บทที่ 4
ณ.อำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย
"ทำไมเราถึงมาไกลกันขนาดนี้คะ" ถามทีไรก็ถูกแม่ว่าทุกที แต่ก็อดถามไม่ได้เพราะนั่งรถมาเกือบจะ 24 ชั่วโมงแล้ว
"ไม่ต้องถามมากหรอกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว" เพราะศรีไพรเห็นป้ายทางเข้าตอนที่เลี้ยวเข้ามา
"แค่อยากเที่ยวภูเขาแวะที่เชียงใหม่ก็ได้นี่แม่" ทางที่วิ่งเข้ามาตั้งแต่ถนนใหญ่มีแต่ภูเขาและต้นไม้ใหญ่ปกคลุม
ยังไม่นานรถก็มาจอดหน้าบ้านไม้สักหลังใหญ่ ไม่ใหญ่ธรรมดาสิใหญ่และกว้างขวางมากด้วย
"โรงแรมเหรอแม่"
"ลงรถได้แล้ว"
"เราจะอยู่กันกี่วันคะ" วันจันทร์ถามแม่ขณะที่ลงมายืนยืดเส้นยืดสายอยู่
"เอากระเป๋าตัวเอง" ศรีไพรถูกสามีสั่งไม่ให้พูดเรื่องนั้นแล้วก็เลยไม่ตอบคำถามลูก
วันจันทร์เดินอ้อมไปเอากระเป๋าตัวเองที่อยู่หลังรถ
"โรงแรมอะไรทำไมเหมือนบ้านคนจัง"
"ถามอะไรมากมายตามมาเถอะน่า"
หญิงสาวถือกระเป๋าเดินตามพ่อกับแม่เข้ามา พอพวกเธอถือของไปแล้วรถตู้คันนั้นก็ขับออกไป
"แล้วรถเขาจะไปไหนคะแม่"
"จะถามอะไรนักหนา"
"ที่นี่ไกลบ้านคนจะตาย แล้วเราจะกลับออกไปกันยังไง" เพราะบ้านหลังนี้อยู่บนเนินเขา และอาณาเขตแถวนี้ก็ไม่เห็นมีบ้านคนเลย "ว่าแต่ที่นี่ก็สวยมากเลยนะ"
"มากันแล้วเหรอ" เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนที่คุ้นหูหน่อยพูดขึ้นจนวันจันทร์รีบหันไปมอง
"?" ใบหน้าที่มีรอยยิ้มตอนมองดูบรรยากาศรอบข้างเมื่อสักครู่เปลี่ยนไป
"สวัสดีเจ้าค่ะ"
"สวัสดีขอรับกระผม"
"บอกให้พูดกันปกติไง"
"มิได้หรอกขอรับ" ยิ่งมาเห็นอาณาจักรของพ่อเลี้ยงคนนี้แล้วมันก็ยิ่งทำให้สองสามีภรรยาตื่นตาตื่นใจ
"เอาที่สะดวกเลยแล้วกัน เข้าบ้านสิ"
"แม่คะเดี๋ยวก่อนค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปรั้งแขนของผู้เป็นแม่ไม่ให้เดินเข้าไป
"อยากจะถามอะไรค่อยเข้าไปคุยกันข้างในตามมา" ศรีไพรสะบัดมือลูกสาวออกเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปก่อน
วันจันทร์ก็เลยจำใจต้องเดินตาม ทั้งๆ ที่เริ่มมีความสงสัยอยู่ในใจแล้ว
"มารับกระเป๋าคุณๆไปเก็บสิ"
"ไม่ต้อง!" เสียงผู้หญิงดังขึ้นมาจากชั้นบน จนแม่บ้านที่กำลังจะเดินมายกกระเป๋าหยุดเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นมีอิทธิพลมาก "พ่อเลี้ยงพาใครเข้าบ้านอีก ไหนบอกจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ถ้าความคิดไม่สร้างสรรค์ก็หยุดคิดซะ แล้วนี่รับเงินเดือนจากใครบอกให้มายกกระเป๋าก็มายกสิ" พ่อเลี้ยงอิทธิพลหันไปตะคอกแม่บ้าน จนแม่บ้านรีบเดินมารับกระเป๋า
"ไม่ต้องหรอกค่ะ" วันจันทร์กอดกระเป๋าตัวเองไว้แน่น
"ส่งกระเป๋าให้ขี้ข้าไป" ศรีไพรกระซิบพูดกับลูกสาว แต่แม่บ้านก็ได้ยินคำใช้เรียกจิกหัวอยู่
พอศรีไพรเห็นว่าลูกสาวไม่ทำตามก็เลยกระชากกระเป๋าแล้วส่งให้กับแม่บ้าน
วันจันทร์ไม่พอใจก็เลยเดินหนีออกไปทางซีกซ้ายของตัวบ้านหลังนั้น บ้านหลังนี้ปลูกสร้างแบ่งเป็นโซนเหมือนว่าไม่ได้มีอยู่ครอบครัวเดียว และบ้านก็ถูกปลูกสร้างด้วยไม้สักราคาแพงทั้งหลัง
"หนูมาหาใครเหรอ"
"คะ?" วันจันทร์ที่กำลังมองหาทางออกรีบหันไปหาคนที่ถาม "คือว่าฉันมากับแม่ค่ะ"
"......" คนที่คุยกับวันจันทร์ชำเลืองสายตามองไปที่บ้านหลังใหญ่ "ฉันว่าหนูกลับไปเถอะ"
"เดี๋ยวก่อนสิคะ หนูขอถามอะไรหน่อยสิ"
"ฉันคงบอกอะไรหนูไม่ได้หรอก"
วันจันทร์เดินกลับมาทางเดิมแบบงงๆ ในเมื่อทางซ้ายไปแล้วเจ้าของบ้านทางนั้นไม่ต้อนรับเธอก็เลยไปทางขวาดู บ้านอะไรจะสร้างใหญ่โตขนาดนี้ แต่ก็สมแล้วล่ะกับเนื้อที่กว้างขวางดูแค่สายตาก็รู้ว่าคงไม่ต่ำกว่าร้อยไร่
"เธอเป็นใคร"
เท้าเรียวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนพูดมาจากมุมที่เพิ่งเดินผ่านเมื่อสักครู่
"ฉันกำลังหาทางกลับ ทางที่มาเมื่อกี้อยู่ค่ะ" ที่จริงเธอไม่ได้ตั้งใจเดินมั่วซั่วขนาดนี้หรอก แต่มันเหมือนเขาวงกตเลย
"เธอเป็นแม่บ้านคนใหม่มาทำงานที่นี่เหรอ"
"เปล่าค่ะ"
"ถ้างั้นเธอก็เป็น.."
"พะเพื่อน!" เสียงชายวัยกลางคนตะคอกจนคนที่พูดอยู่เมื่อสักครู่รีบหุบปาก
วันจันทร์รีบหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าเป็นบิดาของพี่เขย
"ฉันว่าแล้วหนูต้องหาทางกลับไม่เจอ..ตามมาสิ"
"คุณพ่อคะ?" ผู้หญิงที่คุยอยู่กับวันจันทร์เมื่อสักครู่อุทานออกมาแบบตกใจ
"ไม่มีอะไรทำหรือไงเรา ถ้าไม่มีก็เข้าไปดูงานที่โรงงาน"
"มีอะไรเหรอพะเพื่อน" พิมพาได้ยินเสียงสามีแว่วๆ ก็เลยรีบเดินออกมา แต่ก็ไม่ทัน
"เมื่อกี้คุณพ่อน่ะสิคะพาผู้หญิงเข้าบ้านอีกแล้ว"
"อะไรนะ?"
"เพื่อนขอตัวโทรหาพี่ใหญ่ก่อนนะคะ" พูดจบพระเพื่อนก็ถือโทรศัพท์เดินออกไป