ตอนที่ 8 การลอบสังหารและเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ( รีไรท์ )
“ เช่นนั้นข้าจะตั้งชื่อให้กับพวกเจ้า หากพวกเจ้ายินดี... ”
เมื่อเด็กน้อยทั้งสามคนได้ยินเช่นนั้นก็ตาลุกวาวในทันที
“ เชิญท่านอาจารย์ตั้งชื่อให้กับพวกข้าทั้งสามคนได้ตามสบาย พวกข้ายินดียิ่ง!! ”
เด็กสาวแก้มอ้วนยิ้มพร้อมใบหน้าที่แดงระเรื่อ แม้จะมีรอยเปื้อนบนใบหน้าจากการทำงาน รวมทั้งการอาศัยอยู่ในสลัมก็มิอาจลบเลือนสง่าราศรีและความงามที่ฉายแววงามล่มเมืองของเด็กสาวตัวน้อยไปได้
ส่วนเด็กผู้ชายตัวน้อยอีกสองคนนั้น แม้จะดูมอมแมมแต่ยังแฝงความหล่อเหลาเอาไว้ ทั้งสามคนต่างมีความงามและความหล่อเหลาที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพบเด็กแบบนี้ในสลัม
“ ต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเด็กสามคนนี้แน่นอน เห็นทีครั้งนี้ข้าต้องลงมือสืบหาข้อมูลในภายหลังซะแล้ว ”
[ นายท่านรีบกลับวังโดยด่วน ตอนนี้ภายในวังกำลังเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ประมุขพรรคเทพโอสถกำลังบุกเข้าไปในห้องของท่านแล้ว!!! ]
“ ไม่ต้องเป็นกังวลข้าเตรียมแผนการเผื่อเกิดเหตุการณ์กรณีเช่นนี้เอาไว้แล้ว ส่วนเด็กพวกนี้ ”
..............................................................................................................................
เขตพระราชวังชั้นใน
เหล่าคณะผู้อาวุโสและประมุขพรรคเทพโอสถต่างบุกเข้ามาในพระราชวังอย่างอุกอาจโดยไม่เกรงใจเหล่าทหารที่ทำหน้าที่รักษาการณ์แม้แต่น้อย
“ พวกท่านอาวุโสได้โปรดหยุดเถอะ องค์จักรพรรดิทรงสั่งเอาไว้ว่าห้ามใครเข้าพบทั้งนั้นหากไม่มีคำอนุญาติเพราะฉะนั้นพวกท่าน ”
“ พูดจาเหลวไหล!!! ทหารชั้นผู้น้อยอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาห้ามท่านประมุขพรรคของพวกเรา ”
ทหารชั้นผู้น้อยต่างก้มหน้าต่ำราวกับว่าคำพูดของผู้อาวุโสนั้นสามาารถสะกดข่มทหารเหล่านั้นเอาไว้ เว้นก็แต่ทหารหนึ่งนายที่กล้าที่จะกล่าวห้าม ประมุขพรรคและผู้อาวุโสหลายสิบคน
สาเหตุที่เหล่าทหารต่างพากันก้มหน้าและหลีกทาง แม้แต่เหล่าขุนนางเองก็เช่นกัน สาเหตุก็เพราะว่า พรรคเทพโอสถเป็นพรรคที่ค้าขายสมุนไพรและโอสถต่างๆให้กับทวีปแห่งนี้...นั่นทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าขัดขวาง
สำหรับตำแหน่งจักรพรรดิ์สำหรับพวกทหารและเหล่าขุนนาง มีก็เหมือนไม่มี เพราะการที่จักรพรรดิไร้ซึ่งเส้นลมปราณก็ไม่ต่างจากไก่ได้พลอย แต่ทว่า
“ ทหารชั้นผู้น้อยอย่างเจ้าไม่จำเป็นจะต้องทำเช่นนี้ด้วยซ้ำ จักรพรรดิ์ของเจ้ามีดีอะไรนัก ทำไมเจ้าถึงกล้าเสี่ยงมาขวางทางข้า เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าสามารถทำลายวรยุทธ์เจ้าได้เพียงนิ้วเดียว!!! ”
ชายวัยกลางคนที่กล่าวขึ้นผู้นี้ก็คือ ประมุขแห่งพรรคเทพโอสถ'จื่อหยาง' ผูู้ซึ่งครอบครองอิทธิพลด้านการค้าขายสมุนไพรโอสถและการส่งออกล้วนเป็นที่หนึ่งในทวีปไม่มีผู้ใดเทียบ
“ มันคือหน้าที่ที่ข้าต้องพึงปฏิบัติ ในเมื่อพวกท่านไม่ทำตามกฎที่ราชสำนักได้บัญญัติไว้ พวกท่านก็อย่าหวังที่จะได้เข้าพบองค์จักรพรรดิ์ของข้า
ที่นี่คือถิ่นที่อยู่ของข้า จักรพรรดิ์คือผู้ที่ผู้คนเคารพและจักรพรรดิ์ที่ทำตัวไม่สมเป็นจักรพรรดิก็ไม่ควรได้รับความจงรักภักดี แต่นี่จักรพรรดิ์ของข้าตั้งแต่ท่านฟื้นท่านก็มีคำสั่งให้มีการแก้ไขภัยแล้งและทรงเก็บตัวเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นถึงแม้ท่านจะเป็นประมุขหรืออะไรก็ช่างในเมื่อไม่เคารพผู้อื่น ก็ไม่ควรได้รับความเคารพจากข้าเช่นกัน!!!!! ”
“ บัดซบ!!! จะบังอาจเกินไปแล้ว แค่ทหารชั้นผู้น้อยหนึ่งตายไปก็ไม่มีปัญหาอะไร เจ้าคิดว่าจักรพรรดิ์ของเจ้าจะออกมาช่วยเจ้ารึไง!!! ”
ตึง!!!!
หนึ่งในผู้อาวุโสแห่งพรรค พลันพุ่งตัวเข้าหาทหารผู้นั้นด้วยความเร็วและพละกำลังที่น่าเหลือเชื่อทหารชั้นผู้น้อยนายนั้นทำได้เพียงแค่โคจรพลังเพื่อป้องกันแรงปะทะ...หากตามปกติทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ได้ไปเฝ้ายมบาลแน่..แต่ไม่ใช่วันนี้..
“ พูดได้ดี สมแล้วที่เป็นทหารของข้า!!! ”
เหล่าทหารและข้าราชบริการต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา เพราะผู้ที่พุ่งออกมาจากประตูก็คือองค์จักรพรรดิ์ซูเฟยเหยียน!!!
“ อะ..องค์จักรพรรดิ์!!!! ”
เฟยหงใช้พัดโบราณสีดำธรรมดา สะท้อนการโจมตีของผู้อาวุโส มิหนำซ้ำยังโจมตีเข้าจุดบ่มเพาะพลังปราณโดยใช้นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเดียว ท่ามกลางความตกตะลึงของประมุขพรรคเทพโอสถและผู้อาวุโสทั้งหมด!!!
อ้ากกกกกกกกก!!!
ผู้อาวุโสดิ้นอย่างทุรณทุรายด้วยความเจ็บปวดเปรียบเสมือนตายทั้งเป็นจากการโดยทำลายพลังปราณ...สายตาของเฟยหงแฝงไว้ด้วยความเย็นชา ใครที่ได้สบตามองต่างต้องก้มหน้าหลบสายตาด้วยความหวาดกลัว..
“ หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิต จงลิ้มรสความสูญสิ้นและสิ้นหวังที่เอาแต่ดูถูกผู้อื่นซะ!!! ส่วนเจ้าเป็นประมุขพรรคแต่กลับใช้อำนาจบาทใหญ่ ควบคุมดูแลไม่ได้แม้กระทั่งข้ารับใช้ของตัวเอง หึ ช่างน่าขันยิ่ง ”
ความเงียบสงัดพลันเข้าปกคลุมทั่วบริเวณ
“ท่านจักรพรรดิ์เมื่อครู่ท่านใช้ลมปราณ!!! ”
หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าวขึ้นด้วยความวิตกกังวล
“ ลมปราณ? แล้วแต่ท่านจะคิด ลองถามประมุขของพวกเจ้าสิ ”
ผู้อาวุโสที่เหลือต่างหันไปมองผู้นำประมุขสลับกับผู้อาวุโสที่นอนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด
“ ไม่ใช่ เมื่อครู่นี้ มันไม่ใช่ลมปราณ ราวกับว่าเมื่อครู่เกิดกำแพงลมแล้วหลังจากนั้น ”
“ ถือว่าประมุขพรรคของพวกเจ้าก็ไม่ได้ไร้น้ำยาไปซะทีเดียว ว่าแต่ว่าทำไมพวกเจ้าถึงต้องทำเช่นนี้
เอาเถอะถึงถามไปพวกเจ้าก็ไม่บอกข้าอยู่ดี ข้าขอเตือนไสหัวกลับออกไปให้หมดแล้วก็ลากผู้อาวุโสท่านนี้ไปด้วย ข้าให้เวลาพวกเจ้าสามสิบอึดใจ หากยังไปไม่พ้นหน้าข้า อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!!!”
ทุกการกระทำรวมทั้งอิริยาบททุกอย่างล้วนแตกต่าง นิสัยที่ดุดันและเด็ดขาดเช่นนี้ ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นนิสัยที่ช่างเกรี้ยวกราดราวกับความพิโรธของมังกร
“ เป็นแบบในข่าวลือจริงๆสินะ ไม่สิ นี่มันยิ่งกว่าที่ข่าวลือเล่าไว้ ที่แท้ท่านก็เก็บงำความสามารถที่แท้จริงของท่านเอาไว้สินะ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา ท่านแสร้งเป็นคนโง่งมไร้ซึ้งความสามารถ ใครจะรู้ว่าบัดนี้ในที่สุดท่านก็เผยสิ่งที่เก็บซ่อนออกมา ”
“ ผ่านไปสิบอึดใจแล้ว ยังไม่ไปอีก? ”
“ ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกข้าขอตัวลา ยังไงพวกเราคงได้เจอกันอีกแน่ องค์จักรพรรดิ์ ”
พรรคเทพโอสถต่างพากันถอยห่างและเดินออกไปจากหน้าตำหนักอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นพรรคใหญ่แต่การกระทำอุกอาจเช่นนี้ยากเกินที่จะให้อภัยและการยอมรับ
“ ข้ามีหนึ่งคำถามที่อยากจะถามพวกเจ้า เป็นคำถามง่ายๆ
เหตุใดพวกเจ้าถึงขี้ขลาดตาขาวเช่นนี้ ยอมก้มหัวหลีกทางให้กับผู้กระทำการผิดกฎ มิหนำซ้ำยังละทิ้งที่ที่พวกเจ้าอาศัยอยู่ พวกเจ้าสามสิบคนยังเทียบไม่ได้กับทหารคนหนึ่งที่แสดงความจงรักภักดีและทำหน้าที่อย่างถึงที่สุด
ที่ข้าพูดข้าไม่ได้อยากให้พวกเจ้าแสดงความเคารพข้า ความเคารพจอมปลอมเพียงเพราะฐานะ ข้าไม่ต้องการ ต่อจากนี้เป็นต้นไปหากใครจะไปก็ให้เก็บข้าวของแล้วออกไปซะ ส่วนใครที่ต้องการจะพูดคุยกับข้าก็ตามมา!!! ”
[ นายท่าน ท่านแบบนี้เพราะจุดประสงค์บางอย่างใช่หรือไม่? ]
“ เปล่า เพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันทำให้ข้านึกถึงเรื่องบางอย่าง ทำให้ข้าไม่สบอารมณ์จนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ก็แค่นั้น แต่ก็ดีที่เจ้าพูดมาทำให้ข้าคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ ”
[ แผนการ? ]
จบตอน