บทที่ 10 คนที่ตามจีบ
การแต่งกายแบบมืออาชีพ ผมยาวตรงพาดบ่า และใบหน้าที่สวยใส ภายใต้แสงสาดส่อง ทำให้สวยสง่ามากยิ่งขึ้น
ขาเรียวยาวทั้งสองข้างทำให้หัวใจเต้นเร็ว
จะเป็นใครล่ะ นอกจากถานไถฮ่าวเยว่
"พวกนายกำลังทำอะไร"
เมื่อเฉินปู้ฝานเห็นผู้มาเยือน เขาก็ยกยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยพูดว่า "ศิษย์พี่ใหญ่"
“เสี่ยวฝาน”
การกระทำของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ้วนท้วมหยุดชะงักกะทันหัน ราวกับว่าจู่ๆ โลกทั้งใบเงียบงัน
หรือว่าไอ้เด็กบ้านี่เป็นศิษย์น้องของท่านประธานจริงๆ
จบแล้ว จบเห่แล้ว!
ให้ตายเถอะ พลาดอย่างแรง
“ศิษย์พี่ใหญ่ ผมเอาอาหารมาส่งให้” เฉินปู้ฝานยกปิ่นโตในมือของเขาขึ้นมาแล้วเขย่าไปมา
“ความรักที่ฉันให้นายตั้งแต่เด็กไม่สูญเปล่าสินะ ตอนนี้รู้จักดูแลห่วงใยศิษย์พี่ด้วย”
ถานไถฮ่าวเยว่เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่เบ่งบานราวกับดอกไม้ ช่างงดงามเหลือเกิน
ฉากตรงหน้าทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คนตะลึง
ปกติท่านประธานที่สูงส่งและเย็นชา กลับฉีกยิ้ม
และเป็นรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ
สวยมากจริงๆ!
“เกิดอะไรขึ้น” ถานไถฮ่าวเยว่ชี้ไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คนที่อยู่บนพื้น
“พวกเขาไม่เชื่อว่าพี่เป็นศิษย์พี่ใหญ่ของฉัน ดูถูกเยาะเย้ยผม และคิดจะจับผมไปขังไว้ในห้องมืดเพราะไม่พอใจ ศิษย์น้องไม่มีทางเลือกก็เลยลงมือจัดการพวกเขาก่อน” เฉินปู้ฝานพูดอย่างนิ่งเฉย
“พวกสารเลว ไปเอาความกล้ามาจากไหน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินของบริษัทและจัดการกับเหตุการณ์เลวร้าย แต่พวกนายกลับคิดจะจับคนไปขังไว้ในห้องมืด โดยไม่ถามให้แน่ชัดเนี่ยนะ”
ถานไถฮ่าวเยว่โมโหเล็กน้อย และใบหน้าสวยเริ่มตึงเครียด เต็มไปด้วยพลังอำนาจ
“ใครให้สิทธิ์นี้กับพวกนาย”
“ท่านประธาน ผม...…” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ้วนท้วมมีสีหน้าขมขื่น และร่างอ้วนๆ ของเขาก็อัดแน่นเข้าหากัน ทำให้ดูน่าเกลียดอย่างมาก
“พรุ่งนี้ไปยื่นใบลาออก แล้วกลับบ้านไปซะ”
ถานไถฮ่าวเยว่ไม่เมตตาเลยสักนิด และไล่เขาออกทันที
“ท่านประธาน โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้ง คราวหน้าผมไม่กล้าทำแบบนี้อีกแล้วครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ้วนท้วมถึงกับน้ำตาซึม มีน้ำมูกไหล
“ผมมาจากชนบท และยากจนมากครับ มีลูกสองคนที่ผมต้องเลี้ยงดู”
“พ่อแม่ของผมก็อายุมาก และป่วยบ้างเป็นครั้งคราว และทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เงิน หากผมตกงาน หลังจากนี้ผมจะใช้ชีวิตต่อยังไงล่ะครับ”
มีฐานะยากจนขนาดนี้ มีสิทธิ์อะไรไปดูถูกคนอื่น
หาว่าเขาเป็นคนบ้านนอก แต่ตัวเองกลับไม่มีอะไรดีเลย
อย่ามองคนจากภายนอก ให้ชั่งน้ำหนักความสามารถของตัวเองก่อน
ในชีวิตจริง คนแบบนี้มีอยู่มาก
ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีอะไรดีเลย แต่กลับวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น
สวัสดิการของฮ่าวเยว่ กรุ๊ปนั้นดีมาก ถึงแม้จะเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ดีกว่าบริษัทอื่นมาก ได้มากกว่าหนึ่งในสามส่วนเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น
นอกจากนี้มีการแจกของขวัญ และโบนัสในช่วงปีใหม่และวันหยุดเทศกาลต่างๆ
ไม่มีใครอยากเสียงานแบบนี้ไปอย่างแน่นอน
“เสี่ยวฝาน นายคิดว่าไง” ถานไถฮ่าวเยว่เอ่ยถามเขา
เรียกได้ว่าให้เกียรติเขามากเลยทีเดียว
“คุณผู้ชายครับ เมื่อกี้ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณไม่พอใจ ช่วยยกโทษให้ผมสักครั้งนะครับ ได้โปรดเอ่ยปากขอร้องท่านประธานอย่าไล่ผมออกเลยนะครับ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ้วนท้วมชาญฉลาดมาก เขาเข้าใจดีว่าการที่เขาจะได้อยู่หรือไป เฉินปู้ฝานเป็นคนตัดสิน
“ช่างมันเถอะศิษย์พี่ใหญ่ ลงโทษให้เขาลากจำก็พอ”
“อืม! อย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก พวกนายถูกหักเงินหนึ่งเดือนเป็นการลงโทษ” ถานไถฮ่าวเยว่ตัดสินแทน
“ขอบคุณครับท่านประธาน ขอบคุณครับคุณผู้ชาย” พนักงานรักษาความปลอดภัยอ้วนท้วมรีบกล่าวขอบคุณทันที
“ไปกันเถอะ!” ถานไถฮ่าวเยว่เอื้อมมือไปคล้องแขนของเฉินปู้ฝานอย่างเป็นธรรมชาติ
“ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ทำงานแล้วเหรอ”
"ทำจนใกล้เสร็จแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ"
ทั้งสองคนเดินออกมาจากตึก ในขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คนยังคงอึ้งอยู่กับที่ และจ้องมองแผ่นหลังของทั้งคู่
“เกือบซวย กูเกือบจะต้องตกงานแล้ว”
พนักงานรักษาความปลอดภัยอ้วนท้วมเช็ดน้ำตาบนใบหน้า
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าท่านประธานผิดปกติ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนพูดพร้อมกับเอียงศีรษะ
“ท่านประธานไม่เคยสนิทสนม ใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้มาก่อน”
“ฉันมีความคิดที่ค่อนข้างบ้าบิ่น พวกนายคิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนกับท่านประธานหรือเปล่า”
“โอกาสเป็นไปได้สูง เราไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก และน้ำทะเลก็ไม่อาจตวงวัดได้”
“ไอ้เด็กนั่นดูไม่เหมือนลูกหลานตระกูลร่ำรวย แต่ทักษะการจีบหญิงนั้นยอดเยี่ยมมาก ที่สามารถเอาท่านประธานมาเป็นแฟนได้”
“ฉันด้อยกว่าตรงไหน ถึงยังไม่มีแฟน และเป็นโสดอยู่มาจนถึงทุกวันนี้”
“……”
ทั้งสองเดินมาถึงลานจอดรถ และกำลังเตรียมขึ้นรถ ทันใดนั้นก็มีรถมายบัคคันหนึ่งขับเข้ามา ไฟรถที่เจิดจ้าสะดุดตามาก
“ฮ่าวเยว่!” จากนั้นชายคนหนึ่งก็ลงจากรถ
เขามีรูปร่างมาตรฐาน สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร หน้าตาหล่อเหลา และสวมชุดสูทลำลองสีขาว ให้ความรู้สึกอ่อนโยนและสง่างาม
ออร่าไม่ธรรมดา!
“เย่อู๋เต้า” ถานไถฮ่าวเยว่พึมพำ
“ฮ่าวเยว่” เย่อู๋เต้าเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
รอยยิ้มนี้เป็นเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ และทำให้คนรู้สึกดีมาก
เมื่อเหลือบเห็น แขนสองข้างประสานกันแน่นของทั้งคู่ รอยยิ้มของเขาแข็งทื่อ จากนั้นเปลี่ยนกลับอย่างรวดเร็ว
ความไม่พอใจก็หายไปในพริบตา
บุคคลนี้ไม่ธรรมดา ที่สามารถระงับอารมณ์ของตนเองได้ในระยะเวลาอันสั้น
ระงับอารมณ์ ควบคุมสติตัวเองได้ดีจนน่ากลัว
การควบอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ไม่น่ากลัว แต่คนที่ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองต่างหากที่น่ากลัวมากที่สุด
สามารถควบคุมอารมณ์ ความโกรธ ความโศกเศร้า และความสุขได้ แค่คิดก็รู้แล้ว
“คุณมาทำอะไรที่บริษัทฉัน” ถานไถฮ่าวเยว่ไม่ได้ปล่อยมือออก แต่กลับกระชับแนบชิดมากกว่าเดิม
“ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวท่านประธานใหญ่ของเรา แต่ไม่รู้ว่าท่านประธานจะให้เกียรติรึเปล่า”
เย่อู๋เต้าเอ่ยพูดติดตลก
แค่เพียงประโยคเดียวทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาลดลง
ประธานใหญ่ของเราหมายความว่ายังไง นายไม่ใช่พนักงานของฮ่าวเยว่ กรุ๊ป แล้วมาเรียกเธอว่าประธานทำไม
โดยเฉพาะคำว่าประธานใหญ่ของเรา เหมือนกับการหยอกล้อกันระหว่างคู่รัก
เย่อู๋เต้าจากตระกูลเย่ หนึ่งในห้าตระกูลทรงอิทธิพลของเมืองซู
ไม่ว่าจะหน้าตา หรือความสามารถก็ตาม ล้วนแต่อยู่ระดับที่สูงสุด
ตั้งแต่อายุสิบแปด ตระกูลเย่ก็กำหนดให้เขาเป็นทายาทรุ่นต่อไป
ความสามารถนั้นล้นหลามอย่างเห็นได้ชัด!
และตอนนี้เขาก็กำลังบริหารบริษัทขนาดใหญ่ กำลังไปได้สวย และเกรียงไกรอย่างมาก
ในสายตาของคนนอก เย่อู๋เต้าและถานไถฮ่าวเยว่ เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก ราวกับกิ่งทองใบหยก
ลงตัวกันสุดๆ!
และตอนนี้เย่อู๋เต้าก็ยังตามจีบถานไถฮ่าวเยว่อยู่อีกด้วย ในความเห็นของใครหลายๆ คน จะคิดว่าทั้งสองจะได้คบหากันในไม่ช้าก็เร็ว
ถานไถฮ่าวเยว่ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเย่อู๋เต้า ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม
เย่อู๋เต้าเป็นคนเก่ง ดีจนผู้ชายด้วยกันต้องอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังเอย หรือรูปร่างหน้าตา โดดเด่นและสมบูรณ์ไปหมด
หากพวกเขาทั้งสองลงเอยกันจริงๆ มันจะเป็นประโยชน์ต่อตระกูลอย่างมาก การร่วมมือกันของผู้ชนะ พวกเขาจะอยู่ยงคงกระพันในเมืองซู
......
ถานไถฮ่าวเยว่ส่ายหัว "ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ว่าง"
“คืนนี้คุณมีธุระเหรอ” เย่อู๋เต้าถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ฉันมีกินข้าวเย็นกับศิษย์น้องเล็ก”
การนัดกินข้าวเหมือนกัน คนหนึ่งนัดไม่ไป และอีกคนไม่ได้ชวนแต่เต็มใจที่จะไปด้วย
ช่างแตกต่าง!
“ศิษย์น้องเล็กงั้นเหรอ” เย่อู๋เต้าหันไปให้ความสนใจเฉินปู้ฝาน
ก่อนหน้านี้มองไม่เห็นเหรอ
แต่ตอนนี้กลับเห็น!
แค่ไม่อยากสนใจเท่านั้น
การเห็นคนที่ตัวชอบจับมือถือแขนกับผู้ชายคนอื่น ไม่โมโหร้ายก็ถือว่าดีมากแล้ว
จะให้แบกหน้ายิ้มทักทายอย่างนั้นเหรอ
“สวัสดี ฉันชื่อเย่อู๋เต้า”
“เฉินปู้ฝานครับ”
ทั้งสองพยักหน้าให้กันโดยไม่พูดอะไรมาก
จากนั้น เย่อู๋เต้าก็หันไปมองถานไถฮ่าวเยว่ด้วยรอยยิ้ม "ฉันอุตส่าห์จองห้องส่วนตัวสุดหรูที่ภัตตาคารว่านซื่อเอาไว้ ไม่ไปคงจะน่าเสียดายแย่ จะพาศิษย์น้องของเธอไปด้วยก็ได้นะ"
“ขอบคุณที่ชวนนะคะ แต่ฉันไม่สะดวกจริงๆ” ถานไถฮ่าวเยว่ยังคงปฏิเสธเหมือนเดิม
ไม่ใช่ว่าเย่อู๋เต้าไม่ดี แต่เพราะเธอไม่รู้สึกอะไรกับเขา
บางทีเย่อู๋เต้าอาจเปล่งประกายในสายตาของผู้หญิงคนอื่น และเป็นผู้ชายที่สูงหล่อบ้านรวย การมีแฟนแบบนี้ บรรพบุรุษแปดชั่วโคตรจะต้องปลื้มปริ่ม
แต่สำหรับถานไถฮ่าวเยว่ เธอไม่รู้สึกหัวใจเต้นแรง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกดี
เรื่องของความรู้สึกนั้นอธิบายได้ยาก และแปลกมากด้วย
“ฮ่าวเยว่ คุณไม่เข้าใจความคิดในใจของผมจริงๆ เหรอ”