ตอนที่ 7 เส้นลมปราณ (รีไรท์ )
“ เอ๋!!!! ”
“ พวกเจ้าจะตกใจอะไรกัน ในเมื่ออยากให้ข้ารับพวกเจ้าเป็นศิษย์ก็ย่อมได้ ดูจากท่าทางของพวกเจ้าก็ดูมีพรสวรรค์ที่ควรจะส่งเสริม แต่พวกเจ้าไม่รู้ก็แค่นั้นแหละ ว่าไงสนใจมาเป็นศิษย์ของข้าไหม? ”
เด็กน้อยทั้งสามหันมองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งสามคนจะคุกเข่าลงกับพื้น
“ คาราวะอาจารย์!! พวกข้าทั้งสามจะไม่มีทางลืมบุญคุณครั้งนี้เลย ”
“ ลุกขึ้นๆ ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ไปคุยที่อื่นกันเถอะ ที่นี่ไม่เหมาะจะคุยกันสักเท่าไร..ถ้าจะเดินไปก็คงเสียเวลา..เดินมาเกาะข้าเอาไว้แน่นๆอย่ามือมือจากข้าเป็นอันขาดเข้าใจนะ ”
เด็กน้อยทั้งสามรีบเข้ามาจับมือเฟยหงเอาไว้แน่น
[ นายท่าน ทักษะกระโดดเหินเวหาของท่านยังไม่ได้ลองใช้กระบวนท่าการเคลื่อนไหวของมันเลยนะ แม้ว่าท่านจะสามารถจดจำได้เพียงครั้งเดียวแต่มันก็ยังต้องผ่านการฝึกฝน ]
“ นี่แหละคือการเริ่มฝึกของข้า ”
ตึง!!
เฟยหงกระโดดจากพื้นดินสูงกว่า10เมตรพร้อมกับหอบร่างของเด็กน้อยทั้งสามไปด้วย..
“ สะ..สุดยอดเลยย!! ”
เด็กน้อยทั้งสามต่างอุทานพร้อมกันด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น
“ นี่สินะ ความรู้สึกของลมปราณ การเกื้อหนุนจากพลังภายในทำให้การกระโดดของข้าเหมือนกับฐานปล่อยจรวดเพียงอัดแรงระเบิดเข้าไปที่กำลังขาและกระโดดขึ้นมา แต่ดูเหมือนจะสูงเกินไปหน่อย แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา ”
เฟยหงกระโดดเหยียบย่างบนหลังคาและกระโดดข้ามกำแพงออกนอกเมืองด้วยฝีเท้าอันเงียบเชียบ
...............................................................
ณ พระราชวัง
“ ทำไมห้องบรรทมถึงปิดประตูเงียบเช่นนี้? ”
หนึ่งในขันทีกล่าวถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ องค์จักรพรรดิ์ทรงรับสั่ง ห้ามผู้ใดเจ้าพบเป็นอันขาด หากไม่อนุณาติก็ห้ามเปิดประตูเข้าไป ”
“ อย่างงั้นหรือ? เออนี่เจ้า ข้าได้ข่าวมาว่าตั้งแต่องค์จักรพรรดิ์ทรงฟื้น ท่านก็ทำตัวแปลกประหลาดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอย่างนั้นหรือ? ”
สาวใช้รีบพุ่งเข้าไปปิดปากของขันทีผู้นั้นในทันที
“ นี่เจ้าอยากโดนตัดหัวรึยังไง นี่มันใช่เรื่องที่สมควรพูดออกมาหรือ ”
“ แสดงว่าเป็นความจริงสินะ ทั้งหาญหักหน้าท่านผู้แทน..ขุนนางในวังก็ต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้กันให้ทั่ว จากปกตินิสัยเงียบขรึมไม่พูดไม่จา หน้าที่แทบจะทั้งหมดก็ยกให้ผู้แทนเป็นผู้จัดการ..แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าท่านจะมีนิสัยที่แตกต่างออกไป แล้วไหนจะเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยู่กับองค์จักรพรรดิ์อรกเล่าิ.... ”
“ ชู่ว!!! องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งห้ามพูดถึงเรื่องนี้เป็นอันขาด ใครฝ่าฝืนจะถูกลงโทษสถานหนัก!! ”
...............................................................
ณ ใจกลางป่าใหญ่
“ เอาล่ะ ที่นี่แหละที่ข้าจะใช้ฝึกฝนพวกเจ้าและปลุกเส้นลมปราณของพวกเจ้า..อ้อจริงสิ ข้ายังไม่ได้ถามชื่อพวกเจ้าเลย พวกเจ้าชื่ออะไรกันบ้าง? แล้วครอบครัวของพวกเจ้าเล่า ”
เด็กทั้งสามคนหันมองหน้าพร้อมกัน
“ ท่านอาจารย์พวกข้าทั้งสามคนไม่มีพ่อไม่มีแม่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พวกข้าทำงานอยู่ในสลัมจนมาเจอกับท่านอาจารย์นี่แหละ อีกอย่างพวกข้านั้นก็ไม่มีชื่อแซ่เช่นกัน ”
เฟยหงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยสามคน
“ งั้นข้าจะเป็นคนตั้งชื่อให้กับพวกเจ้าทั้งสามคนเองว่าไง? หากพวกเจ้าไม่ต้องการข้าก็ไม่บังคับ ”
“ อาจารย์ อย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลย นี่นับเป็นบุญวาสนาของพวกเราทั้งสามคนที่ได้เจอท่าน โปรดตั้งชื่อให้กับพวกเราทั้งสามคนด้วย อาจารย์ ”
[ นายท่าน การตั้งชื่อให้กับเด็กพวกนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ภายในตัว ]
ซีโร่กล่าวบอกเฟยหงที่กำลังจะตั้งชื่อให้กับเด็กน้อยทั้งสามคน
“ หืม? ยังไงกัน การตั้งชื่อให้กับเด็กพวกนี้มีทั้งผลดีแบะผลเสียด้วยอย่างงั้นหรือ? ”
[ ใช่แล้วนายท่าน การที่นายท่านตั้งชื่อใหม่ให้กับเด็กทั้งสามคนนี้ จะทำให้เด็กพวกนี้ต้องติดตามท่านไปตลอดชีวต อีกทั้งไม่สามารถคิดหักหลังหรือกระทำการใดๆที่เป็นอันตรายต่อตัวท่านได้ และเด็กทั้งสามคนนี้จะเชื่อฟังคำสั่งของท่านในทันทีเมื่อท่านต้องการ แม้ท่านจะสั่งให้พวกเขาฆ่าตัวตาย ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่ท่านออกคำสั่งเท่านั้น รูปแบบคล้ายกับสัญญาทาส ]
เฟยหงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็อดที่จะคิดไม่ได้
“ เอาเป็นว่าเรื่องการตั้งชื่อ ข้าจะตั้งให้คราวหลังก็แล้วกัน ตอนนี้ข้ายังคิดชื่อให้กับพวกเจ้ายังไม่ออก..เอาละพวกเจ้าทั้งสามคนไปนั่งห่างกันคนละ สองก้าว ทำจิตใจให้สงบ ข้าจะปลุกเส้นลมปราณให้กับพวกเจ้าเอง ”
“ ศิษย์รับทราบแล้วอาจารย์!!! ”
เด็กน้อยทั้งสามคนต่างนั่งห่างกันพร้อมกับหลับตาลงตั้งสมาธิ สายลมพัดผ่านผืนป่าเงียบสงบ แสงแดดอ่อนๆค่อยๆสาดส่องลงมาทั้งสามคน
[ นายท่าน การปลุกเส้นลมปราณท่านต้องส่งพลังลมปราณของท่านเข้าไปกระตุ้นเส้นลมปราณของทั้งสามคน และส่วนชีพจรมังกรนั้นเป็นเส้นชีพจรที่ละเอียดอ่อน ท่านต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้พลังทั้งสองนั้นเกิดการแทรกซ้อนระหว่างพลัง
ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องที่ง่าย แต่ถ้าพลาดขึ้นมาอาจทำให้คลื่นลมปราณของเด็กทั้งสามคนนี้เกิดความไม่เสถียร อาจจะส่งผลร้ายต่อทั้งสามคน ]
“ อืม ข้าเข้าใจแล้วตำราในห้องข้าพออ่านผ่านจดจำวิธีการและขั้นตอนได้ทั้งหมดแล้ว ย่อมไม่มีปัญหา ”
เฟยหงเดินไปข้างหลังของเด็กทั้งสามคน ก่อนที่เฟยหงจะปลดปล่อยลมปราณบริสุทธิ์ออกมาส่งผ่านไปยังร่างให้กับเด็กน้อยทั้งสามคน เพื่อเป็นการกระตุ้นเส้นลมปราณ
[ เริ่มกระบวนการปลุกเส้นลมปราณ
10%..
20%..
ระดับลมปราณเสถียรไม่มีสิ่งใดผิดปกติ
เส้นลมปราณของทั้งสามค่อยๆตอบสนองต่อพลังลมปราณของท่านแล้ว ]
“ ความรู้สึกแบบนี้เองสินะ ที่เรียกว่าลมปราณหากเป็นในโลกเก่าข้าคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้เป็นแน่...
แต่หน้าแปลกนัก เส้นลมปราณของสามคนนี้มีขนาดที่หนาและใหญ่มาก เมื่อเทียบกับคนทั่วๆไปแล้วถือว่า มีขนาดใหญ่กว่า2-3เท่า ”
[ นี่คืออีกหนึ่งความพิเศษของชีพจรมังกร นายท่านอาจจะยังไม่รู้ ความสามารถของชีพจรมังกรนั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่มากมาย แม้แต่ข้าเองก็ไม่มีข้อมูลที่แน่นอนชัดในด้านนี้ ชีพจรมังกรจะขยายเส้นลมปราณพลัง แบบนี้จึงทำให้ทั้งสามคนมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ]
“ เป็นแบบนี้เองสินะ ดูเหมือนว่าบางอย่างแม้แต่ซีโร่เองก็มิอาจรับรู้ได้ เอาเถอะอย่างไรก็ไปสืบดูภายหลังได้อยู่ดี
ขั้นตอนสุดท้ายทะลวงจุดลมปราณ!! ”
เฟยหงพลันรีบดันพลังทั้งสามสายส่งให้กับศิษย์น้อยสามคน จุดลมปราณของทั้งสามจึงถูกเปิดออกในที่สุด!!
ตึง!!!!
บังเกิดคลื่นลมระเบิดออกมา เพียงชั่วครู่พลังลมปราณไหลเวียนทั่วร่างของพวกเขา..ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเช่นนี้ ความรู้สึกถึงพลัง
“ ความรู้สึกนี่มัน.. ”
เด็กน้อยทั้งสามคนต่างหันหลังกลับไปคุกเข่าหน้าผากจรดพื้น..พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างมิอาจหักห้าม...
“ พวกข้าทั้งสามคาราวะท่านอาจารย์ ขอบคุณท่านอาจารย์ พวกข้าขอบคุณท่านจริงๆ ”
[ ปลุกเส้นลมปราณ เสร็จสิ้น 100% ]
“ ลุกขึ้นๆพวกเจ้าทำอะไร เห็นไหมเสื้อผ้าสกปรกหมดแล้วทั้งใบหน้ายีงเปื้อนดินอีก พวกเจ้านี่จริงๆเลย ”
เฟยหงประคองศิษย์ให้ยืนขึ้นพร้อมกับปัดเศษดินที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าและใบหน้า คล้ายบิดากำลังดูแลบุตรก็มิปาน
“ อาจารย์ ชั่วชีวิตนี้พวกข้าทั้งสามจะติดตามท่านไปจนชีวิตหาไม่!!! ”
“ ข้าก็ด้วย ”
“ ข้าด้วย พวกข้าทั้งสามคนขอสาบาน หากพวกข้าผิดคำสาบานขอให้ฟ้าดินลงทัณฑ์!! ”
[ นายท่าน ศิษย์น้อยสามคนของท่านเหล่านี้ดูเหมือนจะมีไหวพริบไม่เบา รู้จักการใช้คำพูดคำจาช่างเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์โดยแท้ โชคดีของเด็กน้อยทั้งสามคนที่มาเจอท่าน ทางที่ดีท่านควรตั้งชื่อให้กับทั้งสามคนเลย อย่างน้อยท่านก็สามารถรับรู้ได้ว่าเด็กน้อยทั้งสามคนอยู่ไหน ในช่วงที่ท่านไม่อยู่ ]
ซีโร่กล่าวเสริม เฟยหงได้ยินเช่นนั้นก็ลูบหัวเด็กน้อยทั้งสามคนด้วยแววตาที่อบอุ่น
“ ข้าจะตั้งชื่อให้พวกเจ้า.. ”
จบตอน