมายที่ข้าสามารถสนุกได้โดยที่ไม่ต้องยกดาบขึ้นมาเลยล่ะสาวน้อย"
เธอไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่ครึ่งคำ ไซคีหันหลังเพื่เตรียมตัววิ่งหนีแต่ทว่าเมื่อเธอหันหลัง เขาก็เดินเข้ามาประชิดที่ด้านหลังของเธอในทันที เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผ้าคลุมไหล่ของเธอปลิวไปในอากาศ
ไซคีกำมือแน่นก่อนจะรวบรวมพลังเอาไว้ที่ปลายนิ้ว
เฟลิกซ์แสยะยิ้มในทันทีที่เขาเริ่มรู้สึกถึงพลังเวทที่เบาบางจากสตรีเบื้องหน้า เขาอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะเดินไปที่คฤหาสน์อย่างรวดเร็วไซคีพยายามอย่างยิ่งที่จะทุบตีหรือแม้แต่การกัดแขนของเขาแต่ทว่าเขาก็ไม่มีอาการความเจ็บปวดใดๆเลย นี่คือยามค่ำคืนและทุกคนนอนแล้ว การมาเยือนของเขาไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับคนรับใช้สักเท่าไหร่เพราะว่าเขานั้นเข้าออกที่นี่ไม่เป็นเวลาอยู่แล้ว
"ท่านลอร์ดครับ สตรีที่ท่านอุ้มอยู่คือคุณหนูไซคี.."
เฟลิกซ์ปรายตามองพ่อบ้านที่เดินเข้ามาขวางเขาเอาไว้ แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจและเดินผ่านไปราวกับว่าไม่ได้ยินที่พ่อบ้านบอกกล่าว
"หากให้ข้าเดา การที่เจ้าไปอยู่ที่เรือนเล็กเป็นเพราะว่าเจ้ากับท่านพี่ยังไม่ได้เข้าหอกันใช่ไหม? ดียิ่ง..เช่นนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นภรรยาของข้าซะสิ ข้าชื่นชอบสตรีที่งดงามอยู่แล้วโดยเฉพาะสตรีที่เป็นลูกสาวของนังแม่มดนั่นน่ะ""
ท่านพี่อย่างนั้นหรือ? ดูจากที่ไม่มีใครกล้าขวางเขาเอาไว้แสดงว่าเขาคงจะเป็นน้องชายต่างสายเลือดของอามีน อย่าบอกนะว่าชายป่าเถื่อนผู้นี้คือเฟลิกซ์พระเอกของเรื่อง!
ไม่จริงน่า พระเอกผู้อ่อนโยนจะเป็นตาคนซกมกผู้นี้ได้อย่างไรกัน
"..ท่านควรจะวางข้าลง"
"อ่า พูดได้นี่นาแล้วทำไมตอนที่ข้าถามในครั้งแรกถึงไม่พูดล่ะ? ชอบความรุนแรงอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นก็นับว่าเราเป็นพวกที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน"
เขาถีบประตูเข้าไปในขณะที่ไซคีพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอไม่อาจสู้แรงของเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียว เขาโยนเธอลงบนเตียงภายในห้องนอนที่มืดมิดก่อนจะกระชากเชือกมัดผ้าม่านออกมามัดข้อมือของเธอเอาไว้
"ชะ..ช่วย.."
เขารีบยกมือขึ้นมาปิดปากของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว
"ชู่ว..หากว่าเจ้าส่งเสียงออกมาหนึ่งคำข้าจะถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกหนึ่งชิ้น นี่คือความเมตตาครั้งสุดท้ายของข้าเลยนะที่รัก อ้อ..จะใช้พลังเวทของเจ้าแก้เชือกที่มัดอยู่ก็ได้แต่เจ้าจะต้องรับผลของความรุนแรงที่ตามมาให้ได้ด้วยนะ"
เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แววตาสีม่วงของเธอมองหน้าเขานิ่งๆ ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยดินโคลนและมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ ส่วนเส้นผมสีดำของเขาก็รวมตัวกันเป็นก้อนราวกับว่าเขาไม่เคยอาบน้ำมานานแรมปี
ไซคีมีความมั่นใจอยู่หลายส่วนว่าเขาคงจะไม่กล้าทำอะไรเธอมากไปกว่านี้แล้ว ชายผู้นี้ชื่นชอบการเอาชนะเป็นที่สุด เพราะฉะนั้นเธอก็แค่แกล้งยินยอมเขาเท่านั้นเอง
เธอช้อนสายตามองเขาก่อนจะยินยอมนั่งอยู่นิ่งๆตามความต้องการของเขา รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเฟลิกซ์ เขาถอดเสื้อเกราะออกก่อนจะเดินเข้าไปในอ่างน้ำหลังฉากกั้น
"ข้าได้ยินว่าตอนที่เจ้าเดินทางมาที่นี่เจ้าไม่ร้องไห้เลยนี่.."
"...."
เขาหันหน้ามามองหน้าของเธอ
"นั่นคือคำถามไซคี"
เธอถอนหายใจเบาๆ
"ท่านกล่าวว่าไม่ให้ข้าพูดคำใด.."
"ข้าหมายถึงไม่ให้เจ้าส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือต่างหากล่ะ"
เธอปรายตามองไปทางอื่นเพราะเมื่อเขาเริ่มจุดตะเกียงเธอก็เริ่มมองเห็นบรรยากาศโดยรอบห้องนี้ชัดมากขึ้น เฟลิกซ์คือเด็กกำพร้า เขาคือลูกชายเพื่อนสนิทของท่านดยุคที่ตายลงไปเพราะสงคราม ท่านดยุคจึงรับเขามาเลี้ยงในฐานะลูกชายอีกคน พ่อแม่ของเฟลิกซ์ตายเพราะนักเวท เขาจึงเคียดแค้นและตามล่านักเวทตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เขาคงจะไม่ฆ่าเธอหรอกใช่ไหม เพราะหากว่าเขาจะฆ่าเธอแล้วละก็เขาคงไม่ลำบากลำบนอุ้มเธอมาที่นี่หรอก ชายผู้นี้พ่นคำหยาบคายออกมาได้อย่างคล่องปากจนเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเป็นพระเอกที่แสนอบอุ่นในนิยายที่เธออ่านมา
หลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ
เสียงน้ำล้นออกมาจากอ่างเพราะเขาลุกขึ้นมาจากอ่างน้ำ เฟลิกซ์เดินออกมาจากหลังฉากกั้นโดยที่มีแค่ผ้าขนหนูปิดบังส่วนล่างเท่านั้น เขานั่งลงบนเตียงข้างๆเธอก่อนจะแก้มัดให้เธออย่างเบามือ
ดวงตาสีอเมทีสต์ของไซคีเบิกกว้างขึ้นมาเมื่อเธอได้มองเห็นใบหน้าของเขาชัดๆหลังจากที่เขาไปจัดการขัดล้างคราบดินโคลนและคราบเลือดออกจนหมดแล้ว
ดวงตาของเขานั้นคมกริบราวกับว่ามิมีสิ่งใดที่จะหลอกลวงเขาได้เมื่อเขามองผ่านดวงตาคู่นี้ จมูกโดงรับกับริมฝีปากกระจับได้รูปที่กำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย ความหล่อเหลาที่ไม่มีสิ่งใดจะเทียบเคียงเขาคือหนุ่มแบดบอยที่สามารถสะกดสายตาของเธอเอาไว้ที่เขาจนไม่สามารถมองไปที่อื่นได้เลย
"รู้แล้วว่าข้านั้นหน้าตาดี ไม่จำเป็นต้องมองถึงขนาดนั้นก็ได้"
ไซคีขมวดคิ้วในทันที เขาหล่อเหลาเรื่องนี้เธอไม่เถียงเลย แต่ทว่าความหล่อเหลาของเขามันจางหายไปหมดเมื่อเขาเอ่ยปากพูดออกมา
"ข้าจะกลับไปยังที่พักของข้าแล้วค่ะ"
เธอยกมือขึ้นมาผลักอกของเขาออกเบาๆเพื่อให้เขาเว้นระยะห่างของเราให้เหมาะสมมากกว่านี้
"ใครยินยอม คืนนี้เจ้าต้องนอนที่นี่ต่างหาก"
ไซคีถอนหายใจ เธอคิดว่าที่คฤหาสน์เมนเคลคือศูนย์รวมคนที่พูดไม่รู้เรื่องเอาไว้ด้วยกันอย่างแน่นอน
"มันไม่เหมาะสมค่ะ! หากจะนับกันจริงๆข้าเป็นพี่สะใภ้ของท่านด้วยซ้ำ"
เฟลิกซ์หัวเราะเบาๆ
"ไม่เอาสิเพราะข้าไม่อยากยกเจ้าให้กับพี่ชายที่เย็นชาเหมือนก้อนหินของข้าเลย เราน่ะมาเป็นชู้กันดีไหม?"
พูดบ้าอะไรของเขากันฟะ!