บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

"ไอ้แพร! ไอ้แพรตื่นโว้ย ตื่นได้แล้วว"

เสียงตะโกนโวยวายของจิรัช ทำเอาคนที่กำลังนอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะหินอ่อนหน้าที่พักขยับตัวด้วยความรำคาญและหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างเกียจคร้าน แถมเจ้าตัวยังรู้สึกปวดต้นคออีกต่างหาก

"ไอ้แพร ฉันบอกให้แกตื่นไง ถ้าไม่ตื่นจะเอาน้ำมาสาดแล้วนะยะ" คนตัวโตกว่าบ่นกระปอดกระแปด แล้วยกแขนขึ้นมาพยุงเพื่อนรักที่หลับเป็นตายแบบไม่สนเดือนสนตะวัน

"อื้อ... อย่าพึ่งปลุกได้ไหม คนจะนอน" พัธริกาโอด

"ก็เข้าไปนอนในห้องสิโว้ย! "

"หือ? "

คนที่โดนสั่งให้เข้าไปนอนในห้องพยายามลืมตาสู้แสงแดดยามเช้าอย่างสุดความสามารถ ก่อนที่ภาพจากเหตุการณ์เมื่อคืนจะประเดประดังเข้ามาในหัว จนเธอตาสว่างแบบไม่ต้องพึ่งกาแฟ

"เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น!? " หญิงสาวตะโกนถาม

"เอ้า! แกถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใครวะ"

"เมื่อคืนฉันจำได้ว่าฉันอยู่ในห้องน้ำ" พัธริกาเล่าให้คนตรงหน้าฟังด้วยน้ำเสียงลนลานแตกตื่น พร้อมทั้งก้มลงเพื่อสำรวจร่างกายของตัวเองไปด้วย "ก็ไม่มีอะไรผิดปกตินี่หว่า"

เก้งหน้าหล่อขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ก่อนจะชี้หน้าคนพึ่งตื่นแล้วบอกว่า "เออสิคะ ทุกอย่างปกติดี แต่ที่ไม่ปกติน่ะ มันสมองแก"

"ไม่นะเจมส์ เมื่อคืนฉันจำได้ว่าฉันออกไปข้างนอก"

"อ่าหะ แกออกไปข้างนอก แล้วก็กลับมานอนแหมะอยู่นี่" จิรัชว่าพลางชี้นิ้วไปที่เพื่อนรัก เพื่อบอกในสิ่งที่ตนรู้

"ไม่นะแก เมื่อคืนฉันไม่ได้กลับมานอนที่นี่ แต่ฉันอยู่ในห้องน้ำ" ร่างบางเถียง

"เอ้า! ถ้าแกอยู่ในห้องน้ำจริงๆ แล้วแกมานอนตรงนี้ได้ยังไง ทำไมแกไม่นอนที่ห้องน้ำล่ะ" จิรัชถาม ก่อนจะบ่นกับตัวเองต่อ "นับวันสมงสมองยิ่งเลอะเลือนแล้วเพื่อนฉัน"

"ฉันไม่ได้เลอะเลือน ฉันพูดจริงๆ นะแก"

"โอ๊ยย! แล้วฉันจะไปรู้กับแกไหมเนี่ย พอแกออกไปฉันก็อาบน้ำนอนเลย ไม่รู้ว่าแกมานอนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ด้วยซ้ำ" คนตัวโตบอกในสิ่งที่ตนรับรู้ให้เพื่อนฟัง ก่อนจะโบกมือไล่ให้อีกฝ่ายเข้าไปอาบน้ำอาบท่าในห้อง

"แต่เมื่อคืนฉัน..."

"แกมีหลักฐานไหมล่ะ ว่าแกอยู่ที่ห้องน้ำจริงๆ "

พัธริกาขมวดคิ้วเป็นปมแน่นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของตน เมื่อนึกถึงสัมผัสที่เธอได้รับเมื่อคืน

"อะไร" คนรอฟังคำตอบถาม

"ฉันโดนจูบ" หญิงสาวบอกเสียงเบา

"อีบ้า! แกละเมอหรือเปล่าเหอะ ใครจะไปจูบแกหา!? "

"จริงๆ นะแก มีคนดึงฉันเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเขาก็จูบฉันแบบเอาเป็นเอาตายเลยเว้ย มันเป็นจูบที่ร้อนแรงมากแก ฉันตกใจกลัว แล้วหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย" พัธริกาบอกด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ขณะที่มือก็ลูบคลำปากตัวเองไม่เลิก

"หรอๆ ร้อนแรงแบบแลกลิ้นเลยป่ะ" จิรัชแกล้งถาม

"เออสิ เขาเอาลิ้นเข้ามาในปากฉันด้วย"

คนฟังหัวเราะรวน ก่อนจะยกมือขึ้นมาวางบนแผ่นหลังของเพื่อนรักเพื่อปลอบใจ "อยู่บนคานมาทั้งชีวิตมันคงทำให้แกเปลี่ยวเหงามากสินะ"

"ไอ้บ้า! นี่ฉันพูดจริงๆ นะเว้ย"

"แล้วไหนล่ะจ๊ะ หลักฐาน" ร่างสูงถามพร้อมกับแบมือออกมาตรงหน้าคู่สนทนา

"ไม่... เอ้อ! ฉันเห็นพลัสเตอร์กับเอมี่คุยกันด้วย"

จิรัชยกมืออีกข้างขึ้นมาคลึงขมับอย่างกลุ้มใจ เนื่องจากคิดว่าอาการผิดปกติหลังตื่นนอนของเพื่อนรักเข้าขั้นเพ้อเจ้อเข้าไปทุกที

"แกอาจจะคิดมาก แล้วก็เผลอหลับไป" เขาสรุป

"ฉันไม่ได้คิดมาก" หญิงสาวท้วง

"ไม่ค่ะชะนี หล่อนคิดมากเรื่องผู้ชายจนเอามาฝันเป็นตุเป็นตะไปหมด รีบย้ายก้นเข้าไปข้างในซะ แล้วก็จัดการอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยด้วย"

"นี่แกไม่เชื่อฉันหรอ" พัธริกาถาม

"ไม่"

"แต่มันชัดเจนมากเลยนะ ฉันว่าฉันไม่ได้ฝันแน่นอน"

จิรัชยกมือขึ้นมาเท้าสะเอวอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะแหวใส่เพื่อนรักอย่างเหลืออด "อีแพร! "

"ฉันพูดจริงๆ นะแก" ร่างบางยืนยัน

"มีหลักฐานอะไรอีกไหม นอกจากความเพ้อเจ้อของแกที่บอกว่าโดนขโมยจูบในห้องน้ำน่ะ"

"ก็เรื่องของพลัสเตอร์กับยัยดูมดูมไง" พัธริกาบอก

"โอ๊ยย! คำพูดปากเปล่าของชะนีขี้มโนแบบแก ไม่นับเป็นหลักฐานย่ะ"

"เอ้ออ! ความจริงฉันแอบอัดเสียงสองคนนั้นเอาไว้ด้วยนะแก แต่ว่าแบตโทรศัพท์มันดันหมดไปซะก่อน"

จิรัชขมวดคิ้ว แล้วยื่นมือออกไปกดปุ้มโฮมบนโทรศัพท์ของเพื่อนรัก และทันทีที่ปลายนิ้วของเขาจิ้มลงไปปุ๊ปหน้าจอมือถือก็สว่างปั๊ป จนเจ้าของเครื่องถึงกับอ้าปากค้างให้กับสิ่งที่เห็น

"เป็นไปได้ยัง!? "

"เป็นไปแล้วค่ะชะนี หล่อนแค่คิดมากจนเก็บเอาไปฝัน"

หญิงสาวส่ายหน้าปฎิเสธอย่างไม่ยอมรับ ก่อนจะมองไปเห็นรอยขีดข่วนที่แขนของตน แล้วรีบชี้บอกเพื่อน

"นี่ไงแก นี่ไง"

"อะไร"

"รอยข่วนนี่ฉันได้มาตอนที่กำลังมุดพุ่มไม้หนีพลัสเตอร์ ตอนนั้นฉันโดนจับได้ ก็เลยต้องรีบคลานหนี พอพ้นจากหมอนั่นมาปุ๊ป ฉันก็วิ่งไปหลบหลังห้องน้ำ แล้วอยู่ดีๆ ก็โดนดึงเข้าไป"

"แล้วแกก็โดนโจรราคะขโมยจูบ" จิรัชเล่าต่อให้ แล้วทำปากยื่นปากยาวใส่เพื่อน

"ใช่"

"ไปกันใหญ่แล้ว รอยข่วนพวกนี้อาจจะเผลอไปเกี่ยวกิ่งไม้มาจากที่อื่นก็ได้ แกยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ด้วย" คนตัวโตกว่าบอก

"แต่ฉัน..."

"ตั้งสตินะไอ้แพร แกแค่ฝันไปเท่านั้นเอง ถ้าแกไปเจอเข้ากับเหตุการณ์ที่แกเล่าให้ฉันฟังจริงๆ แล้วใครเป็นคนพาแกมาส่งไม่ทราบ"

"จะไปรู้ได้ยังไง ก็หลังจากนั้นฉันจำอะไรไม่ได้เลยนี่"

"เห็นไหม มันไม่มีหลักฐานอะไรที่สอดคล้องกับสิ่งที่แกเล่ามาสักอย่าง นอกจากรอยข่วนบนแขนที่ไม่รู้ว่าแกไปได้มาตั้งแต่เมื่อไหร่" จิรัชจีบปากจีบคอบอก แล้วดึงแขนคู่สนทนาให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้

"หรือในห้องน้ำมีผีวะ" หญิงสาวเอ่ยถาม

"โอ๊ยย! ผีมันมีที่ไหนล่ะ แกมโนไปเองทั้งนั้น"

"เฮ้ย! ก็ฉันบอกแกแล้วไงว่าเรื่องจริง ฉันไม่ได้ฝันไม่ได้มโนอะไรเลยด้วย ฉันโดนผีขโมยจูบจริงๆ นะแก"

จิรัชระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ เมื่อคนตรงหน้าบอกว่าโดนผีขโมยจูบ เขาก็ยิ่งอยากจะชวนเพื่อนไปหาจิตแพทย์ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป

"ไม่ตลกนะแก"

"ฉันโดนขโมยจูบในห้องน้ำจริงๆ " พัธริกายืนยัน

"ตั้งสติ ถ้าแกบอกว่าผีมันจูบแก ฉันคนนึงล่ะที่ไม่เชื่อ"

"แต่ว่า..." หญิงสาวทำท่าจะแย้ง

"รีบไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย จะได้ไปกินข้าวเช้ากัน ฉันหิวจนไส้จะขาดแล้วเนี่ย"

"แต่ฉันโดนผีจูบจริงๆ นะแก" ร่างบางยืนยันซ้ำ

"เอาอย่างนี้ไหม ถ้าแกมั่นใจมากนัก แกก็ไปขอดูกล้องวงจรปิดสิ เอาให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่าแกโดนผีขโมยจูบจริง หรือแค่มโนไปเอง"

"จริงด้วย! ฉันต้องไปขอดูกล้องวงจรปิด" พัธริกาบอก

"เอาที่สบายใจเลย แล้วอย่าลืมคิดหาเหตุผลดีๆ ตอนไปขอดูด้วยล่ะ ไอ้เหตุผลเจอผงเจอผีอะไรนี่อย่าเชียวนะ ฉันไม่อยากวิ่งเต้นไปเอาตัวแกออกมาจากโรงพยาบาลบ้า ถือว่าเพื่อนขอ"

"รู้แล้วน่า"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel