บทที่21 จับคนทรยศ
เมื่อได้ยินที่ท่านปู่ลี่ถามออกมา จ้าวเทียนก็เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้น
“ อีกฝ่ายอยู่เหนือผู้เชี่ยวชาญเหรอครับ ”
“ เธอหมายถึงปรมาจารย์เหรอ…ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก คู่อริเก่าปู่ตอนนี้คงอยู่ที่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง ” ท่านปู่ลี่ตอบตามจริง หากอีกฝ่ายเป็นปรมาจารย์ตระกูลเขาคงถูกลบหายไปนานแล้ว
“ งั้นก็เริ่มการรักษาเถอะครับ ” จ้าวเทียนพูดแบบสบายๆ ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ปรมาจารย์ มันก็ไม่อยู่ในสายตาเขาเลย
ท่านปู่ลี่มองแววตาสงบนิ่งปราศจากความกดดันของจ้าวเทียน ท่านก็รู้ได้ทันทีสำหรับจ้าวเทียนในตอนนี้ ต่ำกว่าขั้นปรมาจารย์ไม่สามารถทำให้เขาสนใจได้อีกแล้ว
เฮ้ออ
“ งั้นปู่คงต้องพึ่งเธอแล้ว ” ท่านปู่ลี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่มีใครหรอกที่อยากตาย แต่ถ้าการรักษาท่าน ทำให้จ้าวเทียนเดือดร้อน ท่านก็ไม่สบายใจ
แต่เมื่อรู้ว่าจ้าวเทียนมีความสามารถในการป้องกันตัวจากศัตรูเก่าของท่านได้ ก็รู้สึกโล่งใจ ทั้งสำหรับตัวเองและอนาคตของตระกูล
ในใจท่านตอนนี้กำลังรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
‘ ฉันทำถูกแล้ว ที่ให้เหยาเหยากลับมา ไม่งั้นเด็กหนุ่มดีๆแบบนี้คงเสร็จตระกูลกงไปอีกคน ’
เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้น ล้วนอยู่ในสายตาท่านทุกอย่าง แม้แต่เรื่องที่สองสาวแย่งตัวจ้าวเทียนท่านก็รู้
เมื่อคิดไปถึงหลานชายคนโตของท่านเอง แล้วก็รู้สึกโมโห ทั้งที่ท่านก็ได้เตือนไปแล้วว่า ให้ระวังผู้หญิงของตระกูลกง แต่ไม่คิดว่าผ่านไปไม่ทันไร
มันก็แอบฉวยโอกาสตอนที่ท่านไม่อยู่ ไปจัดงานหมั้นกับกงซือลู่ซะอย่างนั้น ทำให้ท่านต้องถูกยายเฒ่าตระกูลกงล้อเลียนอยู่หลายเดือน
ตระกูลกงนั้นเป็นตระกูลที่ปกครองโดยผู้หญิงมาตลอด ผู้ชายเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้กำเนิดทายาทเท่านั้น ผู้หญิงตระกูลกงนั้นได้เรียนรู้วิธีควบคุมผู้ชายมาตั้งแต่เด็กๆ แม้แต่ตัวท่านสมัยหนุ่มๆเองก็เกือบพลาดท่าให้ยายเฒ่าตระกูลกงมาแล้ว
แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ประสงค์ร้ายแต่อย่างใด แต่เมื่อนึกภาพหลายชายคนโตต้องเดินตามหลังภรรยาตัวเองต้อยๆแล้ว ท่านก็รู้สึกทนไม่ได้
“ ตอนนี้ให้ท่านปู่ลี่นอนลงที่เตียง…แล้วหลับตาผ่อนคลายลมปราณห้ามต่อต้านนะครับ ผมจะเริ่มฝังเข็มตามจุดชีพจรสำคัญ ” จ้าวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาหยิบเอากล่องเข็มออกมาเตรียมพร้อม
“ ตกลง…เธอเริ่มได้เลย ” ท่านปู่ลี่นอนลงบนเตียงอย่างสงบ
ฟิ้วๆๆ ฉึกๆๆๆ
เข็มเงิน 16 เล่ม พุ่งออกจากมือของจ้าวเทียน ปักลงไปยังต่ำแหน่งสำคัญ ของร่างกายมนุษย์อย่างแม่นยำ
แววตาของเขาเป็นประกาย เมื่อมองเห็นจุดที่พิษหยินซ่อนตัวอยู่ มันมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากสามวันก่อนมาก
‘ ดูจากการแพร่กระจายของพิษหยินชั่วร้าย ถ้ายังไม่ได้รับการรักษา ท่านปู่ลี่คงมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง10วันเท่านั้น มันเลวร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้มาก ’
ฟูววว
เขาผ่อนลมหายใจออกมา จากนั้นยื่นฝ่ามือออกไปอยู่เหนือตัวของปู่ลี่ ประมาณ1ฟุต เส้นใยลมปราณสีแดงแผ่ออกมาจากฝ่ามือ
มันค่อยๆไหลผ่านไปยังเข็มเงินทั้ง16เล่ม เข้าไปทำลายพิษหยินชั่วร้ายอย่างช้าๆ กระบวนการนี้เขาต้องระวังถึงที่สุด เพราะถ้าพลาดไปเส้นชีพจรท่านปู่ลี่อาจถูกทำลายได้
เวลาผ่านไป3ชั่วโมง
ตอนนี้ภายนอกห้องที่จ้าวเทียนทำการรักษา สมาชิกตระกูลลี่หลายคนกำลังยืนอยู่ด้วยสีหน้าเป็นกังวล ยังดีที่เรื่องในวันนี้มีแต่สมาชิกระดับสูงเท่านั้นที่ได้รับรู้ ไม่งั้นมันคงจะวุ่นวายกว่านี้อีกมาก
“ ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง ” จางซิงเหวียนแม่ของลี่เฟยพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ คงจะไม่เป็นอะไรหรอก…ลูกเราทั้งสองคนก็ออกปากรับรองถึงขนาดนั้น จากที่ผมสังเกตดูเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนที่จะรับปากในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้หรอก ” ลี่เฉียนคุนพ่อของลี่เฟยพูดปลอบภรรยาด้วยเสียงอ่อนโยน
“ พ่อกับแม่เชื่อผมเถอะ…เมื่อวานผมลองทดสอบความรู้น้องจ้าวดูแล้ว เขาสามารถตอบคำถามผมได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเรื่องชีพจรลมปราณ อีกทั้งตอนนี้น้องจ้าวก็อยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญแล้ว ทั้งยังควบคุมลมปราณได้ละเอียดอ่อนมาก ”
“ อาการบาดเจ็บของคุณปู่นั้นเกิดจากปราณพิษหยิน ผมเชื่อว่าน้องจ้าวต้องจัดการได้อย่างแน่นอน เพียงแต่พวกเราต้องระวังอย่าให้มีใครไปรบกวนตอนที่เขากำลังรักษาอยู่ ” ลี่หวูเฉินจงใจอธิบายเสียงดัง ให้คนอื่นๆที่ยืนอยู่ได้ยินด้วย
เขากำลังวางเหยื่อล่อ ให้คนทรยศเปิดเผยตัวออกมา ซึ่งเรื่องนี้นั้นมีแค่เขากับพ่อ2คนที่รู้ ตอนนี้บอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆกำลังจับตาดู คนที่มีท่าทีผิดสังเกตอยู่
…
พรึบ!
“ เฮ้ย!...พวกแกทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ” ชายคนหนึ่งกำลังถูก บอดี้การ์ดเข้าควบคุมตัวไว้ ในมือของเขากำโทรศัพท์มือถือเอาไว้อยู่
เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที คนในตระกูลลี่หลายคนเริ่มแตกตื่น
” เงียบ! ” ลี่เฉียนคุน สั่งขึ้นด้วยเสียงเฉียบขาด ตัวเขาเป็นลูกชายคนโตถูกวางตัวไว้เป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไป
ปัจจุบันการดูแลจัดการกิจการทุกอย่างของตระกูลลี่นั้นล้วนผ่านมือเขาแทบทั้งสิ้น ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าฝ่าฝืนคำสั่ง
“ พี่ใหญ่…พี่ให้คนพวกนี้มาจับตัวผมทำไม ผมแค่จะโทรหาเพื่อนเท่านั้น ” ชายคนนั้นรีบพูดแก้ตัวออกมา แต่แววตาของเขานั้นสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว
ซึ่งเขานั้น ไม่สามารถซ่อนมันจากสายตาของลี่เฉียนคุนได้
“ น้องเจ็ด…นายบอกว่ากำลังโทรหาเพื่อนใช่ไหม ถ้างั้นฉันคุยกับเพื่อนนายหน่อยได้ไหม เบอร์ที่นายกดโทรไปล่าสุด ” เขามองไปที่หน้าจอมือถือของชายคนนั้นแล้วพูดขึ้น
มันชัดเจนมาก ชายคนนี้โทรออกไปสองครั้ง ครั้งแรกตอนที่จ้าวเทียนมาถึง ครั้งที่สองก็ตอนเมื่อครู่ ยังดีที่บอดี้การ์ดเข้าไปหยุดไว้ได้ก่อน
“ พี่ใหญ่…คือฉัน ” ชายคนนั้นก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว
“ ฉันไม่คิดเลยนะ…ว่านายจะทรยศขายข่าวพ่อตัวเองให้ศัตรู ” ลี่เฉียนคุนพูดขึ้นเสียงดัง ด้วยความโกรธ
ผู้คนที่ฟังอยู่รอบๆก็แตกตื่นทันที
“ นี่มันจริงเหรอ ” “ น้องเจ็ดนายไม่ได้ทำมันใช่ไหม!”
“ นี่มันไม่จริง!”
สายตาของลี่เฉียนคุนกวาดมองผู้คนรอบๆตัวอย่างเฉยชา ผู้คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นญาติพี่น้องของเขาทั้งนั้น แต่กลับมีคนทรยศแฝงตัวตัวอยู่ เขาไม่เชื่อว่าจะมีแค่คนเดียว
“ ผมอยากขอความร่วมมือทุกคน หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาให้คนของผมตรวจสอบดู ว่ามีเบอร์แปลกๆตรงกับของน้องเจ็ดหรือป่าว ” เขาออกคำสั่งต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คนส่วนใหญ่ที่บริสุทธิ์ใจก็ยอมโดยดี เพียงแค่ให้ตรวจดูแปบเดียวเท่านั้นไม่มีอะไรเสียหาย ครอบครัวของลี่เหยาเหยาเป็นฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นกลุ่มแรก
คนอื่นๆที่เห็นดังนั้นก็เลยเลิกคิดที่จะขัดขืน และให้ความร่วมมือแต่โดยดี
!!
“ แกไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน…ฉันเป็นอาของแกนะ” ชายชราคนหนึ่งตะโกนออกมาเสียงดัง เขาชี้หน้าลี่เฉียนคุนด้วยความโกรธ
“ อาสาม…ผมไม่ได้ตั้งใจไม่ให้เกียรติอา แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวพันถึงเรื่องความเป็นความตายของพ่อผม พวกเราจึงจำเป็นต้องทำแบบนี้หวังว่าอาจะให้ความร่วมมือ” เขาตอบกลับไปอย่างเย็นชา นึกแล้วไม่มีผิดต้องมีคนระดับสูงในตระกูลเกี่ยวข้องด้วย
ถ้าพ่อเขาเป็นอะไรไป พวกลุงๆอาๆจะได้ประโยชน์เต็มๆ กิจการทุกอย่างพ่อของเขาสร้างขึ้นมาเองกับมือ โดยที่ไม่ได้พึ่งพาใคร
แต่พอท่านประสบความสำเร็จใหญ่โต พวกญาติพี่น้องก็รีบเข้ามาหาทันที ทั้งยังเรียกร้องถึงความสัมพันธ์สายเลือดเดียวกัน ให้พ่อเขาช่วยเหลือ
แม้แต่ในเวลานี้ก็ยัง…
“ เจ้าสาม!...เอามือถือของนายออกมา เดี๋ยวนี้ ” หญิงชราคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องด้านใน ที่จริงแล้วเธอมีหน้าที่ซ่อนตัวแล้วคุ้มครองหัวหน้าตระกูลลี่อย่างลับๆ
แต่เมื่อครู่นี้จ้าวเทียน เหมือนมองมายังที่ซ่อนเธอแบบไม่เจตนา แล้วส่งสายตาบอกให้เธอไปจัดการเรื่องราวด้านนอก
ซึ่งเธอตกใจมาก หมายความว่าเด็กหนุ่มคนนี้ขณะที่กำลังใช้สมาธิทำการรักษาอยู่ ยังสามารถรับรู้ถึงสิ่งต่างๆรอบตัวได้
ยิ่งเมื่อลองสังเกตจากพลังปราณที่เขาปลดปล่อยออกมา มันเข้มข้นกว่าของเธอมาก นี่หมายความว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง
เมื่อได้คิดได้เช่นนั้นเธอเองก็วางใจ แล้วออกมาจัดการปัญหาด้านนอกแทน
“ อาหญิง!...ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ” ชายชราพูดออกมาด้วยความตกใจ คราวนี้แย่แล้ว ทำไมยัยแก่นี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“ คารวะ..ท่านย่า ” “ คารวะท่านย่าทวด ”
สมาชิกตระกูลลี่รีบทำความเคารพหญิงชราทันที เพราะเหตุผลที่ท่านผู้เฒ่าลี่ในวัยหนุ่มเก่งกาจเหนือกว่าคนในรุ่นเดียวกัน เพราะได้รับการสอนสั่งมาจากเธอทั้งสิ้น บารมีของเธอในตระกูลลี่นั้น เท่าเทียมกับท่านปู่ลี่เลยทีเดียว
“ ดี!...ถ้าในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่ต้องพูดกันแล้ว ” ชายชราพูดขึ้นเสียงดัง พลังของเขาระเบิดออกมาทันที
“ หืม…เจ้าสามนี่แกเข้าสู่ขอบเขตผู้เชี่ยวชาญแล้วรึ ” หญิงชราพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา เธอหันไปมองคนอื่นรอบๆ แล้วพูดขึ้น “ พวกเธอที่เหลือหลบไปก่อน…แล้วห้ามไม่ให้คนอื่นเข้ามาที่นี่ ”
โชคดีที่ได้ปิดร้านสมุนไพร1วัน ทำให้ไม่มีลูกค้าเข้ามา จึงสามารถจัดการเรื่องวุ่นวายได้ง่ายขึ้น
เพียงแต่ตอนนี้…
หน้าทางเข้าร้านสมุนไพรตระกูลลี่ หญิงงามนางหนึ่งในชุดหนังสีดำกำลังยืนอยู่อย่างสงบ วันนี้เธอไม่ได้ปกปิดใบหน้า เพราะเธอนั้นเลิกทำงานเป็นนักฆ่าแล้ว
แต่เพราะต้องการรักษาอาการของลูกสาว เธอจึงต้องจำใจหวนสู่เส้นทางนี้อีกครั้ง
โม่ซินหยานได้มาถึงแล้ว!