บทที่ 4 หญิงสาวบรรณาการแด่มังกร
แอมเบอร์แอบเดินตามขบวนผู้หญิงของมังกรเพื่อสังเกตการณ์ไปตลอดทาง จนขบวนหายลับเข้าไปในอาคารสูงใหญ่ที่มีทหารรักษาการณ์แน่นหนา หญิงสาวเอียงคอมองตามใช้ความคิด ทำอย่างไรหล่อนจึงจะได้เข้าร่วมขบวนไปกับผู้หญิงเหล่านี้นะ สงสัยต้องหาข้อมูลอย่างจริงจังซะแล้ว...
คืนนั้นหญิงสาวย้ายสำมะโนครัวจากใต้สะพาน มาอาศัยอยู่ในห้องเก็บฟืนของศาลเจ้าแห่งหนึ่งใกล้กับอาคารที่พักของพวกผู้หญิงที่จะถูกส่งตัวไปให้มังกร หล่อนเฝ้าจับตาดูคนที่เข้าออกอาคารหลังนั้นอยู่สองวันเต็มๆ จากนั้นก็เข้าไปตีสนิทกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดอาคารหลังนั้น
พอเห็นหญิงสาวเดินออกมาจากประตูหลังของตัวอาคารพร้อมด้วยถุงขยะใบใหญ่ แอมเบอร์ก็ทำเป็นเดินงกๆ เงิ่นๆ เข้าไปขวางหน้า
“อ้าวยาย มาขออาหารที่นี่อีกแล้วเหรอ” หญิงสาวถามแอมเบอร์ สีหน้ายิ้มแย้มใจดี พลางเอาขยะไปโยนใส่ถังในรถลาก
“จ้ะ แม่หนูคนสวยพอจะมีอาหารแบ่งให้ยายกินบ้างมั้ย ยายก็แก่แล้ว ตัวคนเดียว จะไปสมัครทำงานที่ไหนก็ไม่มีใครเขารับ เห็นหน้าเจ้าแล้วทำให้ยายคิดถึงลูกสาวที่ตายไปเมื่อหลายปีก่อน แม่หนูหน้าเหมือนลูกสาวยายจริงๆ” แอมเบอร์แกล้งทำท่าปาดน้ำตา
ออลูนมองหญิงชราตรงหน้าด้วยความสงสาร ตนเองก็เสียมารดาไปตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเห็นว่าหญิงชราเอ็นดูตนเหมือนลูกสาวก็รู้สึกใจอ่อนยวบ
“มาค่ะ ยายมานั่งรอตรงนี้นะ เดี๋ยวหนูไปเอาขนมปังมาให้” หญิงสาวพยุงแอมเบอร์ไปนั่งที่ม้านั่งในสวนหลังอาคารแล้วเดินกลับไปทางห้องครัว
ไม่นานออลูนก็กลับมาพร้อมกับขนมปังก้อนหนึ่ง แต่หล่อนไม่ได้มาคนเดียว ยังมีชายชราอายุประมาณหกสิบกว่าปีเดินตามมาด้วยอีกคนหนึ่ง แม้จะชรามากแต่ก็ยังดูภูมิฐาน เขาแต่งกายด้วยชุดเรียบง่ายสะอาดตา ไม่บ่งบอกถึงฐานะใดๆ
“ยายจ๋า ท่านนี่คือพ่อบ้านแพรี่ หนูเล่าเรื่องของยายให้เขาฟัง เขาเลยตามมาดูยาย ถ้ายายพอจะทำงานไหว พ่อบ้านแพรี่บอกว่าอาจจะให้ยายมาช่วยงานในครัวเพื่อแลกกับอาหารและที่พักได้น่ะจ้ะ”
แพรี่มองแอมเบอร์ตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง สีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ
“เจ้าชื่ออะไร” ชายชราถามแอมเบอร์
“แอมเบอร์” หญิงสาวตอบด้วยเสียงคนแก่
ชายชรากับออลูนขมวดคิ้ว ไม่เคยได้ยินชื่อที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อน
“ชื่อแปลกแบบนี้ เจ้าคงไม่ใช่ชาวเมเรียนสินะ มาจากไหนล่ะ” ชายชราถามต่อ
“ข้ามาจากดินแดนเล็กๆ อันไกลโพ้นน่ะ ท่านคงไม่รู้จักหรอก ข้าเร่ร่อนไปเรื่อยๆ เพิ่งจะมาถึงเมืองนี้ได้สัปดาห์กว่าๆ เอง”
พ่อบ้านแพรี่พยักหน้า ไม่ติดใจสงสัยอะไรมากนัก คนเร่ร่อนในเมืองมีมากมายเกินกว่าที่เขาจะสนใจว่าแต่ละคนมีความเป็นมายังไง ตอนนี้ในครัวกำลังขาดคนพอดี ถ้าได้คนงานมาเพิ่มโดยไม่ต้องจ่ายค่าจ้างเป็นเงินเขาก็โล่งอก เจ้านายของเขานั้นทั้งเขี้ยวทั้งเค็ม รับเหมางานด้านทำความสะอาด จัดเตรียมอาหารและซักรีดของขบวนส่งตัวผู้หญิงของมังกรมาด้วยเงินก้อนโตแต่กลับจ่ายค่าจ้างคนงานด้วยเงินน้อยนิด เขาต้องรับหน้าที่คุมคนงานและบริหารเงินค่าจ้างคนงานไปด้วย เป็นเรื่องชวนปวดหัวจริงๆ
ชายชรากวาดตามองยายตรงหน้าอีกรอบ แม้ดูจากริ้วรอยบนใบหน้าแล้วหญิงคนนี้น่าจะอายุมากกว่าเขาหลายปี แต่ท่าทางยังมือไม้คล่องแคล่วไม่เหมือนคนแก่สักเท่าไหร่ น่าจะพอจะใช้งานได้ เขาจึงพยักหน้าให้หล่อนเดินตามเขาไปในอาคาร
ออลูนโบกมือขอให้หล่อนโชคดี และกลับไปทำงานของตนเองต่อ
แอมเบอร์เดินมองซ้ายมองขวาตามพ่อบ้านเข้าไป ภายในอาคารหลังนี้ตกแต่งอย่างหรูหรา เครื่องเรือนเป็นหินแกะสลักบุด้วยผ้าโทนสีพาสเทล ตลอดทางเดินมีประตูหลายบานซึ่งหญิงสาวเดาเอาว่าน่าจะเป็นห้องพักของพวกผู้หญิงที่จะถูกส่งตัวไปให้มังกร
สุดโถงทางเดินมีทางแยกซ้ายขวา พ่อบ้านเดินนำหล่อนไปตามทางแยกทางด้านขวา ไม่นานก็มาถึงห้องครัว ภายในมีคนงานร่วมสิบคนกำลังสาละวนทำงานกันอย่างขะมักเขม้น ตั้งแต่ล้างผัก ปอกมัน หั่นเนื้อสัตว์ และเคี่ยวอะไรบางอย่างอยู่ข้างเตาไฟใบใหญ่
“เอาล่ะ ยายไปช่วยเขาปอกมันทางโน้นนะ” พ่อบ้านชี้สั่งแอมเบอร์
หญิงสาวเดินไปส่งยิ้มให้เด็กสาวสองคนที่กำลังปอกมันและหยิบมีดมาปอกมันด้วยท่าทางคล่องแคล่ว โชคดีที่หล่อนเป็นคนชอบทำอาหารจึงพอจะมีทักษะในการทำงานในครัวอยู่บ้าง
เด็กสาวสองคนเลิกคิ้วมองแอมเบอร์ปอกหัวมันแล้วกะพริบตาปริบๆ ไม่เคยเห็นใครปอกมันได้เร็วขนาดนี้มาก่อนเลย
“ยายปอกเก่งจัง” เด็กหนึ่งในสองคนเอ่ยปากชื่นชม
พ่อบ้านแพรี่ได้ยินก็หันมาเหลือบตามาดูแอมเบอร์ เขาอมยิ้มน้อยๆ อย่างน้อยยายแก่นี่ก็ยังมีประโยชน์
“แม่หนูสองคนชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” แอมเบอร์บอกมันไปชวนเด็กสาวสองคนคุยไปด้วย ความเร็วในการปอกไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
“ข้าชื่อมูส ส่วนนั้น น้องสาวข้า ชื่อมีล” เด็กสาวใบหน้าตกกระตอบ
แอมเบอร์กวาดตามองเด็กสาวทั้งสอง มูสมีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเรียวยาว ตาตี่ จมูกงองุ้ม และตกกระเต็มหน้า ส่วนมีลค่อนข้างเตี้ยล่ำ ผิวคล้ำกว่าพี่สาว ใบหน้ากลม ตาตี่และจมูกงุ้มเช่นกัน เพียงแต่ไม่มีกระ ทั้งสองมีดวงตากลิ้งกลอกเจ้าเล่ห์ ทำให้แอมเบอร์รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาสักเท่าไหร่
เด็กสาวทั้งสองเห็นแอมเบอร์ปอกได้เร็วก็พากันยิ้ม และปอกช้าลงอย่างเห็นได้ชัด แอมเบอร์ไม่ได้ว่าอะไรยังคงทำงานของตัวเองไปเรื่อยๆ ส่วนหูก็คอยเงี่ยฟังบทสนทนาของคนรอบข้าง
กว่าจะหมดวัน หญิงสาวก็พอจะจับข้อมูลได้บางส่วน ที่เมืองเมเรียนนี้เป็นเมืองที่เป็นจุดศูนย์กลางในการรวบรวมหญิงสาวที่จะถูกส่งตัวไปให้มังกรของทวีปนี้ ในโลกนี้แบ่งทวีปออกเป็นทั้งหมดห้าทวีป เป็นทวีปของมังกรหนึ่งทวีป และอีกสี่ทวีปเป็นทวีปของมนุษย์
ทุกๆ สามปีมนุษย์ในแต่ละทวีปจะต้องคัดสรรหญิงสาวพรหมจรรย์ที่มีรูปร่างหน้าตางดงามจำนวนทวีปละยี่สิบห้าคนไปส่งให้พวกมังกร แต่แอมเบอร์ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องส่งผู้หญิงเหล่านี้ให้พวกมังกร รู้แค่ว่าหญิงสาวที่ได้รับคัดเลือกเหล่านี้ถือว่าได้รับเกียรติสูงสุดในชีวิต ราวกับได้เป็นนางงามจักรวาลกันเลยทีเดียว แถมครอบครัวของพวกหล่อนยังได้รับแก้วแหวนเงินทองมากมายจากพระราชาของอาณาจักรทั้งหลายเพื่อเป็นการตอบแทนที่ต้องส่งลูกสาวไปให้มังกรอีกด้วย
ผู้หญิงของมังกรที่เมืองเมเรียนตอนนี้รวบรวมได้สิบเก้าคนแล้ว ยังรออีกหกคนที่กำลังเดินทางมาจากประเทศทางตอนใต้ เมื่อทุกคนมาครบกันแล้ว ทั้งหมดจะออกเดินทางไปยังทวีปเวทินน่าเพื่อสมทบกับหญิงสาวจากอีกสามทวีป แล้วจึงจะเดินทางไปยังทวีปของมังกร
คนงานที่นี่ทั้งหมดจะเดินทางไปพร้อมกับผู้หญิงพวกนี้จนถึงทวีปเวทินน่าเท่านั้น หลังจากนั้นอาณาจักรเวนโตเรียในทวีปเวทินน่าจะเป็นฝ่ายรับดูแลงานด้านการอำนวยความสะดวกสบายและคุ้มกันพวกผู้หญิงไปส่งมอบให้พวกมังกรเอง
แอมเบอร์ตั้งใจว่าจะตามขบวนส่งตัวผู้หญิงพวกนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน เมื่อไปถึงทวีปเวทินน่าแล้วค่อยหาวิธีแฝงตัวเข้าไปในหมู่คนงานของอาณาจักรเวนโตเรียอีกที
คืนนั้น แอมเบอร์ถูกจัดให้นอนร่วมห้องกับออลูนและคนงานแผนกซักผ้าอีกสองคน ห้องนอนเป็นห้องแคบๆ ที่มีตั่งยาวให้พวกคนงานนอนเรียงกันเป็นตับ ห้องน้ำก็เป็นห้องน้ำรวมซึ่งไม่ค่อยจะสะอาดสักเท่าไหร่ หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจ กว่าหล่อนจะเดินทางไปจนถึงทวีปมังกร ลาพิสและซิตรินคงได้ของเล่นกลับไปบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วกระมัง งานนี้หล่อนมีหวังได้แพ้หลุดลุ่ย ทำยังไงถึงจะไปทวีปมังกรได้เร็วกว่านี้น้า....
หญิงสาวนึกถึงมังกรตัวที่ตนได้พบในวันแรกที่มาถึงทวีปนี้ขึ้นมา รู้อย่างนี้เกาะหลังมันไปก็ดีหรอก ยังไงมันก็คงจะบินกลับไปยังทวีปของมันล่ะนะ เฮ้อ... คิดช้าไปแล้ว
“ยาย นั่งเหม่ออะไรจ๊ะ ทำไมยังไม่นอนอีก” ออลูนทักเมื่อเห็นว่าแอมเบอร์ยังไม่ยอมนอนในขณะที่เพื่อนร่วมห้องอีกสองคนนอนหลับไปสักพักแล้ว
“ยายนอนไม่หลับน่ะอีหนู คิดถึงพวกมังกร ยายอยากจะไปเห็นรังมังกรสักครั้งก่อนตาย”
“ฮะๆ ๆ ยายนี่เพ้อเจ้อจัง ถ้ายายยังสาวๆ อยู่อาจจะพอมีหวังนะ แก่ขนาดนี้แล้วเลิกคิดเถอะยาย”
“ทำไมล่ะอีหนู ถึงยายจะแก่แต่ก็ยังมีไฟอยู่นะจะบอกให้ โฮะๆ ๆ ๆ” แอมเบอร์เท้าสะเอวปิดปากหัวเราะ
ออลูนกลอกตามองบน
“มังกรที่ไหนเขาจะมาสนใจยายแก่หนังเหี่ยวแบบยายกัน เฮอะ!” หญิงสาวทำหน้าเหม็นเบื่อ
“แหมๆ ๆ เห็นแบบนี้ตอนสาวๆ น่ะ ยายสวยมากนะจะบอกให้ พวกผู้หญิงของมังกรชิดซ้ายไปเลยล่ะ ว่าแต่มังกรมันชอบกินสาวๆ สวยๆ เหรอ ยายว่าสวยไม่สวยพอเคี้ยวเข้าปากแล้วก็น่าจะเหมือนๆ กันไม่ใช่รึ”
ออลูนจ้องแอมเบอร์ตาโต “นี่ยายไปอยู่ส่วนไหนของโลกมากัน ทำไมยายถึงว่ามังกรกินคน”
“อ้าว ก็ยายได้ยินคนในตลาดเขาพูดกัน” แอมเบอร์โบ้ยให้คนอื่นทันที
ออลูนกลอกตาอีกรอบ “ไปเชื่อข่าวลือพวกนั้นได้ยังไงกันยายก็ พวกชาวบ้านก็พูดกันไปเรื่อย”
“แหม ยายก็เป็นชาวบ้านคนหนึ่งนะ ยายจะไปรู้อะไรมากมายนักเล่า ถ้าพวกมังกรไม่เอาผู้หญิงไปกินแล้วจะเอาไปทำอะไรได้ล่ะแม่หนู” แอมเบอร์แกล้งถามหยั่งเชิงเพื่อหาข้อมูลเพิ่ม
“เท่าที่ข้ารู้มาจากพวกชนชั้นสูงพูดกัน เขาว่ากันว่าเมื่อก่อนพวกมังกรเกิดโรคประหลาดระบาด ทำให้มังกรผู้หญิงสูญพันธุ์ไปหมด มังกรผู้ชายเลยต้องหันมาสมสู่กับมนุษย์เพื่อสืบเผ่าพันธุ์มังกรน่ะ สมัยเมื่อหลายร้อยปีก่อนพวกมังกรจะมากวาดต้อนมนุษย์ผู้หญิงไปคราวละมากๆ จนบางครั้งเกิดเป็นสงครามระหว่างมนุษย์และมังกรผู้คนเดือดร้อนกันไปหมด องค์จักรพรรดิแห่งเวนโตเรียจึงทำการเจรจากับราชามังกร และตกลงกันว่าพวกมังกรจะเลิกมารังควานมนุษย์หากมนุษย์ส่งหญิงสาวหนึ่งร้อยคนไปให้มังกรทุกๆ สามปี”
แอมเบอร์ฟังแล้วอ้าปากตาค้าง “มังกรป่ามป๊ามกับคน โอ้แม่เจ้า นึกภาพไม่ออกเลย อะจึ๊ย....”