บทที่ 7
"ว่าไงนะ!? "
เสียงตะโกนโหวกเหวกของจิรัชดังขึ้นภายในบ้านพักของทั้งคู่ หลังจากที่เพื่อนซี้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันให้ฟัง
"โอ๊ย จะตะโกนทำไมยะ ฉันแค่เห็นกล้วยหอมจอมหื่นผุดขึ้นมากลางเป้ากางเกงของเขาเอ๊งง...ง" ร่างบางบอกเล่าด้วยน้ำเสียงเริงร่าสุดขีด ทั้งที่ตอนนั้นเธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกด้วยซ้ำ
"โอ้มายก็อด! ทาครีมกันแดดกันอยู่ดีๆ มันก็ตื่นตัวขึ้นมาเลยเรอะ แกไม่ได้ยั่ว ไม่ได้อ่อยเขาใช่ไหม"
พัธริกาส่ายหน้าไปมาให้เพื่อนรักด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มแทนคำตอบ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบไล้กลางอากาศ จนเพื่อนถึงกับเบ้ปากคว่ำด้วยความหมั่นไส้
"จับกล้ามเขาแล้วเป็นยังไงบ้างแก แน่นหนึบเลยป่ะ"
เมื่อได้ยินคำถามถึงมัดกล้ามของฉลาม คนที่พึ่งไปลูบคล้ำมาเมื่อตอนบ่ายก็เม้มปากด้วยสายตากรุ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย
"โอ๊ย! เล่าค่ะ อย่าลีลา ฉันลุ้นนะโว้ย"
"หือ... กล้ามแน่นมากแก โดยเฉพาะซิกแพคอ่อนๆ นะ ลูบเพลินเลยอะ นี่ฉันพยายามสงวนท่าทีเป็นกุลสตรีแล้วนะ"
"โอ้โห กุลสตรีที่หื่นจนเผลอลูบตัวผู้ชายจนเลือดกำเดาเกือบไหลน่ะหรอ"
หญิงสาวทำหน้าปูเลี่ยนให้การเหน็บแหนมจิกกัดของเพื่อนรัก ก่อนจะนั่งขัดสมาธิลงบนเตียงขณะที่ในหัวก็พาลนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายอย่างเสียไม่ได้
"อย่ามาแอ๊บใสทำหน้าแดงนะชะนี คนที่มีทฤษฎีแน่นปึ้กแบบแก เขาไม่เรียกว่า 'ใสๆ ' หรอกนะยะ" จิรัชเหน็บอีกยก
"โห... ถึงความคิดฉันจะไม่ได้ใสสะอาดประดุจผ้าขาว แต่ร่างกายฉันก็ไม่เคยได้สัมผัสป่ะวะ เชื่อแล้วล่ะ ว่าเขาน่ะตัวพอจริงๆ " ร่างบางคอนเฟิร์ม เพราะดูจากทักษะการรุกของเขาแล้ว เธอก็รู้เลยว่าตัวเองยังห่างชั้นอยู่อีกมาก
"เห็นไหมล่ะ แล้วยังอยากได้อยู่ไหม"
"วุ๊! ถึงจะไม่อยากได้ แต่ฉันก็อยากลองย่ะ" พัธริกาว่าพลางทำสายตามีเลศนัยส่งมาให้เพื่อนรัก
"อยากลอง? หมายความว่าไง"
"ก็หมายความว่าฉันจะลองกุ๊กกิ๊กกับเขาดูสักตั้ง เผื่อว่าน้องพลัสเตอร์จะรู้สึกว่าขาดฉันไม่ได้ จนอยากให้ฉันกลับไปเต๊าะน้องมันเหมือนเดิมไง"
"หือ! ช่างคิดนะชะนี ไหนแกบอกว่าพลัสเตอร์ยังมีเยื่อใยให้ยัยเอมี่อยู่ไง ถ้าเป็นแบบนั้นนะ ต่อให้แกอ่อยคุณฉลามของฉันต่อหน้าน้องมันยังไง ก็ไม่มีผลอะไรหรอกย่ะ" จิรัชว่า
"นั่นมันก็ใช่ แต่เราก็ควรจะลองไม่ใช่หรอ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างพลัสเตอร์กับเอมี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"
"สาระแน! " เก้งหน้าหล่อแหวใส่
"พึ่งรู้หรอจ๊ะ" พัธริกาถามกลั้วหัวเราะ แล้วหันไปคว้าผ้าคลุมไหล่พื้นบางขึ้นมาคลุมไว้หลวมๆ
"แล้วนั่นแกจะไปไหน"
"ไปเดินดูวิว"
"ดูวิว? " จิรัชทวนคำเพื่อนด้วยสีหน้างุนงง แล้วถามย้ำอีกหนอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อ "ดึกดื่นป่านนี้นี่นะดูวิว"
ร่างบางหันมาส่งเสียงจิ๊ในลำคอ ก่อนจะพยักหน้าย้ำ
"ไม่เชื่อ! "
"ฉันจะออกไปสำรวจบ้านพักเฉยๆ ก็เผื่อว่าคืนนี้จะได้เห็นอะไรดีๆ ไง" พัธริกาบอกด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ จนเพื่อนเบ้ปากใส่
"ระวังนะยะ ไม่ใช่ไปเดินตกหลุมตกบ่อแถวไหน ฉันไม่อยากรับศพแกกลับกรุงเทพฯ แล้วไปแจ้งข่าวร้ายกับย่าแก"
"ปากเสีย! " แหวใส่เสียงเขียว แล้วสะบัดหน้าจากไป
เท้าเล็กเดินไปตามทางเดินด้วยฝีเท้าที่ตนคิดว่าเบาที่สุด ก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อญาติผู้พี่กระโจนออกมาจากพุ่มไม้ เพื่อขวางหน้าตนไว้
"ตกใจหมด พี่ภัทรเล่นอะไรเนี่ย" พัธริกาบ่นอุบ ก่อนจะส่งกำปั้นเล็กไปกระแทกไหล่ของคนตรงหน้า
"โอ๊ย! เจ็บ"
"อย่าเว่อร์ เบาขนาดนี้จะเจ็บได้ยังไง"
ภัทรหัวเราะรวนเมื่อโดนรู้ทัน ก่อนจะยกมือขึ้นมาดีดหน้าผากคู่สนทนาอย่างมันเขี้ยว "แล้วนี่แกออกมาเดินทำไมดึกๆ ดื่นๆ ไม่กลัวผีหรือไง"
"ผีเผออะไรเล่า สว่างขนาดนี้" หญิงสาวว่าพลางบุ้ยใบ้ไปทางโคมไฟเล็กๆ ตามทางเดิน
"ผีทะเล"
"ที่นี่ไม่ได้อยู่ใกล้ทะเลสักหน่อย จะมีผีทะเลได้ยัง" คนตัวเล็กเถียงกลับ ก่อนจะถูกดีดหน้าผากอีกหน
"ซื่อบื้อ! "
"โอ๊ยย จะดีดทำไมนักหนาเนี่ยพี่ภัทร แพรรู้น่า"
"รู้แล้วจะออกมาเดินทำไม มันอันตราย" คนเป็นพี่บอก
"แล้วพี่ภัทรออกมาเดินทำไม" พัธริกาถามกลับไปบ้าง ญาติผู้พี่จึงหยิบซองบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาให้ดูแทนคำตอบ
"ถ้าคุณย่ารู้นะ พี่ภัทรตายแน่"
ภัทรไว้ไหล่อย่างไม่ยี่หระ แล้วบอกอีกฝ่ายด้วยท่าทางไม่แคร์สื่อ "เราตามใจคุณย่ามาเยอะแล้วนะแพร นอกกรอบบ้างสักหน่อย จะเป็นอะไรไป"
ร่างบางมองญาติผู้พี่ซึ่งเป็นหลานรักของย่าราวกับเห็นผี เพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะแอบทำพฤติกรรมนอกกรอบลับหลังท่าน และคงจะแอบทำมานานแล้วด้วย
"มองอะไร"
"มองพี่ภัทรนั่นแหละ ใครจะไปคิดล่ะว่าพี่ชายคนดีของเค้าจะร้ายเงียบขนาดนี้"
ชายหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่สนใจความเงียบรอบตัว จนคนตัวเล็กกว่าต้องเขย่งปลายเท้าเพื่อเอื้อมมือมาปิดปากเขาเอาไว้ ก่อนที่คนทั้งรีสอร์ทจะตื่นขึ้นมาด่าทั้งคู่
"จะหัวเราะเสียงดังทำไมเนี่ย" พัธริกาบ่น
"ลืมตัว"
"ชิ! แพรไปเดินเล่นดีกว่า พี่ภัทรรีบนอนนะ"
คนเป็นพี่พยักหน้ารับและยกโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาโบกไปมาตรงหน้าเธอ "มีอะไรรีบโทรหาพี่เลยนะ"
"รับทราบครับผม" ร่างบางตอบรับ พร้อมทั้งยกมือขึ้นมาตะเบะด้วย
"อื้อ"
อีกด้านหนึ่งหลังคอมพิวเตอร์ตัวใหญ่ในห้องทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยภายในรีสอร์ทวารีพิสุทธิ์ เจ้าของร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ชอบใจนักกับภาพตรงหน้า จนน้องชายต้องรีบชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วยความสงสัย
"มีอะไรหรอพี่ฉลาม"
"เปล่า" คนเป็นพี่ตอบเสียงเข้ม
"โฮะ! เสียงแข็งขนาดนี้ ไม่มีอะไรจริงเรอะ"
"เออสิ" ฉลามย้ำคำตอบของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะยกก้านบุหรี่ในมือขึ้นมาจรดที่ริมฝีปาก แล้วสูดเข้าไปเต็มปอด
"ตัวเล็กสเปคพี่เลยนี่หว่า" ปลาวาฬแกล้งทัก
และผลตอบรับคือการปรายตามองมาอย่างไม่พอใจของพี่ชายคนโต ที่ชอบคิดว่าตัวเองแบดบอย ทั้งที่ความจริงแล้วพี่ชายของเขากลัวการมีความรัก แล้วจะซ้ำรอยเดิมต่างหากเล่า
"ถ้าพี่ชอบเขา พี่ก็จีบเลยสิ" ปลาวาฬยุ
"ไม่ได้ชอบเว้ย แค่เมื่อตอนบ่ายเขาท้าทายเฉยๆ ก็เลยสนใจขึ้นมานิดหน่อย"
"หืม? " น้องเล็กของบ้านขมวดคิ้วมองภาพจากกล้องวงจรปิด แล้วหันมาถามพี่ชายอีกหน "ตัวเล็กแค่นี้นี่นะ ท้าพี่"
"สงสัยอะไรนักหนา" ฉลามถามเพื่อตัดบท
"เปล๊า~ ก็แค่คิดว่าเขาน่ารักดี ถ้าพี่อยากจะเริ่มต้นใหม่ก็เลือกมาสักคนเถอะ เปลี่ยนคนควงบ่อยอย่างกับเปลี่ยนถุงยาง จนแม่ด่าแล้วนะ"
คนตัวโตซัดหมัดหนักๆ ใส่ไหล่น้องชายด้วยความหมั่นไส้ ก่อนที่เขาจะดับบุหรี่และเดินออกไปจากห้องแบบไม่บอกไม่กล่าว
"นั่นพี่จะไปไหนน่ะ"
"ยุ่ง! "