บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 สมภารกินไก่วัด 1.1

ก๊อก ก๊อก ก๊อก...เสียงเคาะประตูดังอยู่หน้าห้อง ทำให้คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงหันมามองประตูก่อนจะเอ่ยคำอนุญาตให้เจ้าของมือเข้ามาในห้องได้ ไม่นานเกินรอร่างของรวิษาก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดอาหาร

“คุณโอมคะ มิ้นเอาอาหารมาให้ค่ะ” เธอเดินถือถาดอาหารมาวางลงบนโต๊ะข้างเตียง

“ฉันไม่อยากกิน” เจ้าของห้องปรายตามองอาหารเพียงนิด แล้วจึงหันไปสนใจทีวีต่อ

“ทานนิดนึงก็ยังดีนะคะ เดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะ”

รวิษาพูดด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะก้าวเดินไปยังตู้เย็นตู้เล็กที่อยู่ด้านซ้ายมือของห้อง จัดเตรียมน้ำดื่มให้คนที่เธอรัก

อยู่ๆ ก็เหมือนมีแรงดึงดูดใจให้อัคราหันไปมองร่างของรวิษา ปกติแล้วสายตาของเขายามที่มองเธอนั้น เต็มไปด้วยความเฉยชาติดจะเบื่อหน่ายด้วยซ้ำไป เพราะบางครั้งรวิษาจะเอาอกเอาใจเขาเป็นพิเศษ...พิเศษจนเขารำคาญตามสไตล์หนุ่มโสดที่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายในชีวิต แต่แล้วสายตาของเขาก็เปลี่ยนไป นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเปล่งประกายขึ้นมา ยามที่ได้เห็นสรีระของสาวงามในชุดเดรสรัดรูป เอวเป็นเอว สะโพกผายกลมกลึง ช่วงขาเรียวสวยน่าลูบไล้

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นเธอสวมใส่ชุดนี้ เขาเห็นมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่มีครั้งไหนที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามาเหมือนตอนนี้เลย เขาเห็นรวิษามาตั้งแต่ช่วงเข้าวัยรุ่น เธอเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาหลังจากที่บิดามารดาของรวิษาเสียชีวิต

ป้ายู้เป็นอดีตคนรับใช้เก่าแก่ของอินทุอรและเป็นป้าแท้ๆ ของรวิษาป้ายู้พารวิษามาหาอินทุอรก่อนจะขอพึ่งใบบุญฝากฝังรวิษาที่เพิ่งกำพร้าพ่อแม่ จะให้นางเลี้ยงดูต่อไปก็คงไม่ไหว เนื่องจากอายุมากและไม่มีรายได้มากพอที่จะหาเลี้ยงรวิษา มารดาของอัคราเกิดความสงสารและเอ็นดูรวิษา จึงให้เธอเข้ามาอยู่ร่วมบ้านด้วยนับตั้งแต่วันนั้น ส่งเสียให้เรียนจนจบมหาวิทยาลัย ให้ที่อยู่ที่กินราวกับญาติก็มิปาน

ต่อมาเมื่อรวิษาอยู่ในวัยสะพรั่ง เขาก็ไม่เคยคิดจะเหลียวมองเด็กในบ้าน เพราะไม่ต้องการถูกครหาว่าเป็นสมภารกินไก่วัด แม้ว่ารวิษาจะมีรูปโฉมงดงามมากเพียงใด...แต่วันนี้เขาเริ่มคิดเสียแล้วสิ

“คุณโอมทานข้าวนะคะ” เธอพูดเมื่อนำน้ำเย็นมาวางไว้ในถาด

“ถ้าเธออยากให้ฉันกินก็ป้อนฉันสิ” เขาเอ่ยบอกหญิงสาวตรงหน้าที่หันขวับมามองหน้า “ถ้าเธอไม่ป้อนฉันก็ไม่กิน” ต่อประโยคด้วยเสียงจริงจัง

“ได้ค่ะคุณโอม” ความที่กลัวว่าเขาจะไม่ทานข้าว และกลัวว่าโรคกระเพาะจะกำเริบ ทำให้รวิษาทำตามความต้องการของอัครา โดยไม่ได้เฉลียวใจคิดสิ่งใดสักนิดเดียว

“มานั่งตรงนี้ดีกว่าจะได้ป้อนถนัดๆ”

อัคราใช้ฝ่ามือตบที่นอนข้างกายเขาเบาๆ รวิษาที่กำลังย่อตัวนั่งบนพื้นจึงขยับตัวมานั่งจุดที่เขาบอก ก่อนจะเริ่มป้อนอาหารให้ชายเจ้าเล่ห์

สาวนิสัยดีเริ่มลงมือป้อนอาหารใส่ปากเจ้าของห้องคำแรก ตามด้วยคำที่สองและสาม ระหว่างที่เธอตั้งใจป้อนอาหารเขานั้น ดวงหน้าสาวฉ่ำด้วยสีชมพูระเรื่อตลอดเวลา ร่างกายสั่นเล็กน้อยด้วยความประหม่าและความเขินอาย อยู่ร่วมบ้านกับเขามาหลายปีแต่นี่คือครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดกัน

“ขอน้ำฉันหน่อย” เขาสั่ง รวิษาจึงเอื้อมมือหวังจะหยิบแก้วน้ำ ทว่า...

“ว้าย!...คุณโอม ปล่อยค่ะปล่อยมิ้นค่ะ”

รวิษาร้องอุทาน ตกใจสุดขีดเมื่ออยู่ๆ เขาก็โอบรัดเอวคอดกิ่วของเธอ พร้อมกันนี้คนที่ตกอยู่ในอาการตกใจพยายามแกะลำแขนที่รัดเอวของตนออก แต่ว่าลำแขนของเขานั้นแข็งแรงดังคีมเหล็ก เรี่ยวแรงน้อยนิดของเธอไม่อาจง้างออกได้เลย

อัคราไม่ปล่อยร่างนุ่มนิ่ม กลับจับร่างสาวให้นอนราบบนเตียง โดยมีร่างกายบึกบึนของตนเกยทับ มองหน้าคนที่ดีดดิ้นด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ

“ปล่อยมิ้นค่ะคุณโอม ปล่อยมิ้นนะคะ” รวิษาร้องและดิ้น หวังจะนำพาตนเองหลุดพ้นจากเขา

“ไม่ปล่อย มีอะไรมั้ย”

เสียงใหญ่ดังเหนือดวงหน้าสาว หลุบสายตามองริมฝีปากอิ่มที่สั่นระริก ในใจต้องการจะลิ้มลองรสชาติเรียวปากอิ่มของเธอเหลือเกิน

รวิษามองหน้าคนที่แอบหลงรักใจสั่นระรัว มือน้อยๆ พยายามดันอกกว้าง เพื่อให้ร่างของเขาออกห่างร่างของตน

“ปล่อยมิ้นนะคะคุณโอม ปล่อยมิ้น”

เธอขอร้องเขาอีกครั้ง ใจยิ่งเต้นรัวเมื่อใบหน้าคมคายโน้มต่ำลงมาทุกขณะใจเต้นระส่ำไม่พอ ร่างกายพาอ่อนแรง สมองคิดอะไรไม่ออก

“ไม่ปล่อย” สิ้นเสียงใหญ่ ริมฝีปากใหญ่ทาบทับกลีบปากนุ่มของเธอทันที ดวงตาสาวเบิกกว้าง ตกใจสุดขีดเมื่อรับรู้ถึงความอุ่นร้อนจากปากของเขา มิหนำซ้ำจังหวะที่เขาฉกจูบ เรียวปากสาวเผยอกว้างเพื่อร้องห้ามปราม ทำให้เขาฉกฉวยโอกาสนี้ส่งปลายลิ้นใหญ่เข้ามาพันรัดลิ้นของเธอได้อย่างสะดวก

ร่างกายสาวเกร็งแข็ง สมองของเธอขาวโพลน ไร้ซึ่งความคิดใดๆ ริมฝีปากใหญ่ที่ครอบครองปากของเธออยู่คือต้นเหตุ อัคราบดจูบอย่างเร่าร้อน ลิ้นใหญ่ซอกซอนไปทั่วโพรงปากสาวหวานฉ่ำ ก่อนจะกระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กที่ทำอะไรไม่ถูก ไม่หลบหลีกแต่ก็ไม่ตอบโต้

มือทั้งสองข้างของรวิษากำเสื้อลำลองตรงช่วงอกของเขาแน่น ดวงตาที่ขยายกว้างเริ่มปรือทีละนิด เมื่อถูกพิษจุมพิตเข้าครอบงำ หัวใจและจิตใจของสาวน้อยอ่อนหัดกำลังเตลิดไปไกล จุมพิตของเขาหักหาญในคราแรก แต่ต่อมาคือการเรียกร้อง

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ รู้เพียงว่าเวลานี้เธอกำลังหายใจไม่สะดวก ลมหายใจสะดุดเอาดื้อๆ มือที่ผลักไสอ่อนแรงอีกครั้ง เช่นเดียวกับการต่อต้านลดน้อยลง หนทางเอาตัวรอดที่รวิษาพยายามนึก ถึงขั้นจนตรอกหาทางออกไม่ได้ ปล่อยให้เขาช่วงชิงจุมพิตหวานๆ นี้ต่อไป

มือแข็งแรงลูบไล้ข้างลำตัวของรวิษา ผ่านสะโพกผายขึ้นมายังเอวคอดเล็ก แล้วเลื่อนขึ้นสูงมายังดอกอุบลที่หลบซ่อนอยู่ใต้ชุดเดรส เขาออกแรงบีบเบาๆ แต่สะท้านไปทั้งกายสาว และนั่นเรียกสติของเธอให้กลับมา รวิษาออกแรงดิ้น ส่ายศีรษะไปมาหวังจะให้ริมฝีปากของตนเป็นอิสระ ทว่าเขากลับกดปากของตนเองให้มากขึ้นครอบครองริมฝีปากนุ่มหอมละมุนต่อไป อีกทั้งมือแข็งแรงยังคงประคองบีบเต้าทรวงอวบอั๋นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนรวิษามองไม่เห็นอิสรภาพของตนเองน้ำตาแห่งความเสียใจจึงไหลริน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

“โอมเปิดประตูให้แม่หน่อยลูก” เสียงของอินทุอรเหมือนเสียงจากสวรรค์สำหรับรวิษา เธอส่ง

เสียงร้องในลำคอ ดิ้นรนผลักไสร่างหนา

“โอมเปิดประตูให้แม่หน่อยลูก แม่มีเรื่องจะคุยด้วย” อินทุอรเคาะประตูและเรียกลูกชายอีกครั้ง

คนที่อยู่ในห้อง บนเตียงหนานุ่มมีอารมณ์ที่แตกต่างกัน รวิษาดีใจที่ได้ยินเสียงของอินทุอร เพราะมันเหมือนเป็นระฆังช่วยชีวิต แต่สำหรับอัคราเสียงของมารดาคือการขัดจังหวะอันแสนอภิรมย์ เขาถอนจุมพิตอย่างแสนเสียดาย เพราะยังรู้สึกถึงความปรารถนาที่อยู่ในกายของตนเอง เขาต้องการรวิษามากกว่าจูบ

“อย่าบอกคุณแม่เรื่องนี้ ห้ามบอกเด็ดขาด”

อัครากำชับสาวใต้ร่างที่ตกอยู่ในอาการตกใจ เธอพยักหน้ารับคำทั้งน้ำตา เขาจึงปล่อยร่างสาวให้เป็นอิสระ รวิษาผุดลุกลงมายืนข้างเตียง จัดเสื้อผ้าและผมของตนเองให้เรียบร้อย จากนั้นมือเล็กก็ปาดน้ำตาที่ไหลอาบทิ้งไปนำพาขาที่ค่อนข้างสั่นเดินไปยังประตูห้องนอน

“อ้าว...มิ้นยังอยู่ในห้องของโอมอีกเหรอ ฉันนึกว่าจะกลับห้องไปแล้วซะอีก” อินทุอรทักขึ้น เมื่อคนที่มาเปิดประตูคือรวิษา

“พอดีว่าคุณโอมให้มิ้นช่วยตรวจดูงานน่ะคะ มิ้นก็เลยยังไม่ได้กลับห้อง” รวิษาพูดปด “มิ้นขอตัวนะคะพอดีช่วยงานคุณโอมเสร็จแล้ว” รวิษาเดินเลี่ยงออกไปจากห้องของอัครทันที อินทุอรมองตามร่างของหญิงสาวที่เธออุปการะเลี้ยงดูด้วยความสงสัย

ไม่แปลกที่รวิษาจะมาช่วยเหลืองานในบริษัท เป็นเพราะหลังจากเรียนจบรวิษาได้เข้ามาทำงานในบริษัท ตำแหน่งของเธอคือ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบุคคล และบางครั้งหากเลขาของอัคราทำงานไม่ทันเนื่องจากตั้งครรภ์อยู่ การทำงานจึงไม่เต็มที่นัก รวิษาจึงถูกดึงมาช่วย

แต่ทว่าสีหน้าและแววตาของรวิษาที่อินทุอรเห็นนั้น ไม่เหมือนกับคนที่กำลังช่วยงานลูกชายของนางแต่อย่างใด รวิษามีความตื่นตกใจในดวงตา สีหน้าซีดเหมือนกับคนหวาดกลัวอะไรสักอย่าง คนจับสังเกตได้มองไปยังร่างของลูกชายที่นั่งอยู่ริมเตียง ก่อนจะเดินเข้าไปภายในห้อง

“ให้มิ้นดูงานอะไรโอม” อินทุอรถาม มาทรุดกายนั่งข้างลูกชาย

“ก็งานทั่วๆ ไปครับ” เขาตอบแบบไม่เจาะจง

“โอมเอางานมาทำที่บ้านด้วยเหรอ ปกติโอมไม่ทำอย่างนี้นี่”

นางรู้วิธีการทำงานของอัคราดี ลูกชายตัวดีของนางจะไม่นำงานมาทำที่บ้าน หากมีงานคั่งค้างก็จะทำในวันรุ่งขึ้นแทน รู้จักว่าเวลาไหนคือเวลาทำงาน เวลาไหนคือเวลาพักผ่อน

“พอดีว่างานนี้มันด่วนมากครับ แล้วก็ยังทำไม่เสร็จ ผมก็เลยต้องกลับมาทำที่บ้าน เมื่อกี้มิ้นเอาข้าวมาให้ผมกิน ผมก็เลยให้มิ้นช่วยดูงานให้เลย” เขาแก้ตัวอย่างแนบเนียน “ว่าแต่คุณแม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมครับ” ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“พ่อกับแม่คิดว่า ตอนนี้เราก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาก็น่าจะไปเที่ยวด้วยกันบ้าง แม่กะว่ามะรืนนี้จะไปกระบี่กัน ไปด้วยกันนะลูก”

อินทุอรไม่อยากจะค้านคั้นถามอัคราต่อ นางจึงพูดคุยในเรื่องที่ตัวเองตั้งใจ อีกฝ่ายทำท่าเบื่อหน่ายขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าจะต้องไปเที่ยวกับน้องชายต่างมารดา เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ครั้นเขาจะปฏิเสธตามหัวใจของตัวเอง แต่พอมองเห็นหน้ามารดาเขากลับปฏิเสธไม่ลง ใบหน้าของอินทุอรมีรอยยิ้มแต่งแต้ม ดวงตาดูเหมือนคนกำลังตกอยู่ในห้วงของความสุข หากเขาพูดในสิ่งที่ใจคิด ภาพใบหน้าและแววตาของผู้เป็นแม่คงเปลี่ยนไป

“ก็ได้ครับคุณแม่” รอยยิ้มของอินทุอรมีมากขึ้น หลังจากได้ยินคำตอบรับจากลูกชาย

“โอม แม่จะขออะไรโอมซักข้อได้มั้ยลูก”

“อะไรครับคุณแม่” นางเลื่อนมือมาจับมือแกร่งของอัครา แล้วบีบเบาๆ

“แม่รู้ว่าโอมไม่ชอบหน้าอาร์ม แต่แม่อยากให้โอมพูดดีๆ กับอาร์มต่อหน้าคุณพ่อ คุณพ่ออายุมากขึ้นทุกวันแล้วนะลูก แม่ไม่อยากให้คุณพ่อคิดมากเรื่องนี้ เวลาคุณพ่อเห็นโอมพูดจาไม่ดีหรือแสดงทีท่ารังเกียจอาร์มครั้งใด สีหน้าของคุณพ่อไม่ดีเลย แม่กลัวความดันของคุณพ่อจะขึ้น พาลจะไม่สบายเอาได้ แม่ขอนะโอม อาร์มอยู่ที่นี่ไม่นานนะลูกเดี๋ยวน้องก็กลับไปทำงานที่โน่นต่อ ทำดีกับอาร์มเพื่อคุณพ่อนะลูก แม่ขอร้อง”

อัครามองหน้าผู้พูดนิ่ง เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าการที่ตนเองแสดงท่าทางรังเกียจน้องชายจนออกนอกหน้า ทั้งการกระทำและคำพูดจะทำให้อรรคเดชเกิดความทุกข์ เขาคิดว่ามันคงเป็นความเคยชินสำหรับทุกคนในบ้านหลังนี้กับการแสดงออกถึงความรังเกียจอัคคิน ประโยคคำพูดของมารดาจึงกระแทกใจเขาอย่างแรง ตามมาด้วยความรู้สึกผิด

“ครับคุณแม่ ผมจะพยายามครับ” อัครารู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะพูดดี ทำดีกับน้องชาย แต่เขาก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด

“ขอบใจโอมมากนะลูก แม่ขอบใจโอมมาก”

นางยิ้มอย่างคนมีความสุข น้ำตาปริ่มกับคำตอบรับของอัครา วาดหวังไว้ว่าการไปเที่ยวพร้อม

หน้าพร้อมตาในครั้งนี้คงจะเกิดความสุข

“ผมทำเพื่อคุณพ่อคุณแม่ครับ”

“แม่ขอบใจโอมอีกครั้งนะลูก โอมพักผ่อนเถอะแม่ก็จะไปพักเหมือนกัน”

“ครับคุณแม่ เดี๋ยวผมเดินไปส่งคุณแม่ที่ห้องนะครับ”

ผู้เป็นลูกลุกขึ้นยืน ก่อนจะประคองร่างของมารดาไปส่งหน้าห้อง ระหว่างที่เดินกลับมาที่ห้องของตนเองนั้น เขามองไปยังประตูห้องนอนของรวิษา ในฉับพลันนั้นเขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

สมภารกำลังจะกินไก่วัด...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel