บทที่ 14 เป็นจริง
ทันทีที่เธอพูดจบ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น
“อธิบดีจาง!”
“คดีมีความคืบหน้า ฉันพบผู้ต้องสงสัยแล้ว อะไรนะคะ! แยกย้ายตอนนี้เลยเหรอ?”
“ทำไม!”
“อธิบดีจาง ถ้าคดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ฉันจะปล่อยไปแน่นอน”
ยิ่งหลี่จื่อฉีพูดมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าแรงกดดันจากเบื้องบนที่เข้ามาขัดขวางคดีที่เธอรับช่วงต่อนี้
หลังจากโทรคุยกันเกือบห้านาที หลี่จื่อฉีก็วางสายด้วยความโกรธ
ช่วยไม่ได้ เบื้องบนออกคำสั่งมาแล้ว ถ้าเธอไม่เชื่อฟังเธอก็จะถูกย้ายไปยังแผนกอื่น
อาทิเช่นเสมียนหรือกองตำรวจจราจร
เพื่อที่จะทำให้ความจริงของคดีนี้ถูกเปิดเผยอย่างกระจ่าง หลี่จื่อฉีจึงจำต้องปล่อยไปก่อนชั่วคราว
รอจนกระทั่งเธอทยอยรวบรวมหลักฐานได้ทั้งหมด ถึงตอนนั้นค่อยจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
“เป็นยังไงบ้างล่ะ? ไปได้แล้วใช่ไหม?”
หวังโต้วโต้วแลบลิ้น รู้สึกสะใจมาก
“เธอ...” หลี่จื่อฉีโกรธมากจนพูดไม่ออก และรีบเดินลงไปที่ชั้นล่าง
“อย่าลืมคำสาปแช่งของฉันล่ะ คำพูดของโต้วโต้วนั้นแม่นยำเสมอ”
ที่ชั้นล่าง!
“ไปกันเถอะ!” หลี่จื่อฉีลงมาด้วยความโกรธ สีหน้าของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
“เจ้าหน้าที่หลี่ ไม่กินข้าวสักหน่อยก่อนกลับไปเหรอครับ?” เฉินปู้ฝานพูดพร้อมบิดยืดเอว
หลี่จื่อฉีตั้งใจที่จะรีบกลับไปในตอนแรก แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเฉินปู้ฝานเธอก็หยุดลง
“ฉันขอทราบชื่อของคุณได้ไหม?”
“ไม่บอก!”
“คุณ!”
ทำไมคนในวิลล่าแต่ละคนถึงรับมือได้ยากอย่างนี้นะ?
“เมื่อวานนี้เฮ่อซานหายตัวไปตลอดทั้งคืน นี่เป็นฝีมือของคุณหรือเปล่า?”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน? หรือว่าคุณเป็น...ของเขา”
เห็นได้ชัดว่าตั้งใจหยอกล้อเธอ!
“ผายลม!” หลี่จื่อฉีอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา “จากคำให้การของผู้แจ้งความ เฮ่อเหลิ่งเฟิงขับรถออกไปคนเดียวเมื่อวานตอนบ่าย และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง แสดงให้เห็นว่าเขาขับมาถึงทะเลสาบซ่างหยาง”
“ณ ปัจจุบัน รถยังคงจอดอยู่ที่ตรงนั้น!”
“และคุณกับผู้หญิงคนนั้นก็ไปที่ทะเลสาบซ่างหยางเมื่อวานตอนเช้า เวลาช่างเหมาะเจาะอย่างลงตัว”
“หยุด!” เฉินปู้ฝานยกมือขึ้นขัดจังหวะเธอ
“ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ ทะเลสาบซ่างหยางมีทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่ดี มีผู้คนมากมายไปที่นั่นทุกวัน”
ถ้าเอาตามการคาดการณ์ของคุณ ทุกคนที่ไปทะเลสาบซ่างหยางเมื่อวานนี้ ล้วนเป็นผู้ต้องสงสัยกันหมดเลยน่ะสิ
“ไม่! เพราะคุณกับเฮ่อเหลิ่งเฟิงมีความบาดหมางกันวันก่อน ดังนั้นฆาตกรจึงน่าจะเป็นคุณกับผู้หญิงคนนั้น”
“จะดีที่สุดอย่าพูดเรื่องไร้สาระโดยไม่มีหลักฐาน” เฉินปู้ฝานปฏิเสธที่จะยอมรับ “คุณแค่บอกว่าเฮ่อเหลิ่งเฟิงไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน คุณแน่ใจเหรอว่าเขาตายแล้ว? ศพเขาล่ะ?”
เรื่องศพชาตินี้คงไม่มีวันหาพบ สิ่งที่ทรงพลังที่สุดของผงสลายศพก็คือมันไม่เพียงแต่ทำให้ศพสลายไปเท่านั้น แต่ยังทำลายทุกสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงด้วย
รวมถึงเสื้อผ้าและสิ่งของติดตัว
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาหลักฐานการฆาตกรรมเจอ
เฉินปู้ฝานคิดไว้ทุกอย่างแล้ว เขาจะปล่อยให้คนอื่นจับผิดเขาได้อย่างไร?
“ถ้าอย่างนั้นคุณกล้าไปที่สถานีตำรวจกับฉันไหมล่ะ” หลี่จื่อฉีกลอกตาแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “คุณเป็นผู้ชาย เรื่องแค่นี้คงจะมีความกล้าอยู่ใช่ไหม?”
“ไม่ ผมไม่มีความกล้าสักนิด ขนาดตอนกลางคืนถ้าไม่มีคนให้กอด ผมยังนอนไม่หลับด้วยซ้ำ” เฉินปู้ฝานไม่ติดกับ เขาแถไปอย่างไหวพริบดี
ไปทำไมกัน! ไม่กินข้าวเหรอ? วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ?
ใครว่างมากถึงขนาดอยากไปนั่งที่นั่น
“คุณ!” หลี่จื่อฉีกัดฟัน
ไม่รู้ว่าวันนี้โดนยั่วโมโหไปแล้วกี่ครั้ง
“คนสวย ขอนอกเรื่องหน่อย ประจำเดือนคุณมาไม่ปกติหรือเปล่า?”
“คุณพูดอะไร!” หลี่จื่อฉีคิดว่าเธอกำลังถูกเยาะเย้ย จึงกำหมัดแน่นและอยากจะต่อยเจ้าสารเลวคนนี้สักหมัด
“ถ้าผมดูไม่ผิด คุณน่าจะประจำเดือนมาไม่ตรงเวลาเกือบสามเดือนแล้ว แถมยังปวดท้องน้อยเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในตอนเช้าและตอนเย็น”
“คุณรู้ได้ยังไง?” หลี่จื่อฉีถามออกมา
“โมโหให้น้อยลง แล้วประจำเดือนจะมาตรงเวลาเอง อาการปวดทั้งหมดก็จะหายไปด้วย” เฉินปู้ฝานไม่ได้พูดมั่ว แต่มันเป็นความจริง
“คุณเคยได้ยินประโยคนี้ไหมว่า โรคทั้งหมดเกิดจากอารมณ์ วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพคือการใช้อารมณ์ให้น้อยลง”
“ฮ่าฮ่า คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอก”
หลี่จื่อฉียิ้มเยาะ แล้วหันหลังกำลังจะจากไป
“ประจำเดือนเดือนนี้จะมาก่อนกำหนดประมาณหนึ่งสัปดาห์ ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็น่าจะวันนี้ สรุปก็คือโปรดระวัง อย่าทำให้เลอะกางเกง มันซักยาก” เฉินปู้ฝานเตือนอย่างใจดี
“ไอ้สารเลว!”
ถ้าเรื่องนี้ยังยอมได้ แล้วจะมีเรื่องอะไรที่ยอมไม่ได้อีก และด้วยบุคลิกของหลี่จื่อฉีที่ฉุนเฉียวอยู่แล้ว ก็สมเหตุสมผลที่จะมีการระเบิดโทสะขึ้น
เมื่อหันกลับมา เธอก็เตะตวัดขาเรียวยาว ด้วยท่าทางดุร้ายและทรงพลัง
เวลานี้ เฉินปู้ฝานกำลังนั่งอยู่บนโซฟา เขาเอนหลังหลบ ลมจากการฟาดขาเฉียดใบหน้าเขาเบาๆ
ในขณะเดียวกัน มือข้างหนึ่งก็ยกขึ้นไปจับขาข้างหนึ่งของเธออย่างแม่นยำ
ทั้งผ่อนคลายและย่ามใจ
“ผมบอกแล้วว่าอย่าโมโห เป็นสาวเป็นแส้ทำไมต้องโมโหขนาดนั้น”
“ปล่อย!” หลี่จื่อฉีสะบัดแรงๆ สองครั้ง แต่มันก็ไม่ขยับเลย
“คุณรังแกคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล” เฉินปู้ฝานพูดติดตลก ดวงตาทั้งคู่จ้องมองไปที่ท่อนขากลมเรียวอยู่ตลอด
แม้ว่าจะมีกางเกงกั้นไว้ แต่เมื่อได้สัมผัสก็ให้ความรู้สึกที่ดี
“ตายซะ” หลังจากที่หลี่จื่อฉีพูดจบ เธอก็กระโดดขึ้นไปในอากาศและเตะตวัดขาอีกข้างใส่หน้าเขา
เทคนิคการต่อสู้เหล่านี้ใช้ได้ผลกับคนธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับเฉินปู้ฝาน มันง่ายเกินไป
เฉินปู้ฝานยังคงนิ่งราวกับต้นสน แขนซ้ายของเขายกบังไว้ที่ขมับ มือและขาปะทะกัน
หมุนข้อมือ แล้วล็อกไว้ด้วยศอก และบิดเอว จากนั้นหลี่จื่อฉีก็ถูกโยนไปที่โซฟาด้วยความงุนงง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที
เฉินปู้ฝานรุกไปข้างหน้าและจับตัวเธอไว้
“คนสวย คุณมีทักษะไม่เลวเลย”
“ไอ้สารเลว ลุกขึ้นมา” หลี่จื่อฉีคำราม
ตำรวจอีกสามคนตอบโต้ด้วยการหยิบปืนออกมาแล้วชี้ไปที่เฉินปู้ฝาน “คุณกำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเปิดเผย ปล่อยเจ้าหน้าที่หลี่ซะ ไม่งั้นเราจะยิง”
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอาจเป็นฆาตกร ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท
ชักปืนขู่เตือน!
“ว้าว พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่ ผสมพันธุ์?” เสียงของหวังโต้วโต้วดังมาจากทางเดินบันได
“ผสมพันธุ์?” นั่นมันคือพฤติกรรมสัตว์ต่างหาก
“พี่ปู้ฝาน ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจมาก สั่งสอนเธอหน่อย ทำให้เธอตั้งท้องลูกของพี่ หลังจากนั้นพี่ก็กินดื่มของของเธอ ปอกลอกเธอ ทำให้เธอรู้ถึงความโหดร้ายของโลกนี้”
นี่เป็นการต่อสู้กัน ไม่ใช่การมีเพศสัมพันธ์
หวังโต้วโต้วพูดอะไรให้เป็นภาษาคนหน่อยได้ไหม?
เฉินปู้ฝานลุกขึ้นอย่างระมัดระวังและก้าวถอยหลัง ทันทีที่เขาปล่อยหลี่จื่อฉี เธอก็ลงมืออีกครั้ง
ไม่สิ ใช้ขาเตะ
เฉินปู้ฝานหลบเลี่ยงเบาๆ
หลี่จื่อฉียืนขึ้น ยังไม่ยอมแพ้
“เฮ้ เฮ้ คุณอยากถูกผมกดทับตัวอีกจริงเหรอ”
หลี่จื่อฉีสางผมยุ่งๆ ของเธอให้เรียบร้อย หอบเล็กน้อย สีหน้าดูดุร้าย "เรามาคอยดูกัน เรื่องของเฮ่อเหลิ่งเฟิงยังไม่จบ"
“เชิญคุณตรวจสอบได้ตามต้องการ มันไม่ใช่กงการของผมอยู่แล้ว” เฉินปู้ฝานกางมือยักไหล่
“ฮึ่ม!” หลี่จื่อฉีตะคอกอย่างเย็นชาและจากไปอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เธอออกมาจากจินซาย่วน หลี่จื่อฉีก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบ
“ไปซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ นี้”
“มีอะไรหรือเปล่าครับเจ้าหน้าที่หลี่?”
“อย่าถามคำถามที่ไม่ควรถาม ออกรถเร็ว”
หลี่จื่อฉีเร่งเร้าอย่างดุเดือด
ประจำเดือนมาแล้ว...
ไม่ได้เตรียมตัวมาเลย ไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อผ้าอนามัยก่อนแล้วกัน
ไอ้สารเลวนั่นพูดถูก มาวันนี้จริงๆ
ยังมียัยเด็กเวรนั่น มีใครเขาแช่งกันแบบนั้นด้วยเหรอ?
สองคนนั้นเป็นดาวซวยที่เกิดมาพร้อมกับปากอีกาจริงๆ
หวังโต้วโต้วเป็นพวกปากอีกาจริงๆ เธอแค่บังเอิญพูดถูกจังหวะ แต่เฉินปู้ฝานนั้น เขาเป็นคนที่มีความสามารถและมีความรู้ที่แท้จริง ไม่ได้พูดจาเหลวไหล