7.ความรักที่เลือกเอง
อาเมเลียปรายตาออกไปมองที่ด้านนอกหน้าต่างของรถม้า เธอแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงท่าทางที่ปฏิเสธไม่ได้ของท่านคอนราด
ปิดเทอมนี้หลังจากที่เธอเรียนจบแล้ว เราจะได้ออกไปล่องเรือสำเภาด้วยกัน..แน่นอนว่าแค่สองคนเพราะเธอไม่คิดว่าบาสเตียนจะมีอารมณ์สุนทรีย์ถึงขนาดที่เขาอยากจะล่องเรือกับเธอ
“เจ้าคงไม่ได้คิดจะไปล่องเรือหรอกใช่ไหมบาสเตียน”
บาสเตียนถอนหายใจออกมาเบาๆ
“แน่นอนอาเมเลีย ข้าไม่เอาเวลาอันมีค่าของตัวเองไปทำอะไรที่มันไร้สาระอย่างเช่นการล่องเรือชมเกลียวคลื่นอะไรแบบนั้นหรอกนะ เรียนจบทั้งที ข้าจะต้องอยู่กับสาวๆ ที่ข้าคบหาด้วย..”
ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่คิดเท่าไหร่นักหรอก นี่แหละบาสเตียนเพื่อนรักของเธอน่ะ
“ว่าแต่เจ้าเอาจริงใช่ไหมเรื่องท่านพ่อน่ะ อาเมเลียหากเป็นท่านพ่อเจ้าไม่สามารถที่จะล้อเล่นหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนใจได้แล้วนะ ท่านไม่ใช่คนที่เจ้าจะเล่นสนุกด้วยได้”
“ข้าไม่มีทางล้อเล่นหรอกบาสเตียน ครั้งนี้ข้าจริงจังจริงๆ”
เธอไม่คิดเอาเรื่องความตายของตัวเองไปล้อเล่นหรอก ไม่มีทาง..
บาสเตียนหรี่ตามองหน้าของอาเมเลียเล็กน้อย กับคนที่แล้วก็กล่าวเช่นนี้..เขาอยากจะถามถึงเรื่องของเอ็ดมันด์อยู่เหมือนกัน แต่ท่าทางของอาเมเลียมันทำให้เขาไม่อยากจะไปปลุกเร้าอารมณ์โกรธของเธอ
เมื่อรถม้าของแลนโซจอดเทียบที่ด้านหน้าของอคาเด็มมี่ อาเมเลียและบาสเตียนก็เดินลงมาจากรถม้า เมื่อก่อนเคยมีข่าวลือว่าเขาและอาเมเลียคบหากันในความสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่อาเมเลียก็ไปจัดการคนปล่อยข่าวลือจนหมอนั่นต้องลาออกจากโรงเรียน ถึงแม้ว่าเรื่องเรียนอาเมเลียจะได้ที่หนึ่งมาตลอด แต่เรื่องความร้ายกาจและความไม่ยอมคน อาเมเลียก็ถูกท่านอาจารย์เรียกไปต่อว่าบ่อยๆ เหมือนกัน
นี่แหละที่ทำให้เขามาเป็นเพื่อนกับเธอเพราะว่าอาเมเลียคือยัยตัวแสบยังไงล่ะ
“บาสเตียน ไม่บ่อยนักที่จะเห็นเจ้าเข้าเรียนก่อนเวลา เพราะอาเมเลียงั้นเหรอ ให้ตายสิข้าอยากจะมีสตรีงดงามไปปลุกถึงบ้านบ้างจังเลยนะ”
มาร์ตินกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ซึ่งโชคดีของหมอนี่มากๆ ที่อาเมเลียเดินออกไปแล้ว
“ช่วยไม่ได้นะมาร์ติน พอดีว่าพ่อของข้านั้นทั้งหล่อเหลาและเท่ระเบิด..พ่อของเจ้าไม่หล่อไม่เท่ก็แย่หน่อย”
บาสเตียนกล่าวพร้อมกับยักไหล่ขึ้นมาด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้
“แล้วเรื่องพ่อของข้ามันเกี่ยวยังไงกับอาเมเลีย?”
บาสเตียนไม่ได้ตอบคำถามนั้นเขาเดินไปนั่งท้ายห้องซึ่งเป็นที่ประจำของเขาและเหล่าสหายที่เป็นบุรุษ
ส่วนอาเมเลียนางนั่งที่ด้านหน้า ไม่ใช่เพราะว่านางตั้งใจเรียนแต่เพราะว่าเทอมที่แล้วนางมีเรื่องกับเพื่อนที่นั่งหลังห้องด้วยกัน เพราะอย่างนั้นท่านอาจารย์ถึงได้ลงโทษนางด้วยการให้นางไปนั่งด้านหน้ายังไงล่ะ
อาเมเลียเปิดหนังสือออกมาเพื่อเตรียมเรื่องการเรียน เธอพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียดเพราะหนังสือทั้งหมดนี้เธอเคยเรียนมาสี่ครั้งแล้ว และเธอได้คะแนนเต็มตั้งแต่ครั้งแรกเพราะอย่างนั้น การเรียนที่อคาเด็มมี่มันถึงเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับอาเมเลีย
“ที่นั่งข้างๆ เจ้ายังว่างอยู่รึเปล่า”
เธอเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อมองหน้าเจ้าของเสียงที่กำลังทำท่าทางจะนั่งลงข้างๆ เธอ และหมอนั่นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเมลวิน..อดีตสามีคนแรกของเธอเอง
“ไม่ว่าง เดี๋ยวจะมีคนมานั่ง”
เธอกล่าวพร้อมกับยกเท้าขึ้นมาวางพาดเอาไว้ ส่วนเมลวินเขาก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหาที่นั่นที่อื่น เขาไม่เข้าใจการกระทำของอาเมเลียเลย ตั้งแต่ที่งานเลี้ยงพิธีบรรลุนิติภาวะของนางแล้ว เมื่อก่อนนางสนิทสนมกับเขาไม่แตกต่างจากบาสเตียนเลยแล้วทำไม ในช่วงนี้เธอถึงได้เว้นระยะห่างกับเขาเช่นนี้กันนะ
“ขอบคุณนะอาเมลที่จองที่นั่งเอาไว้ให้”
เมลวินยังไม่ทันจะเดินออกไป เอ็ดมันด์ก็ยกขาของอาเมเลียขึ้นมาแล้วนั่งลงโดยไม่รอให้เธอได้กล่าวปฏิเสธ
อาเมเลียอยากจะฝังตัวเองบนพื้นแล้วหายไปจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดพวกนี้เหลือเกิน หากว่าเธอเลือกได้ เธออยากจะย้อนเวลาไปก่อนหน้านี้สักปี ก่อนที่เธอจะรู้จักกับทั้งเมลวินและเอ็ดมันด์..แต่ในเมื่อมันเลือกไม่ได้ก็มีแต่ต้องเผชิญหน้ากันไปทั้งแบบนี้
เธอบอกพี่อาริไปแล้วว่าเธอเคยเลือกที่จะทำตามหัวใจตัวเองมาแล้วครั้งหนึ่ง..
นั่นคือการเลือกครั้งที่สามของเธอ เพราะการย้อนเวลากลับมาทุกครั้งที่ตายมันทำให้เธอโกรธและโมโหตัวเองมากเหลือเกิน เธอพยายามตามหาทายาทของลาซาลาซแต่ก็ไม่พบ และเมื่อเหลือเวลาอีกสามปีก่อนที่เธอจะอายุ 25 อาเมเลียจึงตัดสินใจแต่งงานกับเอ็ดมันด์ บุรุษที่เธอรัก
เธอชอบเขาตั้งแต่ที่เรายังเรียนอยู่ที่อคาเด็มมี่ในปีแรก เธอมองเขาเพียงคนเดียวมาโดยตลอด และเธอรู้ว่าเอ็ดมันด์ตั้งใจเรียนเพราะอย่างนั้นเธอจึงหาเรื่องตีกันหลังห้องเพื่อที่จะได้ย้ายมานั่งหน้าห้องกับเขา
การแต่งงานกับคนที่ตัวเองรักนั้นมันควรจะมีความสุขที่สุดในความคิดของเธอ เพราะที่ผ่านมาทั้งสองครั้งก่อนหน้า เธอแต่งงานกับคนที่มีความน่าจะเป็นลาซาลาซ และหลังจากการแต่งงานตามหน้าที่มันทรมานมากๆ เลยทีเดียว
เพราะอย่างนั้นในใจของอาเมเลียจึงคาดหวังกับการแต่งงานที่เธอเลือกเองมากๆ ว่ามันจะมีความสุข
เอ็ดมัน โนลันได้รับยศท่านเคาน์มาจากบิดาและการสนับสนุนจากท่านพ่อของเธอ เขายังคงทำดีกับเธอเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด เขาโอบกอดเธอในยามราตรี จับมือควงแขนและพาเธอออกมา อาเมเลียมีความสุขมากๆ และเธอดีใจจนถึงขนาดเฝ้าวิงวอนร้องขอต่อพระเจ้า ว่าเธออยากจะให้คำสาปพวกนั้นมันหายไป เธออยากมีชีวิตยืนยาวเพราะว่าเธออยากจะอยู่กับเอ็ดมันด์ไปเรื่อยๆ อยากมีความสุขอยากได้รับความรักจากเขาตลอดไป
จนวันเกิดในอายุ 24 ของเธอ เอ็ดมันด์จัดงานเลี้ยงที่แสนยิ่งใหญ่ให้เธอ มันคืองานวันเกิดที่อาเมเลียจดจำไปตลอดกาล เพราะว่าในคืนวันนั้นเขาสังหารเธออย่างเลือดเย็น..
เขาพาสตรีผู้หนึ่งเข้ามาในคฤหาสน์ในคืนที่แขกทุกคนกลับไปแล้ว
“อาเมเลียตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน..ข้าไม่เคยรักเจ้าเลย มันคืองานแต่งงานที่ข้าไม่ได้ต้องการเลยสักนิด ข้าถูกทั้งพ่อตัวเองและท่านพ่อของเจ้าบังคับ ข้าไม่เคยรักเจ้าและทรมานทุกครั้งที่จะต้องโอบกอดเจ้าในทุกคืน ข้ารู้สึกขยะแขยงในทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มที่แสนดีใจของเจ้า เจ้าคงจะมีความสุขมากเลยอย่างนั้นสินะ กับการบังคับให้ข้าแต่งงานด้วย..สำหรับข้า ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับเจ้ามันเหมือนนรกเลยอาเมเลีย เพราะอย่างนั้นนี่คือสิ่งแรกที่ข้าจะได้ทำตามใจตัวเองนั่นคือการสังหารเจ้า..”
ครั้งนั้นเธอย้อนเวลากลับมาเร็วมากกว่าครั้งอื่นถึงหนึ่งปี เพราะเธอถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของเอ็ดมันด์..