ตอนที่ 6 ศิษย์และอาจารย์. ( รีไรท์ )
ณ ย่านชุมชน
[ นายท่าน ข้าว่ามันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเอาซะเลยนะ อันที่จริงท่านน่าจะฝึกวิชาในหอคำภีร์ ภายในราชวังให้สำเร็จ แล้วค่อยออกมาถายนอก ท่านในเวลานี้ยังไม่เข้าใจพลังของตัวเองดีพอ ตอนนี้ท่านมีเพียงแค่กระบวนท่าการต่อสู้พื้นฐานเท่านั้น แม้จะเป็นท่านก็ยากที่จะรับมือ หากเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง ]
“ เรื่องนั้นข้ารู้ ข้าถึงปลอมตัวเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาไงเล่า เพื่อสำรวจชาวเมืองแล้วก็ความเป็นอยู่ของทุกคน โลกก่อนหน้านี้ข้าถูกหักหลัง ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ข้าจะแสดงความสามารถของคนที่จบสายปกครองด้วยเกียรตินิยมอันดับ1 ให้เจ้าดู!!! ”
เฟยหงเดินลัดเลาะไปตามทางเส้นทาง..สภาพของชาวเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากพอสมควร ในขณะที่เหล่าข้าราชการและขุนนางต่างสุขสำราญโดยการใช้ภาษีของชาวเมืองไปในทางที่ไม่ชอบ เป็นภาพที่พบเจอได้อยู่ทั่วไปแม้ยากที่จะยอมรับ
ขณะนั้นเองเฟยหงก็หยุดตรงหัวมุมของตลาด เพื่อฟังข่าวสารบางอย่างจากกลุ่มของชาวบ้านที่จับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง
“ ประกาศจากราชสำนัก การสอบเข้ารับราชการ ในปีนี้ที่จะมาถึงมีเปิดสอบทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน
หนึ่ง เข้ารับราชการทหาร
สอง สอบเข้าเป็นองค์รักษ์หลวง
สาม พ่อครัวหลวง
สี่ ราชการสายการปกครอง
กำหนดการสอบคืออีก สามอาทิตย์ข้างหน้า ใครที่จะสมัคร มาลงชื่อและเสียค่าธรรมเนียมคนละ 1 เหรียญทองแดงได้เลย ”
เหล่าชาวบ้านต่างพาลูกหลานเข้ามาลงสมัคร เพื่อยกระดับชีวิตของครอบครัวและตนเองให้ดีขึ้น แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะทุกๆปีจะมีคนที่สอบผ่านเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
“ การสอบเข้ารับราชการอย่างงั้นเหรอ ”
[ เรียนนายท่าน การสอบครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 20 ของจักรวรรดิซูเหยียน ทุกปีจะมีจัดการสอบตามความถนัดแขนงต่างๆมากมาย การสอบทุกครั้งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเฟ้นหา เด็กหนุ่มที่มีศักยภาพ เพื่อมาเป็นกำลังผลักดันจักรวรรดิแห่งนี้ในภายภาคหน้า ]
“ หืม? สอบข้าราชการอย่างงั้นเหรอ..น่าสนใจดีนิข้าเองก็อยากจะสมัครบ้าง..พูดก็พูด สอบแบบนี้นึกถึงตอนสอบเข้ามหาลัยใหม่ๆ ตอนนั้นข้า ”
เฟยหงหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เพราะในเวลานั้นคือช่วงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
[ นายท่าน มีคนกำลังจับตาดูท่านอยู่สามจุด ด้านหลัง 2 ข้างบนอีก 1 คน ตรวจไม่พบจิตสังหารแต่อย่างใดแต่ข้าแนะนำให้ระวังตัวเอาไว้— ]
“ เด็กพวกนั้นเป็นแค่เด็ก พลังชีวิตที่ออกมาจากเด็กพวกนั้นบริสุทธิ์และใสสะอาด ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่หรือคนที่มีจิตสังหารแต่อย่างใด เป็นสิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ”
ความพิเศษของเวทย์เป็นสิ่งที่ลมปราณไม่สามารถทำได้ และสิ่งที่ลมปราณทำได้เวทย์มนต์ก็ทำได้เช่นกัน เวทย์ถือเป็นพลังติดตัวของเฟยหงตั้งแต่ย้ายร่างมาสถิตย์แทนเจ้าของร่างเดิม ความสามารถนี้ก็อยู่กับเฟยหงมาตั้งแต่ตอนนั้น
“ นี่ออกมาเถอะจะซ่อนตัวไปทำไมกัน? ทำตัวลับๆล่อๆน่าสงสัยจังเลยนะเด็กพวกนี้ ”
“ พะ..พี่ชายเขารู้ได้ยังว่าข้าอยู่ตรงนี้!! ”
“ เพ้ย! เจ้าก็อย่าไปตอบรับคำพูดเขาสิ!! ”
“ เฮ้อ พอเลยพวกเจ้าทั้งสองคน แต่ละคนให้ตายสิไม่ไหวเลย ว่าแต่พี่ชายท่านนี้เก่งนะเนี่ยที่สามารถรู้ว่าพวกข้าแอบซ่อนอยู่ตรงไหน พี่ชายเป็นจอมยุทธ์หรือ? ”
เด็กผู้ชายสองคนและหญิงอีกหนึ่งคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับ เฟยเฟย ลูกของตนทำให้เฟยหง อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“ ชู่ เงียบไว้สิ เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสามคนนะเข้าใจไหม ”
ทั้งสามคนต่างตาลุกวาวเป็นประกาย จอมยุทธ์นั้นไม่ได้มีให้พบเห็นทั่วไป การที่จะเป็นจอมยุทธ์ได้นั้นจะต้องได้รับการสั่งสอนอย่างถูกวิธี หากผิดพลาดคนผู้นั้นอาจจะต้องเดินทางเข้าสู่เส้นทางมารอย่างแน่นอน
“ พวกข้าเข้าใจแล้ว ว่าแต่ว่านะท่านต่างหากที่ทำตัวลับๆล่อๆ พวกข้านึกว่าท่านเป็นขโมยซะอีก ”
“ ใช่ๆ ว่าแต่พี่ชาย เอ่อ ถ้าท่านรับพวกข้าไว้เป็นศิษย์ได้ไหม? หากว่าถ้าพี่ชายไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ พวกข้าเข้าใจคงจะแปลกใช่ไหมอยู่ดีๆที่มีเด็ก ”
[ นายท่านเด็กทั้งสามคนนี้มีชีพจรมังกร เป็นเรื่องที่แปลกมากที่เด็กสามคนนี้จะมีชีพจรมังกรเหมือนกันทั้งสามคน ชีพจรมังกรนั้นแตกต่างจากเส้นพลังลมปราณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ความสามารถที่แท้จริงนั้นเมื่อรวมเข้ารับลมปราณจะแข็งแกร่งและร้ายกาจเป็นอย่างมาก
โดยปกติคนทั่วไปมีเส้นลมปราณอยู่ในตัวทุกคนน้อยนักที่จะปรากฎคนที่ไม่มีเส้นลมปราณ หนึ่งในนั้นก็คือท่านในคราแรก หากเส้นลมปราณไม่ได้รับการปลุกให้ตื่น ก็จะไม่สามารถใช้ลมปราณได้แตกต่างจากชีพจรมังกร ที่สามารถเค้นพลังออกมาได้ โดยแลกเปลี่ยนจากพลังกายไปจนถึงพลังชีวิตของตน ]
ซีโร่กล่าวบอกเฟยหงที่กำลังตั้งใจฟังอย่างใจจดจ่อ
“ หลักจากนี้ข้าขอฟังรายละเอียดอีกรอบ แต่ข้ารู้แล้วว่าข้าควรทำอะไรในตอนนี้ ”
เฟยหงยกยิ้มขึ้นก่อนจะมองไปยังเด็กทั้งสามคน
“ ก็อย่างที่ข้าว่าไปถ้าหากท่านไม่รับพวกข้าเป็นศิษย์ก็ไม่— ”
“ ได้สิ ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสามคนอยากเป็นศิษย์ของข้า ข้าก็จะช่วยชี้แนะพวกเจ้าเอง จอมยุทธ์น้อยทั้งสาม ต่อจากนี้ก็เรียกข้าว่าอาจารย์ก็แล้วกัน แต่ก่อนอื่นไปหาที่ดีๆคุยกันเถอะ ”
“ เอ๋!!!!! ”
จบตอน