บทที่ 5
"คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะคะ" วันจันทร์เดินตามพ่อเลี้ยงอิทธิพลกลับมาก็ไม่เห็นพ่อกับแม่แล้ว
"นั่งก่อนสิหนู"
"ฉันถามว่าพ่อกับแม่ฉันไปไหน" นอกจากจะไม่นั่งแล้วเธอยังเดินออกมาหน้าบ้าน เพื่อมองหาพ่อกับแม่
"หนูไม่ต้องหาแล้ว"
"คุณหมายความว่ายังไง?"
"ฉันว่าหนูขึ้นไปพักห้องที่เตรียมไว้ให้ดีกว่า"
"ฉันถามว่าพ่อกับแม่ไปไหน!"
แปะ แปะ แปะ เสียงปรบมือดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง จนทั้งสองหันมองไปพร้อมกัน
"ตีบทแตกดีนี่"
"ลงมาทำไม"
"หึ!" ผู้หญิงคนที่ปรบมืออยู่เมื่อสักครู่ มองด้วยหางตาแล้วก็เดินผ่านหน้าไป
วันจันทร์ไม่ถามอะไรอีกแล้ว เธอรีบออกมาจุดที่รถตู้มาส่ง
"พ่อคะ แม่คะ" หญิงสาวตะโกนเสียงดังเรียกพ่อกับแม่ แต่เสียงที่สะท้อนกลับมาก็มีแค่เสียงสัตว์ป่า
"นั่นหนูจะไปไหน" พ่อเลี้ยงอิทธิพลเห็นว่าวันจันทร์เดินออกไปทางถนน "ไปตามกลับมา" พอเธอไม่ตอบพ่อเลี้ยงก็เลยสั่งลูกน้องให้ตามไปพาตัวเธอกลับมา
"ถอยไปนะ" หญิงสาวถูกดักหน้าดักหลังไว้
"เชิญคุณกลับเข้าบ้านดีกว่าครับ"
"ฉันบอกให้พวกแกถอยไปไง ไอ้พ่อเลี้ยงหื่นกามนั่นซื้อตัวฉันใช่ไหม!"
"เรื่องนั้นพวกผมคิดว่าคุณกลับไปถามพ่อเลี้ยงเองดีกว่านะครับ" ลูกน้องคนที่พูดขยับชายเสื้อออก เพื่อให้เธอเห็นอะไรบางอย่างที่เหน็บอยู่ตรงนั้น
"?" วันจันทร์กลัวจนรีบเดินกลับมา เพราะมันคืออาวุธปืน นี่มันอะไรกัน เขาเป็นพ่อของพี่เขยเธอไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องทำกับน้องสาวของลูกสะใภ้แบบนี้ด้วย
ถ้ามีโทรศัพท์คงพอโทรหาพี่สาวได้บ้าง แต่นี่โทรศัพท์ก็ไม่มี แถมแม่ยังโกหกว่าจะซื้อเครื่องใหม่ให้ เพราะแม่แอบขโมยเครื่องเก่าเธอไปขายแล้ว
"ห้องหนูอยู่ชั้นบน ตามประนอมไปสิ" ประนอมคือแม่บ้านคนที่แม่เธอจิกหัวเรียก
"ฉันจะพักห้องข้างล่างค่ะ" ถ้าเธออยู่ห้องข้างล่างพอหนีได้ง่ายหน่อย เพราะถ้าพวกมันเผลอเธอก็จะรีบหนีไปตามทางที่เข้ามานี่แหละ
"พาไปสิประนอม" ถึงแม้เธอจะขออยู่ห้องข้างล่าง แต่อิทธิพลก็ไม่อนุญาต วันจันทร์ก็เลยเดินตามแม่บ้านที่ชื่อประนอมขึ้นไปชั้นบน
"คุณป้าคะ" พอประนอมมาส่งถึงห้อง กำลังจะลงไปวันจันทร์ก็เลยเรียกไว้
"คะ"
"ป้ารู้ไหมว่าพ่อกับแม่ฉันไปไหน"
"กลับไปแล้ว"
"อะไรนะคะ? พ่อกับแม่เอาฉันมาทิ้งไว้ที่นี่เหรอ ป้าโกหกฉันใช่ไหม ไม่มีทางที่พ่อกับแม่จะทิ้งฉันไว้ที่นี่"
"ขอตัวนะ" ประนอมคิดว่าเด็กคนนี้ตีบทแตกมาก
วันจันทร์รีบเดินมาเปิดหน้าต่างมองออกไปดู เผื่อว่าพ่อกับแม่ยังไปไม่ไกล "พวกท่านเอาเรามาขายงั้นเหรอ?" เป็นไปได้ยังไง ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะทำแบบนี้กับลูกได้ลงคอ
และคำตอบที่ได้จากการถามตัวเองก็คือเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะสำหรับพ่อกับแม่แล้วไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าเงิน และลูกชายคนเดียวของท่าน "ลูกผู้หญิงไม่ใช่คนหรือไงทำไมถึงทำแบบนี้กับเราได้"
พอคิดถึงหน้าพ่อเลี้ยงหื่นกามนั่น เธอก็อยากอาเจียนออกมา แก่คราวพ่อยังหัวงูอยู่อีก
ค่ำมืดวันเดียวกัน..
ก๊อก ก๊อก
"ลงไปทานข้าวค่ะ"
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบจากคนที่อยู่ในห้อง
เรียกแค่ครั้งเดียวประนอมก็กลับลงมา
"ค่อยหาอะไรขึ้นไปให้กินข้างบน"
"รู้สึกว่าจะประคบประหงมกันจังเลยนะ" คนที่พูดก็คือกนกจันทร์ภรรยาหลวงและนางก็เป็นแม่ของลูกชายคนโตด้วย
"ก็บอกแล้วไงว่าถ้าปากไม่สร้างสรรค์อย่าพูดมาก"
"ไหนคุณเคยสัญญาว่าจะหยุดอยู่แค่ผู้หญิงคนนั้นไง" กนกจันทร์หมายถึงภรรยาคนที่สาม
"แก่จนจะลงโลงอยู่แล้วยังมาหึงหวงกันอยู่อีก"
"พ่อว่าให้ใครครับ" เสียงนี้ดังแทรกขึ้นมาจากคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน
"ใหญ่?"
"ไม่มีอะไรหรอกลูก แม่นึกว่าวันนี้ลูกจะไม่กลับบ้าน"
"มาก็ดีแล้วนั่งลงกินข้าวด้วยกัน"
"ไม่หิว"
"ใหญ่" ขณะที่พันฤทธิ์กำลังจะเดินหนีจากโต๊ะอาหาร พอแม่เรียกเขาก็เลยนั่งลง
พันฤทธิ์สงสารแม่มาก แค่เมียน้อยพ่อสองคนที่นำมาอยู่บ้านเดียวกันมันก็เป็นการหยามน้ำหน้าแม่ของเขามากพออยู่แล้ว นี่เขายังได้ยินว่าพ่อพาผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับลูกเข้ามาอยู่ในบ้านอีก พันฤทธิ์ก็เลยกลับมาดูผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น