บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 แปลงโฉม

กระแสน้ำเชี่ยวกราก ค่อยๆ ไหลช้าลงเรื่อยๆ แอมเบอร์เกาะกิ่งไม้ไหลมาตามน้ำพลางเปิดจีพีเอสดูตำแหน่งของตัวเองไปพลาง หล่อนถูกพัดมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ตนเองกำลังต้องการจะไปพอดี การไหลตามน้ำมาแบบนี้ก็สะดวกรวดเร็วดีกว่าเดินเป็นไหนๆ แม้น้ำจะเย็นจัด แต่ชุดควบคุมอุณหภูมิและกันน้ำที่หล่อนสวมอยู่ก็ช่วยให้หล่อนลอยตัวอยู่ในน้ำได้เป็นวันๆ โดยไม่รู้สึกอะไร

ลำธารสายนี้เชื่อมต่อเข้ากับลำธารอีกสามสาย รวมกันกลายเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านชุมชนมนุษย์ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของทวีปก่อนจะไหลออกไปสู่ทะเลที่หนาวเย็นใกล้ขั้วโลกเหนือ แอมเบอร์กะว่าเมื่อใกล้จะถึงเมืองแล้วหล่อนค่อยว่ายน้ำเข้าฝั่ง ช่วงนี้ก็ว่ายเล่นน้ำไปพลางๆ สักสามสี่วันก่อนก็แล้วกัน ถ้าหิวก็เอาแคปซูลอาหารเม็ดออกมากินรองท้อง ง่วงก็เกาะกิ่งไม้หลับ ดีที่กิ่งไม้นี้ใหญ่และมีกิ่งก้านสาขาให้พอจะปีนขึ้นไปนั่งหลับได้สบายนะ

การเดินทางในลำธารและแม่น้ำสี่วันผ่านไป ในที่สุดแอมเบอร์ก็เข้าสู่เขตรอบนอกของชุมชนมนุษย์ หญิงสาวว่ายน้ำเข้าฝั่งไปแอบดูบ้านเรือนผู้คน หญิงสาวซ่อนตัวตามกอไม้น้ำตระกูลกกที่มีพุ่มหนาทึบ คอยสังเกตการณ์แต่งกายและรูปร่างหน้าตาของมนุษย์ในมิตินี้

แอ๊ะ ทุกคนก็ดูปกติเหมือนเรานี่นา ไม่เห็นจะมีใครมีเขาและดวงตาเป็นขีดแบบตามังกรสักคน แสดงว่าอีตาประหลาดที่เราเจอวันก่อนไม่ใช่มนุษย์ปกติในมิตินี้น่ะสิ

หลังจากแอบดูอยู่หลายชั่วโมงหล่อนก็สรุปได้ว่า ผู้คนที่นี่แต่งตัวด้วยผ้าทอจากเส้นใยพืชเนื้อหยาบย้อมสีธรรมชาติตัดเย็บเรียบง่าย ผู้ชายสวมเสื้อเอวลอยแขนกุดนุ่งกางเกงขายาว ส่วนผู้หญิงสวมชุดเสื้อแขนยาวต่อกับกระโปรงยาวกรอมเท้า มีผ้าคาดเอวสีสันสดใส และสวมเครื่องประดับรุงรัง รูปร่างหน้าตาและความสูงของผู้คนที่นี่ไม่ต่างจากมนุษย์ในมิติของแอมเบอร์สักนิด แต่คนที่นี่ล้วนมีผมสีดำ ไม่ก็สีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลดำ หญิงสาวก้มลงมองเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนประกายทองที่ยาวจรดเอวของตนเองแล้วขมวดคิ้ว ถ้าหล่อนปรากฏตัวในสภาพนี้ต้องกลายเป็นจุดเด่นแน่เลย

หญิงสาวย่องออกจากกอกก เดินไปหาทำเลแปลงโฉมด้านหลังหมู่บ้านที่ห่างไกลผู้คน หยิบคอนแทคเลนส์มาสวมเพื่อพรางสีของดวงตาให้กลายเป็นสีดำขุ่นๆ แบบดวงตาของคนแก่ จากนั้นก็เอาสเปรย์ย้อมผมมาฉีดผมตนเองตั้งแต่โคนจรดปลาย เปลี่ยนให้เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนกลายเป็นสีเทาดำสลับผมขาว หล่อนขมวดผมยาวสลวยของตนเป็นมวยแบบที่เห็นคนแก่ในหมู่บ้านนี้ชอบทำกัน แล้วส่องกระจกดูด้วยความพอใจ

เฮ้ย! ที่ต้นคอนี่มันอะไรกัน! แอมเบอร์เบิกตากว้างจนแทบจะถลนเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติตรงบริเวณต้นคอด้านซ้ายของตน อยู่ๆ หล่อนก็พบว่าผิวหนังบริเวณนั้นมีลวดลายประหลาดเรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆ มันเป็นลวดลายแนบสนิทไปกับผิวหนังรูปร่างคล้ายเกล็ดมังกรผสมกับลายเส้นพลิ้วไหว ซึ่งถ้าหล่อนไม่ได้ส่องกระจกดูจะไม่รู้สึกผิดปกติใดๆ เลย หญิงสาวเอานิ้วถูแรงๆ เพื่อลบมันออก แต่ลวดลายนั้นกลับติดแน่นคล้ายรอยสัก และไม่มีทีท่าว่าจะจางลงเลย อะไรกันเนี่ย มาได้ไงฟร๊ะ

แอมเบอร์เม้มปากเอียงครุ่นคิด หรือว่าอีตามนุษย์ประหลาดนั่นจะฝากรอยไว้กันนะ หญิงสาวหน้าแดง นึกถึงตอนที่ลิ้นสากๆ ลากไล้ไปตามต้นคอตน

“โอ๊ย อุตส่าห์ลืมๆ ไปแล้วเชียว จะคิดถึงอีกทำไมเนี่ย บ้าจริง!”

หญิงสาวหันไปรื้อค้นเจลทำหนังเทียมสำหรับแปลงโฉมออกมาผสมกับสี แล้วพอกใบหน้าต้นคอและหลังมือของตนเอง ตกแต่งให้ดูเหมือนผิวคนแก่ยับย่น นอกจากจะช่วยปิดบังผิวหนังและรอยประหลาดที่ต้นคอนั้นได้แล้ว เจลนี้ยังมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวอีกด้วย สามารถพอกแล้วทิ้งไว้ได้นานครั้งละเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว

แอมเบอร์รอจนฟ้ามืดจึงค่อยๆ ย่องไปขโมยเสื้อผ้าที่แขวนตากอยู่ตามราวของชาวบ้านในหมู่บ้านมาสวม หล่อนเอาเป้มาผูกติดกับเอวของตน และพันไว้ด้วยผ้าผืนยาวเพื่อให้ดูเป็นคนลงพุง จากนั้นก็สวมชุดชาวบ้านทับชุดเดิมของตนแล้วรีบเผ่นออกจากหมู่บ้านนี้ก่อนที่เจ้าของเสื้อผ้าจะตื่นขึ้นแล้วตามมาไล่จับหัวขโมยแบบหล่อน

สองวันให้หลังหญิงสาวก็มาเดินอยู่ในเมืองใหญ่ในคราบของหญิงชราหลังค่อมหูตึงและพูดไม่รู้เรื่องราวกับคนบ้าคนหนึ่ง ก็จะไม่ให้เล่นบทคนบ้าได้ยังไงล่ะ ในเมื่อหล่อนฟังภาษาของผู้คนที่นี่ไม่รู้เรื่องเลยสักนิด กว่าเครื่องแปลภาษาที่คอมพิวเตอร์ข้อมือจะประมวลผลและส่งสัญญาณชีวะฟิสิกส์เข้าสู่สมองของหล่อนได้ก็ต้องใช้เวลารวบรวมคำศัพท์ประมาณสองร้อยชั่วโมงนี่นะ ตอนนี้หล่อนเลยได้แต่เรียนรู้ภาษาด้วยตนเองไปก่อน

ผ่านมาสองสามวัน หล่อนก็เรียนได้หลายคำแล้วล่ะ ไม่ว่าจะเป็นคำว่า ข้า เจ้า กิน หิว ไปให้พ้น ยายแก่หนังเหี่ยว และ เชี่ยเอ๊ย!

แหม แค่นี้ก็พอจะเอาชีวิตรอดในเมืองใหญ่แห่งนี้ได้แล้ว ฮะๆ ๆ

แอมเบอร์ตั้งใจใช้ชีวิตแบบคนจรจัดในเมืองใหญ่หลายวันเพื่อรอให้เครื่องแปลภาษาประมวลผลการแปลให้ครบสองร้อยชั่วโมง กลางวันเดินออกไปขออาหารกินย่านตลาด ส่วนกลางคืนไปแอบนอนใต้สะพาน หญิงสาวรู้สึกสนุกสนานกับบทบาทที่ตนเล่นอย่างยิ่ง บางครั้งก็แกล้งยั่วโมโหพ่อค้าผัก บางครั้งก็แกล้งเดินไปชนคุณหนูลูกผู้ดี จนแต่ละคนพากันร้องด่าไม่เป็นภาษา วันไหนเจอคนใจดีมีเมตตา หล่อนก็ได้รับทั้งอาหารและเศษเงิน วันไหนเจอคนใจร้าย หล่อนก็ต้องเล่นบทหญิงแก่โดนรังแก ยอมให้ชาวบ้านทุบตีสักทีสองที แต่ส่วนใหญ่พอเห็นหล่อนแก่มากๆ พวกคนเหล่านั้นก็ทุบตีหล่อนไม่ค่อยจะลง ได้แต่ด่าไล่ให้หล่อนไปไกลๆ ซะมากกว่า เพียงสัปดาห์กว่าๆ หล่อนก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั้งตลาดในฐานะ ‘ยายแก่บ้าใบ้’

ในที่สุดวันนี้ก็ครบเวลาสองร้อยชั่วโมงสักที แอมเบอร์ยิ้มตาหยีเมื่อเครื่องแปลภาษาเริ่มทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตอนนี้หล่อนทั้งฟังและพูดภาษาของคนที่นี่ได้แล้ว แม้จะยังไม่ถึงกับเข้าใจเต็มร้อยแต่ก็พอจะสื่อสารในบทสนทนาทั่วไปในชีวิตประจำวันได้โดยไม่ติดขัด ได้เวลาไปลองของใหม่แล้วสินะ ฮะ ๆ ๆ ๆ

หญิงสาวเดินเข้าไปในย่านตลาดที่ตนเริ่มคุ้นเคยด้วยท่าทางงกๆ เงิ่นๆ แบบคนชรา แอบกวาดตามองไปโดยรอบ วันนี้จะแกล้งใครดีน้า....

ทันใดนั้นหล่อนก็เห็นขบวนเดินทางของคนต่างถิ่นกำลังเดินทางผ่านเข้ามาในตลาด ผู้คนในขบวนล้วนใส่เสื้อผ้าสีแดงปักลายสีดำสลับทองดูหรูหราและคาดเอวด้วยดาบขนาดใหญ่ราวกับเป็นพวกทหาร ตรงกลางขบวนมีคนหาบเกี้ยวที่กั้นด้วยผ้าโปร่งสีแดงจางๆ สองอัน ด้านในของเกี้ยวมองเห็นร่างแบบบางของหญิงสาวนั่งเป็นสง่าอยู่รำไรเกี้ยวละนาง

แอมเบอร์เผลอมองด้วยความสนใจจนลืมทำหลังค่อมไปชั่วครู่

“ว้าว เจ้าหญิงที่ไหนเสด็จกันนะ” เสียงเด็กน้อยที่มามุงดูขบวนหันไปถามบิดาตน

“ใช่เจ้าหญิงที่ไหนกันล่ะไอ้ลูกโง่ พวกนั้นคือหญิงสาวที่ถูกคัดเลือกให้ไปเป็นผู้หญิงของมังกรต่างหากเล่า” ชายวัยกลางคนหันไปด่าลูกชายตน

แอมเบอร์หันขวับไปมองคนพูดด้วยความสนใจ ค่อยๆ ขยับไปใกล้ๆ โดยไม่ให้พ่อลูกคู่นั้นรู้ตัว

“แป๊บเดียวก็จะครบรอบที่ต้องคัดเลือกสาวงามไปเซ่นสังเวยเหล่ามังกรอีกแล้วหรือ น่าสงสารพวกผู้หญิงพวกนั้นจริงๆ” ชาวบ้านอีกคนบ่นพึมพำ

“ข้าได้ข่าวมาว่า หนึ่งในผู้ได้รับคัดเลือกร้อยคนมีหญิงสาวที่มีตราประทับมังกรด้วยนะ น่าตื่นเต้นจริงๆ เลย ข้าก็อยากเป็นหนึ่งในนั้นบ้างจัง” เด็กสาวชาวบ้านคนหนึ่งทำท่าเคลิ้มฝัน

“นังลูกโง่ ชอบคิดอะไรตื้นๆ คิดว่าได้เป็นผู้หญิงของมังกรมันดีนักรึ เจ้าเคยเห็นใครไปแล้วได้กลับมาสักคนมั้ยห๊า” หญิงวัยกลางคนเพ่นกระบาลลูกสาวจอมเพ้อฝันของตน

“โอ๊ย ท่านแม่นี่ ชอบตีหัวข้าอยู่เรื่อยเลย ที่พวกนางไปแล้วไม่มีใครกลับมาสักคนก็อาจจะแปลว่าที่ทวีปทารันเซียของพวกมังกรมันดีจนไม่มีใครอยากกลับมาก็ได้นี่ ท่านเคยเห็นมังกรตนไหนขี้เหร่บ้างเล่า ตั้งแต่เกิดมาข้าก็เห็นมีแต่มังกรหล่อๆ ทั้งนั้น ได้เป็นผู้หญิงของมังกรดีจะตาย อย่างน้อยก่อนไปทวีปทารันเซียก็ได้เสวยสุขกินดีอยู่ดีตั้งหลายเดือน” เด็กสาวเถียงหน้าบูดหน้าบึ้ง

“นังเด็กบ้า เห็นมังกรแค่ตัวสองตัวก็เหมารวมว่าพวกมังกรหล่อไปหมด หล่อแล้วทำอะไรได้ ถึงเวลาก็ไม่รู้ว่าพวกผู้หญิงพวกนั้นสุดท้ายแล้วถูกมังกรกินเป็นอาหารกันหมดรึเปล่า เจ้าลองคิดดูเถอะว่าถ้าพวกนางไม่ถูกกินหรือพากันตายหมด แล้วทำไมพระราชาต้องส่งหญิงสาวบริสุทธิ์ไปให้พวกมังกรทุกสามปีด้วย เลิกคิดจะไปสมัครเข้ารับคัดเลือกเป็นผู้หญิงของมังกรได้เลย ต่อให้เจ้าอยากสมัครแต่ไม่มีใครเขารับคนขี้เหร่อย่างเจ้าหรอก เลิกเพ้อฝันได้แล้ว!”

แอมเบอร์เงี่ยหูฟังแม่ลูกทะเลาะกันก็พอจะจับใจความได้คร่าวๆ แต่หล่อนก็ยังงงว่าทำไมคนพวกนี้ถึงบอกว่ามังกรหล่อ หรือว่าหล่อนจะเข้าใจภาษาของที่นี่ผิดไป...

“เอ่อ นี่แม่หนู ข้าขอถามหน่อยว่าไอ้ทวีปของมังกรนั่นมันคือที่ไหนหรือ” แอมเบอร์หันไปถามเด็กสาวที่เพิ่งถูกมารดาดุ

“ข้าก็ไม่รู้หรอกยาย รู้แต่ว่ามันอยู่ไกลมาก ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปอีกฟากของโลกโน่นเลยล่ะ บางคนก็บอกว่ามันเต็มไปด้วยภูเขาสูงและหน้าผาชัน แต่บางคนก็บอกว่ามันสวยงามราวกับสวรรค์ มีภูเขารูปดอกทารันเซียเจ็ดกลีบอยู่ตรงใจกลางทวีป แต่ทั้งหมดนี้ก็เพียงเสียงเล่าลือกันเท่านั้น เพราะผู้ที่ได้ไปที่นั่นก็ไม่มีใครมีโอกาสได้กลับมาอีกเลย ว่าแต่ยายจะอยากรู้ไปทำไมเนี่ย แอ๊ะ ยายไม่ได้เป็นใบ้หรอกหรือ” เด็กสาวเล่ามาตั้งนานแล้วเพิ่งจะขมวดคิ้วสงสัย

แอมเบอร์รีบทำท่าทางกลบเกลื่อนแบบคนบ้าแล้วเดินตามขบวนผู้หญิงของมังกรไป ลางสังหรณ์ของหล่อนบอกว่าทวีปทารันเซียที่ว่าน่าจะเป็นที่เดียวกับทวีปที่ของเล่นหล่อนตกไปอยู่นั่นเอง ก็จะมีสักกี่ที่ในโลกกันที่มีภูเขารูปดอกไม้แบบนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel