บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 เตะจนระเบิด

“ทุกคนล้วนแต่มีอยู่บนร่าง ฉันจะร้องเพลงเหมาเหมาให้เธอฟัง”

“ขนบนตัวเรามีอะไรบ้าง ให้ฉันร้องเพลงให้พวกเธอรู้เถอะ”

ในรถ หวังโต้วโต้วขับรถไปพลาง ร้องเพลงเหมาเหมาไปพลาง

ความเร็วไม่เร็วหรือช้าไป รถไม่โคลงเคลง ฝีมือไม่เลวเลย

“โต้วโต้ว มีใครเคยพูดว่าเธอร้องเพลงได้ย่ำแย่ไหม?” เฉินปู้ฝานนอนราบครึ่งหนึ่งบนที่นั่งข้างคนขับ

“เห็นได้ชัดว่าฉันมีน้ำเสียงที่ไพเราะน่าฟังต่างหาก ทุกคนต่างก็บอกว่าเสียงของฉันไพเราะ” หวังโต้วโต้วส่ายศีรษะเล็ก ๆ ของตนเอง

หลงตัวเอง!

ไม่นานเกินรอ ทั้งสองก็มาถึงสถานบันเทิงสุดหรูแห่งหนึ่ง

หวังโต้วโต้วจอดรถเสร็จ ก็พุ่งเข้าไปข้างในอย่างเร่งรีบเหมือนลูกไก่ที่กำลังคึกคัก

ข้างในแสงไฟระยิบระยับหลากหลายสีสัน เสียงเพลงเฮฟวีเมทัลก็แสบแก้วหู ทำให้หูแทบจะหนวก

ฟลอร์เต้นรำแออัดไปด้วยผู้คน ทั้งชายทั้งหญิงมากมายหลากหลาย ทุกคนต่างโยกตัวไปตามจังหวะเพลงอย่างบ้าคลั่ง

พูดตามตรง เมื่อเข้ามาเฉินปู้ฝานก็นึกเสียใจ เพราะที่นี่ไม่เหมาะกับเขา

เขาชอบความเงียบสงบ เขามาที่นี่เพื่อเปิดหูเปิดตาว่าไนต์คลับเป็นอย่างไร

ทว่า เขาไม่เห็นเงาหวังโต้วโต้วมาสักพักแล้ว ไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหนแล้ว

เฉินปู้ฝานสั่งน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว และหาที่นั่ง

ระหว่างนั้น มีคนเข้ามาพูดคุยสนทนาด้วยไม่ขาดสาย สวมชุดอะไรที่เรียกว่าทนมองไม่ได้

สองคำ ‘เปิดเผย’!

เฉินปู้ฝานไม่สนใจ และปฏิเสธทั้งหมด

ผู้หญิงที่เข้ามาสนทนาด้วยเพียงแค่อยากให้คนเลี้ยงเหล้าดื่มฟรี หรือไม่ก็เพื่อจะเล่นกลลวงเพื่อตอบสนองทางเพศชั้นต่ำทำนองนี้

หรืออาจจะเป็นหน้าม้าจากทางไนต์คลับ เพื่อเพิ่มผลงาน

สำหรับการนัดเพียงอย่างเดียว...

ไม่มีไก่ฟรีในโลก!

ถึงจะมี แต่พวกเขาก็มองหาแต่คนรวยเท่านั้น เฉินปู้ฝานสวมเสื้อธรรมดาเกินไป

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ดูเหมือนกลางฟลอร์เต้นรำจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด เหงื่อออกมากบนหน้าผาก และเอามือปิดเป้าแน่น

ดูเหมือนว่าเขาจะถูกโจมตีอย่างรุนแรง!

เขาคล้ายจะเห็นหวังโต้วโต้วอยู่ด้านข้าง

เฉินปู้ฝานกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จึงรีบเข้าไปหา

“พี่ปู้ฝาน เจ้าเด็กเปรตอยากจะลวนลามฉัน แต่ฉันเห็นทันก็เลยเตะเป้าจนระเบิดไปที”

หวังโต้วโต้วดึงมือของเฉินปู้ฝานด้วยสีหน้าสบาย ๆ ผ่อนคลาย และยังดูน่ารักอีกด้วย

รุนแรงมาก!

เตะจนระเบิด? เหมือนเหยียบหลอดไฟมั้ย?

“วันหลังมาที่พรรค์นี้ให้น้อยลงหน่อย สำหรับผู้หญิงอย่างเธอมันไม่ปลอดภัย” เฉินปู้ฝานเตือน

“กลัวอะไรล่ะ ถ้าใครกล้าแตะต้องฉัน ให้ปู่ของฉันทำลายมันซะ”

หวังโต้วโต้วเป็นคนที่ไม่กลัวเรื่องราวจะบานปลายมาแต่ไหนแต่ไร เธอหาเหาใส่ตัวนับไม่ถ้วนในช่วงหลายปีมานี้

แต่จนใจที่คุณปู่รักเธอมาก จะถือไว้ในมือก็กลัวตก จะอมไว้ในปากก็กลัวละลาย ปล่อยให้เธอเที่ยวก่อกวนอาละวาดตามใจชอบ

อย่างวันนี้ที่เตะคนก็ไม่ใช่ครั้งแรก

ตระกูลหวังเป็นตระกูลที่มีบารมีมากในเมืองซู เป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ และมีรากฐานที่แข็งแรงแน่นหนา

ห้าตระกูลใหญ่ในเมืองซู ได้แก่ ตระกูลหวัง ถานไถ ซู เย่ และเหอ!

ห้าตระกูลใหญ่มีรากฐานที่แข็งแรงแน่นหนา ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็นด้วยตา ไม่ได้มีแต่ความร่ำรวยเท่านั้น

ธุรกิจ รัฐบาล และการทหารต่างก็พัฒนาไปได้ด้วยดี

แต่ละตระกูลยังมียอดฝีมือนักบู๊โบราณจำนวนหนึ่งด้วย

“เกิดอะไรขึ้นกับเหล่าลู ใครทำร้ายนายแบบนี้กัน” คนหนุ่มสาวหลายคนรุมเข้ามาดู เมื่อเห็นชายที่นอนอยู่บนพื้นก็พากันตกใจจนหน้าถอดสี

หลายคนล้วนแต่ดูไร้รสนิยมเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นย้อมผมหลากหลายสีสัน บนแขนยังมีรอยสักสีฉูดฉาด

ไม่ใช่คนเกียจคร้าน ก็ต้องเป็นนักเลงอันธพาล

“นังนี่แหละที่เป็นคนทำ” ชายที่ล้มลงกับพื้นกัดฟันพูด “จับเธอไว้ กูจะให้มันคืนเป็นร้อยเท่า”

จะคืนอย่างไร? เธอไม่ได้มีไอ้นั่นสักหน่อย

คนหนุ่มสาวหลายคนหันไปมองหวังโต้วโต้วพร้อมเพรียงกัน ชั่วขณะนั้นภาพตรงหน้าก็เปล่งประกาย อธิบายไม่ถูกว่าสีหน้าของพวกเขาเป็นอย่างไร

“เป็นแม่หนูโลลินี่เอง น่าสนใจดีนี่ ฉันชอบแม่หนูโลลิที่สุด โดยเฉพาะมีหางม้าสองข้าง”

“ชอบแม่มึงสิ” หวังโต้วโต้วทำแก้มป่อง พลางด่าทอ

“ร้ายกาจไม่เบา ไม่รู้ว่าอีกประเดี๋ยวจะยังแข็งกร้าวแบบนี้ได้อีกไหม รักษาให้ได้ต่อไปก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นก็จะน่าเบื่อ”

“ฉันชอบเอาชนะสาวดุร้ายที่สุด ยิ่งดุร้ายเท่าไร ฉันก็ยิ่งตื่นเต้นเท่านั้น”

“เมื่อตื่นเต้น เวลาก็จะนาน...”

ระหว่างที่พูด จู่ๆ มือใหญ่ข้างหนึ่งก็มาคว้าเอาไว้

เฉินปู้ฝานรีบลงมือจับตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“พี่ชาย อย่าทำเกินไปนัก”

“มึงเป็นใคร สาระแนไม่เข้าใจ รู้หรือไม่ว่าฉันเป็น...”

พูดไปได้ครึ่งเดียว ก็ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน ชายคนนั้นขาสองข้างชิดกันคุกเข่าลงบนพื้น

สีหน้าของเขาเจ็บปวด เหงื่อเย็นผุดซึมออกมา

“โอ้ เย้ โดนอีกแล้ว” หวังโต้วโต้วตื่นเต้นจนเต้นแร้งเต้นกา

ลอบโจมตีอีกครั้ง โดยไม่สนใจจริยธรรมในการต่อสู้

เด็กนี่ช่างไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดินเสียจริง

เป็นเช่นนั้นจริงๆ!

ไม่ต้องพูดถึงคนเหล่านี้ คุณชายผู้มีหน้ามีตาในเมืองซูมีคนไหนที่ไม่กลัวเธอ?

มีคนไหนที่ไม่เคยโดนเธอจัดการ?

คนในตระกูลเล็ก ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดอะไรมาก เมื่อเห็นเธอก็เหมือนหนูเห็นแมวแล้วหลบไปทางมุมกำแพง

อยู่ดี ๆ ก็เข้ามาทำร้าย ใครจะไปทนได้

ประเด็นสำคัญคือ พื้นเพสถานะของหวังโต้วโต้วมีอำนาจ ใครกล้าแตะต้องหลานสาวของท่านผู้เฒ่าหวัง เขาก็จะสู้อย่างสุดชีวิตกับอีกฝ่ายโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น

“พวกเราลุยพร้อมกัน ถ้าวันนี้ไม่เล่นเธอจนตาย แล้วเราจะอยู่ต่อไปได้ยังไง”

หลายคนทยอยไปหาหวังโต้วโต้วเตรียมลงไม้ลงมือ

“พี่ปู้ฝาน ปกป้องหนูด้วย” หวังโต้วโต้วกรีดร้อง และซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขา

เฉินปู้ฝานพูดไม่ออก จนใจอย่างยิ่ง

ไม่มีทางเลือก ใครให้เธอเป็นญาติผู้น้องของศิษย์พี่ใหญ่กันละ

หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วจะอธิบายได้อย่างไร

เฉินปู้ฝานลงมือ ร่างเคลื่อนไหวผลุบ ๆ โผล่รวดเร็วปานฟ้าแลบ

ชั่วพริบตา หลายคนส่งเสียงกรีดร้อง ทั้งหมดล้มลงกับพื้น

ไม่มีใครเห็นว่าเขาลงมืออย่างไร ทันทีที่ตาพร่ามัว คนก็ล้มลงอย่างแปลกประหลาด

มหัศจรรย์ยิ่งกว่าเวทมนตร์เสียอีก

หวังโต้วโต้วดวงตาเปล่งประกายด้วยความตื่นตะลึง พร้อมกับเบิกตากว้าง

“ว้าว พี่ปู้ฝาน พี่ร้ายกาจมาก เก่งยิ่งกว่าบอดี้การ์ดบ้านของหนูอีก”

“ซ่อนเร้นฝีมืออย่างลึกซึ้ง เป็นหนุ่มหล่อมีกล้าม”

“ไปเถอะ อย่าได้หาเรื่องอีก” เฉินปู้ฝานเร่งเร้า

“เดี๋ยวก่อน!” หวังโต้วโต้วตะโกนเรียก หยุดฝีเท้า ก่อนจะเตะชายหนุ่มที่จะลวนลามเธออีกครั้ง

เดิมทีเตะทีหนึ่งก็อาจจะมีความหวังช่วยชีวิตมัน แต่หลังจากโดนเตะอีกครั้ง มันก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงแล้ว

ชายคนนั้นกลอกตาและเป็นลม

“ไปกันเถอะ!” หวังโต้วโต้วจับมือเฉินปู้ฝานแล้ววิ่งออกไปด้วยท่าทางคล้ายจะลิงโลด

ขณะที่เดินใกล้ประตูทางเข้าออก ก็มีใครบางคนขวางทางไว้

ในเวลานี้ แสงไฟและเสียงดนตรีในไนต์คลับทั้งหมดหยุดลง เสียงดังเอะอะแต่เดิมพลันเงียบกริบ

ร่างที่ส่ายไปส่ายมาหยุดขยับ คนที่ดื่มเบียร์ก็วางแก้วลง ทยอยกันหันไปมองทางประตู

“หาเรื่องในพื้นที่ของกู คิดจะไปง่าย ๆ งั้นรึ?” เสียงอันทรงพลังดังมาจากด้านหลัง

เมื่อหันกลับไป ชายวัยสามสิบคนหนึ่งกำลังยืนไขว้ขา ส่วนสูง 1.8 เมตร ดูแข็งแกร่ง ไว้หนวดทรงเลขแปด ดวงตาแหลมคมราวกับพยัคฆ์ ทำให้คนไม่กล้ามองตรง ๆ

ข้างหลังเขามีลูกน้องหลายสิบคน รูปร่างสูงใหญ่มาก

ชื่อของเขาคือเฮ่อเหลิ่งเฟิง ผู้คนเรียกเขาว่าเฮ่อซาน และเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในถนนสายใต้ในเมืองซู

และอาจกล่าวได้ว่าเขาคือผู้มีอิทธิพลของพื้นที่แห่งนี้

“เพื่อน พวกเราไม่ได้ก่อเรื่อง แต่มีคนหาเรื่องก่อน” เฉินปู้ฝานยักไหล่ “มีชายหลายคนรังแกน้องสาวผม ผมจึงจำต้องลงมือ”

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม มาทะเลาะที่ร้านของผมก็ไม่ได้ แล้วกิจการจะทำต่อได้ยังไงกันล่ะวะ”

“หากไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้แขกได้ ในอนาคตใครจะกล้ามา ทุบชามข้าวคนอื่นก็เท่ากับตัดเส้นทางหาเงินของคนอื่น วันนี้มึงจะต้องหาคำอธิบายที่น่าพอใจมาให้ได้” เฮ่อซานน้ำเสียงเย็นเยียบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel