บทที่ 8 ลอบสังหาร
“ซูโม่จวิน จากตระกูลซูเหรอ” หวังโต้วโต้วดูเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
"ใช่ ผมเอง!"
ซูโม่จวิน เป็นสมาชิกของตระกูลซู ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าตระกูลทรงอิทธิพลของเมืองซู และเขายังเป็นผู้สืบเชื้อสายที่แท้จริงอีกด้วย
ไม่แปลกใจเลยที่รูปร่างหน้าตาของเขาจะสง่าร่ำรวยทรงเกียรติแบบนี้
“นายไม่ได้ไปต่างประเทศเหรอ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ” หวังโต้วโต้วเอ่ยถามด้วยความชิล แล้วนั่งลงข้างกายเฉินปู้ฝาน
“ผมเพิ่งกลับมาได้ไม่ถึงเดือน” ซูโม่จวินดูตัวเกร็งมากเป็นพิเศษ
“อ่อ แล้วทำไมนายถึงมาอยู่กับพี่ปู้ฝานล่ะ”
“พี่ปู้ฝานไหน”
“ก็เฉินปู้ฝานไง”
“เราพบกันโดยบังเอิญ ก็เลยพูดคุยกันนิดหน่อย”
บังเอิญงั้นเหรอ นายตั้งใจมาหาเขาโดยเฉพาะไม่ใช่เหรอ
ไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย จะบังเอิญเจอกันได้ยังไง
“ถ้าอย่างนั้นนายนั่งเล่นไปคนเดียวก็แล้วกัน ฉันกับพี่ปู้ฝานต้องขอตัวก่อน” หวังโต้วโต้วคว้าแขนของเฉินปู้ฝานด้วยมือเล็กของเธอ แล้วทำท่าจะเดินออกไป
“พวกพี่จะไปทำอะไรกัน พาผมไปด้วยคนสิ”
ซูโม่จวินพูดอย่างใจร้อน
"กลับบ้าน!" หวังโต้วโต้วขี้เกียจอธิบายอะไรมาก
ดูจากการกระทำแล้วหวังโต้วโต้วไม่สนใจเขาเลยสักนิด และอย่างมากก็เป็นแค่คนรู้จักกัน
ซูโม่จวินสีหน้าเต็มไปด้วยสงสัย
กลับบ้านงั้นเหรอ หมายความว่ายังไง
ทั้งสองคนพักอยู่บ้านเดียวกันงั้นเหรอ ไหนบอกว่าเพิ่งรู้จักกันเมื่อวานไม่ใช่เหรอ
......
“โต้วโต้ว ดูเหมือนว่าซูโม่จวินจะแอบชอบเธอนะ” เฉินปู้ฝานพูดขณะที่เดินอยู่
“อย่าพูดไปเรื่อย ผู้ชายคนนั้นอ่อนช้อยขนาดนั้น ดูก็รู้ว่าเป็นรับ”
ตามที่คาดไว้ เธอคิดแบบเดียวกับเขา
"หมายความว่ายังไง"
"......"
“หน้าหล่อขนาดนั้น ไม่ไปเป็นรับก็เสียดายแย่” หวังโต้วโต้วเบ้ปาก
"......"
“เราจะกลับบ้านกันจริงๆ เหรอ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วเหรอ”
“วันนี้มีเรียนแค่คาบเดียว ฉันตั้งใจบอกซูโม่จวินไปแบบนั้น ไอ้เด็กบ้านั้นมักจะตามเกาะแกะฉันมาตั้งแต่เด็ก น่ารำคาญจะตาย”
“ฉันไม่มีความสนใจต่อเขานะ”
“แล้วเราจะไปไหนกันล่ะ” เฉินปู้ฝานเอ่ยถาม
หวังโต้วโต้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง "เมื่อวานฉันซื้ออุปกรณ์ตกปลามา มีครบหมดทุกอย่าง พวกเราไปหาที่ตกปลากันเถอะ"
“พี่ปู้ฝาน ขึ้นรถเร็ว”
"ก็ได้!"
ทะเลสาบซ่างหยางมีสภาพแวดล้อม และทิวทัศน์ที่สวยงาม น้ำใสกิ๊ก ล้อมรอบไปด้วยต้นกกมากมาย มีสายลมพัดผ่านและหยดน้ำพลิ้วพราว
จะมาตกปลา หรือออกเดต เป็นสถานที่ที่ให้คนผ่อนคลายสบายใจอย่างมาก
ทั้งสองหาจุดที่เหมาะสม จากนั้นหวังโต้วโต้วก็เริ่มลงมือ
สายเบ็ด เบ็ด อาหารปลา ทุกอย่างครบพร้อม
หวังโต้วโต้วหยิบเก้าอี้นั่งตกปลาออกมา และเริ่มตกปลา เฉินปู้ฝานมองลงมาจากที่สูง และเหลือบเห็นด้วยความบังเอิญ และมีแสงสีขาวเหมือนหิมะเข้ามากระทบดวงตา
ลึกมาก!
ดูเหมือนหวังโต้วโต้วจะไม่สังเกตเห็น เธอจ้องมองไปที่ลูกลอยของเบ็ดตกปลาตาไม่กะพริบ
“ปลาติดเบ็ดแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นปลาตัวใหญ่” หวังโต้วโต้วกระซิบบอก
“ป๋อมแป๋ม!” ทันใดนั้นคันเบ็ดก็ถูกยกขึ้น และปลาตะเพียน ที่มีความยาวไม่ถึงห้าเซนติเมตรก็กระโดดขึ้นมาจากน้ำ
“เชี้ยเอ๊ย!” หวังโต้วโต้วสบถ แต่ก่อนที่เธอจะได้ดึงปลาขึ้นฝั่ง
จู่ๆ เฉินปู้ฝานก็พุ่งเข้ามากอดเธอและกลิ้งตัวลงไปที่พื้น
คลื่นความร้อนพัดผ่านร่างกายของทั้งสอง
“พี่ปู้ฝาน พี่ทำอะไรเนี่ย” หวังโต้วโต้วพูดด้วยความโมโห ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายกอดแบบนี้ และถูกคร่อมอยู่บนตัวที่พื้น
หรือเป็นเพราะพี่ปู้ฝานเห็นว่าไม่มีคน พอเห็น ผู้หญิงที่น่ารักอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อย่างเธอ จนทำให้เผลอปลุกเสือร้ายในตัวออกมาเกิดอยากลวนลามเธอขึ้นมา
“อย่าส่งเสียงดัง” เฉินปู้ฝานปิดปากนุ่มชมพูของหวังโต้วโต้วเอาไว้ แล้วกระซิบบอก “มีคนมา!”
หวังโต้วโต้วกลอกตา: มีคนมาแล้วนายขึ้นคร่อมฉันทำไม?
ความชอบพิเศษเหรอ? ชอบความท้าทายงั้นเหรอ?
ใช้มือปิดปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียง แต่กลับคิดจะทำเรื่องเลวร้าย ฉันจะทำให้น้องชายนายหมดปัญญาสืบสกุลเลยคอยดู!
ไอ้โรคจิต!
หวังโต้วโต้วดิ้นไปมา แต่ด้วยความที่เฉินปู้ฝานแรงเยอะกว่า ทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้
“บอกให้อยู่นิ่งๆ ไม่ได้ยินรึไง ถ้ายังไม่หยุด ก็รับผิดชอบผลที่ตามมาเองก็แล้วกัน” เฉินปู้ฝานขู่เธอด้วยสายตา
หวังโต้วโต้วจะยอมแพ้ได้อย่างไร เธอกำลังจะดิ้นหนีอีกครั้ง ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากระยะไกล "ออกมา ไม่ต้องหลบซ่อน ฉันเห็นแกแล้ว"
“ชู มีคนพยายามจะลอบฆ่าพวกเรา”
จากนั้นหวังโต้วโต้วก็เข้าใจขึ้นมาทันที และพยักหน้าเล็กน้อย
เฉินปู้ฝานปล่อยมือออกจากตัวเธอ "เธอซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ไปก่อน เดี๋ยวฉันจะรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด"
“อันตราย เราโทรแจ้งตำรวจเถอะ”
เสียงของหวังโต้วโต้วเบามาก ได้ยินกันแค่สองคน
“ไม่ทันแล้ว” เฉินปู้ฝานลุกขึ้นจากบนตัวหวังโต้วโต้ว และเคลื่อนตัวช้าๆ
ผู้หญิงคนนั้นตัวนุ่ม และมีกลิ่นหอมมาก
“ฟิ้ว!” ด้วยการเคลื่อนไหว ต้นกกแกว่งไปแกว่งมา และมีกระสุนพุ่งเข้ามา
ปืนติดตั้งอุปกรณ์เก็บเสียง และแทบจะไม่ได้ยินเสียงปืนเลย
เฉินปู้ฝานกลิ้งตัวลงพื้น หลบกระสุนไปได้
ไม่ต้องเดาว่าใครเป็นคนทำ เขาคือเฮ่อซาน
เขาถึงกับลงมือด้วยตนเอง โดยตั้งใจจะแก้แค้น เอาคืนโทษฐานที่ทำให้เขาอับอาย
“ฮ่าฮ่า ซ่อนตัวไปก็เปล่าประโยชน์ ออกมาซะดีๆ แล้วฉันอาจจะพิจารณาไว้ชีวิตแก”
เสียงของเฮ่อซานดังขึ้นอีกครั้ง
เขาพูดไปด้วยพร้อมกับเดินขึ้นหน้าอย่างช้าๆ
หวังโต้วโต้วนั่งกุมเข่านิ่งอยู่กับที่ ไม่มีความกลัวในดวงตาของเธอเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นความตื่นเต้นมากกว่า
เฉินปู้ฝานยิ้มอย่างชั่วร้าย หยิบเข็มเงินออกมาจากไหนไม่รู้ แล้วคีบมันไว้ระหว่างนิ้ว
เขากำลังรอ รอคอยเหยื่อปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
เฉินปู้ฝานเป็นลูกศิษย์ของจอมปราบคู่หมอบู๊ ดังนั้นจึงมีเข็มเงินติดตัวอยู่ตลอดเวลา
พกไปด้วยทุกที่!
เฮ่อซานเดินเข้ามาทีละก้าว เข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความระมัดระวัง......
ตอนนี้แหละ!
เฉินปู้ฝานสะบัดมือออก และเข็มเงินก็เหมือนเป็นลำแสง พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“โอ๊ย!” เสียงร้องดังลั่น และปืนในมือก็ร่วงลงพื้น
เฉินปู้ฝานเป็นเหมือนเสือที่ออกมาจากกรง ด้วยรังสีอันดุเดือด เขากระโจนออกมาจากพุ่มหญ้า
“ปึก!” สายตาของเฮ่อซานพร่ามัว จากนั้นก็มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และเขาก็ตัวบินออกไปสามเมตร
เฉินปู้ฝานก้มมองปืนบนพื้น เหยียบด้วยเท้าขวา เลื่อนมาด้านหลัง จากนั้นเตะมันขึ้นมา ปืนตกอยู่ในมือของเขา
“แกหาของแบบนี้มาได้ ไม่ธรรมดา”
เฉินปู้ฝานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“มึง!” เฮ่อซานฝืนความเจ็บปวดและลุกขึ้นยืน
“อย่าขยับ ไม่งั้นฉันจะให้นายได้ลิ้มลองรสชาติกระสุน” เฉินปู้ฝานยกปืนขึ้นแล้วชี้ไปที่เฮ่อซาน
ปากกระบอกปืนสีดำตรงหน้า ให้คนรู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“แกกล้าฆ่าฉันเหรอ” เฮ่อซานแสร้งทำเป็นนิ่งสงบ แต่เหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขา แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัว
หัวใจของเขาเต้นแรง และเริ่มรู้สึกคอแห้ง
“น่าสนใจดี แกกล้าฆ่าฉันเหรอ ทำไมฉันต้องไม่กล้าด้วยล่ะ”
“พี่ปู้ฝาน ฆ่ามันเลย” หวังโต้วโต้ววิ่งออกมา และพูดยุยงเขา
“โต้วโต้วโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นคนถูกยิงเลย อยากเห็นมันกับตาเหมือนกัน จะได้เพิ่มประสบการณ์ให้ชีวิต”
"......"
เพิ่มประสบการณ์ให้ชีวิตเนี่ยนะ จะใจเด็ดเกินไปรึเปล่า......
“แกฆ่าฉันไม่ได้” ขาของเฮ่อซานสั่นเทา เขาหวาดกลัวอย่างมาก
“ขอเหตุผลที่ฉันไม่ฆ่านายมาสักข้อ”
เฉินปู้ฝานพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
“ฉันเป็นคนของท่านหม่าซื่อ”
เมื่อพูดถึงท่านหม่าซื่อ เฮ่อซานเหมือนจะมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย
นายท่านหม่าซื่อเปรียบเสมือนผืนฟ้าของเมืองซู ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นเขา ก็ต้องเรียกเขาว่านายท่านสี่ด้วยความเคารพนับถือ
มีลูกน้องหลายพันคน
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังมีเครือข่ายที่กว้างขวาง ผู้มีชื่อเสียงทุกคนในเมืองซูต่างก็รู้จักเขา และต่างก็ให้เกียรติเขา
“ท่านหม่าซื่องั้นเหรอ ฉันไม่รู้จัก”
เฉินปู้ฝานส่ายหัวอย่างไม่แยแส “ไม่ว่าแกจะเป็นคนของใครก็ช่าง หากคิดจะฆ่าฉันเฉินปู้ฝาน มันจะต้องถูกฆ่าอย่างไม่ต้องสงสัย”
“จะเป็นใครก็ไม่รอด!”
“ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน ท่านหม่าซื่อจะฉีกแกเป็นชิ้นๆ แน่”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะลองดู” เฉินปู้ฝานเหนี่ยวไกปืนในวินาทีต่อมา
"ปึก!"
มีหลุมเลือดปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเฮ่อซาน จากนั้นก็มีเลือดไหลลงมาตามจมูกของเขา......
เขาค่อยๆ ล้มลงพื้นอย่างช้าๆ