บทที่ 5
ในช่วงบ่ายที่บรรดานักแสดงและคนในกองถ่ายไปรวมตัวกันเพื่อถ่ายฉากใต้น้ำในอควอเรียม พัธริกาที่ว่างงานเกินไปก็ขอตัวกลับที่พักก่อน แต่ระหว่างที่กำลังจะกลับก็ถูกญาติผู้พี่เรียกตัวไว้ซะก่อน
"เดี๋ยวนี้ผู้จัดการคิวทองเขามีเวลาว่างมานั่งเฝ้าตัวประกอบแล้วหรอ" ภัทร ซึ่งเป็นผู้กำกับของละครเรื่องนี้เอ่ยขึ้น
"แหม... พี่ภัทรก็รู้ว่าแพรมาทำไม"
ภัทรมองค้อนใส่คนตรงหน้าอย่างคาดโทษ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ในเมื่อตนเป็นคนสนับสนุนให้ญาติผู้น้องเฟ้นหาหนุ่มๆ ในวงการไปเป็นคู่ควงเอง
"แล้วจีบไอ้พลัสเตอร์ไปถึงไหนแล้วล่ะ"
"ยังไม่ถึงไหนหรอกค่ะ ขี้เกียจจีบแล้วด้วย" เจ้าของร่างบางตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ ทำให้เธอโดนมะเหงกเข้าให้
"อย่ามัวแต่เล่นน่า ระวังเถ๊อะ! ยัยพริ้มจะควงลูกไฮโซบ้านไหนมาอวดให้แกหน้าหงาย ถ้าคุณย่าถามถึงหลานเขยขึ้นมา พี่ไม่ช่วยนะเว้ย" ภัทรยกเรื่องภายในครอบครัวขึ้นมาพูดติดตลก ในขณะคนฟังหน้างอง้ำไปแล้ว
"ถ้าคนที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างๆ ที่คุณย่าอยากได้ มันมีเกลื่อนตลาดก็ดีสิคะ ถ้าเป็นแบบนั้นแพรคงควงมาไหว้เช้าไหว้เย็น ไม่ซ้ำหน้าไปแล้ว"
คนตัวโตหัวเราะรวนเมื่อได้ฟังคำตอบของญาติผู้น้องที่ตนสนิทที่สุดในบ้าน แล้ววางมือหนาลงบนศีรษะทุยสวยด้วยรอยยิ้ม
"คนที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นมันไม่มีอยู่จริงหรอกนะยัยแพร ในโลกนี้มีแต่คนที่แกต้องมองข้ามข้อเสียของเขา หรือปรับตัวให้เข้ากับเขาเท่านั้นแหละ"
ร่างบางย่นจมูกให้กับคำพูดของญาติผู้พี่ ก่อนที่ตนจะยกมือหนาของเขาออกจากศีรษะ แล้วบ่นคืนไปบ้าง
"ว่าแต่เค้า ตัวเองก็มองหาคนที่คุณย่าพอใจเหมือนกันนั่นแหละน่า"
ภัทรส่ายหน้าไปมาเพื่อปฎิเสธ "เราไม่เหมือนกันนะ"
"ไม่เหมือนตรงไหน"
"ไม่เหมือนตรงที่พี่เคยมีคนรัก แต่คุณย่าไม่ยอมรับ ในขณะที่แกไม่เคยมี แล้วก็ยังหาคนที่แกรักจริงๆ ไม่ได้เลยสักคน"
พัธริกาตวัดค้อนวงใหญ่ใส่คู่สนทนาอย่างหัวเสีย แล้วเชิดหน้าขึ้นคล้ายมั่นอกมั่นใจในอะไรบางอย่าง
"อะไร" ภัทรถาม
"คราวนี้แพรไม่ยอมแพ้หรอกนะ แพรจะควงผู้ชายหล่อเริ่ดโปรไฟล์ดีไปกราบคุณย่า จนยัยพริ้มตกกระป๋องไปเลย"
ผู้กำกับหนุ่มเบ้ปากใส่ แล้วถามขึ้น "ไปเอาความมั่นใจมาจากไหมหืม ที่ผ่านมาแกก็ปฎิเสธเขาไปหมด ดูอย่างนายโอบอะไรนั่นสิ ดูดีขนาดนั้น แกยังไม่เอาเลย"
"เขาสำอางเกินไป" พัธริกาบอกเหตุผล
"แปลว่าแกชอบคนซกมก? "
"ไม่ใช่สักหน่อย แพรไม่คุยกันพี่ภัทรแล้ว แยกๆ "
คำพูดของคนตัวเล็กทำให้ภัทรหัวเราะรวน แล้วยื่นมือออกไปหยิกแก้มเนียนใสอย่างมันเขี้ยว
"เจ็บนะ! "
"แล้วเจอกันตอนเย็น" ผู้กำกับหนุ่มบอก ก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ เพื่อทำงานในช่วงบ่ายต่อ
เจ้าของร่างบางลากสังขารของตัวเองมายังรีสอร์ทวารีพิสุทธิ์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของปลาวาฬ น้องชายคนเล็กของฉลามที่เพื่อนรักของเธอพยายามพรีเซ็นเต็มที่ราวกับเป็นหุ้นส่วนด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
เสียงน้ำที่ไหลเอื่อยๆ จากสระว่ายน้ำหน้าที่พัก ทำให้หญิงสาวอยากสลัดผ้าทิ้ง แล้วลงไปแช่ท้าแดดให้มันรู้แล้วรู้รอด
คิดได้ดังนั้นพัธริกาก็จัดการเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพัก แล้วออกมาอีกครั้งพร้อมกับชุดบิกินีตัวจิ๋วสีฟ้าพาสเทลคอลเลคชั่นใหม่ที่พึ่งไปซื้อมาเมื่ออาทิตย์ก่อน
"เซลฟี่หน่อยดีกว่า" ว่าแล้วเจ้าตัวก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปตัวเองทันที ทว่าก่อนที่จะกดถ่ายเสียงของใครบางคนก็ดังขัดขึ้นมาซะก่อน
"ให้ผมถ่ายให้ไหมครับ"
พัธริกาเอี่ยวตัวหันมาทางด้านหลังของตน ก่อนจะพบเข้ากับพี่ชายเจ้าของรีสอร์ทที่ตอนนี้ชุดสูทสุดสมาร์ทของเขากลายเป็นกางเกงว่ายน้ำสีดำตึงเปรี๊ยะ แถมมัดกล้ามยังชวนให้เลือดกำเดาไหลอีกต่างหาก
"เอ่อ..."
"ผมถ่ายให้ดีกว่าครับ" ฉลามบอกพร้อมกับยื่นมือออกมาตรงหน้าเธอ
"ได้หรอคะ" หญิงสาวถาม
"ได้สิครับ ผมถ่ายรูปสวยนะ" เขาอวดสรรพคุณของตัวเอง แล้วแย่งโทรศัพท์มือถือออกมาจากมือเล็กทันควัน
"หือ? "
"เมื่อกี้ผมได้ยินว่าคุณอยากเซลฟี่" ชายหนุ่มบอก
"ค่ะ"
"ผมขอร่วมเฟรมด้วยได้ไหม"
คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่คนตัวเล็กจะพยักหน้ารับ ทว่ายังไม่ทันตั้งตัว เธอก็โดนช่างภาพจำเป็นยกแขนแกร่งขึ้นมารั้งเอวขอดให้ขยับเข้าไปชิดกับเขาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่แค่นั้นยังไม่พอ...
เขาวางมือหนาลงบนหน้าท้องแบนราบของเธอด้วย
ขุ่นพระ!
นี่เป็นการเซลฟี่ที่ชวนกระอักกระอ่วนใจที่สุดในชีวิตของพัธริกาเลยก็ว่าได้ แต่ก็เอาเถอะ ให้อภัยในความหล่อที่ณเดชน์ยังต้องชิดซ้ายของเขาก็แล้วกัน
"พร้อมนะครับ"
"ค่ะ"
"ชีสสส~"
หญิงสาวอมยิ้มเมื่อคนข้างตัวพูดคำว่า 'ชีส' ยืดยาวพร้อมกับกดถ่ายภาพรัวๆ จนเธองง แล้วเขายังจัดการเปลี่ยนท่าใหม่ด้วยการเลื่อนศีรษะของตัวเองมาซบลงบนไหล่มนอีกต่างหาก
"เอ่อ..."
"ครับ? "
"พะ พอ พอแล้วมั้งคะ" พัธริกาพูดตะกุกตะกัก เพราะลมหายใจของเขากำลังเป่ารดต้นคอเธออยู่
"อ่อ อยากได้ภาพตรงอื่นอีกไหมครับ"
ร่างบางส่ายหน้าปฎิเสธ แล้วตอบกลับเขาไปด้วยรอยยิ้ม "ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉัน เอ่อ ชื่อแพรนะคะ"
เธอถือโอกาสแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ เพราะไหนๆ ก็คิดจะเต๊าะเขาแล้ว นาทีทองมาถึงทั้งทีก็ต้องคว้าไว้ล่ะนะ ถึงจะไม่ทันได้ตั้งตัวก็เถอะ
"ครับคุณแพร ผมฉลามนะครับ" ร่างสูงบอกพร้อมกับจ้องมองคู่สนทนาด้วยสายตากรุ้มกริ่มชวนค้นหา
"ค่ะ"
"วันนี้แดดแรงนะครับ คุณแพรทาครีมกันแดดแล้วหรือยัง" ฉลามถาม เพราะเห็นว่าหญิงสาวถือครีมกันแดดอยู่ในมือ
"ทาไปแล้วค่ะ แต่เดี๋ยวว่าจะทาเพิ่ม วันนี้แดดแรงมากจริงๆ ด้วย"
คนตัวโตพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะอาสาหน้าตาเฉย "ให้ผมทาครีมกันแดดที่หลังให้ไหมครับ"
"คะ? " พัธริกาอุทานตาเหลือก
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับคุณแพร ผมทาให้ได้นะครับ ล้างไม้ล้างมือสะอาดแล้วด้วย" เขาว่าพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากางให้เธอดูว่ามันสะอาดแล้วจริงๆ
แต่ว่า...
มันจะดีเรอะ! ?