บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ถูกจับได้

หลังจากเหน็ดเหนื่อยเดินทางมาสิบสองวันขบวนส่งตัวสาวงามก็เดินทางมาถึงเมืองท่าเรือ แอมเบอร์และคนงานหลายคนที่ไม่เคยมาเยือนเมืองท่าแห่งนี้ถึงกับรู้สึกตื่นตาตื่นใจในความคึกคักและพลุกพล่านของผู้คนที่นี่

“นี่ยาย หลายวันมานี่ข้ารู้สึกว่าหน้ายายหมองๆ ซีดๆ ชอบกลนะ สงสัยยายจะเดินทางเหนื่อย เดี๋ยววันนี้เลิกงานแล้วข้าจะพายายไปเดินเล่นในตลาด ยายจะได้สดชื่นขึ้นมาหน่อย” ออลูนชวนแอมเบอร์ไปเที่ยวด้วยความหวังดี

แอมเบอร์ยกมือขึ้นลูบผิวหนังเหี่ยวย่นบนใบหน้าตนเองแล้วขมวดคิ้ว ไม่ใช่หน้าหมองเพราะเหนื่อยจากการเดินทางหรอก แต่ผิวปลอมของหล่อนหมดอายุไปหลายวันแล้วต่างหากล่ะ และหล่อนยังไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนแผ่นใหม่อีกด้วย ในที่สุดวันนี้ก็เดินทางมาถึงเมืองท่า หล่อนจะได้มีโอกาสปลีกตัวไปหามุมปลอดคนเปลี่ยนผิวได้สักที ขืนรอต่อไปอีกวันสองวันมันคงได้ลอกหลุดออกมาเองแล้ว

“แม่หนูไปเที่ยวกันกับพวกหนุ่มๆ สาวๆ เถอะ ยายว่าจะไปดูวัตถุดิบทำอาหารแถวหมู่บ้านชาวประมงริมทะเลน่ะ” แอมเบอร์ตอบ

“แหม ยายนี่จะขยันไปถึงไหนกัน แค่นี้พ่อบ้านแพรี่ก็ปลื้มยายจะแย่แล้ว ฮิๆ ๆ” ออลูนกระซิบล้อเลียน ตอนนี้ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าพ่อบ้านแพรี่แอบชอบยายแอมเบอร์ พวกคนงานต่างพากันลุ้นคู่รักสูงวัยคู่นี้กันทุกคน นี่หล่อนก็แอบเห็นว่าพ่อบ้านแพรี่กำลังเงี่ยหูฟังหล่อนคุยกับยายแอมเบอร์อยู่ ตั้งแต่ที่พ่อบ้านมีความรักนี่ พวกคนงานสบายขึ้นเยอะเลย เพราะท่านพ่อบ้านกลายเป็นคนใจดีและอะลุ่มอล่วยขึ้นมาก

แอมเบอร์แอบกลอกตามองฟ้าด้วยความอ่อนใจ นี่ขนาดหล่อนปลอมตัวเป็นยายแก่หนังเหี่ยวขนาดนี้แล้ว ยังอุตส่าห์จะมีคนมาหลงชอบอีกนะ อ๊าคคคค..... นี่หล่อนจะฮ็อตไปถึงไหนก๊านนน

หลังเลิกงานวันนั้นแอมเบอร์หยิบเสื้อคลุมมีฮู้ดสีเทาของตนมาสวมแล้วเดินออกจากที่พัก ทำทีเป็นมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านชาวประมงแต่ความจริงหล่อนกำลังหาทำเลปลอดคนเพื่อเปลี่ยนผิวเทียมต่างหาก

หญิงสาวเดินไปถึงทางแยกเปลี่ยวแห่งหนึ่งก็เดินเลี้ยวออกจากเส้นทางหลัก

“จะไปไหน นั่นมันผิดทางแล้ว” เสียงพ่อบ้านแพรี่ร้องทักมาจากข้างหลัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งโหยง

แอมเบอร์หันขวับมามองเห็นพ่อบ้านชราทำเป็นเดินหน้าตายเข้ามาหา แต่หากสังเกตดีๆ จะเป็นว่าใบหูของชายชราแดงก่ำด้วยความเขินอาย

ฮึ่ย! จะตามมาทำไมฟร๊ะ แล้วนี่หล่อนจะหลบยังไงดีล่ะนี่

“พอดีข้าได้ยินว่าเจ้าจะไปดูวัตถุดิบทำอาหารแถวหมู่บ้านชาวประมง ข้าอยู่ว่างๆ เลยอยากจะไปดูบ้าง เราเดินไปด้วยกันเถอะ” พ่อบ้านชรายกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อ

“เชิญท่านพ่อบ้านไปคนเดียวก่อนก็แล้วกัน พอดีข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ คงจะไปด้วยกันกับท่านไม่ได้แล้ว” แอมเบอร์หาทางปลีกตัวอย่างละมุนละม่อม

“เอ่อ เจ้ามีธุระอะไรเหรอ ถ้าไม่รังเกียจ ขอข้าตามไปเป็นเพื่อนได้รึเปล่า เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวเดินไปไหนมาไหนมืดๆ ค่ำๆ แบบนี้มันอันตรายนะ” พ่อบ้านชราไม่ปล่อยหล่อนไปง่ายๆ

เป็นยายแก่หนังเหี่ยวขนาดนี้แล้ว ใครมันจะหลงผิดมาปล้ำกันเล่า แอมเบอร์ได้แต่เถียงในใจ

ชายชราทำท่าจะเอื้อมมือมาจับมือแอมเบอร์ไปจูง แต่หญิงสาวรีบเอามือหลบไปไขว้หลังไว้ซะก่อน จึงรอดไปได้ สมองน้อยๆ ของแอมเบอร์ทำงานอย่างหนักเพื่อหาทางหลบเลี่ยงจากพ่อบ้านชราไปให้ได้

ทันใดนั้นหล่อนก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี เขาแต่งตัวแบบพวกผู้ดีมีสตางค์แถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย แอมเบอร์รีบวิ่งถลาเข้าไปกอดชายหนุ่มทันที

“โอ้ที่รัก ในที่สุดท่านก็มาตามนัดสักที ข้าคิดถึงท่านจะแย่อยู่แล้ว” แอมเบอร์ร้องทักชายหนุ่มออกมาเสียงดัง

ท่ามกลางความตกตะลึงของทั้งพ่อบ้านแพรี่และชายหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อของแอมเบอร์โดยไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวก็จัดการลากตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของตนไปยังซอยเปลี่ยวข้างทางทันที

ชายหนุ่มทำท่าทางขนลุกขนพอง สะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของแอมเบอร์ และทำท่าจะตวาดด่า แต่หญิงสาวรีบเอามือตะครุบปิดปากเขาไว้ได้ทัน

“อย่าเสียงดังไปพ่อหนุ่ม ข้ากำลังหนีตาแก่คนนั้นอยู่ ช่วยข้าก่อนนะ” แอมเบอร์กระซิบ เหลือบตาไปมองพ่อบ้านที่ยังคงยืนอึ้งเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างอยู่ที่เดิม

ชายหนุ่มในอ้อมกอดของแอมเบอร์ถลึงตาจ้องหล่อนตาขวาง แต่หญิงสาวไม่สนใจ

“ข้าคิดถึงเจ้าจังเลยที่รัก ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะน่ารัก เดี๋ยวข้าจะรักเจ้าให้มากๆ เลยวันนี้ มาม๊ะ มาให้ข้าจูบให้ชื่นใจสักที” แอมเบอร์แกล้งพูดเสียงดังพลางลากตัวชายหนุ่มเดินห่างออกมาจากพ่อบ้านแพรี่มาเรื่อยๆ

ชายหนุ่มทำท่าพะอืดพะอมเมื่อเห็นแอมเบอร์ทำปากจู๋ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เขาสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของยายแก่หนังเหี่ยวได้ในที่สุด จากนั้นก็รีบเผ่นหนีแทบจะทันที

ดีที่ทั้งสองออกมาห่างจากพ่อบ้านแพรี่ไปมากแล้ว และพ่อบ้านชราก็ดูเหมือนจะไม่มีกะจิตกะใจจะตามมา หญิงสาวจึงกุมท้องหัวเราะลั่นกับท่าทางขวัญหนีดีฝ่อของชายหนุ่มได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็น

แหมะ... แผ่นหนังเทียมบนใบหน้าของแอมเบอร์หลุดร่วงลงมา อู้ย สงสัยหล่อนจะหัวเราะมากเกินไปนะนี่ ฮะๆ ๆ

หญิงสาวรีบเอามือกุมหน้าเดินเข้าไปในป่าข้างทาง ไม่นานหล่อนก็โผล่มายังชายหาดเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่ เหมาะแก่การใช้เป็นห้องแต่งตัวอย่างยิ่ง หญิงสาวหันซ้ายหันขวาจนแน่ใจว่าไม่มีคน จากนั้นก็จัดการลอกแผ่นหนังเทียมออกจนหมด เมื่อหยิบกระจกขึ้นมาดูผิดหน้าตนเองหญิงสาวก็ยิ้มร่า พอใจในความเนียนใสของผิวตน

แอมเบอร์เอียงคอส่องกระจกไปดูต้นคอตนก็พบว่ารอยสีฟ้าจางๆ คล้ายเกล็ดมังกรยังคงติดอยู่เหมือนเดิม หญิงสาวถอนหายใจ มันคือรอยอะไรกันนะ ทำไมติดแน่นไม่ยอมลบเลือนแบบนี้ล่ะ จะลบไม่ออกตลอดชีวิตรึเปล่าเนี่ย หญิงสาวทำปากยื่น

หลังจากลอกผิวเทียมออกจนหมดแอมเบอร์ก็ถอดเสื้อออกและปลดผ้าพันเอวเพื่อดึงเอาเป้สัมภาระออกมาเปิดเอาอุปกรณ์แปลงโฉมมาใช้ เมื่อไม่มีเป้ถ่วงที่เอว หล่อนก็กลับกลายเป็นหญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นตามเดิม ท่อนบนของหล่อนเหลือเพียงเสื้อเกาะอกสีเนื้อแนบลำตัวส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงเอวต่ำตัวหลวม เผยให้เห็นส่วนโค้งส่วนเว้างดงามใต้แสงจันทร์ หญิงสาวลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ การต้องแกล้งเดินหลังค่อมตลอดเวลานี่มันช่างทรมานจริงๆ แถมยังต้องแบกเป้ไว้ที่พุงทั้งวันทั้งคืนอีก จะอาบน้ำแต่ละทีช่างยุ่งยากลำบากลำบน

คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์ส่องสกาวทำให้หญิงสาวไม่ต้องใช้ไฟฉายในการแต่งตัว หล่อนหยิบหวีออกมาสางผม เช็ดสีเทาที่ย้อมออกเพื่อจะได้ย้อมใหม่ตั้งแต่โคนผมที่งอกใหม่ให้สีกลมกลืนเสมอกันจรดปลาย

ทันใดนั้นแอมเบอร์ก็ได้ยินเสียงก้อนหินร่วงจากด้านหลัง หญิงสาวหันขวับไปดูด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตสบเข้ากับดวงตาตื่นตะลึงของผู้บุกรุกในระยะเพียงห้าเมตร เขาก็คือชายหนุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อให้หล่อนใช้เป็นเครื่องมือในการสลัดพ่อบ้านแพรี่เมื่อครู่นี้นั่นเอง

ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของชายหนุ่มแสดงออกถึงความตื่นตะลึงราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า หลังจากที่เขาวิ่งหนีไปสักพัก เขาก็เริ่มรู้สึกว่าหญิงชราคนนี้ช่างทำตัวน่าสงสัยนัก เขาหลบออกมาเพื่อทำงานลับเพียงลำพังแต่หล่อนกลับทำเหมือนจงใจจะตีสนิทกับเขา ชายหนุ่มจึงย้อนกลับมาแอบสะกดรอยตามหล่อนมาห่างๆ จนได้มาเห็นหล่อนลอกคราบออกมาเป็นสาวน้อยงดงามตรงหน้า ความงามของหล่อนทำให้เขาถึงกับเผลอเดินใกล้เข้ามาหาหล่อนเรื่อยๆ จนเหยียบก้อนหินพลาดและถูกหล่อนเห็นเข้าจนได้

แอมเบอร์เองก็ตกใจ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเห็นกระบวนการแปลงโฉมของหล่อนมากน้อยขนาดไหน

“ท่าน... เป็นใคร มาแอบดูข้าทำไม” หญิงสาวก้าวถอยหลัง เอื้อมมือไปหยิบปืนมาถือไว้ในมือ

ชายหนุ่มกวาดตามองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วขมวดคิ้ว

“เจ้าเป็นใคร ทำไมต้องปลอมตัวเป็นยายแก่ด้วย” นอกจากจะไม่ตอบคำถามของแอมเบอร์แล้ว เขายังถามกลับอีกด้วย สายตาเผลอมองอ้อยอิ่งอยู่แถวเนินอกอวบอิ่มที่ถูกรัดไว้ด้วยเสื้อเกาะอกตัวเล็ก

แอมเบอร์ถลึงตาด่ากลับ “มองอะไรไม่ทราบ ไม่มีมารยาท!”

ชายหนุ่มเหมือนจะรู้ตัว รีบเบนสายตากลับขึ้นมาสบตากับแอมเบอร์ ใบหน้าขึ้นสีชมพูระเรื่อ

“ขออภัย แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็เจ้าอยากแต่งตัวไม่เรียบร้อยเอง ข้าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง จึงอดมองไม่ได้น่ะ” เขายิ้มยียวน

“แล้วใครใช้ให้ท่านมาแอบดูข้าไม่ทราบ อีกอย่างข้าจะปลอมตัวหรือจะทำอะไรมันก็เป็นเรื่องของข้า ไม่ใช่ธุระกงการอะไรให้ท่านต้องมาสอด ทางที่ดีท่านรีบๆ ไสหัวไปซะก่อนที่ข้าจะฆ่าท่านหมกทะเลดีกว่า” หญิงสาวหรี่ตา ทำหน้าโหด ความจริงหล่อนไม่ใช่คนโหดเลยสักนิด แต่หล่อนชักจะเริ่มโมโหเดือดกับสายตาจาบจ้วงของชายหนุ่มตรงหน้าแล้ว จึงแกล้งเลียนแบบท่าโหดประจำตัวของลาพิสเพื่อนรักที่เป็นลูกครึ่งมาเฟียกับยากูซ่าเพื่อข่มขวัญอีกฝ่าย

แทนที่ชายหนุ่มจะกลัว เขากลับหัวเราะขันท่าทางโหดไม่สมจริงของหล่อนแทน

“ฮะๆ ๆ เจ้านี่นอกจากจะสวยแล้วยังตลกอีกด้วย เจ้าเป็นคนที่นี่หรือ ข้าชักจะถูกใจเจ้าซะแล้วสิ ไปอยู่กับข้าดีกว่าสาวน้อย” เขายิ้มแล้วย่างสามขุมเข้าหาหญิงสาว

“ยะ อย่าเข้ามานะ!” แอมเบอร์ถอยหลังหนี เล็งปืนไปยังชายหนุ่มด้วยมืออันสั่นเทา แม้หล่อนจะเป็นคนยิงปืนแม่น แต่หล่อนก็ไม่เคยยิงคนหรือสัตว์มาก่อน ทำให้พอจวนตัวเข้าจริงๆ ก็ไม่กล้ายิง อีกทั้งชายหนุ่มก็ไม่รู้จักปืนอีกด้วย เขาจึงไม่มีความหวาดกลัวในอานุภาพของมัน แถมปืนที่แอมเบอร์พกมาก็เป็นปืนเก็บเสียงซะอีก หล่อนจึงตระหนักดีว่าการยิงขู่ไม่น่าจะเกิดผลใดๆ

หญิงสาวถอยจนหลังไปชนกับแผ่นหินเรียบของหน้าผาริมทะเล ไม่มีที่จะให้ถอยอีกแล้ว ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ยิ้มตาพราว

“เจ้าจะหนีไปไหนอีกล่ะทีนี้ ตามข้ากลับไปอย่างว่าง่ายดีกว่า เดี๋ยวข้าจะส่งคนไปบอกครอบครัวเจ้าเอง ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ฝันไปเถอะ! อย่าเข้ามานะ” หญิงสาวเห็นคำขู่ของตนไม่มีผล จึงหลับตายิงไปที่ก้อนหินข้างเท้าชายหนุ่ม

เสียงก้อนหินถูกอัดกระจุยทำเอาชายหนุ่มสะดุ้ง เขาชะงักเท้าแล้วหันไปมองอาวุธในมือหญิงสาวอีกครั้งด้วยความแปลกใจ แต่พอเห็นท่าหลับตาปี๋ของหล่อนแล้วเขาก็หัวเราะลั่น

“ฮะๆ ๆ ๆ เจ้าไม่กล้าทำอะไรข้าจริงๆ หรอกใช่มั้ยล่ะ ฮะๆ ๆ ๆ”

เขาเอื้อมมือใหญ่เตรียมจะไปคว้าแขนหญิงสาว แต่แล้วข้อมือของตนก็ถูกคว้าจับไว้ด้วยมือที่ใหญ่กว่าและแข็งราวกับกรงเหล็ก

แอมเบอร์เห็นชายหนุ่มอยู่ๆ ก็เงียบไปจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่เห็นทำเอาหล่อนอ้าปากตาค้าง

ข้อมือของชายหนุ่มถูกชายหนุ่มอีกคนที่มีร่างสูงใหญ่กว่าจับไว้ ชายหนุ่มผู้มาใหม่หันหน้ามาหาหล่อนช้าๆ ดวงตาสีฟ้าใสสบเข้ากับดวงตาของแอมเบอร์ เขาก็คือมนุษย์ประหลาดตัวใหญ่มีเขาเหมือนมังกรที่หล่อนพบในวันแรกที่มาถึงนั่นเอง!

“อย่ามายุ่งกับคนของข้า!” ชายประหลาดร่างยักษ์หันไปเอ่ยกับชายหนุ่มที่คุกคามแอมเบอร์ด้วยเสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจก่อนจะเหวี่ยงเขาไปกระแทกก้อนหินดังพลั่ก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel