9.ไม่ได้เป็นแบบนั้นนะสิ
อาเมเลียนั่งลงบนพื้นหญ้า เธอทอดสายตามองไปยังทะเลเบื้องล่างด้วยแววตาเรียบเฉย วันนี้เธอสั่งคนขับรถม้าเอาไว้แล้วว่าไม่ต้องมารับ เธอจะเดินเท้ากลับบ้านเอง อันที่จริงอคาเด็มมี่และคฤหาสน์แลนโซไม่ได้ไกลกันมาเท่าไหร่นัก แต่ที่เธอมาช้าเพราะว่าจะต้องวนไปรับบาสเตียนก่อนนะสิ
มือของอาเมเลียไล้ไปมาบนยอดหญ้า เธอชอบที่นี่มากๆ เลยล่ะ เป็นบนเนินเขาที่สามารถมองเห็นทะเลได้ชัดเจนและในยามที่ดวงตะวันตกดิน จากมุมที่เธอกำลังนั่งอยู่นี้จะสามารถมองเห็นในช่วงเวลาที่ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าได้อย่างชัดเจน
บนโลกในนี้มีสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากๆ อย่างคำสาปที่สืบทอดทางสายเลือด และยังมีสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือการที่เธอย้อนเวลามาหลายครั้งหลายหนแบบไม่ได้ตั้งใจ
หากว่าครั้งนี้ยังไม่สำเร็จ หากว่าเธอยังแต่งงานกับท่านแกรนด์ดยุคไม่ได้ จะยังมีโอกาสครั้งที่6 ให้เธอได้ย้อนเวลามาอีกรึเปล่านะ หรือว่ามันจะจบลงที่ตรงครั้งนี้..
หากเป็นแบบนั้นมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ก็เป็นได้ เธอเคยมีความรัก เคยถูกคนที่รักหักหลัง เคยแต่งงานมาสี่ครั้ง..ได้ชีวิตในช่วงอายุที่งดงามดั่งดอกไม้ที่บานสะพรั่งถึงห้าหน เพียงเท่านี้ก็ทำให้เธอสามารถยินยอมและพร้อมใจในการจากไปได้อย่างหมดห่วง
“เดี๋ยวก่อนค่ะท่านแกรนด์ดยุค..”
อาเมเลียขมวดคิ้วเล็กน้อยกับเสียงเรียกนั้นและเมื่อเธอมองลงไปที่ด้านล่างก็พบเห็นท่านอาจารย์เลลานี่กำลังวิ่งตามท่านคอนราดอยู่ด้วยใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา
เธอขยับนิดหน่อยเพื่อให้พุ่มไม้บังตัวของเธอเอาไว้ก่อนจะแอบมองท่านแกรนด์ดยุคและท่านอาจารย์ที่ดูท่าทางไม่ปกติ เธอได้ยินว่าทั้งสองท่านคือสหายรักที่คบกันมาอย่างยาวนานแล้วทำไมสภาพของท่านอาจารย์ถึงไม่น่าดูแบบนั้นกันนะ
“เลล่า ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าข้าไม่สามารถให้ความหวังเจ้าได้ ระหว่างเรามันคือเพื่อน..”
อาเมเลียยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ด้วยความตกใจ นี่ท่านอาจารย์สารภาพรักออกไปงั้นเรอะ!!
“แต่ข้าไม่เคยมองท่านเป็นเพื่อนเลยนี่คะ ข้ารักท่านตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบเจอกัน และรอบกายของท่านก็ไม่มีสตรีใดคอยดูแล เพราะอย่างนั้นนะคอนราด ให้โอกาสข้าได้ทำหน้าที่นั่น..”
“ข้าไม่ต้องการเลล่า ข้าไม่ต้องการคนรักหรือว่าภรรยาอะไรทั้งนั้น ข้าต้องการแค่เพื่อน..และเจ้าคือเพื่อนของข้า แต่หากเจ้าไม่ต้องการเป็นเพื่อน เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว”
เลลานี่ร้องไห้ออกมา ไหล่ทั้งสองข้างสั่นเทา อาเมเลียมองเห็นความเจ็บปวดที่ชัดเจนจากดวงตาทั้งสองข้างของท่านอาจารย์ การถูกปฏิเสธในช่วงเวลาที่เรารวบรวมความกล้าเพื่อที่จะสารภาพรัก มันเป็นความรู้สึกที่ห่วยแตกมากทีเดียว และเธอเข้าใจท่านอาจารย์ได้เป็นอย่างดีเลย
“เจ้าอาจจะกำลังสับสนเพราะอย่างนั้น วันนี้เราแยกย้ายกันกลับเถอะนะ”
คอนราดก้มหน้าลงเพื่อเป็นการกล่าวอำลา แต่เลลานี่กลับวิ่งเข้ามาหาเขาก่อนที่เธอจะยกมือขั้นมากุมมือของคอนราดเอาไว้
เขารีบหันหน้าหนีในทันทีเพราะความทรมานที่ได้รับจากการสัมผัสร่างกายมันคล้ายมีเข็มทิ่มแทงผิวหนังด้านนอก
“ข้าไม่ได้สับสนนะคอนราด แต่หากว่าเจ้าไม่ต้องการความรู้สึกของข้า เช่นนั้นก็ให้มันจบสิ้นลงเพียงเท่านี้ก็พอ เพื่อนอะไรนั่นข้าไม่ต้องการ จากนี้ไประหว่างเราคือคนแปลกหน้า..”
อาเมเลียอยากจะลุกขึ้นแล้วตบมือดังๆ ให้กับท่านอาจารย์ของเธอ ท่าทางเช่นนั้นมันเท่มากๆ เลย เป็นคนรักไม่ได้ก็อย่ามาเป็นเพื่อนกันอีก ตัดขาด หักดิบไปเลย
อาจารย์ของเธอนั้นสุดยอดมากก็จริง แต่ตอนนี้คนที่น่าเป็นห่วงคือท่านคอนราดที่กำลังทรุดตัวลงกับพื้นหญ้าอย่างช้าๆ หลังจากที่ท่านอาจารย์เลลานี่เดินจากไป
เขาแตะต้องร่างกายของสตรีไม่ได้จริงๆ ด้วยสินะ ความเจ็บปวดฉายชัดออกมาทางแววตาและเม็ดเหงื่อที่ชุ่มโชกไปทั่วทั้งใบหน้าและแผ่นหลัง
“ดูเหมือนว่าท่านคอนราดจะกำลังต้องการความช่วยเหลือนะคะ”
คอนราดชะงักเล็กน้อยที่เขามองเห็นใบหน้าที่แสนงดงามของดรุณีน้อยที่กำลังมองสบตากับเขา เธอยื่นมือมาประคองเขาและในวินาทีที่เขาจะเบี่ยงตัวหลบ เธอก็กอดเขาเอาไว้แน่น..
“ข้าใส่ถุงมือค่ะ เพียงเท่านี้ท่านก็จะไม่เจ็บปวดแล้วใช่ไหม มาเถอะค่ะ ข้าจะพาท่านไปนั่งพักก่อน การแสดงท่าทีเจ็บปวดเช่นนี้ต่อหน้าผู้อื่นมันไม่ใช่สิ่งที่ท่านชอบใช่ไหมคะ”
ตรงที่เรากำลังยืนอยู่นี้สามารถมองเห็นได้จากด้านบนของเนินเขา และเขาในยามนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือจริงๆ อย่างที่อาเมเลียว่า เธอประคองเขาเดินมาสักพักก็ถึงบ้านพักหลังเล็กที่ริมชายหาด ตรงนี้เป็นชายหาดที่ไม่มีใครผ่านไปผ่านมา และเขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าที่นี่จะมีบ้านพักเล็กๆ เช่นนี้อยู่ด้วย
“นี่คือที่ดินของแลนโซค่ะ และนี่คือบ้านพักของข้าเอง ข้าชอบมาอยู่ที่นี่เพราะมันช่วยให้ข้าอ่านหนังสือได้สงบ..”
เมื่อก่อนบรรยากาศในบ้านของเธอนั้นจะได้ยินเสียงของพี่อาเรียลและพี่อาริทะเลาะกันเป็นประจำ ทั้งสองคนแข็งขันกันในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องการเรียนและเรื่องการเป็นชนชั้นสูงที่สมบูรณ์แบบ
แต่ตอนนี้ที่บ้านของเธอไม่มีบรรยากาศเช่นนี้อีกแล้ว ตั้งแต่ที่พี่อาเรียลตายไป และในงานศพของพี่อาเรียลคนที่เสียใจมากที่สุดคือพี่อาริ..
“อย่างนั้นเองสินะ”
“ท่านถูกคำสาปงั้นเหรอคะ ร่างกายของท่านถึงได้แตะต้องร่างกายของสตรีไม่ได้”
เธออยากรู้ในเรื่องนี้มากจริงๆ เพราะว่าเธอจะต้องช่วยเขาแก้ไขในเรื่องนี้ก่อนถึงจะสามารถเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อทุบกำแพงในหัวใจของเขาออกไป
“จะเรียกเช่นนั้นก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าในครั้งอดีตข้าเคยทำผิดมากๆ ต่อสตรีผู้หนึ่ง และนี่คือผลของการกระทำในวันนั้น..ข้ายินยอมรับความเจ็บปวดนี้เอาไว้เอง ไม่ได้ถูกคำสาปอย่างที่เจ้าเข้าใจ”
แต่เธอถูกคำสาปนี่..เธอไม่ยินยอมรับคำสาปพวกนั้น แต่ก็ต้องก้มหน้าก้มตาพบเจอกับความตายตามที่คำสาปร้ายได้กล่าวเอาไว้
“ข้า..ไม่อยากให้ท่านทรมาน อีกทั้งคนเราล้วนแล้วแต่ทำผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น สตรีผู้นั้นอาจจะให้อภัยท่านแล้วก็ได้ เพราะอย่างนั้นในตอนนี้ท่านคอนราดเองก็ควรจะให้อภัยตัวเองด้วยนะคะ..”
มือของอาเมเลียแตะลงไปบนแก้มของคอนราดเบาๆ
“อย่ามัวแต่โทษตัวเองอยู่เลย ชีวิตคนเรานั้นสั้นมากกว่าที่คิดเอาไว้..”
เขามองหน้าเธอด้วยดวงตาสีอำพันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“เด็กน้อยเช่นเจ้ากำลังกล่าวคำว่าชีวิตแสนสั้นออกมาอย่างนั้นหรือ อาเมเลียเจ้าอายุยังน้อย เส้นชีวิตของเจ้านั้นยังคงยืนยาวและยาวไกล..”
เธอขบกัดริมฝีปากเบาๆ มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นนะสิ เพราะอีกไม่กี่ปีเธอจะต้องตายแล้ว หากไม่ได้แต่งงานกับเขาน่ะ