บทที่22 ไร้ผู้ต้านทาน
ตรงลานจอดรถหน้าร้านสมุนไพรตระกูลลี่ บอดีการ์ดหลายสิบคนยืนตัวสั่นอย่างเกรงกลัว เบื้องหน้าพวกเขานั้นมีหญิงสาวหน้าตางดงาม ที่เหมือนจะมีอายุยี่สิบกว่าปีเท่านั้น แต่ตรงพื้นที่รอบๆตัวเธอ กลับมีสหายของพวกเขานอนหมดสติแขนขาหัก อยู่เต็มไปหมด
“ ไม่ต้องใช้ปืนหรอก…เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง ” ลี่เฉียนคุนพูดขึ้น หลังจากที่เห็นพลังฝีมือของหญิงสาวคนนี้ หากใช้ปืนอาจจะยิงโดนพวกเดียวกันเองได้
สำหรับผู้เชี่ยวชาญนั้น การหลบหรือปัดป้องกระสุนปืนถือเป็นเรื่องง่ายมาก ยกเว้นว่าได้รับบาดเจ็บ หรือพลังปราณหมด
มิเช่นนั้นกระสุนปืนเป็นพียงแค่ของเล่นเท่านั้น…
“ เธอต้องการอะไร ” ลี่เฉียนคุนถามอย่างใจเย็น ในเวลาแบบนี้เขาต้องรักษาความสงบไว้ เพื่อหาโอกาสในการเจรจาต่อรอง
“ ลี่ตงไห่กับพวกแกนนำตระกูลอยู่ที่ไหน ” โม่ซินหยานถามออกมาด้วยเสียงเย็นชา
“ เธอต้องการพบพวกท่านด้วยเหตุผลอะไร ” เสียงของลี่หวูเฉินดังขึ้น พร้อมกับตัวเขาที่ออกมายืนบังพ่อกับแม่เขาเอาไว้
ในสถานที่แห่งนี้ตัวเขาเป็นผู้ที่มีความสามารถในการต่อสู้สูงที่สุด แม้จะรู้ว่าไม่สามารถสู้กับผู้หญิงตรงหน้าได้ แต่เขาต้องปกป้องครอบครัว
ลี่เฉียนคุนมองดูลูกชายของตนด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ ตัวเขาโทษตัวเองมาตลอดที่ไม่มีพรสวรรค์ ทำให้พ่อเขาเสียใจ โชคดีที่เขาได้ให้กำเนิดลูกชายคนนี้มา อายุเพียง25ปีก็เป็นนักสู้ขั้น9แล้ว อนาคตต้องเป็นเสาหลักให้ตระกูลได้แน่นอน
การต่อสู้ครั้งนี้ตระกูลลี่ต้องผ่านไปให้ได้เอง ไม่สามารถหวังพึ่งตำรวจได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่า หากเป็นการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญด้วยข้อบาดหมางส่วนตัว ตำรวจจะไม่เข้ามายุ่ง
ยกเว้นว่ามีคนไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลง ตำรวจถึงจะเข้ามาจัดการ
มองชายหนุ่มตรงหน้า โม่ซินหยานก็รู้สึกชื่นชมเล็กน้อย จะว่าไปแล้วเขามีอายุเพียงยี่สิบต้นๆเท่านั้น กลับฝึกฝนจนถึงขั้นนี้ได้ แสดงว่าพรสวรรค์เขาน้อยกว่าเธอเพียงขั้นเดียวเท่านั้น
ตัวเธอตอนนี้มีอายุ 31ปีแล้ว แต่เมื่อเธอสำเร็จถึงขั้นปรมาจารย์ได้เมื่อวันก่อน ใบหน้าเธอก็ดูเด็กลง สำหรับข่าวที่เธอไปถึงขั้นปรมาจารย์นั้น แม้แต่องค์กรก็ยังไม่รู้
เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร เมื่อวานนี้เธอเพียงแค่ปลดปล่อยพลังที่เก็บซ่อนไว้มาตลอด5ปีเท่านั้น
ตลอดเวลาที่เธอดูแลลูกสาวเธอไม่เคยได้ฝึกฝนเลย เพราะต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นเพียงคนธรรมดา เป็นแม่ที่ดีทุ่มเทเวลาให้กับลูกอย่างเต็มที่
“ ฉันจะพูดอีกครั้ง…วันนี้จะมีคนตายแค่5คนเท่านั้น ฉันไม่ต้องการให้มือฉันต้องเปื้อนเลือดมากไปกว่านี้ ” เธอพูดขึ้นอย่างเย็นชา เพียงแค่พริบตาเดียวบอดี้การ์ดที่ยืนล้อมอยู่ก็กระเด็นออกไปทีละคนสองคน
ไม่มีใครทนรับกระบวนท่าของเธอได้เลย เพียงแค่ชกออกไปเบาๆไม่กี่ที ก็มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นไม่ขาดสาย
เปรี้ยง!
ลี่หวูเฉินที่พยายามจะเข้าไปช่วยก็โดนแตะออกมา กระเด็นไปชนประตูด้านหลังเสียงดัง
อั่ก!
เขากระอักเลือดออกมา ด้วยขาที่สั่นเทา เขาพยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล
“ เดี๋ยว!...ได้โปรดหยุดก่อน ” ลี่เหยาเหยาร้องห้ามขึ้น เธอได้เบียดตัวออกมาจากคนที่พยายามปกป้องเธอ เข้ามายืนขวางอยู่ตรงหน้าลี่หวูเฉิน
“ เหยาเหยา…เธอหลบไปอย่าทำแบบนี้” ลี่เฉียนคุน รีบดึงตัวหลานสาวกลับไป เธอคนนี้เป็นความหวังของตระกูลลี่ในอนาคต จะให้เป็นอะไรไปไม่ได้
“ เธอ…ลี่เหยาเหยา ” โม่ซินหยานพูดออกมาด้วยเสียงตกใจ เธอไม่คิดว่าจะเจอซุปเปอร์สตาร์คนโปรดที่นี่
ตลอดเวลาที่เธอได้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา เธอกับลูกสาวชื่นชอบลี่เหยาเหยามาก ลูกสาวเธอร้องเพลงของลี่เหยาเหยาได้ทุกเพลง
สำหรับตัวเธอเอง เสียงเพลงของลี่เหยาเหยานั้นช่วยเยียวยาจิตใจของเธอ ให้สลัดหลุดออกจากนักฆ่าสาวมาเป็นแม่ที่ดีได้ เหตุผลที่อาการของลูกสาวเธอดีขึ้น ก็เป็นเพราะเสียงเพลงของลี่เหยาเหยาเหมือนกัน
“ คุณรู้จักฉันใช่ไหม…งั้นได้โปรด คุณได้รับค่าจ้างมาเท่าไหร่ฉันยินดีจ่ายให้คุณสิบเท่าเลย ปล่อยครอบครัวฉันไปได้ไหม ” ลี่เหยาเหยา เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้ารู้จักเธอ ก็พูดขึ้นอย่างมีความหวัง
สำหรับเธอแล้วเรื่องเงินนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย ครอบครัวสำหรับเธอสำคัญที่สุด ตลอดการทำงานมากว่า5ปีของเธอ ได้สะสมเงินไว้เป็นจำนวนมาก ที่เธอเองก็ใช้ไม่หมด
….
สีหน้าของโม่ซินหยานเปลี่ยนเป็นยุ่งยาก ถ้านี่เป็นงานจ้างวานตามปกติ เธอพร้อมจะถอนตัวโดยไม่ต้องการเงินจากลี่เหยาเหยาแม้แต่หยวนเดียว
แต่นี่มันเกี่ยวพันถึงชีวิตของลูกสาวเธอ…
“ ฉันขอโทษ…สิ่งที่ฉันต้องการ พวกคุณให้ไม่ได้หรอก วันนี้ฉันต้องทำภารกิจให้สำเร็จ” เธอพูดขึ้นอย่างจริงจัง แล้วเริ่มจัดการบอดี้การ์ดที่เหลือด้วยความรวดเร็ว
“ อะไร..กัน ” ลี่เหยาเหยาพึมพำออกมาอย่างสิ้นหวัง
แอ๊ดดด!
หญิงชราคนหนึ่งเปิดประตูออกมา เธอลากเอาชายชราที่ถูกซ้อมจนสะบักสะบอมออกมาด้วย
“ ใครกล้ามาก่อความวุ่นวายที่ตระกูลฉัน ลี่สวีฉิง! ” เสียงตะโกนด้วยความโกรธดังขึ้น พลังปราณของเธอระเบิดออกมาทันที
“ ท่านย่า !” ลี่เฉียนคุนร้องขึ้นด้วยความดีใจ ในที่สุดตระกูลลี่ก็รอดแล้ว เขารีบรับเอาชายชราไปมัดไว้ อีกฝ่ายโดนทำลายพลังฝีมือไปแล้ว ตอนนี้ไม่ต่างจากคนธรรมดาคนหนึ่ง
การต่อสู้ในตอนนี้หยุดชะงักไปอีกครั้ง บอดี้การ์ดที่เหลืออยู่เพียงสามคนก็มีสีหน้ายินดี ที่พวกตนไม่ต้องลงไปนอนกองแบบสหาย
“ ท่านย่าทวด..ผม ” ลี่หวูเฉินหันใบหน้าอันขาวซีดไปหาลี่สวีฉิง เหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง
ตุบ
เข่าของลี่หวูเฉินทรุดลงไปกับพื้น ด้วยความอ่อนแรง ตัวเขาถึงขีดจำกัดนานแล้ว แต่ก็พยายามฝืนตัวเองไว้
ในขณะที่เขาจะล้มลงไป ท่านย่าทวดได้ใช้มือประคองเอาไว้ แล้วถ่ายเทลมปราณไปช่วยรักษาให้
“ เธอทำได้ดีแล้ว ” ลี่สวีฉิงมองเหลนชายคนโต ด้วยความชื่นชม อย่างน้อยตระกูลี่ก็มีต้นกล้าดีๆอยู่
ตัวเธอนั้นไม่ได้กลับมาตระกูลนานเกือบ10ปีแล้ว แต่เพราะวันนี้หลานชายและลูกศิษย์ของเธอลี่ตงไห่ คิดว่าศัตรูเก่าต้องส่งคนมาก่อกวน เลยขอให้เธอช่วยเหลือ
“ ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง...แต่คุณแก่มากแล้วลมปราณคุณถดถอยไปเยอะ คุณสู้ฉันไม่ได้หรอก ” โม่ซินหยานแปลกใจในตอนแรกที่เห็นพลังของลี่สวีฉิง
แต่เมื่อเห็นพลังปราณที่อีกฝ่ายระเบิดออกมา เธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายเหมือนตะเกียงที่ใกล้ดับแล้ว
ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา ลี่สวีฉิง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เพราะมันเป็นความจริงทุกอย่าง หากเธอยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์คงใช้เพียงกระบวนท่าเดียวก็จัดการชายชราได้แล้ว
การที่อีกฝ่ายพูดแบบนี้ก็หมายความว่า หญิงสาวคนนี้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเหมือนกัน
ในขณะที่ลี่สวีฉิงกำลังคิดหาวิธีแก้ปัญหา
“ ใครกล้าทำร้ายคนของตระกูลลี่…ต้องถามฉันก่อน ” เสียงตะโกนแฝงด้วยลมปราณดังออกมาจากทางเข้าร้านของตระกูลลี่
หญิงงามวัยกลางคนที่มีใบหน้าเย็นชา เดินนำกงซือลู่กับกงเสี่ยวเหมยเข้ามา เมื่อเธอเห็นลี่สวีฉิง ก็รีบร้องเรียกขึ้นทันที
“ อาจารย์ค่ะ…ฉันมาทันใช่ไหม ” หญิงงามวัยกลางคนแท้จริงแล้วมีชื่อว่า กงไป๋ฮวา เป็นศิษย์อีกคนที่ลี่สวีฉิงรับเอาไว้
ภายนอกเธอดูเหมือนอายุเพียง40ปลายๆแต่แท้จริงแล้วเธอมีอายุ60ปีแล้ว แต่เพราะอยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญมานานทำให้แก่ช้าลง
สำหรับลี่ตงไห่นั้นเพราะได้รับบาดเจ็บมานานเลยแก่ชราลงเหมือนคนปกติ
ในอดีต ลี่สวีฉิง ได้ตั้งใจให้ศิษย์ทั้งสองคนนั้นแต่งงานกัน เธอจึงเลี้ยงดูสั่งสอนกงไป๋ฮวาอย่างดี แต่ใครจะคิดว่าอยู่มาวันหนึ่ง หลานชายเธอกลับเป็นฝ่ายทอดทิ้งกงไป๋ฮวาเสียเอง
สุดท้ายแล้วศิษย์ของเธอทั้งสองคนต่างแยกทางกัน และเธอก็ไม่ได้เจอกงไป๋ฮวาอีกเลย ตัวเธอก็เลือกที่จะแยกไปใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบตามลำพัง เพราะรู้สึกผิดต่อลูกศิษย์สาวมาก
“ ดีแล้ว…ฉันดีใจที่ได้เจอเธออีก ” ลี่สวีฉิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมีความสุข นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน
จากข่าวที่เธอได้รู้มาคืออีกฝ่ายได้แต่งงาน และสร้างตระกูลของตัวเองขึ้นมาเหมือนกับหลายชายเธอ
“ ทั้งสองคนนี้คือหลานสาวของฉันเองค่ะ…อาจารย์” กงไป๋ฮวาพูดขึ้น วันนี้เธอดีใจมากที่ได้เจอคนที่เธอเคารพรักเหมือนแม่แท้ๆ
ในอดีตหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น ตัวเธอเองก็รู้สึกผิดจนไม่กล้าจะไปพบหน้าอาจารย์ พอเวลาผ่านไปเมื่อเธอต้องการพบท่านก็หายตัวไปแล้ว
ลี่สวีฉิง มองไปยังกงซือลู่ ที่รีบวิ่งมาดูอาการของเหลนชายของเธอด้วยรอยยิ้มอบอุ่น แบบนี้ดีแล้ว ถ้าสองคนนี้แต่งงานกันก็เป็นบทสรุปที่ดี สำหรับความผิดพลาดในอดีต
เพียงแต่ต้องผ่านสถานการณ์ตอนนี้ไปให้ได้ก่อน…
“ ผู้เชี่ยวชาญระดับกลาง !...เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ไปซะ ” โม่ซินหยานพูดอย่างเฉยชา
เปรี้ยง! ปั่ก!
กงไป๋ฮวาพุ่งเข้ามาแตะใส่อย่างรุนแรง แต่ถูกโม่ซินหยานยกแขนขึ้นมาป้องกันได้แบบสบายๆ
“ ระวัง…เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง ” ลี่สวีฉิงร้องเตือนเสียงดัง แต่มันก็สายเกินไป
ตูม!
กงไป๋ฮวาถูกจับขาฟาดลงกับพื้นอย่างแรง จนเธอได้รับบาดเจ็บภายใน แต่ในจังหวะนั้น ลี่สวีฉิงก็ได้เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้เธอกลับมาตั้งหลักได้
พลั่ก ๆๆๆ เปรี้ยงๆๆ!
แม้การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ทั้งสองคนก็พยายามร่วมมือกันทำให้โม่ซินหยานต้องเผาผลาญพลังปราณไปเรื่อยๆ
ต้องไม่ลืมว่าโม่ซินหยานพึ่งเอาชนะบอดี้การ์ดไปเกือบร้อยคน ซึ่งมันย่อมสิ้นเปลืองลมปราณเธอไปส่วนหนึ่ง เพราะบอดีการ์ดตระกูลลี่นั้นไม่ใช่คนธรรมดา ทุกคนเป็นนักสู้ระดับ5ขึ้นไปทั้งสิ้น
โม่ซินหยานก็รู้ถึงความต้องการของคู่ต่อสู้ เธอต้องรีบจบการต่อสู้ให้ไวที่สุด
“ พอกันที!…ตอนแรกฉันก็ไม่อยากให้มีใครรู้ ” พลังปราณรอบตัวเธอระเบิดออกมา
“ แต่ตอนนี้…ฉันไม่สนแล้ว ” เงาร่างแมงป่องสีดำขนาดใหญ่ถูกควบแน่นมาจากพลังปราณ ปรากฏขึ้นด้านหลังโม่ซินหยาน
ออร่าสังหารระเบิดออกมา คนตระกูลลี่ที่ไม่ได้ฝึกฝน โดนแรงกดดันมหาศาลจนทรุดลงไปนั่งอยู่กับพื้นทันที
“ นี่เธอ…ขั้นปรมาจารย์งั้นเหรอ”