ตอนที่ 2
อาเสือเป็นผู้ชายที่หล่อมาก... ความตกใจและดีใจทำให้หญิงสาวออกอาการเงอะงะเล็กน้อยจนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปชั่วขณะ ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไรต่อจากนั้น โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ฉันคงต้องขอตัวก่อน... เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน”
ร่างสูงกดรับโทรศัพแล้วเดินจากไป เสียงหวานของคนต้นสายที่แว่วออกมาทางโทรศัพท์ ทำให้ดอกแก้วพอจะเดาได้ว่าคนโทรมาอาจจะเป็นแฟนของเขา เพราะป้าอิ่มบอกว่าพ่อเลี้ยงชาติพยัคฆ์ยังโสด แม้จะมีผู้หญิงมากมายมาสนใจ แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดใจรับผู้หญิงคนไหนอย่างจริงจัง
ดอกแก้วมองตามร่างสูงใหญ่ตาละห้อย ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายในฝันและเทพบุตรในแบบที่หล่อนแอบจินตนาการเอาไว้ก็คือ ‘อาเสือ’ คนนี้นี่เอง เขาตรงสเปคหล่อนสุดๆ
ตอนแรกนึกว่าเขาจะแก่กว่านี้ ที่ไหนได้... อาเสือยังดูหนุ่มแน่นและหล่อล่ำเร้าใจ เขาทำให้หัวใจของหล่อนกระตุกวูบตั้งแต่วินาทีแรกเห็นหน้า
ชาติพยัคฆ์เดินลับไปแล้ว ทว่าภาพใบหน้าสุดหล่อเหลาคมคร้ามของเขายังติดตรึงอยู่ในความรู้สึกของหล่อนไม่เลือน
บ้าจริง... ดอกแก้วไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองเกิดอาการน้อยใจและนึกหวงแหนผู้ชายคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่หล่อนเพิ่งเจอหน้าเขาเป็นครั้งแรก... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกของหล่อนกันแน่?
ดอกแก้วเท่านั้นที่รู้ดีว่าแม้หล่อนจะเจอหน้าเขาเพียงไม่กี่นาที แต่ในความรู้สึกของหล่อนกลับคุ้นเคยกับชื่อของเขามานาน... เหมือนรู้จักกันมาทั้งชีวิต
ก็จะไม่ให้คุ้นเคยได้อย่างไร เพราะว่าตลอดยี่สิบปีที่เขาอยู่เบื้องหลังการอุปการะเลี้ยงดูหล่อน ชื่อของ ‘ชาติพยัคฆ์’ หรือ ‘อาเสือ’ คนนี้วนเวียนอยู่ในการรับรู้ของดอกแก้วมาโดยตลอด
ตอนใกล้ค่ำของวันเดียวกัน
“หนูแก้วจะไปไหนคะ”
ป้าอิ่มรีบท้วง เมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าว่าจะออกไปข้างนอก
“แก้วนัดเพื่อนเอาไว้ค่ะป้า... เอกกำลังขับรถมารับ ตอนนี้มาถึงหน้าประตูไร่แล้วค่ะ”
ดอกแก้วหันมาตอบป้าอิ่ม
“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชายคะ”
ป้าอิ่มทำหน้าครุ่นคิด ชื่อ ‘เอก’ บอกชัดเจนว่าต้องเป็นผู้ชาย นี่ดอกแก้วลืมไปหรือยังไงว่าพ่อเลี้ยงชาติพยัคฆ์ห้ามไม่ให้หล่อนคบเพื่อนผู้ชาย
“ผู้ชายค่ะ”
ดอกแก้วตอบตามตรง คำพูดที่ได้ยินถึงกับทำให้ป้าอิ่มยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ
“ตายแล้ว... ไม่ได้นะคะคุณแก้ว... หนูจะไปกับเพื่อนผู้ชายไม่ได้นะคะ เพราะว่าถ้ารู้เข้าคุณเสือเอาตายแน่ๆ”
ดอกแก้วทำหน้าตกใจ คำว่า ‘เอาตาย’ ฟังดูน่ากลัวเหลือเกิน แล้วป้าอิ่มยังแสดงอาการหวาดกลัวออกมาขนาดนั้น ราวกับว่าอาเสือคนนี้เป็นยักษ์เป็นมารหรือไม่ก็ซาตานยังไงยังงั้น
“ทำไมล่ะคะป้าอิ่ม... แก้วไปไม่นานหรอกค่ะ เพื่อนแก้วกำลังมีปัญหาต้องการคำปรึกษา”
หญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัดกับกฏเกณท์ในการเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ หรือว่ามีบางอย่างที่หล่อนไม่เคยรู้มาก่อนว่าชาติพยัคฆ์เป็นคนยังไง? ไม่งั้นป้าอิ่มก็คงไม่เตือนด้วยสายตาหวาดๆ
“อย่าบอกนะว่าถ้ารู้ว่าแก้วออกไปกับผู้ชายแล้วอาเสือจะฆ่าแก้ว”
หญิงสาวกล่าวด้วยอารมณ์ประชดประชันน้อยๆ
“ก็อาจเป็นได้ค่ะ”
สีหน้าของป้าอิ่มบอกว่าไม่ได้พูดเล่น
“...”
ดอกแก้วนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ป้าอิ่มรีบเอ่ยอีกประโยคตามมา
“เลขาของคุณเสือไม่ได้บอกหรือคะว่าในระหว่างที่เขาอุปการะหนู... ห้ามหนูมีแฟน... ห้ามหนูคบเพื่อนชาย”
คำพูดนั้นสะกิดใจของดอกแก้วอย่างแรง
อันที่จริงเรื่องนี้หล่อนรู้มาตลอด และยังรู้สึกติดใจเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ว่าเหตุใดพ่อเลี้ยงชาติพยัคฆ์เจ้าของไร่ล้อมตะวันจึงห้ามไม่ให้หล่อนคบหากับผู้ชายคนไหน ในระหว่างที่เขายังทำหน้าที่เป็นผู้อุปการะส่งเสียหล่อน
“แก้วรู้ค่ะ... แต่สักวันแก้วก็ต้องออกไปใช้ชีวิตของแก้วเองไม่ใช่หรือคะ วันหนึ่งแก้วก็คงต้องมีครอบครัว ถ้าแก้วจะคบหากับผู้ชายดีๆ ไว้สักคน จะมองหาผู้ชายดีๆ เอาไว้เพื่ออนาคตของวันข้างหน้า... อาเสือก็ไม่น่าจะขัดข้องหรือมีปัญหาอะไรนี่คะ”
ดอกแก้วให้เหตุผลด้วยสีหน้าจริงจัง หล่อนเคยคิดเอาไว้แบบนี้จริงๆ ด้วยรู้ดีว่าสักวันก็จะต้องใช้ชีวิตของตัวเอง คงไม่อยู่เป็นไม้เลื้อยที่ต้องเติบโตอยู่ภายใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่เหมือนเช่นทุกวันนี้
ทั้งที่ดอกแก้วเองก็ตั้งใจเอาไว้ว่าพอเรียนจบจะรีบหางานทำด้วยตัวเอง แต่ชาติพยัคฆ์ก็ขอให้หล่อนมาทำงานที่ไร่ของเขาในทันที ซึ่งดอกแก้วก็ไม่ขัดข้อง ด้วยคิดว่าหล่อนสมควรตอบแทนในความกรุณาของเขา