บทที่ 2 ความผิดที่เธอไม่ได้ก่อ
“ เธอต้องจ่ายคืนให้น่ะมันใช่อยู่แล้ว แต่ที่ต้องจ่ายน่ะมันไม่ใช่เงิน ” ตาคมจ้องนิ่งที่ปากอิ่มพลางโน้มใบหน้าเข้าไปจนชิด
“ มะ ไม่ใช่เงิน แล้วชมพูจะใช้หนี้ให้ได้ยังไงกัน ” ตอบพลางเอนร่างหนีการคุกคามของคนตรงหน้า ทว่าแผ่นหลังเธอดันไปติดกับผนังห้องเสียนี่
คนตัวใหญ่ยิ้มมุมปากอย่างเยาะหยันริมฝีปากหนาฉกวูบลงมาหวังจะครอบครองปากอิ่ม แต่เธอเบือนหน้าหนีได้ทันแก้มนวลจึงตกเป็นเป้าแทน หนวดเคราสากระคายครูดผ่านทำเอาแก้มขาวแดงระเรื่อขึ้นทันใด ใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัวจะทะลุออกมานอกอก รีบยกมือดันแผ่นอกเขาเอาไว้
“ ก็ตัวเธอไง หนี้ที่เธอต้องชดใช้มันประเมินค่าไม่ได้ด้วยเงิน นอนอ้าขาให้ฉันเอาจนกว่าจะเบื่อ วันไหนที่ฉันเบื่อก็วันนั้นแหละที่หมดหนี้แล้วเธอก็จะได้กลับบ้านไปหาพี่ชายชาติชั่ว อาจมีของแถมติดท้องไปเล็กน้อย เหมือนกับที่น้องสาวฉันต้องเจอ! ” เสียงตะคอกต่อหน้าทำให้เธอตกใจจนหน้าถอดสี นัยน์ตาคมวาวโรจน์อย่างข่มขวัญ นายบ้านี่เป็นฆาตกรโรคจิตเหมือนในหนังรึเปล่านี่ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาหมอนี่ก็ขู่เธอจนขนตัวตั้งไปหมดแล้ว
“ คุณพูดอะไร ชมพูไม่รู้เรื่อง ปล่อยชมพูไปเถอะนะคุณจะเอาเงินค่าไถ่ใช่มั้ย ชมพูขอโทรศัพท์หาพี่วินแป๊บเดียวเดี๋ยวพี่วินก็โอนให้แล้ว จะเอาเท่าไหร่คะ ” สัญชาตญาณเอาตัวรอดบอกให้เธอพยายามคุยกับผู้ชายร้ายกาจตรงหน้าอย่างละมุนละม่อม พวกโรคจิตมักเกิดอารมณ์ถ้าหากผู้หญิงต่อต้าน ใช่รึเปล่าก็ไม่รู้แต่เธอคิดเอาเองแบบนั้น
“ บอกแล้วไงว่าไม่ต้องการเงิน รวยมากนักรึไงถึงได้ย่ำยีชีวิตคนอื่นอย่างเลือดเย็น เจอเองบ้างถึงจะรู้สึกไอ้พวกพิบูลไพศาลเฮงซวย! ” เสียงคำรามหยุดลงพร้อมกับมือหนารวบลำคอระหงรั้งเข้ามาใกล้ บังคับให้เงยหน้าขึ้นรับจูบดุดันที่บดเบียดลงมา ลิ้นสากไล้เลียกลีบปากอิ่มแล้วดูดดึงแรง ๆ ไร้ความอ่อนโยน
“ อ๊ะ โอ้ย! ” เธอร้องครางประท้วง รู้สึกเจ็บแปลบที่ริมฝีปากล่าง ธันวาใช้จังหวะนั้นสอดแทรกลิ้นเข้าไปดูดดึงเกี่ยวพันลิ้นเล็กอย่างเอาแต่ใจ มันเป็นจูบแรกในชีวิตสาวที่ไร้ความโรแมนติกสิ้นดี
มือหยาบกร้านรุกรานเข้ามาในเสื้อยืดตัวเล็กปลดตะขอบราของเธอออกอย่างชำนาญ แล้วเลื่อนไปกอบกุมสองบัวตูมอวบบีบเค้นหนักหน่วงขณะที่ปากร้อนเลื่อนลงมาขบเม้มดูดดึงผิวเนื้อตรงเนินอกที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา
นิ้วหัวแม่มือบดบี้ยอดบัวตูมจนมันแข็งตัวชูชันขึ้นรับสัมผัส ชมพูนุชครางอู้ด้วยความซ่านสยิว มันเป็นความรู้สึกที่เธอเพิ่งเคยพบพานเป็นครั้งแรกในชีวิต
กางเกงสกินนี่ถูกปลดกระดุมออกแล้วรูดลงไปกองอยู่ที่ต้นขาโดยตัวผู้เป็นเจ้าของไม่ทันรู้ตัว รู้อีกทีก็ต่อเมื่อมืออุ่นทาบทับลูบไล้ไปบนเนินเนื้อสาวแล้วสอดแทรกนิ้วกลางลงไปสำรวจกลีบกุหลาบของเธอที่เริ่มฉ่ำชื้นร้อนฉ่าไปหมด
“ อย่านะ ไม่ หยุดนะ ไอ้บ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ” เธอร้องห้ามเมื่อเริ่มได้สติ ถึงกระนั้นร่างกายก็โอนอ่อนไปตามแรงโลมเล้าอันช่ำชองของคนบ้าที่เธอด่า วินาทีนี้ชมพูนุชลืมไปหมดว่าอย่าต่อต้านพวกโรคจิตอย่างที่คิดเอาไว้ในตอนแรก
“ อย่าสะเออะมาออกคำสั่งกับฉัน เธอมันเป็นแค่ของเล่นมีหน้าที่อ้าขาให้ฉันเอาเท่านั้น หึ หึ หยุดงั้นรึ ดูเหมือนว่าร่างกายเธอมันร่านจนสวนทางกับคำพูดนะชมพู ” ธันวาพ่นคำพูดใส่หน้าเธอ ยิ่งเห็นดวงตากลมโตที่คล้ายคลึงกับอัศวินยิ่งทำให้ความคับแค้นเพิ่มทวี
นิ้วสากบดบี้ติ่งเกสรกลางกลีบนวลจนน้ำหวานไหลเยิ้มซอกขาเธอไปหมด ชมพูนุชร่างระทวยสั่นสะท้านไปกับสัมผัสวาบหวาม สะโพกสาวแอ่นเข้าหามือเขาอย่างน่าละอาย และเมื่อเขาสอดนิ้วกลางเข้าไปภายในความสาวเธอก็คว้าไหล่หนาเขาเอาไว้แล้วจิกเล็บลงด้วยความเสียวซ่าน
“ ฉัน ไม่ ได้ ร่าน อ๊ะ ๆ ๆ…” เขาเร่งจังหวะนิ้วที่แทรกเข้าไปภายใน จนเธอเริ่มตัวเกร็ง ความคับแคบตอดรัดนิ้วเขาจนรู้สึกได้ และเมื่อเขาก้มลงไปดูดยอดบัวตูมของเธอพร้อมกับเร่งจังหวะข้อมือ เธอก็กรีดร้องครวญครางจนลั่นห้อง ในหัวเธอขาวโพลนไปหมด แล้วร่างเล็กก็ทรุดฮวบลงบนบ่าเขาเมื่อถึงปลายทางปรารถนา พร้อมกับสติที่ดับวูบลงไปด้วย
