บทที่ 8
ดอนคาร์ลกลับเข้าคฤหาสน์อีกครั้ง หลังจากดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปนานหลายชั่วโมงแล้ว ดอนหนุ่มมีท่าทีอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด พอเข้ามาในห้องโถงใหญ่แล้วก็ทิ้งตัวทรุดกายลงนั่งบนโซฟายกมือพาดไปตามความยาว พร้อมกับเอนศีรษะพิงพนักโซฟา ดวงตาสีฟ้าคมกล้าปิดเปลือกตาอยู่นิ่งๆ ราวกับต้องการบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยทางใจให้มันจางหายไปจากหัวสมองและกายของตนเอง
“ดอนครับ รับบรั่นดีสักแก้วไหมครับ”
แลนโดสทรุดกายนั่งแทบเท้าผู้เป็นนาย น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นริ้วรอยแห่งความเหน็ดเหนื่อย ระบายอยู่ทั่วใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มตามแบบฉบับของหนุ่มอัซซูรี่
“ตักบาตรอย่าถามพระเลยวะแลนโดส นายจะยกบรั่นดีมาเสิร์ฟเราทั้งขวด เราก็จะไม่ว่านายแม้แต่คำเดียว”
ดอนหนุ่มเอ่ยแขวะลูกน้องทั้งๆ ที่ยังคงหลับตาอยู่ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับข่าวไม่สู้ดีที่ลอยมากระทบหู และต้องเดินทางไปเคลียร์ปัญหาระหว่างลูกน้องในองค์กร ที่กัดกันไม่ต่างจากสุนัขจรจัด ซึ่งสาเหตุหลักหาใช่เรื่องใดไม่ นอกจากเรื่องเงินและอำนาจที่ต่างก็ต้องการคว้ามาไว้ในกำมือ
แลนโดสรีบพยักพเยิดให้โจวานเซไปรินบรั่นดีมาให้ดอนหนุ่ม พร้อมกันนั้นก็ถอดรองเท้าถุงเท้าให้กับผู้เป็นเจ้านายตามความเคยชินที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ โดยไม่ลืมออกปากเอ่ยถามถึงสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เจ้าของเรือนกายกำยำต้องแสดงท่าทางอ่อนล้ากายใจให้เห็นถึงเพียงนี้
“ดอนครับ มีเรื่องหนักใจอะไรหรือเปล่าครับ ท่าทางดอนดูเหนื่อยมากเลยนะครับ ให้ผมหาสาวๆ มานวดให้ไหมครับดอน”
ดอนคาร์ลยกมือปฎิเสธอย่างรวดเร็ว พลางผุดลุกขึ้นนั่งตัวตรง แล้วยกมือใหญ่แข็งแกร่งลูบหน้าของตนเอง ก่อนจะถอนหายใจยาวเอ่ยตอบคำถามของลูกน้องมือขวา ที่อยู่รับใช้ตนเองมาอย่างช้านาน
“ไม่ต้องหรอกแลนโดส เวลานี้เราไม่ต้องการสาวๆ คนไหนทั้งนั้น เราไม่มีอารมณ์ปลด
ปล่อยความเหนื่อย ความกลัดกลุ้มใจให้จมดิ่งอยู่ในกายของพวกเธอ อีกอย่างผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถทำให้เราพึงพอใจ หรืออยากร่วมรักกับพวกเธอได้”
เจ้าพ่อผู้องอาจหยุดพูดไปครู่หนึ่ง เพียงเพื่อรับบรั่นดีจากโจวานเซมาสาดเข้าลำคอ ให้ความร้อนรุ่มของน้ำสีอำพันชะล้างละลายความเครียดไปจากหัวสมองของตนเอง ก่อนจะเอ่ยพูดถึงเรื่องอันไม่โสภา ที่แล่นเข้าปะทะกายใจของเขาตลอดทั้งวัน
“วันนี้เราแทบไม่ได้ทำงานทำการ ไอ้โซลิโฟมันไปกร่างในเมืองกาตาเนีย เล่นงานเจ้าถิ่นเก่าเสียหมอบ แถมยังเข้าไปเบ่งอำนาจกับตำรวจที่นั่นอีก อะไรก็ไม่หนักเท่ากับที่มันประกาศก้องว่ามันเป็นคนขององค์กรโพเทนซา ออฟ โพเทนซา และที่มันทำไปทั้งหมดก็เป็นเพราะได้รับคำสั่งจากเรา”
“ไอ้สัตว์นรก!”
แลนโดสสบถลั่นอย่างเหลืออด เดาได้ว่าโซลิโฟไปทำกร่างเบ่งอำนาจอวดดีเช่นไรบ้าง เพราะจะว่าไปแล้วครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันทำตัวชั่วเช่นนี้
“ผมจะไปฆ่ามันเดี๋ยวนี้ครับดอน”
“ใจเย็น แลนโดส คืนนี้นายมีงานสำคัญต้องทำ นายลืมแล้วหรืออย่างไร ส่วนไอ้โซลิโฟนายก็ไม่ต้องไปหามัน เพราะอีกสองชั่วโมงไอ้โซลิโฟและคนอื่นๆ ก็ต้องเดินทางมาที่นี่”
ดอนคาร์ลสั่งห้ามลูกน้องที่ใจร้อนหิวกระหายเลือดเสียยิ่งกว่าเขาเสียอีก แลนโดสจะเป็นเช่นนี้เสมอ บอร์ดี้การ์ดเฒ่าพร้อมเอาชีวิตตนเองเข้าแลก เพื่อทำหน้าที่เป็นพ่อไก่แก่คอยปกป้องดูแลความปลอดภัยให้กับเขา
ไฟแค้นแทนเจ้านายที่ลุกพล่านอยู่ในตัวของบอร์ดี้การ์ดเฒ่า ผู้มากด้วยชั่วโมงบินในการฆ่าคน เริ่มลดน้อยถอยลดไปบ้าง เมื่อถูกดอนหนุ่มที่ตนเองจงรักภักดีเสมอมาออกปากห้ามปราม เขายอมทรุดกายลงนั่งแทบเท้าดอนคาร์ลอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ยังติดอาการโกรธขึงอยู่
“ไอ้โซลิโฟมันจะมาที่นี่ยังงั้นหรือครับดอน”
“ใช่ เราสั่งให้เจ้าพ่อทุกแก๊งมาประชุมที่นี่ตอนสี่ทุ่มตรง ระหว่างนี้นายก็ส่งคนไปจัดการสับเปลี่ยนสินค้าในบ้านของไอ้โซลิโฟด้วย”
ดอนคาร์ลสั่งเสียงห้วนจัด ไม่ยอมบอกให้ลูกน้องมือขวาเจนประสบการณ์ในวงการมาเฟีย รับรู้ถึงเรื่องที่ตนเองเรียกบรรดาเจ้าพ่อในสังกัดให้มาเข้าประชุมในวันนี้ เพราะสิ่งที่เขาจะประกาศในค่ำคืนนี้ คือสิ่งที่เขาคิดตรึกตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว แต่กระนั้นเขาก็เชื่อว่าแลนโดสคงไม่เห็นดีด้วยอย่างแน่นอน
“เรื่องนี้ดอนสบายใจได้ครับ คนของผมพร้อมแล้ว รอแค่เวลาที่ไอ้โซลิโฟมันกระดิกหางออกจากบ้านก็เท่านั้นเองครับ ว่าแต่ว่ามีแค่เรื่องของไอ้แกะดำตัวนี้ตัวเดียวหรือครับ ที่คอยสะกิดรบกวนทำให้ดอนหนักใจ”
“หลายเรื่องเชียวล่ะแลนโดส ทั้งเรื่องที่ไอ้โซลิโฟและเจ้าพ่ออีกสองสามราย ที่มีเรื่องกัดกันไม่ต่างจากหมา! แย่งชิงอำนาจความเป็นใหญ่ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาอันสมควร”
ดอนคาร์ลเค้นเสียงตอบด้วยความโกรธกริ้ว ไม่นึกว่าอำนาจและเงิน จะทำให้คนที่เคยรักใคร่ปรองดองกันด้วยดีมาตลอดศก เริ่มทรยศหักหลังกันไม่เว้นแม้แต่วินาทีเดียว
แลนโดสขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง รู้สึกสะดุดหูกับคำพูดที่แฝงความนัย ซึ่งออกจะเป็นไปในทางร้ายของผู้เป็นเจ้านาย แต่กระนั้นก็ไม่กล้าถามอะไรออกมา ด้วยเกรงว่าจะทำให้ดอนผู้องอาจไม่พอใจไปมากกว่านี้อีก
“มีอีกเรื่องนะแลนโดส เราได้ข่าวแว่วเข้าหูว่าไอ้ผู้บังคับการเลสซันโดร ที่กัดจิกเราไม่ปล่อย มันเริ่มเคลื่อนไหวอีกแล้ว ดูท่าว่าคราวนี้มันต้องการหัวเรามากกว่าครั้งก่อนๆ เสียอีก”
คำพูดของดอนคาร์ล นอกจากจะทำให้แลนโดสและโจวานเซตกใจหวาดหวั่นกับการกัดไม่ปล่อยของนายตำรวจยศสูงผู้นี้แล้ว คนที่แอบฟังการสนทนาของดอนคาร์ลกับลูกน้องตั้งแต่แรกเริ่ม ก็ถึงกับตกใจไม่แพ้กัน ด้วยนึกไม่ถึงว่าเรื่องที่ทางหน่วยสืบสวนกลางฯ ปกปิดเป็นความลับ จะรั่วไหลเข้าถึงหูของดอนผู้นี้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีหนอนบ่อนไส้อยู่ภายในกรมตำรวจเป็นแน่แท้
‘บ้าชะมัด ดอนคาร์ลรู้ได้ยังไงว่าท่านผู้บังคับการกำลังตามจับตัวเขาอยู่’
ผู้กองสาวสบถลั่นอยู่ในใจ เรียวปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง มือเล็กกำแน่นด้วยความเจ็บใจ ขณะนึกถึงเพื่อนร่วมงานในกรมตำรวจ ที่อาจพ่ายแพ้ให้กับอำนาจเงินของดอนคาร์ล จนยอมคายความลับของทางราชการบอกกับดอนผู้นี้
แลนโดสถอนหายใจยาวด้วยความกลัดกลุ้มใจ เรื่องนี้เขาพอจะรู้มาบ้างแล้ว เพียงแค่ยังไม่มีโอกาสเอ่ยเตือนดอนคาร์ลก็เท่านั้นเอง
“ไอ้ผู้การคนนี้มันพับเรื่องการตามจับดอนไปนานหลายปีแล้ว แต่ทำไมจู่ๆ ถึงได้รื้อคดีมาทำอีกครั้ง”
“คงมีคำสั่งจากเบื้องบนให้กวาดล้างคำว่ามาเฟียให้หมดไปจากประเทศนี้ล่ะมั้ง แต่ก็คงยากหน่อย เพราะไอ้ผู้บังคับการเลสซันโดร มันใช้เวลาผ่านไปนานถึง 15 ปี แต่ก็ยังคว้าน้ำเหลว ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสได้สัมผัสปลายเล็บของเรา”
เจ้าพ่อหนุ่มไม่ได้พูดโอ้อวดเกินความเป็นจริง เพราะเวลาผ่านไปหลายสิบฤดูแล้ว แต่นายตำรวจผู้นี้ก็ตามจับกุมเขาไม่ได้สักที และเขาเชื่อว่านายตำรวจคนนี้คงไม่เคยเห็นใบหน้าอันแท้จริงของเขาด้วยซ้ำไป
“อย่าประมาทไปนะครับดอน เวลา 15 ปี ไอ้เลสซันโดรมันคงสั่งสมประสบการณ์ การกวาดล้างเจ้าพ่อมาเป็นสิบๆ ราย มันอาจทำอะไรที่พวกเราคาดไม่ถึงก็ได้”
แลนโดสเอ่ยเตือนเสียงเย็น ดวงตาสีสนิมลุกวาบโชนแสง ขณะพูดถึงนายตำรวจที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวกตนมาช้านาน
“มันคงสั่งสมชั่วโมงบินไว้เพี้ยบนั้นแหละแลนโดส และเราก็อยากรู้ด้วยว่ามันจะใช้วิธีใดมาเล่นงานเรา”
ดอนคาร์ลตอบอย่างทะนงตัว เพราะจะว่าไปแล้วการเล่มเกมไล่จับกับนายตำรวจผู้นี้ถึง 15 ปีเต็ม เขาและลูกน้องมักจะเป็นฝ่ายชนะเสมอ
ถ้อยวาจาที่เอ่ยสบประมาทฟังดูทั้งทระนง ทั้งเยาะหยันผู้บังคับบัญชาของตนเอง ทำเอาร้อยตำรวจเอกหญิงคนสวยต้องกัดฟันกรอดๆ ด้วยความโกรธระคนคับแค้นใจ
“หัวเราะไปเถอะดอนคาร์ล 15 ปีก่อน อาจจะเป็นปีทองของแก แต่รับรองว่าปีนี้จะเป็นปีอันอัปโยคของแกอย่างแน่นอน”
รีจินาเค้นเสียงคาดโทษดอนชั่วที่เธอยังไม่มีโอกาสเห็นหน้าค่าตา สาบานว่าหากมีโอกาสประจวบเหมาะ เธอจะไม่มอบความเมตตาให้กับเจ้าพ่อผู้นี้แม้แต่นิดเดียว สิ่งที่เธอจะมอบให้กับดอนคาร์ลคือความตายและตายเท่านั้น
ลูกน้องมือขวาแสยะยิ้มกว้างกับคำพูดของผู้เป็นนาย แม้ในบางครั้งเกือบถูกตำรวจจับตัวได้ แต่พวกเขาก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้งไป และแทนที่จะหวาดกลัว กลับกลายว่าเป็นเรื่องสนุก มีการพนันขันต่อในองค์กรว่าใครจะสามารถหนีพ้นเงื้อมมือของตำรวจได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
“ไอ้ผู้การเลสซันโดรมันคงแทบกระอักเลือด ที่จับดอนไม่ได้สักที”
“ฮึ! คงเป็นแบบนั้นแหละแลนโดส เอาไว้ว่างๆ เราจะไปเยี่ยมมันถึงห้องนอน เอาให้มันสะดุ้งขนหัวลุกชันสักอาทิตย์สองอาทิตย์”
ดอนคาร์ลยิ้มเยาะหยันตรงมุมปาก เรื่องไปเยี่ยมเยียนนายตำรวจผู้นี้ โดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเขาและแลนโดสเคยเล่นเกมแบบนี้เป็นประจำกับตำรวจในเมืองปาแลร์โม เรียกว่าพอลืมตาตื่นขึ้นมาในยามดึกดื่น ก็เห็นแขกไม่ได้รับเชิญนั่งอยู่บนหัวเตียงพร้อมกับเอาปืนจ่อหัว เล่นเอาตำรวจพวกนั้นฉี่แทบราดไปตามๆ กัน
“ดอนครับ วันนี้แม่ครัวคนที่ผมบอกดอนเมื่อวานเดินทางมาถึงแล้วนะครับ เธอทำอาหารไทยรอดอนไปตัดสินด้วยว่าเธอจะได้เป็นแม่ครัวอยู่ที่นี่ต่อไปหรือเปล่า”
เมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายเริ่มคลายอาการเมื่อยล้าลงบ้างแล้ว แลนโดสก็เอ่ยบอกถึงเรื่องที่ตนเองนั้นรอลุ้นอยู่ไม่น้อยว่าแม่ครัวสาว ที่ดูท่าว่าจะทำอาหารไม่ได้เรื่อง จะได้เป็นแม่ครัวประจำคฤหาสน์มาโก้ร์ตามที่เธอต้องการหรือไม่
ดอนคาร์ลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะบิดกายกำยำไปมาเพื่อไล่อาการเมื่อยขบ จากนั้นก็ก้าวยาวๆ ขึ้นไปบนห้องนอนโดยไม่ลืมสั่งลูกน้องที่รีบลุกขึ้นตามอย่างรวดเร็ว
“สั่งให้เธอจัดโต๊ะรอเราด้วย อีกสิบนาที เราจะลงมาทานข้าว”
“ครับดอน”
แลนโดสรับคำ รอจนกระทั่งดอนผู้หล่อเหลาดุดัน ก้าวขึ้นบันไดบ้านไปแล้ว จึงเดินออกจากห้องโถงตรงไปยังที่ทำการของแม่ครัวสาว ซึ่งตอนนี้แม่ครัวหัวป่ารีบวิ่งออกจากที่หลบซ่อนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถูกจับได้ว่าเธอนั้นเป็นมาตาฮารีตัวแม่