4
4
“หนูเปล่านะคะ” ไพรหอมปฏิเสธปากคอสั่นอย่างน่าเวทนา คนที่อยู่ในร้ายก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ เลยได้แต่ดูอยู่เงียบๆ เพราะยึดคติที่ว่า ไม่ใช่เรื่องตัวเอง อย่าไปสอด เพราะจะเดือดร้อนเปล่าๆ ดีไม่ดีโดนไล่ออกไม่รู้ตัว งานยิ่งหายากๆ อยู่ด้วย
“เร่เข้ามาๆ ดูนังเด็กไร้ยางอายนี่เร็ว จะขโมยของแล้วยั่วผัวฉันอีก อย่าได้มีใครหลวมตัวรับเข้าทำงานนะ นังเด็กนี่มันร่านจะจับสามีชาวบ้าน ใครมีลูกหลานผู้ชายก็ให้ระวัง ได้ไปเป็นสะใภ้มีแต่อัปมงคล”
เจ๊หงส์เท้าสะเอวด่าฉอดๆ ทุกคนมามุงดูก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก ไพรหอมร้องไห้โฮ ก่อนจะวิ่งหนีออกมาอย่างอับอาย จะไปแจ้งความว่าโดนทำร้ายก็ไม่กล้า เพราะอิทธิพลของเสี่ยเล้งกับเจ๊หงส์คับจังหวัด เธอคงได้เดือดร้อนอีกเป็นแน่
ไพรหอมกลับถึงบ้านด้วยสภาพสะบักสบอมก็ร้องไห้อย่างหนักจนตาบวมช้ำ ซุกตัวอยู่ใต้ต้นไทรข้างๆ บ้านไม้หลังเก่าๆ น้ำตาที่ไม่มีวันเหือดแห้งไหลบ่าออกมาไม่ขาดสาย เธอสะอึกสะอื้น ใจก็คิดถึงยายแทบขาดใจ
“ยายจ๋า... หนูเหนื่อยจังเลย ทำไมใครๆ ก็ไม่รักหนู แม่ก็ทิ้งหนูไป หนูจะอยู่ไปเพื่ออะไรกัน ทำไมชีวิตหนูไร้ค่าแบบนี้” ร่างเล็กๆ บอบบางเพราะอดๆ อยากๆ เดินขึ้นบ้าน ในครัวไม่มีอะไรกินเลย ข้าวสารก็ไม่มีกรอกหม้อ เธอไปทำงานไม่กี่วันก็ยังไม่ได้ค่าแรง ร่างเล็กๆ นั่งกอดเข่าคิดถึงยาย เธอเอาเสื้อผ้าของยายมากอดหอม นอนขดตัวลีบเล็กอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะเผลอหลับไปในสภาพนั้นด้วยความอ่อนเพลีย
ไพรหอมรู้สึกตัวตื่นอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงมือของใครหลายคนป้วนเปี้ยนอยู่กับเนื้อตัวของเธอ เธอกรีดร้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นหนุ่มๆ ในหมู่บ้านอยู่รอบๆ ตัว
“น้องหอมจ๋า... ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ” พวกมันมองเธออย่างหื่นกระหาย เธอดิ้นหนีแต่จนมุมเพราะโดนพวกมันล้อมเอาไว้รอบตัว
“อย่าทำอะไรหอมเลยนะ หอมไหว้ล่ะ อย่าทำหอมเลย” ไพรหอมยกมือไหว้ปรกๆ ด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจ เธอส่ายหน้าไปมาอย่างหวาดหวั่น ทำไมผู้ชายพวกนี้ถึงจ้องแต่จะทำร้ายเธอ ปลุกปล้ำขืนใจเธอ น้ำตาเด็กสาวไหลพรากๆ เมื่อก่อนมียาย ยายจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอ แต่ตอนนี้เธอตัวคนเดียว ไร้คนปกป้อง คนพวกนี้ก็ไม่ต้องคิดเกรงใจใครอีก
“กรี๊ด!!! อย่าทำหอมนะ ปล่อยหอมไปเถอะ” ไพรหอมกรีดร้องสุดเสียงเมื่อเสื้อผ้าโดนกระชากจนขาดวิ่น ผู้ชายพวกนั้นเห็นไพรหอมแล้วอยากร่วมรักกับเธอ เด็กสาวหน้าตาน่ารัก สวยหวาน ผิวขาวผุดผ่อง เนื้อตัวหอมกรุ่น แค่เดินเฉียดใกล้ก็ทำให้ตัณหาในกายลุกโชน
แคว่ก!!! มือหยาบกร้านของพวกมันตะปบเข้ามาขยำขยี้อย่างหยาบคาย
“อย่าทำหอม หอมขอร้อง หอมกลัวแล้ว อย่าทำหอมเลย ฮื่อๆๆ ปล่อยหอมไปเถอะนะ” ไพรหอมสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ทำไมเกิดมามีแต่คนรุมทำร้าย ผู้ชายเห็นเธอเป็นไม่ได้ ชอบลวนลามไม่ว่าจะทางสายตาหรือทางวาจา ไม่เว้นแม้แต่ทางร่างกาย
“เป็นเมียพวกพี่เถอะน้องหอม น้องหอมสวยหวานเหลือเกิน สวยหวานไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว ถ้าน้องหอมเป็นเมียพวกพี่ รับรองว่าไม่ต้องทำอะไร พวกพี่จะหาเลี้ยงเอง” พวกมันพูดอย่างหื่นกระหาย ตัณหาราคะในกายลุกโพลง ต้องการครอบครองเด็กสาวแสนสวยที่กระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนในกายชาตรีให้พลุ่งพล่าน
“ไม่นะ อย่าทำหอมเลย อย่าทำหอมเลยนะ ฮึกๆๆ ฮือๆๆ” ไพรหอมหวาดกลัวกรีดร้องเมื่อโดนจับขึงเอาไว้ หรือว่าเธอจะไม่รอด!!!
ปัง ปัง ปัง ปัง!!!
เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ชายหนุ่มในหมู่บ้านถูกกระสุนฝังเข้าที่ขาบ้าง แขนข้าง แตกฮือกระจัดกระจาย เสียงกัมปนาทราวฟ้าผ่าของพันศึกดังกึกก้องไปทั่วบ้านไม้หลังซอมซ่อ
“จัดการพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือซาก” พันศึกสั่งลูกน้องเสียงเข้ม ก่อนถอดเสื้อนอกของตัวเองออกคลุมร่างเล็กเอาไว้ ร่างเล็กกรีดร้องดีดดิ้นหนี ในขณะที่พันศึกอุ้มขึ้นมาสู่อ้อมแขน
“ไม่เป็นอะไรแล้ว หยุดดิ้นได้แล้ว” เขาทำเสียงดุ น้ำเสียงโล่งใจ แม้จะให้คนเฝ้าเอาไว้ แต่เพราะวันนี้เขาต้องการมารับเธอตามสัญญา ลูกน้องจึงกลับไปก่อนเพราะมีงานด่วน นี่ถ้าเขามาช้าไปกว่านี้ เธอคงไม่เหลือชิ้นดี
“คุณ!!!” เธอยอมรับว่าดีใจมากที่มีคนมาช่วย แต่ตกใจที่เป็นเขา เขาหายเงียบไปหลายวัน ทำเหมือนไม่เคยเป็นเจ้าหนี้ใจร้ายที่คอยตามทวงหนี้ แต่จู่ๆ เขาก็โผล่มา
ไพรหอมกอดคอเขาเอาไว้แล้วซบหน้ากับซอกคอแกร่ง เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น ดีใจที่เขามาช่วยทัน เธอรู้สึกเป็นหนี้ชีวิตของเขา จะด้วยอะไรก็ตามที่เขามาช่วย เพราะเธอติดหนี้หรือแม่เธอติดหนี้ แต่ถ้าไม่มีเขา ป่านนี้เธอคงแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี เธอรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเขาจริงๆ
พันศึกมองตามร่างที่โดนยิงเลือดไหลไปตามพื้นด้วยดวงตาเหี้ยมเกรียม เขายิ้มร้าย ลูกน้องของพันศึกจัดการเพียงครู่ก็จับทุกคนส่งตำรวจได้ อิทธิพลของเขาทำให้ไม่มีใครกล้าหือ
หลังจากนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองก็ไปขอประกันตัวลูกๆ พูดนั่นโน่นนี่โทษไพรหอมว่ายั่วยวน แต่พันศึกเป็นผู้มีอิทธิพลเขาร่ำรวย เขาจัดการไม่ให้ใครรอดไปได้ง่ายๆ ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทำให้ทุกคนหวาดกลัวไม่มีใครว่าไพรหอมเสียๆ หายๆ อีก แต่ไพรหอมไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้ เธอรู้แค่ว่าเขาเป็นคนจัดการคดีนี้ด้วยตนเอง
ส่วนเสี่ยงเล้งที่แสนจะเจ้าชู้ โดนเจ๊หงส์จับได้ว่าแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยอีก เมื่อสุดจะทน เจ๊หงส์เลยควักปืนออกมายิงเสียชีวิตตายคาที่ เจ๊หงส์ยอมถูกดำเนินคดี ส่วนกิจการที่บ้านก็ให้ลูกชายกับลูกสาวกลับมาดูแลต่อ
“เธอนี่เหมือนแม่ไม่มีผิด ยั่วผู้ชายให้หน้ามืดแห่กันมาปล้ำทั้งหมู่บ้าน ทั้งหนุ่มแก่ หนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่” พันศึกมองเหยียดๆ สายตาของเขาลุกวาบน่ากลัว เมื่อคิดได้ว่าเธอคงยั่วยวนผู้ชายพวกนั้น มันเหลือเชื่อจริงๆ ที่ผู้ชายเกือบทั้งหมู่บ้านจะนัดกันมาย่ำยีเธอแบบนี้
“ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น!” ไพรหอมอาจจะซาบซึ้งใจที่เขาช่วย แต่เขาก็ปากร้าย จิกกัดเธอตลอดไม่เคยว่างเว้น เด็กสาวถอนใจเฮือกๆ อธิบายอะไรไป ก็ไม่เคยมีใครฟังเธอเลย
“ฉันไม่เชื่อน้ำหน้าอย่างเธอ สายเลือดเดียวกัน ลูกไม้จะหล่นไกลต้นได้ยังไง คงไม่ต่างกันหรอก เป็นแม่เป็นลูกกันนี่ ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว” เขากระชากร่างเล็กมาหา มองอย่างเย้ยหยัน เหยียดหยาม ไพรหอมรู้สึกเสียใจที่หลงชื่นชมเขา ยังไงพันศึกก็คือเจ้าหนี้หน้าเลือดที่สุดในชีวิตของเธอ
“คุณจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่คุณ” ไพรหอมส่ายหน้าไปมา ไม่รู้จะอธิบายยังไงอีก ในเมื่อเขาปักใจเชื่อไปแล้ว
“เธอต้องไปกับฉันวันนี้ ข้าวของอะไรไม่ต้องเอาไป เอาเฉพาะเอกสารสำคัญไปก็พอ เสื้อผ้าเก่าๆ เหมือนผ้าขี้ริ้วพวกนี้ไม่ต้องเอาไปหรอก เดี๋ยวฉันบริจาคเศษเงินซื้อให้เธอเอง”
พันศึกกระชากเด็กสาวไปที่รถ ก่อนจะยัดเธอเข้าไปอย่างไม่ปรานี ไพรหอมเจ็บจนน้ำตาร่วง แต่ก็ไม่ปริปากบ่น เธอไปไหนไม่รอด เขาปากร้ายยิ่งกว่าอะไร เธอคงต้องทนให้ได้ ค่อยหาทางอีกที อาจจะหนีรอดไปจากเขาได้ ดีกว่าอยู่ที่นี่ เพราะนี่ก็ไม่ปลอดภัยยิ่งกว่า
“ขอหอมลายายเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ” เธอยกมือไหว้เขาเพื่อขอความเมตตา พันศึกนิ่งไป ไพรหอมจึงใช้โอกาสนั้นวิ่งกลับไปที่บ้านไม้เก่าๆ ผุๆ พังๆ ของเธออีกครั้ง เธอมองอย่างอาลัยอาวรณ์ น้ำตารินไหลอาบแก้มนวลจนภาพด้านหน้าพร่าไปหมด
“ไปได้แล้ว ฉันเสียเวลากับเธอมามากพอแล้ว” น้ำเสียงดุๆ ของเจ้าหนี้รายใหญ่ทำให้ไพรหอมจำต้องผละจากหน้าบ้านไม้เก่าๆ ของตัวเอง เธอไม่รู้ตัวสักนิดว่าโดนจับกดเข้าไปในรถตอนไหน