5
5
จิตใจของเธอเลื่อนลอยและปวดหนึบไปหมด
เธอคิดว่าขืนอยู่ที่นี่ต่อไป อาจจะโดนฆ่าหมกป่าตายแน่ๆ เพราะได้รับสายตาอาฆาตแค้นจากคนในหมู่บ้าน เธอนั่งเบียดไปกับประตูรถ มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง สิ่งที่น่ารังเกียจตั้งแต่เด็กคือโดนล้อว่าแม่เป็นผู้หญิงหากิน เป็นนางบำเรอ เป็นเมียเก็บเสี่ย ท้องไม่มีพ่อทั้งแม่ทั้งลูก แต่เธอก็กำลังเจริญรอยตามมารดา แค่คิดก็อดสูใจยิ่งนัก
“ไม่ต้องทำสีหน้ารังเกียจฉันขนาดนั้นก็ได้ เพราะฉันเองก็รังเกียจเธอยิ่งกว่า” เขาว่าอย่างหมั่นไส้เมื่อเห็นอาการของเธอ
ไพรหอมเมินหน้าหนี ซุกซ่อนความหวาดกลัวและน้อยอกน้อยใจในชะตาชีวิตเอาไว้ ยายสอนว่าให้เธอสู้ อนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร เธอไม่รู้ได้ แต่เธอขอสู้ให้ถึงที่สุด ถ้าจะตายก็ขอให้ตายอย่างมีศักดิ์ศรี การคิดสั้นฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในชีวิต แม้ชั่ววูบเธอเคยคิด แต่มันเป็นบาปหนา จะติดตัวเธอไปในชาติหน้า
เด็กสาวคิดอย่างว้าวุ่นใจ จิตใจของเธอล่องลอยไปไกล ตกอยู่ในภวังค์ของตัวเอง และลืมเลือนการสนใจคนรอบข้างไปโดยปริยาย...
บ้านหลังใหญ่ที่พันศึกพามาพักเป็นบ้านรูปทรงแปลกตาที่แสนโอ่อ่าบ่งบอกถึงฐานะอันร่ำรวยของผู้เป็นเจ้าของ เธอมองอย่างตกตะลึง เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นบ้านหลังใหญ่แบบนี้มาก่อน แถมยังสวยจับตา อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและป่าเขา อากาศสดชื่นเหมือนตอนที่เธออยู่บ้านตัวเอง กลิ่นหอมของดอกไม้ก็ชวนให้สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เพราะหอมไปทั่วบริเวณ
“ถึงกับอึ้งไปเลยล่ะสิ ต่อไปเธอจะได้อยู่บ้านหลังใหญ่ๆ แบบนี้ ดีใจจนเนื้อเต้นสิท่า แม่ของเธอตอนเห็นบ้านหลังนี้ก็เนื้อเต้นเหมือนกัน แม่กับลูกไม่ต่างกันเลยสักนิด” ได้โอกาสเมื่อไหร่เขาไม่ปล่อยผ่าน พูดจาเยาะเย้ยถากถางเธอตลอด ไพรหอมยิ่งไม่ชอบหน้าเขามากขึ้นไปอีก
“ฉันแค่ไม่เคยเห็นบ้านหลังใหญ่ๆ แบบนี้ แต่ไม่ได้ดีใจหรอกค่ะ เพราะใจจริงไม่ได้อยากมาอยู่กับคุณตั้งแต่แรก” เธอตอบตามจริง ความตื่นเต้นในคราแรกหายไปเหลือแต่ความหดหู่เข้ามาแทนที่
“ปากดี!” เขาบีบคางสวยจนเธอนิ่วหน้า ไพรหอมพยายามแกะมือของเขาออก เขามองอย่างดูถูกก่อนจะสะบัดมือปล่อยเธอจนร่างเล็กถึงกับเซ เด็กสาวลูบคางไปมา รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งนัก เธออยากรู้นักว่าผู้ชายใจร้ายอย่างเขา เคยคิดที่จะสงสารคนอื่นบ้างไหม
“ตามาสิ” เขาไม่คิดสนใจ เดินนำเธอเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ไพรหอมมองตาม ก่อนจะค่อยๆ เดินตามเขาไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
พันศึกพาไพรหอมไปแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักในฐานะนางบำเรอ เขาหยามเกียรติเธอทำให้เธอต้องอับอายเพราะเขาไม่คิดจะอ้อมค้อมให้ต้องมีใครเดาสถานะของเธอกับเขา เด็กสาวไม่กล้ามองหน้าใคร ทุกคนคงมองเธออย่างสมเพชเวทนา ปนเปไปด้วยความอิจฉาริษยาและเหยียดหยามเหมือนๆ กับที่พันศึกมองเธอไม่ผิดเพี้ยน
ไพรหอมถอนใจเฮือก การอยู่ในบ้านของพันศึกเป็นเรื่องที่ทำให้เธอหนักใจ เพราะไม่รู้ว่าจะเจอเข้ากับอะไรอีก
“นี่ห้องของเธออยู่ติดกับห้องของฉัน” พันศึกเป็นคนพาเด็กสาวไปดูห้องด้วยตนเอง เพราะไม่อยากให้คนรับใช้ขึ้นมายุ่งวุ่นวาย
“ส่วนเสื้อผ้าในตู้ฉันจัดการให้แล้ว” เขาชี้ไปที่ตู้ริมผนังห้อง
“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้เขา เพราะติดเป็นนิสัยว่าถ้าได้อะไรจากใคร เธอจะยกมือไหว้ตลอดเป็นสิ่งที่ยายสอนเอาไว้ ท่านบอกว่าผู้ใหญ่จะได้เมตตา พันศึกชะงักไป ก่อนจะเบือนหน้าหนีอาการเจียมเนื้อเจียมตัวของนางบำเรอคนใหม่ของตัวเอง
“ห้องฉันอยู่ใกล้ๆ เธอนี่แหละ อยากมาเที่ยวชมไหมล่ะ” เขาดึงมือเธอให้ตามไประหว่างประตูเชื่อม ไพรหอมตาโตเมื่อห้องนี้สามารถทะลุไปยังห้องนอนของเขาได้
“เผื่อเธอจะเดินเข้ามาหาฉัน เวลาอยาก...” เขาก้มลงมากระซิบเสียงหยัน ไพรหอมหน้าชา สะบัดมือเขาออกอย่างรังเกียจ เขาหยาบคายและร้ายกาจที่สุด
“ฉันไม่เคยคิดจะทำแบบนั้น ถ้าคุณน่ะไม่แน่” แม้ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขา แต่เขาดูถูกเธอก่อน หลายๆ ครั้งเข้ามันเป็นความคับแค้นใจที่ต้องพูดอะไรออกไปบ้าง
“ฉันเหรอ?” เขาเลิกคิ้วยียวน ยื่นหน้าเข้ามาหาเธอ สายตาวิบวับจนไพรหอมใจสั่นระรัวไปหมด ทั้งกลัวทั้งหวาดหวั่น เม้มปากไม่แสดงอาการกลัวให้เขาได้รู้นัก
“รู้สึกว่าเธอจะปากดีเสียเหลือเกินนะ” เขาสาวเท้าเข้าหา เธอถอยหนี มองเขาอย่างหวาดๆ
“มันแน่นอนอยู่แล้ว” เธอทำใจดีสู้เสือตอบเขากลับไป พันศึกยักไหล่อย่างไม่ยีหระ
“เธอมาอยู่ในฐานะนางบำเรอของฉัน จำไม่ได้แล้วรึไง ฉันกลัวเธอจะเหงา รู้สึกเปลี่ยวก็เลยเสนอให้ รับรองว่าถึงอกถึงใจ ไม่ต้องอิดออดหรอกนะ อยากให้ฉันช่วยก็บอกได้ จะได้หายคัน ไม่ต้องมัวช่วยตัวเองเปล่าเปลี่ยวอยู่คนเดียวในห้อง เพราะที่นี่ไม่มีผู้ชายให้เธอคอยบำบัดความใคร่ได้ ถ้าจะมีก็คงเป็นฉันคนเดียวที่จะทำกับเธอแบบนั้นได้”
เพียะ!!! เธอตบเขาจนหน้าหัน จนซีกแก้มของเขาหันไปตามแรงตบ ทั้งโกรธทั้งอายที่โดนดูถูกสารพัด เขาแค้นแม่ของเธอ แต่กลับทำกับเธอเหมือนไม่ใช่คน
“คุณมันหยาบคายที่สุด ฉันเกลียดคุณ” เธอพูดอย่างคับแค้นใจ
“เกลียดฉันก็ดีแล้ว อย่ารักฉันเข้าล่ะ เพราะฉันไม่มีวันรักผู้หญิงอย่างเธอแน่นอน” เขาลูบแก้มที่โดนตบไปมา ใช้ลิ้นดุนดันกระพุ่งแก้มตัวเอง ก่อนจะกระชากเธอมาหา พูดเสียงดุดันชิดใบหน้าของเธอ “อย่าอวดดีกับฉันอีก”
“ฉันไม่มีวันรักคุณแน่นอน คนใจร้ายแบบคุณไม่คู่ควรที่จะมีใครรัก” เธอกล้าต่อปากต่อคำกับเขาเหมือนคนจนตรอก ยังไงก็ต้องหันหน้าเข้าสู้
“ปากดีนัก ฉันอยากจะลองชิมว่าผู้หญิงปากดีจะรสชาติเป็นยังไง” เขาผลักเธอไปที่เตียงกว้าง ก่อนจะจัดการปลดกระดุมออกมาอย่างกระแทกกระทั้น สายตาของเขาร้อนแรงไปด้วยเพลิงโทสะและเพลิงสวาทที่รุนแรงเกินหักห้ามใจ
“ไม่นะ อย่าทำอะไรฉันนะ” ไพรหอมผวา เธอคลานหนีแต่เขาดึงเท้าเล็กๆ เอาไว้ กระตุกทีเดียวเธอก็หน้าคะมำไปกับพื้นเตียง กรีดร้องสุดเสียงด้วยความตระหนก
พันศึกยอมรับลึกๆ ว่าเธอเป็นผู้หญิงเท้าสวย เท้าเล็กๆ เหมือนเด็ก ผิวเธอก็ขาวเนียนนุ่ม กลิ่นหอมของสาบสาวนั่นอีก ทำให้เขาตื่นตัวอย่างรุนแรง ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนทำให้เขารู้สึกตื่นเร่าแบบนี้มาก่อน แม้ไพรหอมจะอยู่ในป่าในเขา ที่บ้านก็แร้นแค้น แต่เนื้อตัวของเธอผุดผ่องไม่เหมือนสาวชาวบ้านธรรมดา แม้จะผอมไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร เขาจะบำรุงให้เธออวบอิ่มขึ้นเอง
“นางบำเรอก็ต้องซ้อมทำหน้าที่กันหน่อยสิ จะได้ทำหน้าที่ให้ดีๆ ต่อไปในอนาคต ฉันเองไม่รู้จะเบื่อเธอเมื่อไหร่ ถ้าเบื่อแล้วเธอไม่ต้องแกล้งดีดดิ้นหรือยั่วฉันอีก เพราะตาฉันก็ไม่แลเธอ แต่ตอนนี้เอาใจฉันไว้มากๆ ฉันอาจจะใจดีให้เงินเธอไปตั้งตัว ขายของเก่าประทังชีวิตต่อไปในอนาคตข้างหน้า” คำพูดเขาเจ็บแสบเหมือนน้ำกรดราดรดในใจเธอ ไพรหอมถึงกับสะอึก เกลียดเขาจับใจ
“ขอให้คุณเบื่อฉันเร็วๆ ฉันจะได้ไปจากที่นี่ ไปให้พ้น” เธอประกาศให้เขารับรู้ว่าเธอเองก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่นักหรอก
“ปากดี พอฉันเบื่อแล้วคงไปทำอาชีพเก่าของแม่เธอล่ะสิ” เขาหยามเหยียดกดเธอให้จมธรณี ไพรหอมมองเขาอย่างโมโหปนเกลียดชัง
เพียะ!!! เธอตบเขาอีก ตบเขาจนหน้าหัน เขาทั้งหยาบคาย ป่าเถื่อนและชั่วช้า