บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมังกร

หญิงสาวนึกภาพมังกรตัวใหญ่ที่ตนเคยเห็นวันแรก ขนาดตัวของมันใหญ่กว่าช้างแอฟริกันอีกนะนั่น “เอิ่ม..... มังกรตัวใหญ่ซะขนาดนั้น แน่ใจนะว่าผู้หญิงพวกนั้นจะรอดชีวิตหลังจากมีอะไรกันครั้งแรกน่ะ”

ออลูนขมวดคิ้ว “ถึงพวกมังกรจะตัวใหญ่กว่ามนุษย์ไปบ้าง แต่ก็ไม่น่ากลัวถึงขนาดนั้นสักหน่อยนี่ยาย แถมพวกมังกรน่ะ หล่อจะตาย ใครๆ ก็อยากเป็นผู้หญิงของมังกรกันทั้งนั้นแหละ” หญิงสาวทำหน้าเคลิ้มฝัน

แอมเบอร์ทำหน้าปูเลี่ยน เท่าที่เห็นมา มันไม่ใช่แค่ใหญ่กว่ามนุษย์ไปบ้างกระมัง แถมหน้าตาออกจะดุร้ายขนาดนั้นยังจะมีหล่อไม่หล่ออีกเหรอ ฟังแล้วหล่อนขนลุก คนที่นี่ทำไมมีรสนิยมทางเพศวิปริตกันได้ขนาดนี้นะ ฮู้ว....

“นอนเถอะยาย พรุ่งนี้ยังต้องตื่นไปทำงานแต่เช้ากันอีก” ออลูนล้มตัวลงนอน

แอมเบอร์ก็นอนลงเช่นกัน แต่กว่าหญิงสาวจะหลับลงได้ก็ดึกมากแล้ว

เช้ามืดวันรุ่งขึ้น แอมเบอร์เดินหมดเรี่ยวหมดแรงไปทำงาน เมื่อคืนหล่อนฝันร้ายสุดๆ ฝันว่าถูกเจ้ามังกรดำตัวที่หล่อนเคยเจอไล่ปล้ำทั้งคืน หล่อนวิ่งหนีมันไปรอบๆ ภูเขาอย่างกับเป็นนางเอกหนังอินเดีย นอนหลับแต่เหนื่อยเหมือนไปวิ่งมาราธอนมาอย่างไรอย่างนั้น

วันนี้พ่อบ้านแพรี่สั่งให้แอมเบอร์ไปช่วยหั่นผัก หญิงสาวก็ทำได้อย่างคล่องแคล่วเช่นเคย แม่ครัวใหญ่ถึงกับยิ้มเมื่อเห็นความเร็วในการหั่นผักของหล่อน

“ยายเป็นแม่ครัวมาก่อนรึเปล่าเนี่ย ทำไมคล่องจัง” แม่ครัววัยกลางคนหันมาถามแอมเบอร์

“ไม่เคยเป็นแม่ครัวหรอกจ้ะ แต่ยายชอบทำอาหารน่ะ” แอมเบอร์หันไปยิ้มตอบ

“ดีเลย ยายมีอาหารอะไรแปลกๆ บ้างมั้ย แม่นางงามทั้งหลายบ่นเบื่ออาหารกันจนข้านี้ไม่รู้จะสรรหาเมนูแปลกใหม่อะไรไปเสนอพวกนางแล้ว”

“ก็พอจะมีบ้าง แต่อาหารที่บ้านข้าไม่ค่อยจะเหมือนอาหารที่นี่สักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจะถูกปากพวกนางรึเปล่าน่ะสิ”

“งั้นยายลองทำมาสักจานให้ข้าชิมดูก่อน ถ้าดีข้าค่อยให้ทำให้พวกนางกิน” แม่ครัวใหญ่เริ่มมีความหวัง

แอมเบอร์คิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจทำสตูเนื้อแบบง่ายๆ โดยเอาวัตถุดิบที่มีรสชาติใกล้เคียงกับของมิติหล่อนมาประยุกต์ หญิงสาวจัดเสิร์ฟพร้อมขนมปังที่มีอยู่แล้วในครัวโดยเจาะขนมปังควักด้านในออกทำเป็นถ้วยใส่สตู ความจริงการใช้ขนมปังหรือผลไม้มาทำเป็นภาชนะเป็นของธรรมดาอย่างมากในโลกที่แอมเบอร์อยู่ แต่ตั้งแต่หล่อนมาถึงที่มิตินี้หล่อนยังไม่เคยเห็นใครทำมาก่อนจึงลองทำดู พอยกไปให้แม่ครัวใหญ่ดู อีกฝ่ายก็ถึงกับตาโต และหลังจากตักสตูขึ้นมาชิมหล่อนก็อุทานไม่หยุดด้วยความชื่นชมปนประหลาดใจ ไม่คิดว่ายายแก่เร่ร่อนไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างแอมเบอร์จะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้ อาหารมื้อเย็นของเหล่าผู้หญิงของมังกรในวันนี้จึงมีแอมเบอร์รับหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแล

คำชมมากมายถูกส่งกลับมายังห้องครัว ด้วยเหตุนี้แอมเบอร์จึงได้รับการเลื่อนขั้นมาเป็นผู้ช่วยแม่ครัวใหญ่นับแต่นั้นมา สองพี่น้องมูสกับมิลแอบมองหล่อนด้วยความอิจฉา พวกหล่อนทำงานมาตั้งนานแต่กลับยังเป็นเพียงคนงานก้นครัวอยู่เลย ยายแก่นี่เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ มาทำงานแค่วันเดียวกลับได้เลื่อนขั้นเป็นถึงผู้ช่วยแม่ครัวใหญ่

ทั้งสองเริ่มแสดงออกว่าไม่ชอบขี้หน้าแอมเบอร์ด้วยการทำเมินและไม่พูดกับแอมเบอร์ ส่วนแอมเบอร์นั้นได้แต่ขำ ยังมีคนอีกมากที่ไม่เข้าใจสัจธรรมว่าของฟรีไม่มีในโลก คนเราอาจจะเกิดมาพร้อมกับสติปัญญาที่ต่างกันแต่ไม่มีใครเกิดมาแล้วเก่งทุกเรื่องในทันทีเลยหรอก กว่าแอมเบอร์จะได้รับการขนานนามว่าเป็นเด็กสาวอัจฉริยะที่มีความสามารถทุกด้านไม่ว่าด้านการเรียน การกีฬา ศิลปะ การดนตรี และการทำอาหาร หล่อนก็ต้องฝึกฝนหนักกว่าคนอื่นๆ หลายเท่านัก

ในสายตาของแอมเบอร์จึงมองพวกที่วันๆ เอาแต่ขี้เกียจรักสบายไม่อยากจะเหนื่อยแต่กลับเอาเวลามาอิจฉาคนที่เก่งกว่าตนเป็นพวกคนที่น่าสมเพชอย่างยิ่ง

หญิงสาวตั้งใจทำหน้าที่ผู้ช่วยแม่ครัวอย่างเต็มความสามารถ ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หล่อนก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่ว ไม่ว่าจะในหมู่คนงานที่ได้ชิมอาหารฝีมือหล่อนหรือเหล่าบรรดาหญิงงามล้วนชื่นชอบอาหารฝีมือ “คุณยายแอมเบอร์” กันทุกคน

พอเข้าสัปดาห์ที่สามหญิงงามคนสุดท้ายของทวีปก็เดินทางมาถึงที่เมืองเมเรียนแห่งนี้ หล่อนเป็นถึงเจ้าหญิงของอาณาจักรทางตอนใต้ของทวีป นามว่าเจ้าหญิงเซรแอนเนีย เป็นเจ้าหญิงที่งามราวกับนางฟ้านางสวรรค์และได้รับการประคบประหงมเอาใจมาตั้งแต่เล็กๆ จึงเติบโตมาเป็นหญิงงามที่ทั้งเย่อหยิ่งทั้งเอาแต่ใจตนเอง

ฟังมาว่า ที่ผ่านมาไม่มีอาณาจักรใดในโลกเคยส่งองค์หญิงของตนไปให้พวกมังกรมาก่อน แต่ตอนที่เจ้าหญิงพระองค์นี้อายุได้สิบเอ็ดปีหล่อนได้บังเอิญพบกับราชามังกร เขาว่ากันว่าเจ้าหญิงเซรแอนเนียและราชามังกรตกหลุมรักซึ่งกันและกันทันทีที่เห็นหน้า เจ้าหญิงจึงใฝ่ฝันมาตลอดว่าเมื่อตนเองเติบโตจนอายุครบสิบแปดปีเมื่อไหร่จะต้องเป็นผู้หญิงของราชามังกรให้ได้ หล่อนไม่ฟังคำทัดทานของพระราชบิดาและพระราชมารดาใดๆ ทั้งสิ้น ในที่สุดอาณาจักรของหล่อนก็ต้องจำใจส่งหล่อนมาเป็นตัวแทนของอาณาจักรในปีนี้

ยิ่งฟังแอมเบอร์ก็ยิ่งงง คนในมิตินี้ถึงกับตกหลุมรักแรกพบกับมังกรได้ด้วยแฮะ แถมเจ้าราชามังกรตัวนี้ก็ถึงกับชอบกินเด็กอีกด้วย!

แอมเบอร์ได้ความรู้เพิ่มมาอีกอย่างหนึ่งคือ พวกมังกรมีอายุยืนเป็นพันๆ ปีเลยทีเดียว นับเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างประหลาดจริงๆ

เมื่อเจ้าหญิงเซรแอนเนียซึ่งเป็นหญิงงามคนสุดท้ายของทวีปมาถึง ขบวนส่งตัวผู้หญิงของมังกรก็ต้องเริ่มออกเดินทางมุ่งสู่ทวีปเวทินน่า แอมเบอร์และคนงานทุกคนต้องหอบสัมภาระเดินทางไปรับใช้บริการเหล่านางงามที่จะไปเข้าค่ายเก็บตัวด้วยเช่นกัน ทั้งหมดจะเดินทางไปทางบกเป็นเวลาสิบสองวันไปยังท่าเรือที่ใกล้ที่สุด จากนั้นก็จะนั่งเรือเดินสมุทรลำใหญ่ไปยังทวีปเวทินน่าโดยใช้เวลาในเรือนานนับเดือนกันเลยทีเดียว

ขบวนส่งตัวนางงามต้องเดินเท้าไปยังท่าเรือ แต่เหล่าสาวงามไหนเลยจะถูกปล่อยให้เดินเท้าได้ พวกนางได้นั่งเกี้ยวขนาดแปดคนหามไปตลอดระยะทางสิบสองวัน ส่วนแอมเบอร์ ในฐานะคนงานที่ดูเหมือนจะอายุมากที่สุดในคณะก็ได้รับอภิสิทธิ์ให้นั่งไปกับเกวียนขนของได้เช่นกัน เป็นคนแก่มันก็มีข้อดีเหมือนกันนะ ฮรี่ๆ ๆ

ทีมแม่ครัวและคนทำความสะอาดต้องเดินทางล่วงหน้าไปก่อนขบวนของสาวงามประมาณสองชั่วโมงเพื่อไปจัดเตรียมอาหารและที่พักรอพวกสาวงามตามจุดแวะพักทั้งหลาย แอมเบอร์จึงยังไม่มีโอกาสได้เห็นพวกสาวงามสักคนเดียว หล่อนอยากเห็นบรรดาสาวงามที่มีรสนิยมทางเพศพิสดารเหล่านี้จะแย่อยู่แล้ว

ออลูนเล่าว่าในบรรดาสาวงามทั้งยี่สิบห้าคน เจ้าหญิงเซรแอนเนียกับแม่นางลอว์โรนนั้นงดงามกว่าเพื่อน ทั้งสองคนต่างก็วาดหวังกันว่าจะได้เป็นผู้หญิงของราชามังกร จึงไม่ค่อยจะชอบขี้หน้ากันสักเท่าไหร่ หาเรื่องกัดกันมาตลอดทาง ทำให้พ่อบ้านแพรี่และผู้ดูแลขบวนปวดหัวกันไปตามๆ กัน

“ว่ากันว่าแม่นางลอว์โรนนั้นเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวในรอบหลายสิบปีที่มีตราประทับมังกร เจ้าหญิงเซรแอนเนียจึงยิ่งเกลียดขี้หน้านางเข้าไปใหญ่” ออลูนเดินพลางหันมานินทาพวกสาวงามให้แอมเบอร์ฟังพลาง

“มีตราประทับมังกรมันดียังไงเหรอแม่หนู” แอมเบอร์สงสัย

“อ้าว ยายนี่ นอกจากเรื่องอาหารแล้วไม่รู้เรื่องรอบตัวอื่นๆ บ้างเลยเหรอ ตราประทับมังกรก็คือตราที่พวกมังกรประทับไว้บนร่างของหญิงสาวที่ตนจับจองไว้ไงล่ะ หากหญิงสาวคนใดมีตราประทับมังกรแสดงว่ามังกรถูกใจนางเป็นพิเศษ หญิงสาวคนนั้นจึงไม่ต้องเข้ารับการทดสอบใดๆ ทั้งสิ้น สามารถเข้าร่วมเป็นหนึ่งในร้อยสาวงามได้ทันที”

แอมเบอร์เอียงคอเกาหัวด้วยความงง “มังกรมันบินได้ใช่มั้ย”

“ก็ใช่น่ะสิยาย ทำไมเหรอ” ออลูนเองก็งงกับคำถามนอกเรื่องของแอมเบอร์เช่นกัน

“บินได้ และถูกใจสาวงามถึงกับทำตราประทับไว้ แล้วทำไมไม่พาสาวงามบินกลับรังไปเองเลยล่ะ ต้องมาเสียเวลารอให้พวกมนุษย์เดินทางพาตัวไปส่งทำไมตั้งหลายเดือน” แอมเบอร์ถามต่อ

“เอ๊ ยายนี่ เรื่องแค่นี้นี่ไม่รู้จริงๆ เหรอ ยายไปอยู่ส่วนไหนของโลกมากันน่ะ”

แอมเบอร์ยิ้มแห้งๆ “ก็อยู่ส่วนที่ไม่รู้จักมังกรน่ะสิแม่หนูเอ๊ย”

“เฮ้อ... ยายนี่บ้านนอกจริงๆ เลย ทำไมเรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ห๊า เห็นแก่ที่ยายทำอาหารอร่อยหรอกนะ ข้าจะยอมเสียเวลาอธิบายให้ก็ได้

ก็พวกมังกรตกลงกับมนุษย์ไว้แล้วไงว่าจะเลิกรุกรานมนุษย์ถ้าพวกเราส่งตัวสาวงามไปให้ทุกๆ สามปี ดังนั้นต่อให้พวกมังกรถูกใจหญิงสาวคนไหนเป็นพิเศษก็ทำได้อย่างมากที่สุดคือประทับตราสัญลักษณ์ไว้บนร่างของหญิงสาวคนนั้นแล้วรอให้พวกมนุษย์อย่างเราส่งตัวไปให้ตามธรรมเนียมน่ะ หากมนุษย์รู้ว่าพวกมังกรมาลักพาตัวหญิงสาวไปโดยพลการเมื่อไหร่ มีหวังคงได้เปิดศึกกันอีกรอบ” ออลูนอธิบายด้วยความอดทน

“ไหนๆ แม่หนูก็อธิบายให้ยายฟังมาตั้งเยอะแล้ว อธิบายให้ยายฟังต่ออีกสักเรื่องได้มั้ย ยายสงสัยมานานแล้วน่ะ เดี๋ยวยายทำขนมอร่อยๆ ให้กินเป็นการตอบแทนนะ”

“ได้สิยาย เรายังต้องเดินกันอีกเกือบชั่วโมงกว่าจะไปถึงจุดแวะพัก ยายอยากจะรู้อะไรก็ถามมาได้เลย แต่ข้าขอเป็นขนมเค้กนะยายนะ” ออลูนตาเป็นประกาย น้ำลายแทบจะหยดเมื่อนึกถึงขนมเค้กฝีมือแอมเบอร์

“พวกมังกรนี่มีประชากรเท่าไหร่เหรอ เห็นว่าพวกมังกรอายุยืนเป็นพันๆ ปี แล้วมนุษย์ก็ส่งสาวงามหนึ่งร้อยคนไปให้ทุกๆ สามปีเพื่อผลิตลูก พวกมนุษย์ไม่กลัวว่าประชากรมังกรจะล้นโลกบ้างเลยเหรอ” แอมเบอร์ถามคำถามที่ตนแอบสงสัยมานาน

“เอ่อ เรื่องจำนวนที่แน่นอนนั้นข้าก็ไม่ค่อยรู้หรอก รู้แต่ว่าพวกมังกรมีลูกยากมาก ตลอดชั่วอายุหลายพันปีนั้นอาจจะมีลูกได้เพียงหนึ่งถึงสองตนเท่านั้นแหละ พวกเราเลยไม่กลัวเรื่องประชากรมังกรล้นโลกบ้าบออะไรแบบนั้นหรอกยาย ยายนี่สงสัยอะไรตลกจัง ฮะๆ ๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel