บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 โมโหหิว

"ฮุก ๆ ๆ ฮรู...." เสียงนกสองตัวที่หน้าตาคล้ายนกฮูกแต่ตัวเล็กเท่านกเขาร้องเบา ก่อนจะถูกปล่อยขึ้นฟ้าเพื่อนำสารไปส่งข่าวที่เมืองหลวงของการ์ซิด และเซฮาราน ข้อความภายในสารก็คงไม่พ้นข่าวการตื่นจากนิทราของเจ้าหญิงแห่งเซฮาราน

เนรานเล่าว่าทุกๆ วัน ยามดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า นายกองอุลลาซึ่งเป็นหัวหน้าทหารหน่วยทหารที่คุ้มกันหล่อนอยู่นี้ จะต้องส่งข่าวด้วยนกฮุกฮรูไปยังราชสำนักการ์ซิด เพื่อรายงานความคืบหน้าในการเดินทางของขบวนบรรณาการและเพื่อยืนยันว่าทุกคนในขบวนยังอยู่ดีมีสุข โชคดีที่ลาพิสไม่รีบร้อนฆ่าปาดคอคนพวกนี้แล้วหนีไป ไม่งั้น หากวันไหนที่ไม่มีการส่งข่าวไป กองกำลังทหารหน่วยที่ประจำการอยู่ใกล้ที่สุดจะถูกส่งมาตรวจสอบทันที นี่พวกหล่อนก็พักที่นี่กันตั้งสามวันแล้ว เพราะแพทย์หลวงบอกว่าอยากจะรอให้อาการจามจนเหนื่อยของตน เอ๊ย ขององค์หญิงหายเสียก่อนค่อยเดินทางต่อ จึงทำให้เสียเวลากันพอสมควร

ลาพิสเหยียดแขนบิดขี้เกียจก่อนจะปิดปากหาว มองไปที่ทิวทัศน์ยามเย็นของโอเอซิสเล็กแห่งนี้ด้วยท่าทางเกียจคร้าน กิริยามารยาทของเจ้าหญิงที่เปลี่ยนไป ทำเอาพระพี่เลี้ยงเนรานถึงกับเหงื่อตก เอาเถอะ คงต้องเริ่มอบรมมารยาทกันใหม่หมดตั้งแต่แรก ก็เจ้าหญิงเพิ่งทรง 'เกิดใหม่' นี่นะ

โอเอซิสไมอุระแห่งนี้ เป็นโอเอซิสขนาดเล็ก มีบึงน้ำตื้นๆ อยู่ตรงกลาง บึงนี้มีขนาดกว้างประมาณสระว่ายน้ำที่บ้านลาพิส ในบึงมีก้อนหินใหญ่โผล่พ้นน้ำระเกะระกะ สลับแซมด้วยต้นไม้น้ำตระกูลกกที่กำลังออกดอกสีส้มแดงห้อยเป็นพวงเต็มไปหมด รอบๆ บึงก็เป็นพืชตระกูลปาล์ม ต้นสูงบ้างต่ำบ้าง ที่สูงที่สุดก็เกือบสิบเมตร แต่ละต้นมีใบเรียงซ้อนกันเหมือนดอกกุหลาบ สวยแปลกตาจนลาพิสอยากจะให้คนมาขุดไปแต่งสวนที่บ้านเลยทีเดียว คนที่นี่เรียกมันว่าปาล์มไมอุระ โอเอซิสนี้ก็เลยได้ชื่อตามต้นปาล์มนี้แหละ

หญิงสาวเดินไปนั่งหย่อนขาลงบนหินก้อนใหญ่ริมบึง ฆ่าเวลารออาหารเย็น วันนี้หล่อนไม่ค่อยจามแล้ว นายกองอุลลาจึงตัดสินใจว่าจะเดินทางกันต่อหลังกินอาหารเย็นเสร็จ

ลาพิสถลกกระโปรงขึ้นมาจนถึงเข่าแล้วแกว่งเท้าเล่นในน้ำอย่างสำราญใจ เนรานรีบสั่งให้นางกำนัลของการ์ซิดที่ตามออกมาด้วยอีกสี่คนยืนขึงผ้าบังสายตาของพวกทหารไว้ ก็ใครใช้ให้เจ้าหญิงของนางสวยขึ้นกว่าแต่ก่อนมากขนาดนี้ล่ะ ทหารแต่ละคนมองกันตาปรอยหมดแล้ว ใช่ว่าเจ้าหญิงอาเซร่าจะไม่สวยหรอกนะ นางได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเซฮารานก็จริง แต่นางงดงามแบบบริสุทธิ์อ่อนหวานเหมือนดอกไม้น้ำเล็กๆ ที่มีกลีบบางใสสีชมพูอ่อน ส่วนเจ้าหญิงลาพิสที่เกิดใหม่พระองค์นี้กลับงดงามผุดผาดเย้ายวนไปทุกสัดส่วนจนไม่ว่าใครก็ยากจะถอนสายตาออกไปได้ แถมยังเป็นความเย้ายวนที่เป็นธรรมชาติไร้การปั้นแต่งอย่างยิ่ง!

ผมสีดำเงางามยังคงยาวเท่าเดิมแต่กลับเป็นเส้นเล็กละเอียดขึ้นชวนให้ผู้คนอยากสัมผัสลูบไล้ ผิวขาวผ่องก็ยิ่งผุดผ่องอมชมพูบางและเนียนใสราวกับผิวทารกแรกเกิดจนผู้คนอิจฉา ดวงตาหงส์สีดำที่บัดนี้กลายเป็นสีน้ำเงินเข้มของนางโตขึ้นเล็กน้อย แพขนตาหนาและยาวกว่าเดิมทำให้ดวงตาที่เคยเป็นเพียงประกายสดใส เปลี่ยนเป็นงามดึงดูดราวกับกำลังจะปลิดวิญญาณของผู้ที่ถูกสบตา โดยเฉพาะเวลาที่นางหรี่ตาปรือ แทบจะทำให้ผู้พบเห็นหายใจสะดุดเลยทีเดียว จมูกเล็กๆ นั้นก็โด่งขึ้น รับกับริมฝีปากที่อิ่มเต็มกว่าเดิม ยามที่ริมฝีปากแดงฉ่ำโดยธรรมชาติคู่นี้เผยอขึ้นด้วยความลืมตัว ผู้หญิงด้วยกันยังเผลอมองจนหน้าแดงเลย รูปร่างที่เคยอรชรอ้อนแอ้นบอบบาง บัดนี้กลับเต็มไปด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าที่ทำเอาผู้ชายน้ำลายหกกันไปตามๆ กัน ...รู้สึกว่าหน้าอกนั้นจะใหญ่ขึ้นจนเกินไปรึเปล่านะ เอวก็คอดเล็กลงจนแทบจะเป็นเอวมดอยู่แล้ว หน้าท้องแบนราบที่กินเท่าไหร่ก็ไม่นูนขึ้นมาจนน่าอิจฉารับกับสะโพกที่ผายพองาม ก้นก็งอนขึ้น ท่อนขากลมกลึงเรียวยาวกว่าเดิม เห็นทีหล่อนต้องหาผ้าคลุมมาให้เจ้านายสวมเพื่อความปลอดภัยเสียแล้ว ที่ผ่านมาเจ้าหญิงนอนหลับมาตลอดจึงถูกดูแลอยู่แต่ในรถม้าและในกระโจม ไม่เคยออกมาปรกฏโฉมให้ใครเห็น นี่ฟื้นขึ้นมาไม่กี่วันก็ทำเอาทหารไม่เป็นอันทำงาน คอยแต่จะแย่งกันชะเง้อคอแอบดูตลอดเวลา เฮ้อ!

ฝ่ายลาพิสนั้น ไม่รู้สึกอะไรสักนิดที่มีแต่คนแอบมอง เพราะหล่อนชินเสียแล้วน่ะสิกับสายตาแบบนี้ ก็หล่อนน่ะเป็นถึงนักเรียนหญิงที่ได้รับการโหวดจากนักเรียนชายทั่วโลกว่าเซ็กซี่ที่สุดในบรรดานักเรียนหญิงโรงเรียนดังทั่วโลกเลยเชียวนะ ถึงจะไม่ได้อยากเกิดมาสวย แต่ก็ช่วยไม่ได้ ชิ อยากมองก็มองกันให้พอไปเลย

ทันใดนั้นสายตาคมปลาบก็เหลือบไปเห็นปลาสีเงินตัวใหญ่ว่ายอยู่ใกล้กอหญ้ากลางบึง ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายทันที เห็นภาพปลาตัวอ้วนกลายเป็นซูชิปลาดิบลอยอยู่ในหัว สายเลือดญี่ปุ่นที่มีอยู่ครึ่งตัวเดือดพล่านขึ้นมาทันที หญิงสาวกลืนน้ำลายดังเอื๊อกโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ก่อนจะชี้นิ้วไปที่เจ้าว่าที่ซูชิปลาดิบที่ยังว่ายอยู่ในน้ำ

"จะกิน" เสียงหวานกังวาลแต่ทรงอำนาจเอ่ยออกมาไม่ดังไม่เบาจนเกินไป

เนรานและเหล่านางกำนัลมองตามนิ้วเรียวยาวที่ชี้ไปที่กลางบึงด้วยสีหน้าลำบากใจ

"เอ่อ.... องค์หญิงเพคะ นั่นมันปลาคูวี่สีเงินเชียวนะเพคะ" นางกำนัลสาวน้อยคนหนึ่งท้วงขึ้นมาเบาๆ แม้เจ้าหญิงพระองค์นี้จะสวยงามหยาดฟ้ามาดินแต่พระองค์ก็ทรงมีรังสีที่เปล่งออกมาจากตัวบางอย่างซึ่งทำให้คนที่อยู่ใกล้อดจะเกรงกลัวไม่ได้ ไม่เห็นจะดูเหมือนองค์หญิงที่ทรงอ่อนหวานเรียบร้อยอย่างที่เคยได้ยินข่าวลือมาเลย

"แล้วไง" ลาพิสเลิกคิ้ว หันมาถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ชักจะเริ่มโมโหหิวซะแล้วสิ

นางกำนัลแห่งการ์ซิดพากันตัวสั่น รีบก้มหน้าหลบสายตาคมปลาบนั้นทันที

"ปลาคูวี่สีเงินเป็นปลาที่ขึ้นชื่อว่าว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในบรรดาปลาทั้งหลายในโลกเพคะ" เนรานอธิบายเรียบๆ เพราะคิดว่าเจ้าหญิงคงจะจำไม่ได้ เพราะหลังจากฟื้นขึ้นมาหล่อนก็ต้องอธิบายเรื่องทำนองนี้ให้พระองค์ฟังแทบจะตลอดเวลา ราวกับกำลังสอนเด็กเล็กๆ

"และนอกจากจะว่ายน้ำได้เร็วมาก ยังมีความฉลาด และความอดทนเป็นเลิศด้วยเพคะ ทำให้มีน้อยครั้งนักที่จะถูกจับมากินได้ ถือว่าเป็นราชาแห่งปลาทั้งปวงเลยเพคะ ที่สำคัญ... มันเป็นสัญญลักษณ์แห่งราชวงศ์การ์ซิดเพคะ"

"มีอะไรกันรึเปล่าขอรับ" นายกองอุลลาเดินเข้ามาถามเนราน เมื่อเห็นเหล่านางกำนัลมากันก้มหน้าตัวสั่น

ลาพิสยิ้มชั่วร้ายเล็กน้อยก่อนจะพูดยานคาง "อ้อ ท่านนายกอง ไม่มีอะไรมากหรอก ข้าแค่นึกอยากจะกินเจ้าปลาสีเงินตัวนั้นน่ะ" หล่อนท้าวสะเอวชี้นิ้วไปที่เจ้าปลาชะตาขาดกลางบึง อุลลาละสายตาจากใบหน้างามมองตามทิศที่หล่อนชี้ไป แล้วก็ถึงกับขมวดคิ้ว

นี่เจ้าหญิงพระองค์นี้ออกจะล้อเล่นเกินไปหน่อยรึเปล่า ถึงแม้จะไม่มีกฏสั่งห้ามจับปลาซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของราชวงศ์การ์ซิดที่ยิ่งใหญ่มากิน แต่ก็ไม่เคยมีใครขยันและบ้ามากพอจะเสียเวลาไปจับมัน ดูจากขนาดที่ใหญ่โตของเจ้าปลาตัวนี้ก็รู้แล้วว่าว่าฉลาดและว่ายน้ำเร็วขนาดไหน ไม่งั้นมันคงไม่อยู่รอดปลอดภัยอยู่ในบึงตื้นๆ แค่นี้ได้จนตัวโตขนาดนี้หรอก ถ้าในบึงไม่มีก้อนหินและต้นกกขึ้นขวางเป็นระยะๆ หากมีแหหรืออวนก็คงยังพอจะมีหวังว่าจะจับมันได้ แต่นี่กระทั่งแหหรืออวนก็ไม่มี ต่อให้ไล่ล่าจนน้ำในบึงขุ่นหมดก็คงไม่มีใครสามารถจับมันได้เป็นแน่ คงจะจริงที่ว่าผู้หญิงที่สวยมากๆ มักจะโง่และเอาแต่ใจตัวเอง

"คนของกระหม่อมไม่มีเวลามาเล่นสนุกเป็นเพื่อนองค์หญิงหรอกพระเจ้าค่ะ พวกเขาต้องเก็บสัมภาระเตรียมตัวออกเดินทางกันแล้ว" ชายหนุ่มหันหลังกลับเตรียมจะเดินจากไป แต่พลันก็รู้สึกถึงสายลมหอมกรุ่นพัดผ่านหลังมาวูบหนึ่ง สัญชาติญาณป้องกันตัวทำให้เขารีบคว้ามีดสั้นที่ห้อยอยู่ข้าเอว แต่ก็พบเพียงปลอกอันว่างเปล่า พอหันกลับไปมองด้านหลังก็เห็นมันกำลังถูกขว้างออกไปโดยนิ้วมือเรียวยาวของเจ้าหญิงที่เขาเข้าใจว่า 'สวยแต่โง่' พระองค์นั้น!

เสียงมีดหมุนควงตัดอากาศดังเฟี้ยว ก่อนจะไปปักอยู่บนหัวของเจ้าปลาโชคร้ายที่ตายสนิททันทีโดยไม่แม้แต่จะดิ้นสักครั้ง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนแทบไม่มีใครเชื่อสายตาตัวเอง อุลลาหน้าซีดสนิทในขณะที่เจ้าหญิงคนงามยิ้มยียวนกวนประสาท ส่วนคนอื่นๆ น่ะเหรอ ก็อ้าปากตาค้างกันตามระเบียบน่ะสิ

เจ้าหญิงแห่งเซฮารานตัวปลอมฉีกยิ้มชั่วร้ายขณะเดินลุยน้ำไปหิ้วปลาที่นอนหงายท้องจมกองเลือดขึ้นมา บรรจงดึงมีดสั้นอันคมกริบออกจากหัวปลาก่อนจะขว้างมันกลับคืนมาปักที่ปลายเท้าของนายกองแห่งการ์ซิด

"ขอบใจที่ให้ยืม มีดคมดีนะ"หล่อนไม่วายหันมาขยิบตาให้เจ้าของมีดอีกครั้งก่อนจะหิ้วปลาเดินกลับเข้าไปในกระโจมท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของเหล่าทหารและนางกำนัล

อุลลายืนตัวแข็งเป็นหินอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้สติรีบก้มลงไปเก็มมีดกลับเข้าปลอกพร้อมกับปรายตากำหราบให้พวกทหารที่เห็นเหตุการณ์หยุดซุบซิบนินทา แม้เขาจะไม่ใช่ทหารที่มีฝีมือดีเป็นอันดับหนึ่งในกองทัพ แต่ก็ติดอันดับหนึ่งในสิบ ไม่เคยถูกใครลูบคมแบบนี้มาก่อน เจ้าหญิงแห่งเซฮารานพระองค์นี้มีฝีมือไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง!

ฝีมือการขว้างมีดสั้นและความเร็วในการเข้ามาชิงมีดของนางอาจถึงขั้นสูสีกับองค์ราชาดาอิลเลยทีเดียว เหตุไฉนทางการ์ซิดถึงไม่เคยได้ยินข่าวมาก่อนว่านางเก่งกาจขนาดนี้..... เห็นที่จะต้องรีบส่งข่าวให้องค์ราชาระวังนางมากขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel