3
3
“ฉันไม่ไป อย่ามายุ่งกับฉัน” ไพรหอมปฏิเสธพันศึกด้วยน้ำเสียงแข็งๆ ท่าทีของเธอเหมือนลูกแมวจนตรอก เลยได้แต่ขู่ฝ่อๆ แต่ไม่น่ากลัวสักนิด
“หนี้สินมากมาย เธอจะเอาปัญญาที่ไหน” น้ำเสียงของเขาเริ่มแข็งกร้าว ดวงตาหรี่มองเธออย่างดูถูก
“ฉะ... ฉันขอหาเงินก่อนได้ไหม ขอให้คุณผัดผ่อน และขอบคุณที่คุณช่วยจัดงานศพให้ยาย” เธออ้อนวอนเขา ยกมือขึ้นไหว้ปรกๆ ได้สติเมื่อเผลอทำเสียงแข็งกับเขาไปก่อนหน้า เธอไม่ควรก้าวร้าวหรือว่าเขารุนแรง ถ้าเขาโกรธขึ้นมา เธออาจจะโดนเขาหักคอเอาได้
“ได้... ฉันให้เวลาเธอสามวัน ถ้าเธอไม่เอาเงินมาคืนฉัน ฉันจะจัดการเธออย่างสาสม” ประโยครับคำสั้นๆ ของเขาเหมือนจะทำให้เธอยิ้มออก แต่ประโยคต่อมา ทำให้เหมือนโดนผลักตกนรกทั้งเป็น
“สามวัน!!! ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ” เธอเอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงตกใจ สามวันเธอจะไปหาเงินที่ไหนมาคืนเขา
“ฉันให้แค่สามวัน ถ้าไม่มีก็เตรียมตัวเก็บของไปอยู่กับฉันได้เลย” พันศึกยื่นคำขาด ก่อนจะผลักร่างเล็กจนล้ม
“โอ๊ย!” เธอร้องเสียงหลง กุมสะโพกเอาไว้ แต่เขาไม่ไยดีหรือคิดจะช่วย เดินจากไปพร้อมกับลูกน้องอีกเป็นพรวน
ไพรหอมร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก บางทีเธอก็อยากตาย เกิดมาทำไมก็ไม่รู้ เป็นภาระให้ยาย แม่ก็ไม่ต้องการ ยายต้องมาป่วยเพราะส่งเสียเธอเล่าเรียน เธอเรียนไม่ค่อยเก่งขอทุนเรียนดีไม่ได้ พอขอทุนยากจนก็มีคนมาใส่ร้ายว่าเธอมีความประพฤติไม่เหมาะสม มั่วผู้ชาย เธอไม่รู้ว่าใครไปฟ้องอาจารย์ แต่เธอไม่เคยทำตัวแบบนั้น นักเรียนชายในโรงเรียนชอบหาเรื่องลวนลามเธอ แม้แต่ครูพละก็มองเธอตาหวานเยิ้ม เธอกลัวผู้ชายทุกคนและผู้ชายที่ทำให้เธอกลัวที่สุดก็คือเขา “พันศึก หาญวรกร”
เด็กสาวกลับบ้านด้วยความเศร้าหมอง เธอคิดว่าจะลองไปสมัครงานดู ทำอะไรก็ได้แล้วแต่เค้าจะจ้าง น่าจะมีงานให้เธอบ้าง
“ยายจ๋า เป็นกำลังให้หอมด้วยนะจ๊ะ หอมเหนื่อยล้า ท้อแท้เหลือเกิน” เธอจุดธูปไหว้ยาย ขอให้ท่านปกป้องคุ้มครองเธอด้วย เธอเริ่มกลัวที่จะอยู่คนเดียว สายตาของผู้ชายในหมู่บ้านทำให้เธอผวา
ไพรหอมนอนกอดตัวเองแล้วร้องไห้จนหลับไป ในฝันเธอฝันว่ายายมาหา ท่านให้เธอนอนหนุนตัก ร้องเพลงกล่อมเธอเหมือนเด็กๆ เด็กสาวนอนหลับไปทั้งรอยยิ้ม ภัยร้ายที่คืบคลานเข้ามาจากผู้ชายที่ไม่ประสงค์ดีหายไปเพราะมีคนคอยปกป้องดูแลเธออยู่ แต่เธอไม่รู้...
ไพรหอมไปสมัครงานอย่างใจคิด เฒ่าแก่ร้านขายของรับเธอเข้าทำงาน ให้ช่วยขายของยกของ แล้วแต่เขาจะสั่ง แม้งานที่ทำจะเหนื่อย แต่ก็เป็นน้ำพักน้ำแรง ได้มาด้วยความสุจริต เธอจึงภูมิใจกับมัน ระยะทางที่ไกลทำให้เธอต้องปั่นจักรยานไปตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนจะเปิดร้านก็แปดโมง เธอมาทันเวลาพอดี ทำงานช่วยทุกคนอย่างแข็งขัน ไม่มีบ่นไม่มีพัก ขอแค่มีข้าวกิน มีเงินไว้ใช้หนี้ก็พอแล้ว
“หนูหอมกินข้าวกับไข่ต้มอีกแล้วเหรอนี่ เมื่อวานก็ไข่ต้ม ไม่อยากกินของดีๆ หรือไง” เสี่ยเล้งเจ้าของร้านคอยสอดส่ายสายตามองลูกจ้างคนใหม่ตาเป็นมัน ไพรหอมเองก็คอยระวังตัว เธอพยายามอยู่ใกล้ๆ เจ๊หงส์เจ้าของร้านเอาไว้ ถึงจะโดนจิกด่าก็ไม่เป็นไร ขอแค่ไม่อยู่ใกล้เสี่ยเล้งก็พอ เพราะเธอไม่ไว้วางใจสายตานั้น อีกอย่างเจ๊หงส์เองก็ดูขี้หึงเอาการ ถ้าอยากทำงานอยู่ที่นี่อย่างเป็นสุข เธอต้องไม่ทำให้เจ๊หงส์โกรธหรือไม่พอใจ และถ้าอยากปลอดภัยจากเสี่ยลามก เธอก็ต้องยอมให้เจ๊หงส์โขกสับและอยู่ใกล้ๆ เจ้แกให้มากที่สุด เพราะเจ๊หงส์คือเกราะคุ้มภัยจากผู้ชายทั้งหลายได้ดีทีเดียว ใครเข้าใกล้เธอ โดนตวาดหมด
“หนูชอบกินแบบนี้ค่ะ” วันนี้เจ๊หงส์ออกไปทำธุระข้างนอก เธอพยายามไม่เข้าใกล้เสี่ยเล้ง แต่ก็เลี่ยงได้ยากเพราะอีกฝ่ายคอยแต่จะเข้ามากะลิ้มกะเหลี่ยเธออยู่ตลอดเวลา
“แต่ฉันอยากให้หนูได้กินอาหารดีๆ นี่นา ดูผิวพรรณของหนูสิ สวยหมดจด มาทำงานงกๆ แบบนี้เหนื่อยแย่ ยอมเป็นเมียฉันไหม รับรองว่านั่งกินนอนกิน มีบ้านมีรถ ไม่ต้องมาตรากตรำให้เหนื่อยแบบนี้แน่นอน” เสี่ยเล้งเสนอเงินและความสุขสบายให้เด็กสาว ร้อยทั้งร้อยอยากสบาย ไม่อยากทำงานงกๆ ให้เหนื่อย เขาเชื่อแบบนั้น
“หนูชอบทำงานสุจริตมากกว่าค่ะ” เธอถอยหนี มองอย่างหวาดระแวง หาทางหนีทีไล่เมื่อเห็นสายตาน่าขยะแขยงของเสี่ยใหญ่
“จะทำทำไมให้เหนื่อย แค่มาเป็นของเสี่ย รับรองเลยว่าจะไม่ให้ลำบาก มือของหนูจะได้ไม่หยาบกร้าน” เสี่ยเล้งตรงเข้ากอดรัด ตะโบมจูบอย่างหื่นกระหาย เขามองเด็กสาวมาหลายวันแล้ว รูปร่างหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู สวยหวานหมดจด ผิวพรรณ กลิ่นกาย จนอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของเด็กสาวคนนี้เพียงผู้เดียว ติดว่าเมียคู่ทุกข์คู่ยากของเขาคอยกีดกันเอาไว้ แต่วันนี้ถือว่าเป็นวันของเขา ทางสะดวกเพราะหล่อนออกไปทำธุระข้างนอก
“ปล่อยนะเสี่ย ปล่อยหนูนะ!” ไพรหอมดิ้นรนอย่างตกใจ เธอหยิบแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะทุบศีรษะของเสี่ยเล้งเต็มแรง
“โอ๊ย นังตัวดี พูดดีๆ ไม่ฟังใช่ไหม” เสี่ยเล้งกุมหัวที่โดนแจกันฟาดด้วยความเจ็บ เลือดไหลนองออกมาตามง่ามนิ้วทำให้เสี่ยใหญ่ตกใจ ดวงตาวาวโรจน์เพราะไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธคนอย่างเขาและทำร้ายกันขนาดนี้มาก่อน
“อะไรกัน! เสี่ยเป็นอะไร” เจ๊หงส์กลับมาพอดี รีบเอ่ยถามเมื่อเห็นสามีกุมศีรษะมีเลือดไหลซึมออกมาตามง่ามมือ สีหน้าเจ็บปวดของสามีทำให้เจ๊หงส์มองอย่างเป็นห่วงระคนตกใจ
“นังตัวดีนี่สิจะขโมยของ พอฉันจับได้มันเอาแจกันฟาดหัวฉัน” เสี่ยเล้งชี้ไปยังไพรหอม ตวาดด่าว่าโดยการปั้นน้ำเป็นตัวเพราะต้องการให้ตัวเองพ้นผิด
“จริงเหรอนังหอม แกคิดจะขโมยของอย่างนั้นเหรอ” คราวนี้เจ๊หงส์หันไปมองไพรหอมตาวาว ตวาดแว๊ดสีหน้าขึงโกรธน่ากลัว
“นะ... หนูเปล่านะคะเจ้ หนูไม่ได้ทำแบบนั้น” ไพรหอมสะดุ้งเมื่อสบตากับเจ๊หงส์ เธอหวาดกลัวจริงๆ เพราะในเวลานี้เจ๊หงส์ที่เคยคิดว่าแค่ขี้บ่นจุกจิกจู้จี้กลับมองเธอเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ คนเราเวลาโมโห ทำอะไรก็ได้โดยไม่ยั้งคิด
“พอโดนจับได้ว่าขโมยของ มันก็ยังยั่วยวนฉัน จะให้ฉันปล่อยมันไป แล้วไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่ฉันไม่เล่นด้วย มันเลยโกรธ ฟาดฉันขนาดนี้ แถมยังทำท่าจะหนีด้วย” เสี่ยเล้งใส่ไฟภรรยา หงส์เป็นคนขี้หึง ได้ยินแบบนั้นก็จิกหัวไพรหอมออกไปหน้าร้าน ก่อนจะตบไม่ยั้ง เพียะๆๆๆ
“หนูไม่ได้ทำนะเจ๊ อย่าทำหนูเลย โอ๊ย!” ไพรหอมยกมือไหว้ปรกๆ แรงของเจ๊หงส์เยอะมาก เธอสู้ไม่ไหวเลยโดนตบจนหน้าบวม ซีกแก้มมีแต่รอยฝ่ามือ ล้มหัวซุกหัวซุนก็ถูกจิกหัวกลับมาตบอีกเพื่อระบายความโกรธ
“นังเด็กร่าน มีคนเตือนฉันแล้วว่าอย่ารับแกเข้าทำงาน มาทำงานแค่ไม่กี่วัน แกก็มายั่วผัวฉันอย่างนั้นเหรอ หน็อย... อีเด็กเวร แถมยังคิดจะขโมยของอีก อดอยากมากหรือไง สารรูปอย่างแกไปทำงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับหรอก แกไสหัวไปเลย อย่ามาอยู่เป็นเสนียดร้านฉัน ไป๊! แล้วอย่าให้เห็นหน้าอีกนะ ไม่งั้นแกตายแน่ อีไพรหอม!”
เจ๊หงส์ไล่ไพรหอมเหมือนหมูเหมือนหมา ก่อนจะเอาน้ำใส่ถังมาสาดใส่ ไพรหอมเสื้อผ้ามอมแมม เปียกมะลอกมะแลก ผมเผ้ายุ่งเหยิง ร้องไห้จนตาบวม ส่วนเสี่ยเล้งมองอย่างสะใจ ในขณะที่ลูกน้องคนอื่นกำลังทำแผลให้ เสี่ยใหญ่คิดหยามเหยียด ปฏิเสธใครไม่ปฏิเสธ มาปฏิเสธคนอย่างเขา มันต้องเจอแบบนี้ หลังจากนี้คงยอมเขาง่ายๆ คนตัณหาจัดยังคิดจะเอาไพรหอมมาเป็นเมียน้อยเมียเก็บอยู่เช่นเดิม