บทที่ 4 กล้ำกลืนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ทำอะไรก็ได้จริง ๆ เหรอ?” ซุนหมิงเทาหัวเราะอย่างชั่วร้าย
“จริง... จริง ๆ...” ฉินหยู่ซินตอบกลับเสียงสั่น
“ฮ่า ๆ ไม้อ่อนไม่ชอบ ชอบไม้แข็ง เป็นนังแพศยาจริง ๆ!” ซุนหมิงเทาหัวเราะเสียงเย็น จากนั้นน้ำเสียงก็เข้ม
“อยากจะให้ฉันช่วยเธอตามหานังลูกไม่มีพ่อนั่นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ มีสองเงื่อนไข!”
“ข้อแรก รีบมานั่งข้าง ๆ ฉัน วันนี้ให้ฉันได้ชื่นชมผลประโยชน์หน่อย”
“ข้อสอง หลังจากที่ช่วยเธอตามหานังเด็กไม่มีพ่อนั่นแล้ว เธอจะต้องมาอยู่กับฉันหนึ่งเดือนโดยไม่มีเงื่อนไข เรียกเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น!”
“ฉัน... ฉันตกลง...” ฉินหยู่ซินกัดฟันพยักหน้า
“ยังไม่รีบมานั่งอีก!” ซุนหมิงเทาตบลงตรงที่ว่างข้าง ๆ ตัว “มานวดให้ฉันก่อน!”
“ทำให้ฉันสบายตัว แล้วฉันโทรศัพท์ให้คนไปช่วยเธอตามหานังเด็กไม่มีพ่อนั่นเดี๋ยวนี้เลย!”
“หวังว่าคุณจะพูดคำไหนคำนั้น...” ฉินหยู่ซินสูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งแล้วลุกขึ้นไปนั่งลงข้าง ๆ ซุนหมิงเทา
“มาเถอะ นังแพศยา!” ไม่ทันรอให้ฉินหยู่ซินนั่งลงเรียบร้อย ซุนหมิงเทาก็โอบเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอก
โครม!
ในตอนนี้เอง ประตูห้องขาดออกเหมือนกระดาษ เศษไม้ปลิวอยู่เต็มอากาศ
จากนั้นก็เห็นร่างของหลิงห้าวปรากฏอยู่ที่ประตูห้อง ดวงตาทั้งคู่เยือกเย็น ความโมโหสูงเทียมฟ้า เขาจ้องคนสองคนที่อยู่บนโซฟาเขม็งโดยไม่พูดไม่จาอยู่อย่างนั้น
“อ๊ะ...” ฉินหยู่ซินที่ตั้งสติได้ก็ร้องขึ้นมาอย่างตกตะลึงแล้วดิ้นออกจากอ้อมอกของซุนหมิงเทา
“เชี่ย ใครกันกล้ามาทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน ไม่อยากมีชีวิตแล้วสินะ?” ซุนหมิงเทาตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
ส่วนฉินหยู่ซิน ในชั่วพริบตาที่เธอจำหลิงห้าวได้ก็สั่นไปทั้งตัว น้ำตารื้นอยู่ในดวงตาไม่หยุด
ในดวงตาปรากฏแววซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง มีทั้งความทึ่ง ทั้งความเจ็บใจ ทั้งความกล้ำกลืน ทั้งยังมีการรอคอยอยู่เลือนราง
ทำไมถึงเป็นเขา!?
ผู้ชายที่ทำลายชีวิตทั้งชีวิตของตน ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้!?
วันนั้นเมื่อห้าปีก่อน ตัวเองหวังดีช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แต่กลับถูกเขาแย่งเอาสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของตนไป
ในฐานะที่เธอเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของตงโจว อีกทั้งยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉิน เดิมก็มีอนาคตที่สวยงามมากอยู่แล้ว!
แต่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
ตอนที่เธอรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ เวลาก็ผ่านไปสามสี่เดือนแล้ว
เธอไม่แข็งใจพอที่จะถอนสิทธิ์ในการมีชีวิตของชีวิตน้อย ๆ ออกได้ลงคอ ดังนั้นเธอจึงต้านทานแรงกดดันทั้งหมดแล้วคลอดลูกออกมา
ห้าปีมานี้ นอกจากน้องสาวของตัวเองแล้ว เธอก็ได้รับการเยาะหยันเหน็บแนมจากทุกคน รวมถึงบิดามารดาของตัวเองก็ยังไม่สามารถเข้าใจเธอได้
และคุณปู่ที่เดิมทีคิดจะใช้การสมรสของเธอเกาะแข้งเกาะขาตระกูลเถา หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งตงโจวก็โกรธจนขับไล่ครอบครัวของพวกเธอสี่คนออกจากคฤหาสน์ตระกูลฉิน
เธอกับบิดาที่เดิมทีล้วนแต่ทานกันอยู่ในฉินซื่อกรุ๊ป เช่นนั้น ทั้งสองคนจึงตกงานในเวลาเดียวกัน
ที่จริงแล้ว ด้วยความสามารถของเธอและบิดาแล้ว สามารถหางานที่ไม่เลวเลี้ยงดูทั้งครอบครัวได้อย่างแน่นอน
แต่นายท่านใหญ่ตระกูลเถาได้กระจายข่าวไปทั่วตงโจวว่าถ้าหากใครกล้ารับพวกเขาเข้าทำงานก็จะมีปัญหากับตระกูลเถา ทำให้การหางานของเธอและบิดาพบกับอุปสรรคไปทุกทาง
ภายใต้ความหลีกเลี่ยงไม่ได้ บิดาของเธอทำได้เพียงไปขอร้องอ้อนวอนกับพ่อเฒ่าตระกูลฉินหลายครั้งหลายครา
คาดว่าสุดท้ายพ่อเฒ่าตระกูลฉินจะรำคาญจนทนไม่ไหว จึงฝืนใจให้พวกเขาสองคนทำงานเป็นพนักงานเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ ในสำนักงานย่อยหยุนเฉิงใต้บังคับบัญชาของฉินซื่อกรุ๊ป ได้รับเงินเดือนอันน้อยนิดขยายการดิ้นรนครั้งสุดท้ายออกไป
และก็เพราะสาเหตุนี้ ครอบครัวของพวกเธอทั้งสี่คนจึงต้องย้ายสำมะโนครัวจากตงโจวมาที่หยุนเฉิง
พอเวลาผ่านไปนานแล้วเธอก็คุ้นชินชีวิตเช่นนี้อย่างช้า ๆ ของเพียงลูกสาวสามารถเติบโตได้อย่างดี เธอก็ไม่ต้องการสิ่งใดอีก!
แต่ว่าสวรรค์ยังมาล้อเล่นกับเธออีกครั้งใหญ่ ลูกสาวของเธอจะหายสาบสูญไปอย่างคาดไม่ถึง!
นี่สำหรับเธอแล้วเป็นเหมือนฟ้าผ่าตอนกลางวันอย่าไม่ต้องสงสัย เธอรู้สึกว่าท้องฟ้าของตัวเองพังทลายลงมา!
“หรุ่ยหรุ่ยเกิดเรื่องแล้ว คุณไม่รู้เหรอ?” หลังจากที่หลิงห้าวหายใจเข้าออกลึก ๆ แล้วก็มองไปยังฉินหยู่ซินอย่างเยือกเย็น
นาทีที่เขาเดินเข้ามาในห้องแล้วเห็นคนสองคนกอดกันอยู่บนโซฟา ความเดือดดาลที่อยู่ในใจแทบจะเผาไหม้อวัยวะภายในของเขาทั้งหมด
จิตใจที่เดิมทีทุกข์ใจจากความละอายใจต่อฉินหยู่ซินก็มลายหายไปหมดในนาทีนี้!
ลูกสาวถูกจับตัวไป เป็นตายก็ไม่อาจรู้ได้ เธอที่เป็นมารดากลับโอบกอดกับผู้ชายอยู่ในโรงแรม!
เขาไม่คิดเลยว่าฉินหยู่ซินจะเป็นคนแบบนี้!
ถ้าไม่ชอบเด็กแล้วคลอดเธอออกมาให้ได้รับความทุกข์ยากทำไม!
“เชี่ย แกก็คือผู้ชายคนนั้นของฉินหยู่ซิน? ฉันกำลังพูดกับแกอยู่นะ แกไม่ได้ยินหรือไง? หรือว่าไม่อยากจะมีชีวิตแล้ว?”
มองดูหลิงห้าวไม่มองตัวเองตรง ๆ โดยสิ้นเชิง คุณชายใหญ่ตระกูลซุนก็โมโหจนควันออกหู
ตนเองเป็นถึงคุณชายใหญ่ของตระกูลซุน ตระกูลใหญ่อันดับสองแห่งหยุนเฉิงที่สง่าผ่าเผย นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนมองข้ามไปตรง ๆ เขาทนไม่ได้เด็ดขาด!
โครม!
เพิ่งจะสิ้นเสียงของเขา พายุหนึ่งลูกพัดเข้ามา แล้วก็พบว่าเขาปลิวออกไปเหมือนกับลูกโป่งลูกหนึ่ง
หลังจากที่ชนเข้ากับกำแพงที่อยู่ด้านหลังแล้วเขาก็ตกลงบนพื้นอย่างแรง อ้าปากพ่นเลือดออกมาคำใหญ่ อ้าปากร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“เชี่ย มึงยังกล้าสู้กับกูอีก กูปฏิญาณกับมึงเลยว่าถ้าไม่ได้ถลกหนังมึงออกกูก็ไม่ได้แซ่ซุนแล้ว กู...”
“โยนออกไป!” หลิงห้าวยังคงไม่มองเขาเช่นเดิม สายตาทั้งคู่จ้องฉินหยู่ซินเขม็ง
“ครับ!” ลู่เยว่เข้ามาในห้อง
“มึงจะทำอะไร?ถ้ามึงกล้าทำอะไรกู กูจะฆ่ามึงแน่!” มองลู่เยว่ที่เดินเข้ามาหาตนแล้ว ซุนหมิงเทาก็ร้องคำรามออกมาอีกครั้ง
เพี๊ยะ ๆ!
ลู่เยว่ยกมือขึ้นมาตกหน้าเขาไปสองที “ถ้าไม่อยากตายก็รีบหุบปากซะ!”
หลังจากพูดจบแล้วก็หิ้วซุนหมิงเทาเดินออกไปทางประตู
ผ่านข้าง ๆ ของทั้งสองคนก็อ้าปากพะงาบ ๆ เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไป
“ท่านผู้บังคับบัญชาการครับ ช่วยชีวิตหรุ่ยหรุ่ยเป็นเรื่องเร่งด่วน เรื่องอื่นค่อยพูดกันทีหลังเถอะครับ!”
เพิ่งสิ้นเสียง คนก็ไปอยู่นอกห้องแล้ว
“ผมกำลังถามคุณอยู่ คุณไม่ได้ยินเหรอ?” หลิงห้าวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ต่อแล้วมองไปยังฉินหยู่ซินพลางเอ่ยปาก
“คุณไม่สนใจลูก ผมไม่โทษคุณ คุณบอกผมมาว่าใครที่จับตัวหรุ่ยหรุ่ยไปกันแน่ ผมจะไปช่วยลูก!”
เพี๊ยะ!
ยังไม่สิ้นเสียงของเขา ฉินหยู่ซินเดินไปอยู่ตรงหน้าของเขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก ยกมือขึ้นมาตบหน้าเขาไปหนึ่งที
ด้วยความสามารถของหลิงห้าวแล้ว แน่นอนว่าเขาสามารถหลบได้ แต่เขายืนอยู่กับที่ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย แค่จ้องฉินหยู่ซินอย่างเยือกเย็นอยู่อย่างนั้น
“นายเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้!?”
ฉินหยู่ซินร้องไห้ออกมาเสียงดัง น้ำตาร่วงลงมาราวกับหยาดฝน
“ห้าปีแล้ว นายรู้ไหมว่าฉันมีชีวิตยังไง?”
“นายคิดว่าวันนี้ฉันมาหาซุนหมิงเทาคือมานัดพบกันอย่างลับ ๆ เหรอ!?”
“ในสายตาของนาย ฉันเป็นผู้หญิงที่ใครจะมาเป็นสามีก็ได้อย่างนั้นเหรอ!? นายไม่เพียงแต่ดูถูกฉัน แต่ยังดูถูกตัวเองด้วย!”
“ฉันเสียใจจริง ๆ ห้าปีมานี้ทำไมจะต้องยุ่งเรื่องคนอื่นไปช่วยชีวิตนาย ถ้าหากไม่มีเรื่องนั้น ฉันคงไม่ร่อนเร่มาจนถึงสภาพอย่างวันนี้หรอก!”
“ตอนนี้นายกลับมาแล้ว ก็มาซักถามฉันอย่างไม่แยกแยะถูกผิดด้วยน้ำเสียงท่าทางแบบนั้น นายถือดีอย่างไร!?”
“หรุ่ยหรุ่ยเป็นลูกสาวของฉัน ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาย เรื่องของเธอไม่ต้องให้นายมากังวล!”
“ตั้งแต่วันนี้ไปอย่าให้ฉันเห็นหน้านายอีก!”
ร้องตะโกนมาจนถึงตอนสุดท้าย เสียงก็แหบแห้งไป เสื้อบริเวณหน้าอกล้วนแต่แช่น้ำตาจนเปียกทะลุ สีหน้าทุกข์ใจจนถึงขีดสุด
สิ้นเสียง เธอก็ผลักหลิงห้าวออก มือทั้งคู่ปิดบังใบหน้าเอาไว้ ทั้งร่างสั่นเทา ก้าวเร็ว ๆ วิ่งออกไปทางประตู
“หยู่ซิน!” หลิงห้าวที่ตั้งสติได้ก็รีบยื่นมือออกไปจับแขนของเธอเอาไว้
“อย่ามาแตะต้องฉัน ไสหัวไป!” ฉินหยู่ซินสะบัดมือออกไปอย่างแรง แล้วพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว