บทที่ 13 หลี่จื่อฉี
“ทำสำเร็จฉันมีรางวัลให้ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จละก็...เหอะๆ!”
เขาพูดไม่จบ แต่ก็เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ
“ครับ นายน้อย!” เสียงหนึ่งดังมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์
ชายหนุ่มวางสาย และโยนโทรศัพท์ไปอีกทาง
“เห้อ!” ชายหนุ่มถอนหายใจยาวเพื่อสงบสติอารมณ์ให้เร็วที่สุด “พวกเธอสองคนยืนทำอะไรกันอยู่ เป็นท่อนไม้รึไง?”
หญิงสาวสองคนมีปฏิกิริยาโต้ตอบ คนหนึ่งคุกเข่าลงกับพื้น และค่อยๆ รูดซิปด้านหน้าของชายคนนั้นลง
อีกคนหนึ่งเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก
……
เมื่อคืนเฉินปู้ฝานนอนหลับสนิทเป็นพิเศษ ในความฝันเขาได้เจอกับศิษย์พี่หญิงทั้งสี่คน ทุกคนต่างแย่งกันแต่งงานกับเขา
โดยพูดว่า ในชีวิตนี้ฉันจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากนาย และชาตินี้ฉันจะขอแก่ไปพร้อมกับนายเท่านั้น
เฉินปู้ฝานนอนเล่นอย่างสบายใจบนชายหาด รายล้อมไปด้วยศิษย์พี่สี่คนในชุดบิกินี่ ดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก
สรุปควรเลือกใครดี? ลำบากใจมาก!
ทันใดนั้นหวังโต้วโต้วก็ปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่ง และสาบานว่าจะแต่งงานกับเขาด้วย
เฉินปู้ฝานสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันทีทันใด ในที่สุดเขาก็ตื่นจากความฝัน
เหงื่อจากความตกใจหยดลงมาจากหน้าผาก หัวใจเต้นดังตึกตัก
ปล่อยยัยเด็กคนนั้นไปเถอะ เธอไม่สร้างปัญหา ก็สรรหาเรื่องเดือดร้อน
ถ้าแต่งงานกับเธอ เกรงว่าชีวิตที่เหลืออยู่คงยากจะสงบสุขแล้ว
เฉินปู้ฝานตื่นนอน ตามความเคยชิน ได้เวลาฝึกวรยุทธ์แล้ว
แต่ไม่นาน เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น เฉินปู้ฝานลุกขึ้นเดินไปข้างหน้า
เห็นเพียงคนสี่คนยืนอยู่ด้านนอกในชุดเครื่องแบบตำรวจ ด้านหน้ามีผู้หญิงหนึ่งคน ผิวขาว สูงประมาณ 170 ซม. ผมสั้นท่าทางทะมัดทะแมง
ใบหน้าของเธอได้สัดส่วน และถึงแม้จะไม่ได้แต่งหน้า แต่ก็ยังปกปิดความสวยของเธอไว้ไม่ได้
เธอมีรูปร่างที่เย้ายวนและเร่าร้อนมาก
จากป้ายบนหน้าอกเสื้อสามารถเห็นชื่อของเธอ : หลี่จื่อฉี
“พวกคุณเป็นใคร?” เฉินปู้ฝานเปิดประตูด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ตำรวจ!” หลี่จื่อฉีหยิบบัตรตำรวจของเธอออกมา แล้วยื่นไปตรงหน้าเฉินปู้ฝาน
“ผมเห็นไม่ชัด ไม่รู้ว่าบัตรเป็นของจริงหรือเปล่า”
“นาย!” หลี่จื่อฉีโกรธมาก หน้าอกของเธอขยายตัวขึ้น
“หยิบไปดู!”
เฉินปู้ฝานหยิบมา กวาดสายตาเหลือบมองมัน แล้วใส่มันลงในกระเป๋ากางเกง
“ใส่ลงในกระเป๋าตัวเองทำไม? เอามานี่” หลี่จื่อฉีพูดไม่ออก
เป็นคนประเภทไหนกัน เอาของของคนอื่นไปใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง? เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า!
“พวกคุณมาที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่ มีธุระอะไรก็พูดมาตรงๆ ผมไม่มีเวลามากพอที่จะต้อนรับพวกคุณ” เฉินปู้ฝานเอียงตัวหลบให้พวกตำรวจเข้ามา
“ตรวจสอบคดี” หลี่จื่อฉีเดินเข้าไปในวิลล่าโดยพูดเข้าประเด็นทันที "เด็กผู้หญิงที่อยู่กับคุณเมื่อวานนี้ เรียกเธอออกมาหน่อย"
“ทำอะไร?”
“คุณให้ความร่วมมือเถอะ อย่าพูดไร้สาระให้มาก” หลี่จื่อฉีขมวดคิ้วเป็นปม
“น่าจะยังไม่ตื่นนอน”
“ไปเรียกมา!”
เฉินปู้ฝานไม่ได้ขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปเรียกเธอ แต่เขากลับนั่งลง
“ฉันบอกให้คุณไปเรียกเธอมา” หลี่จื่อฉีมักจะอารมณ์ไม่ดีและพูดจาแข็งกระด้างเสมอ
“คุณให้ไปเรียกก็ต้องไปเรียกเหรอ ผมไม่ใช่คนรับใช้ของคุณ และก็ไม่ใช่อาชญากรด้วย” เฉินปู้ฝานกอดอกพูด
“คุณสองคนขึ้นไปเรียกเธอ” หลี่จือฉีสั่งคนสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอ
“หัวหน้า อีกฝ่ายเป็นเด็กผู้หญิงและยังไม่ตื่น ให้พวกเราไปจะดูไม่ดีหรือเปล่า?”
“ฉันสั่งให้พวกคุณไปก็ไปสิ มัวชักช้าอะไร เรากำลังทำคดีอยู่”
“คุณตำรวจ มีเรื่องอะไรก็ถามผมได้ ให้เด็กน้อยคนนั้นนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ” เฉินปู้ฝานเอ่ยปากในเวลานี้
“เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น ฉันจำเป็นต้องพาพวกคุณสองคนไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ” หลี่จื่อฉียืนตรงด้วยสีหน้าจริงจัง
จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบนด้วยตัวเอง
เฉินปู้ฝานไม่ได้ห้าม ดวงตาของเขาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ตำรวจมาที่นี่เพื่อสอบสวน น่าจะเป็นเพราะเรื่องของเฮ่อเหลิ่งเฟิง
เฮ่อเหลิ่งเฟิงเสียชีวิตเมื่อวานนี้ ตอนอยู่ไม่เห็นคน ตอนตายไม่เห็นศพ
“อ๊า แม่โคนมคนนี้คือใคร?” มีเสียงร้องดังมาจากชั้นบน
ประโยคนี้ทำให้คนที่อยู่ชั้นล่างต่างรู้สึกเขินอายมาก
“ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีเรื่องต้องการให้คุณร่วมมือในการสืบสวน ไปสถานีกับเราหน่อย” หลี่จื่อฉีระงับอารมณ์ของเธอและพูดอย่างเข้มงวด
เธอรำคาญที่สุดเมื่อมีคนอื่นตั้งฉายาให้เธอ ตอนที่อยู่ในโรงเรียน มักจะมีคนพูดถึงขนาดหน้าอกของเธอโดยเฉพาะเด็กผู้ชาย
เมื่อเธอได้ยินใครพูดก็ตาม ไม่ว่าใครก็ต่อยไม่ไว้หน้า
แม้ว่าหลี่จื่อฉีจะเป็นเด็กผู้หญิง แต่เธอก็ชอบฝึกศิลปะการต่อสู้ เล่นมีดเล่นปืนมาตั้งแต่เด็ก
ตอนที่เป็นนักเรียนไม่มีใครกล้ามีเรื่องด้วย ไม่เพียงแต่เป็นคนมีความสามารถเท่านั้น แต่นิสัยยังดุร้ายอีกด้วย
“ทำไมฉันต้องไปกับคุณด้วย รู้ไหมว่าการรบกวนเวลานอนคนอื่นเป็นสิ่งต้องห้าม”
“ฉันจะสาปแช่งคุณ” หวังโต้วโต้วพูดอย่างไม่เกรงกลัว สาปแช่งไปพลาง ขยี้ตาดวงโตที่สะลึมสะลือไปพลาง
“ฉันขอสาปแช่งให้คุณมีประจำเดือนไม่มีผ้าอนามัย เข้าห้องน้ำลืมพกกระดาษชำระ เดินเป้าแตก นอนเตียงยวบ”
โหดร้าย!
หลี่จื่อฉีพูดอย่างจนใจ "คุณมีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ"
“ไม่ ฉันไม่มี”
“ถ้าคุณยังพล่ามไม่หยุด อย่าโทษฉันที่ต้องใช้กำลังพาตัวคุณไป” น้ำเสียงของหลี่จื่อฉีเย็นชาราวกับว่าเธอพร้อมลงมือได้ทุกเมื่อ
เธออารมณ์ไม่ดี และเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก
เธอถูกขนานนามว่าเป็นตำรวจหญิงหัวรุนแรงของโรงพัก
หลี่จื่อฉีผู้อารมณ์ร้อน คิดว่าหวังโต้วโต้วหาเรื่องได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?
“จับตาดูให้ดี!” หวังโต้วโต้วบุกโจมตีก่อน เธอเอะอะก็กระโดดเตะ
ท่าที่ใช้ประจำ : เตะผ่าหมาก
แต่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิง แน่ใจว่าใช้ได้ผล?
หลี่จื่อฉีตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอหลบตัวไปด้านข้าง แล้วใช้จังหวะนี้คว้าแขนที่อ่อนนุ่มไว้ อาศัยความชำนาญและความคล่องแคล่วเข้าจับกุมหวังโต้วโต้วได้อย่างง่ายดาย
“แม่โคนมปล่อยฉันนะ” หวังโต้วโต้วพูดแยกเขี้ยวยิงฟัน
“เดินไป!”
ในขณะเดียวกัน ประตูห้องถัดไปก็ถูกเปิดออก ถานไถฮ่าวเยว่เดินออกมาในชุดที่สุภาพเรียบร้อย
ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ถานไถฮ่าวเยว่มักจะส่องแสงเป็นประกายในสายตาผู้คนเสมอ
เพราะเธองดงามมาก สวยสะดุดตา และสง่างามไม่เหมือนใคร
“เกิดอะไรขึ้น?”
“พี่ แม่โคนมใช้กำลังกับฉัน” หวังโต้วโต้วเม้มปากพูดด้วยความน้อยใจ
"คุณตํารวจคนนี้ คุณบุกรุกบ้านเรือนประชาชนโดยพลการ แถมยังมาทำร้ายคนในบ้านอีก ในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ทําแบบนี้ได้เหรอ?"
ถานไถฮ่าวเยว่มาถึงก็พูดใส่ด้วยวาจาเฉียบคม
หลี่จื่อฉีรู้จักถานไถฮ่าวเยว่ ในฐานะประธานหญิงบริษัทอันดับหนึ่งแห่งเมืองซู มีใครบ้างไม่รู้จักเธอ?
แต่หลี่จื่อฉีถือคติหน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่ ไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น
ดุร้ายมาก!
“ฉันมีเอกสารขอตรวจค้น จึงสามารถเข้ามาในวิลล่าได้”
“อีกอย่าง ฉันไม่ได้ทำร้ายใคร เป็นคนอื่นต่างหากที่ลงมือก่อน เพื่อป้องกันตัว ฉันไม่มีทางเลือก”
“ปล่อยตัวเธอก่อน” ถานไถฮ่าวเยว่พูดด้วยน้ำเสียงคล้ายออกคำสั่ง
หลี่จื่อฉีคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่อยมือ
“ไปกับฉัน ถ้าคดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ แน่นอนว่าคุณคือผู้บริสุทธิ์”
หวังโต้วโต้วขยับแขนเล็กๆ ของเธอ และเข้าโจมตีอีกครั้งทันที
เธอมีนิสัยแบบนี้ ไม่ยอมเสียเปรียบใคร
ตราบเท่าที่ถูกเอาเปรียบ ก็มักจะกลับมาพร้อมกับการแก้แค้นอย่างแน่นอน
ฉายาสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งมหาวิทยาลัยเมืองซู ไม่ได้มาแบบเปล่าประโยชน์
หลี่จื่อฉีสามารถปราบหวังโต้วโต้วได้ครั้งแรก และแน่นอนว่าเธอสามารถทำได้เป็นครั้งที่สอง
ด้วยกระบวนท่าเดียว หวังโต้วโต้วก็ถูกจับกุมอีกครั้ง...
“พี่ดูเธอสิ เราต้องร้องเรียนเรื่องนี้นะ”
ผู้ร้ายอย่างหวังโต้วโต้วชิงฟ้องก่อน
ถานไถฮ่าวเยว่พูดไม่ออก เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาใครคนหนึ่ง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะอธิบดีจาง”
“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตํารวจของพวกคุณ นึกไม่ถึงว่าจะส่งคนมาตรวจค้นที่บ้านของฉัน”
“อืม ได้ค่ะ!”
ถานไถฮ่าวเยว่พูดเพียงเท่านี้แล้ววางสายไป
“โทรหาใครก็ไม่มีประโยชน์ ฉันปฏิบัติตามกฎ วันนี้ฉันจะต้องพาตัวเธอไปที่สถานีให้ได้”
หลี่จื่อฉีพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว