บทที่ 15 ติดตาม
“พี่ปู้ฝาน ตัวผู้หญิงคนนั้นนุ่มหรือเปล่า? ตอนที่ทับบนตัวเธอสบายไหม?” หวังโต้วโต้วเดินเข้ามาถามอย่างไร้เดียงสาพร้อมกับเบิกตากว้าง
เฉินปู้ฝานทำเมิน และเดินไปที่ห้องครัว
วันๆ เอาแต่เตร็ดเตร่...
ถ้ายังต่อปากต่อคำกับเธอต่อ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาอีก ดังนั้นอย่าสนใจเธอเลยดีกว่า
“พี่ปู้ฝาน ฉันกำลังถามพี่อยู่นะ ทำไมพี่ถึงหนีล่ะ? ตัวของเธอนุ่ม หรือฉันนุ่มกว่า”
เฉินปู้ฝานเริ่มทำอาหารโดยไม่สนใจ
จะว่าไปแล้ว ก็คงเป็นหวังโต้วโต้วที่นุ่มกว่า...
เพราะเธอเหมือนกับตัวละครโลลิในการ์ตูนโลลิต้า
ดังคำพูดที่ว่า โลลิมีคุณสมบัติที่ดีสามประการ ได้แก่ น้ำเสียงที่นุ่มนวล ลำตัวที่นุ่มนิ่ม และง่ายต่อการกด
หลี่จื่อฉีฝึกฝนตลอดทั้งปี จึงทำให้กล้ามเนื้อของเธอแข็งแรง ซึ่งให้สัมผัสที่แตกต่างไปจากคนอื่น
แค่กๆๆ ครั้งที่แล้วเพื่อที่จะช่วยชีวิตหวังโต้วโต้ว เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น
ถ้าเลือกได้ เฉินปู้ฝานจะไม่มีทางสัมผัสร่างกายของหวังโต้วโต้วอย่างแน่นอน
ยัยเด็กคนนี้ยุ่งด้วยไม่ได้
พูดจาหยาบคาย ทำตัวเย่อหยิ่ง แถมยังไม่รอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าเท้าที่โหดร้ายหมายทำให้อีกฝ่ายหมดลูกหมดหลานนั่น สุดๆ จริงๆ
เธอเป็นตัวปัญหาคนหนึ่งชัดๆ!
หลังจากที่หลี่จื่อฉีไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เธอก็กลับบ้านและเปลี่ยนเสื้อผ้า
จากนั้นถึงมาที่สำนักงานของอธิบดีจาง
ชื่อของอธิบดีจางคือจางโหย่วฉวน เขาอายุสี่สิบห้าปี มีผมหงอกและศีรษะล้านเล็กน้อย เขามีรูปร่างหน้าตาธรรมดาและมีดวงตาที่สดใสคู่หนึ่งที่แสดงถึงสติปัญญาของเขา
“อธิบดีจาง ฉันอยากจะถามว่าทำไม” หลี่จื่อฉีพูดอย่างไม่ยอม
“ทำไมอะไร?”
“เรื่องเมื่อเช้า”
“ที่แท้เธอก็พูดถึงเรื่องนี้นี่เอง นั่งก่อนสิ”
จางโหย่วฉวนชี้ไปที่เก้าอี้ข้างๆ
“ฉันไม่นั่ง ทำไมถึงไม่ให้ฉันพาผู้ต้องสงสัยกลับมา” หลี่จื่อฉีพูดอย่างดื้อรั้น
“เธอยังเด็ก มีอีกหลายเรื่องที่เธอยังไม่เข้าใจ”
“ใช่ ฉันไม่เข้าใจ แต่ฉันรู้ว่าเรื่องราชการต้องทำอย่างโปร่งใส และกฎหมายจะไม่ละเว้นใคร”
เป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยการประชดประชัน
“เรื่องราชการต้องทำอย่างโปร่งใสเหรอ? พูดง่าย แต่ทำยาก” จางโหย่วฉวนไม่โกรธ สีหน้ายังคงสงบ
หลี่จื่อฉีเพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนัก ดังนั้นเธอจึงไม่ทราบถึงความซับซ้อนของเรื่องเหล่านี้
“กษัตริย์มีโทษเท่ากับสามัญชนและ นี่คือหน้าที่และความรับผิดชอบของตำรวจ”
“การกระทำของอธิบดีจางในวันนี้ ทำให้ฉันผิดหวังมากและทำให้ศรัทธาของฉันพังทลายลง” หลี่จื่อฉีพูดโดยไม่ลังเล
“ถ้าเธอไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปฉันจะส่งเธอไปที่กองตำรวจจราจร” จางโหย่วฉวนออกคำสั่งโดยตรง
“ฉันไม่ไป” หลี่จื่อฉีปฏิเสธโดยตรง “ทำไมคุณถึงต้องย้ายฉันไปด้วย?”
“เธอไม่เข้าใจ ฉันก็เลยต้องย้ายเธอไปยังไงล่ะ ไปฝึกอยู่นั่นสักพักจะเป็นผลดีกับเธอเอง ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้ กลับไปที่ออฟฟิศและเก็บของซะ”
“ฉัน...”
เพียงประโยคเดียว หลี่จื่อฉีก็ถูกย้ายออกไป เธอไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีอีกต่อไป
คนหนุ่มสาวมีความกระตือรือร้น มีความทะเยอทะยาน และมีอุดมคตินับว่าเป็นสิ่งที่ดี
แต่การตระหนักถึงความเป็นจริงนั้นก็สำคัญเช่นกัน
ถานไถฮ่าวเยว่ไม่เพียงแต่เป็นประธานของฮ่าวเยว่ กรุ๊ป เธอยังเป็นสมาชิกของหนึ่งในห้าตระกูลหลักของเมืองซูอีกด้วย
ในบรรดาผู้ถูกจับกุม คนหนึ่งคือหวังโต้วโต้ว ซึ่งเป็นน้องสาวของถานไถฮ่าวเยว่ ส่วนอีกคนก็เป็นศิษย์น้องเล็กของเธอ
หวังโต้วโต้วยังเป็นสมาชิกของห้าตระกูลหลัก ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างสูง
ถ้าไม่มีหลักฐานแล้วไปทำให้สองตระกูลใหญ่ขุ่นเคืองใจ ย่อมไม่เกิดผลดีแน่ๆ
ตำรวจธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าคนเหล่านั้นคิดที่จะเล่นงานกลับ พวกเขามีเป็นร้อยเป็นพันวิธี ดีไม่ดีหลี่จื่อฉีอาจถูกทำร้ายหรือส่งเข้าคุก
ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ แต่เสือก็ยังเป็นเสืออยู่ยังวันยังค่ำ มันมีความโหดร้ายอยู่ในสายเลือดของตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่ลูกวัวแรกเกิดจะต้านทานได้
ฟันแหลมคมของมันจะบดขยี้ทุกสิ่งแม้แต่ร่างและกระดูก
......
สองวันผ่านไปอย่างสงบ เฉินปู้ฝานกำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ ในมหาวิทยาลัย
ซูโม่จวินมาคุยกับเฉินปู้ฝานเป็นครั้งคราว ดวงตาของเขามองไปที่หวังโต้วโต้วอย่างตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง และคอยเหลือบมองเธอเป็นระยะๆ
อยากจะพูดคุยกับเธอหลายครั้ง แต่ก็ไม่กล้าเปิดปากพูดอะไร
ที่ผู้ชายคนนี้มาหาเฉินปู้ฝานนั้น เขามีจุดประสงค์แอบแฝง
“พี่ปู้ฝาน พี่กำลังทำอะไรอยู่? เสียงดังจนฉันตื่นเลย” หวังโต้วโต้วพูดอย่างงัวเงีย
“ไปกันเถอะ เลิกเรียนแล้ว” เฉินปู้ฝานพูดไม่ออก
ไม่ผิดจากที่คาดไว้ ยัยเด็กคนนี้นอนหลับตลอดทั้งบ่าย
“หาว!” หวังโต้วโต้วหาว บิดเอวบางอย่างเกียจคร้าน
พวกเขาทั้งสองออกจากห้องเรียน และพบกับซูโม่จวินข้างหน้าพอดี
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เขามาอีกแล้ว
“ปู้ฝาน โต้วโต้ว เลิกเรียนแล้วเหรอ”
“ใช่!” เฉินปู้ฝานพยักหน้า
“คืนนี้มีธุระอะไรไหม? ฉันจะเลี้ยงปิ้งย่างพวกนายดีไหม?”
หวังโต้วโต้วเมินเฉย พูดโดยไม่แม้แต่จะมองว่า
"เราอยากกลับบ้าน"
“ช่วงนี้ฉันเห็นพวกนายมาด้วยกัน เดินด้วยกัน หรือว่าพวกนายอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” ซูโม่จวินถาม
“ใช่” หวังโต้วโต้วไม่อยากจะอธิบายอะไร
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ หวังโต้วโต้วไม่สนใจซูโม่จวิน ถึงขนาดไม่อยากจะมองด้วยซ้ำ
ตามคำพูดของหวังโต้วโต้วก็คือ เมื่อได้ยินเสียงแหลมสูงเหมือนเด็กผู้หญิง หนังศีรษะและแขนขาก็รู้สึกเย็นเยียบ
รู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว!
“อย่าเข้าใจผิดไป พวกเราอาศัยอยู่ในบ้านศิษย์พี่ใหญ่” เฉินปู้ฝานพูดขัดจังหวะขึ้น
หลังจากได้มีปฏิสัมพันธ์กันสองวัน เฉินปู้ฝานก็รู้สึกว่าซูโม่จวินเป็นคนดี อย่างน้อยเขาก็ไม่มีทัศนคติแบบเด็กที่มาจากตระกูลใหญ่ และก็ไม่มีพฤติกรรมไม่ดีใดๆ
อย่างเช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เป็นคนบ้ากาม หรือว่าดูถูกคนอื่น
ในระหว่างการคบค้าสมาคมกันมา ล้วนไม่พบสิ่งเหล่านี้
“อย่างนี้นี่เอง” ซูโมจวินลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“พี่ปู้ฝาน ไปกันเถอะ” หวังโต้วโต้วเร่งเร้า
วันนี้เฉินปู้ฝานขับรถมาที่นี่เอง ไม่ได้มากับรถของหวังโต้วโต้ว
มาเซราติรุ่นใหม่มีความโดดเด่น
ศิษย์พี่ใหญ่บอกว่า สิ่งที่เป็นของเธอก็เหมือนเป็นของเฉินปู้ฝานด้วย รวมทั้งตัวเธอเองด้วย
ประโยคสุดท้ายนั่นเป็นจริงหรือไม่นั้นก็ไม่อาจทราบได้
เฉินปู้ฝานขับรถมาเซราติมาโรงเรียน ทำให้หลายคนวิจารณ์ในแง่ลบ
และกลายเป็นกระทู้ยอดนิยมของโรงเรียนอีกครั้ง!
อาจารย์ฮาราผู้โหดเหี้ยม : ดูสิ ทันทีที่เฉินปู้ฝานคบกับหวังโต้วโต้ว เขาก็ขับรถหรูเลย ช่างน่าอิจฉาจริงๆ
คุณชายโง่ผู้ไร้ความรู้สึก : เก่งตรงไหน เมื่ออายุยังน้อยเราควรสร้างรายได้ตามความสามารถของเราเอง โดยมีแสงสว่างและอุดมการณ์อยู่ในใจ
อย่างเฉินปู้ฝานที่ได้อะไรมาโดยไม่ต้องทำงาน กำลังทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แถมยังทำให้คนหนุ่มสาวอย่างเราอับอายไปด้วย
หมั่นโถวลูกใหญ่ : เจ้าของกระทู้ข้างบน เข้าข่ายไม่ได้กินองุ่นแล้วมาบอกว่าองุ่นเปรี้ยวสินะ
แตงกวาเหี่ยว : สามารถก้าวพรวดเดียวแตะถึงฟ้า(บรรลุผลสำเร็จได้ในเวลาสั้นๆ) ใครเขาอยากจะตรากตรำทำงานหนักล่ะ?ผู้ที่เต็มใจทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยล้วนถูกชีวิตบังคับ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น
ผู้อ่อนล้า: ในที่สุดฉันก็เห็นคนพูดภาษามนุษย์สักที
คนขายของเทพชายและหญิงในมหาลัยฯเมืองซู : ฉันก็อยากได้เมียรวยเหมือนกัน ไม่จำกัดแค่ผู้หญิงนะ ถึงเป็นผู้ชายก็ไม่มีปัญหา
ถ้ามีใครสักคนเต็มใจที่จะเลี้ยงดูฉัน ฉันอยากจะพูดสามคำกับคนนั้นด้วยความรักว่า ฉันยอมรับ!
......
เฉินปู้ฝานขับรถนำหน้า โดยมีหวังโต้วโต้วขับตามหลัง
คนสองคนอาศัยอยู่ในวิลล่าเดียวกัน พูดตามตรงไม่จำเป็นต้องขับรถสองคันด้วยซ้ำ
แต่ประเด็นสำคัญคือมีรถยนต์มากเกินไปในโรงรถ และถ้าไม่ขับไปคงจะเสียเปล่า
จนปัญญาจริงๆ
ชีวิตคนรวยนี่มันช่างน่าเบื่อมาก
ภายในรถเปิดเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงนี้ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกมีความสุข เมื่อเฉินปู้ฝานขับไปได้ครึ่งทาง สีหน้าของเฉินปู้ฝานก็เปลี่ยนไป เขาเหยียบคันเร่งและเร่งความเร็วขึ้นอย่างกะทันหัน เห็นเพียงรถกระชากตัวออกไป
ไม่ใช่เพราะเขาต้องการอวดทักษะการขับรถ แต่มีรถสีดำอยู่ข้างหลังเขาซึ่งดึงดูดความสนใจของเฉินปู้ฝาน
เพื่อทดสอบว่าเขาถูกสะกดรอยตามหรือเปล่า เฉินปู้ฝานจึงเหยียบคันเร่งอย่างแรง
และก็จริงตามนั้น!
ขณะที่เฉินปู้ฝานเร่งความเร็ว รถที่อยู่ข้างหลังเขาก็ตามมาติดๆ
มุมปากของเฉินปู้ฝานยกขึ้น เผยให้เห็นเสน่ห์อันชั่วร้าย
“โอ้ ไม่นะ พี่ปู้ฝานทำอะไร หรืออยากจะแข่งรถกับฉันเหรอ?”
“สะใจ!”
“ฉันโต้วโต้วจะไม่มีวันพ่ายแพ้ จะแข่งกับพี่ให้ดู”
หลังจากพูดจบ ความเร็วรถของหวังโต้วโต้วก็เพิ่มขึ้น
หลี่จื่อฉีซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สี่แยกยังคงรู้สึกเสียใจในช่วงสองวันที่ผ่านมา เธอยังไม่หายจากความโกรธ และไม่พอใจกับคำสั่งย้ายของอธิบดีจางอย่างมาก
ทำไมถึงต้องย้ายฉันมาที่กองตำรวจจราจรด้วย? อาศัยอะไร ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
ทันใดนั้นก็มีรถหรูคันหนึ่งแล่นเข้าสู่ครรลองสายตาของเธอ
สิ่งสำคัญคือบุคคลนั้นคุ้นหน้ามาก เป็นคนที่เธอต้องการจะจับมาโดยตลอด ซึ่งก็คือเฉินปู้ฝานนั่นเอง