บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 อาหารจานโปรด

"องค์หญิงจะเสวยปลาดิบ!" พระพี่เลี้ยงและนางกำนัลทั้งสี่อุทานเป็นเสียงเดียวกัน นี่ตกลงองค์หญิงที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายเป็นคนหรือปีศาจกันแน่ ทุกคนเริ่มจะหวั่นๆ ซะแล้ว

"ใช่ไง ปลาดิบแล้วทำไมเหรอ"

"กะ ก็ มันยังดิบน่ะสิเพคะ จะเสวยเข้าไปได้อย่างไร" เนรานค้านกล้าๆ กลัวๆ

"อ๋อ.... ฮี่ๆ ๆ ...เจ้าไม่รู้อะไร ตอนที่ข้าตายแล้วขึ้นไปเที่ยวบนสวรรค์ เทพเจ้าบนสวรรค์เป็นคนบอกข้าเองแหละว่าปลาดิบนี่แหละเป็นสุดยอดอาหารสวรรค์ มันทั้งอร่อยและอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารเชียวนะจะบอกให้" หญิงสาวโกหกได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด หน้าไม่แดงลมหายใจไม่ติดขัด ความละอายต่อบาปอะไรนั่นไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของตระกูลหล่อนอยู่แล้ว แต่นี่ยังแค่เด็กๆ นะ หล่อนยังห่างชั้นกับผู้อาวุโสในตระกูลอีกมาก

"ตะ แต่..." เนรานทำท่าจะค้านอีก

"ไม่มีต่งมีแต่อะไรทั้งนั้น ไปจัดการมาตามที่ข้าสั่งซะก่อนที่ข้าจะโมโหหิวไปมากกว่านี้ อ้อ...ข้าจะอาบน้ำรอก็แล้วกัน เหม็นคาวปลาไปทั้งตัวแล้ว"

เมื่อโดนเข้าแบบนี้ ทุกคนเลยได้แต่วิ่งวุ่นไปทำตามคำสั่ง ช่างเป็นเจ้าหญิงที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้

ณ ลานขนาดเล็กที่ล้อมรอบไปด้วยกองไฟริมโอเอซิส พรมขนสัตว์ที่ถักทอด้วยลวดลายวิจิตรถูกใช้มาปูเป็นพื้นสำหรับใช้เป็นที่เสวยเมนูเปิบพิศดารของเจ้าหญิงคนสวย กระโจมทุกหลังบัดนี้ได้ถูกเก็บและยัดใส่เกวียนหมดแล้ว หลังจากกินอาหารมื้อนี้เสร็จทุกคนก็พร้อมจะออกเดินทาง

สายตาหลายคู่กำลังแอบมองไปทางเจ้าหญิงแห่งเซฮารานที่บัดนี้เปลี่ยนมาใส่ชุดเสื้อกางเกงรัดกุมของทหารที่ยืมมาจากนายกองอุลลา หญิงสาวอ้างว่าตนเองต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางโดยไม่สนใจฟังคำทัดทานของเหล่านางกำนัล ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าใส่ชุดผู้ชายมาก่อน มันเป็นการผิดธรรมเนียมอย่างร้ายแรงเลยทีเดียว แต่กระนั้นก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าขนาดนางอยู่ในชุดผู้ชาย นางก็ยังงดงามจนชวนตะลึงเหมือนเดิม

ลิพิสนั่งอยู่บนพรมที่ทหารและนางกำนัลปูให้สำหรับรับประทานอาหารเย็น ผมดำยาวจรดเอว บัดนี้ถูกถักเป็นเปียเดี่ยวอย่างง่ายๆ ดวงตาหยาดเยิ้มเป็นประกายคลอคลองไปด้วยน้ำตากำลังจ้องมองจานปลาดิบตรงหน้าราวกับมันเป็นคู่รักที่พลัดพรากจากหล่อนไปนานปี ริมฝีปากอวบอิ่มจิ้มลิ้มเผยอเล็กน้อยจนน้ำลายเกือบจะไหลหยดออกมาอยู่รอมร่อ คนที่แอบดูทั้งหลายต่างพากันกลั้นหายใจดูสีหน้าเคลิบเคลิ้มของหญิงงามจนลืมตัวไปชั่วครู่

"อะแฮ่ม น้ำพระเขฬะจะหยดออกมาแล้วเพคะ" เนรานกระซิบหลังจากเห็นท่าไม่ดี

ลาพิสรีบหุบปากดังฉับ แลบลิ้นสีชมพูเล็กๆ ของตนออกมาเลียริมฝีปากอย่างหมายมาด เล่นเอาพวกทหารหายใจติดขัดกับภาพอันเย้ายวนไปตามๆ กัน หญิงสาวหันไปรับซ่อมจากนางกำนัลมาทำท่าจะจิ้มลงไปบนปลาดิบชิ้นที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่แล้วก็มีเสียง เฟี๊ยวววว... ฉึก! เพล้ง! ลูกธนูสีดำดอกหนึ่งแหวกอากาศเข้ามากลางวง ปักลงบนจานปลาดิบอย่างพอดิบพอดีจนจานกระเบื้องเคลือบแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี ไม่ต้องพูดถึงอาหารโปรดของหล่อนที่อยู่ในจาน บัดนึ้มันได้กระจุยกระจายปนกับเศษจานที่แตกจนหมดสภาพไปแล้ว หญิงสาวกรีดร้องโหยหวนด้วยความเสียดาย ใคร๊! ใครหน้าไหนมันช่างบังอาจมาทำกับอาหารจานโปรดของฉันแบบนี้ แม่จะจับถลกหนังทาเกลือแล้วเสียบไม้ประจานไห้หมด! แต่ยังไม่ทันได้โวยวายไปมากกว่านั้น ลูกธนูนับร้อยก็พุ่งเข้ามาอีก

ทหารคุ้มกันขบวนชาวการ์ซิดดีดตัวลุกขึ้นจับอาวุธด้วยความรวดเร็วสมกับฉายากองทัพปีศาจ ลาพิสถีบร่างพระพี่เลี้ยงให้ถลาไปหลบอยู่หลังก้อนหินก่อนที่ตนเองจะกลิ้งหลบไปอีกทาง ทหารและนางกำนัลหลายคนหลบไม่ทันโดนลูกธนูปักล้มลงจมกองเลือด พวกที่เหลือรอดต่างรอคอยจนห่าธนูหยุดลงจึงได้โผล่หน้าออกมาจากที่กำบัง เสียงฝีเท้าตัวกีเซลดังล้อมโอเอซิสเอาไว้ทุกทิศทุกทาง

ผู้บุกรุกที่มีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัวเพียงแต่ล้อมโอเอซิสไว้เฉยๆ เมื่อเห็นว่าฝ่ายที่ถูกโจมตียังไม่มีท่าทีว่าจะต่อสู้ขัดขืน นายกองอุลลาเห็นสัญญลักษณ์รูปปีกนกสีดำที่ผ้าคาดหัวของพวกที่ล้อมอยู่ก็ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ไม่มีใครไม่รู้จักกลุ่มโจรไบยาตีที่โหดเหี้ยมพวกนี้ มันเป็นกลุ่มโจรทะเลทรายเพียงกลุ่มเดียวที่หลุดรอดจากการกวาดล้างของทหารการ์ซิด และถือได้ว่าเป็นเจ้าแห่งทะเลทรายอย่างแท้จริง พวกมันไม่มีหลักแหล่งที่แน่นอน เดินทางเร่ร่อนไปทั่ว บางครั้งก็ปล้นขบวนสินค้า บางครั้งก็ปล้นขบวนบรรณาการ แถมบางครั้งยังอาจหาญบุกไปปล้นชาวเมืองที่อยู่ริมทะเลทรายทั้งหลาย โจรกลุ่มนี้มีกำลังคนหลายร้อย แต่สามารถเดินทางไปมาในทะเลทรายได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย แถมฝีมือของสมุนโจรแต่ละคนก็ร้ายกาจจนเกือบจะเทียบเท่าทหารฝีมือดีของการ์ซิดเลยทีเดียว

มือขวาของหัวหน้าโจรชักม้าออกมาจากวงล้อมเมื่อเห็นว่านายกองอุลลานำทหารที่เหลือรอดจากการถูกธนูยิงเดินถืออาวุธออกมาจากที่หลบซ่อนโดยไม่เกรงกลัวพวกมัน

"อ้อ ทหารการ์ซิดนี่เอง คงไม่ต้องแนะนำนะว่าพวกเราเป็นใคร ส่งของมีค่าออกมาให้..." มันยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยคก็พลันล้มตกจากหลังกีเซล ตรงหน้าอกซ้ายมีมีดสั้นเล่มหนึ่งปักจมมิดด้ามท่ามกลางสายตาตกตะลึงของพวกโจรที่เหลือ

"แมลงวันตัวไหนคิดจะส่งเสียงหึ่งๆ น่ารำคาญอีกมั้ยห๊ะ" เสียงกังวาลใสตวาดออกมาจากกลุ่มเกวียนบรรทุกของของขบวนบรรณาการ ก่อนที่ร่างอ้อนแอ้นงดงามร่างหนึ่งจะกระโดดออกมา

ทันทีที่เหล่าโจรเห็นใบหน้าของผู้ที่อาจหาญฆ่าพรรคพวกของตน เสียงผิวปากและตะโกนอย่างหยาบโลนก็ดังไปทั่ว หัวหน้าโจรหัวเราะชั่วร้ายพร้อมกับตะโกนสั่งให้สมุนโจรบุกเข้าไปจับนางทันที เสียงโห่ร้องและเสียงอาวุธกระทบกันดังกระหึ่มก้องโอเอซิส

"เฮ้ย อย่าให้ของสำคัญบุบสลายนะโว้ย จับเป็นพวกผู้หญิงส่วนพวกผู้ชายฆ่าทิ้งให้หมด" จอมโจรเซอิดตะโกนย้ำสั่งลูกน้องโดยที่ตัวเองยังคงนั่งดูอยู่บนหลังกีเซล ทหารแค่หยิบมือแบบนี้ไม่ต้องให้ถึงมือหัวหน้าอย่างเขาหรอก

"ชิ!ใครไม่รักชีวิตก็เข้ามา!" ลาพิสตะคอกเสียงดัง พุ่งตัวไปเก็บดาบจากศพทหารที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วเข้าไปร่วมตะลุมบอน

เซอิดหรี่ตามองหญิงสาวที่งามหยาดฟ้ามาดินแต่กลับพุ่งเข้าใส่สมุนโจรด้วยท่าทางราวกับเป็นเทพีแห่งสงครามด้วยความคาดไม่ถึง เพียงพริบตาเดียวนางก็ปาดคอลูกน้องมือดีของเขาไปเกือบสิบคนแล้ว นางฆ่าคนได้โดยสีหน้าไม่เปลี่ยนสักนิดแถมผีมือการใช้ดาบยังรวดเร็วเฉียบคม ไม่มีการฟันออกไปโดยเปล่าประโยชน์แม้แต่ครั้งเดียว เหนือกว่าลูกน้องที่เก่งที่สุดของเขาด้วยซ้ำ หากสู้ต่อไปนานเข้านางก็น่าจะเหนื่อยและแพ้ในที่สุด เพราะจำนวนคนแตกต่างกันมาก แต่เรื่องอะไรเขาจะต้องมาเสียลูกน้องมือดีมากมายเพิ่อจับผู้หญิงเพียงคนเดียวด้วยล่ะ

เสียงปรบมือและเสียงหัวเราะดังก้องของหัวหน้าโจรไบยาตีทำเอาทุกคนหยุดการต่อสู้แล้วหันมามองเขาเป็นตาเดียว เขาโบกมือเล็กน้อยสมุนโจรก็ถอยฉากออกมายืนล้อมวงด้านนอกกันหมด จอมโจรหนุ่มชักกีเซลออกมาหยุดตรงหน้าลาพิส โค้งศีรษะให้นางเล็กน้อย

"ไม่ทราบว่าแม่นางมีนามว่าอันใด" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับปลดผ้าคลุมหน้าออกเพื่อเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย

ลาพิสหรีตามองหน้าหัวหน้าโจรที่ยังคงนั่งเต๊ะท่าอยู่บนหลังกีเซล แม้แสงจากกองไฟจะไม่ถึงกับสว่างนักแต่ก็สามารถมองเห็นแววตาแวววาวเจ้าสเน่ห์ที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มได้อย่างไม่ยากนัก เขาเป็นชายหนุ่มที่ผอมสูงแต่ดูแกร่งไปทั้งตัว ใบหน้านั้นก็ออกจะ.... 'หล่อร้าย' อยู่สักหน่อย หญิงสาวมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยท่าทางยียวนกวนประสาทจนทำให้ฝ่ายที่ถูกมองยิ้มกว้าง ช่างเป็นหญิงสาวที่น่าสนใจจริงๆ

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงไม่ตอบ เซอิดก็กระโดดลงมาจากหลังกีเซล เขาโค้งให้หล่อนด้วยท่าทางยั่วเย้า

"แม่นางโปรดรับคำขอโทษจากข้า หากข้าและลูกน้องได้ทำสิ่งใดเป็นการขัดเคืองใจต่อท่าน พวกเราก็ขออภัยด้วยเถิด"

"ชิ พวกเจ้าก็ไปจับปลาในโอเอซิสมาให้ข้าสักตัวสองตัวเป็นการไถ่โทษซะสิ ขอบอกก่อนนะว่าข้ากำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ อย่าให้ข้าต้องรอนานล่ะ" ลาพิสพูดเสร็จก็สะบัดหน้าเดินไปนั่งท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกฝ่าย

หัวหน้าโจรพอหายอึ้งก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นจนคนอื่นๆ อึ้งไปตามๆกันเป็นรอบที่สอง บรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันปลาสนาการไปทันที เขาถึงกับสั่งลูกน้องให้ไปไล่จับปลาคูวี่สีเงินในบึงมาให้หญิงสาวที่นั่งวางท่าราวนางพญารออยู่ และเพียงแค่ริบอาวุธจากพวกทหารเพื่อความปลอดภัยของพวกตน เห็นทีค่ำคืนนี้ขบวนบรรณาการจำต้องเดินทางล่าช้ากว่ากำหนดออกไปอีกหนึ่งวัน....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel