บทที่ 1 ร่างใหม่ที่ต่างไปจากเดิม [1]
สายลมหนาวเย็นพัดแทรกเข้ามาในกระโจม กรีดแทงลงบนผิวกายขาวซีดของร่างที่นอนอยู่บนเตียงจนเจ็บแสบไปหมด เด็กหนุ่มที่เคยเป็นวิญญาณเร่ร่อนพลันเบิกตาโพลง ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ก่อนจะโอบกอดตัวเองไว้แน่นด้วยร่างอันสั่นเทา รู้สึกหนาวเยือกไปถึงกระดูกเหมือนถูกผนึกไว้ใต้พื้นน้ำแข็งเย็นเยียบ แต่แล้วสัมผัสอบอุ่นใต้ฝ่ามือก็ทำเอาเขาประหลาดใจจนต้องเลิกคิ้ว ก่อนจะก้มลงมองร่างตัวเองด้วยความเร็ว
“เฮ้ย!”
นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย เขาเข้ามาอยู่ในร่างใหม่เหมือนที่ตาแก่นั่นบอกไว้จริงๆ งั้นเหรอ?!
“เจ๋งชะมัด ตาแก่นั่นทำตามที่พูดไว้ได้จริงๆ ไม่ได้หลอกกันเล่นนี่หว่า! แบบนี้ก็ดีดิ หลังจากนี้เราอยากทำอะไรก็ทำได้แล้ว ฮะฮ่าๆ ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งมันช่างรู้สึกดีอะไรอย่างนี้! ต่อจากนี้ไปจะเริ่มทำอะไรก่อนดี มีเวลาอีกตั้งเป็นปีกว่าร่างนี้จะตายไป...” เสียงหวานกังวานใสดุจระฆังแก้วเปล่งออกมาด้วยความดีใจ ดวงหน้างดงามผุดผาดล่มเมืองเผยชัดถึงความปลื้มปริ่มยินดี
ในที่สุดเขาก็ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง แม้ว่าร่างกายนี้จะไม่ใช่ของเขาเองก็เถอะ
เด็กหนุ่มเริ่มลงมือสำรวจร่างนี้อย่างจริงจัง ยกมือขึ้นแตะไปที่ใบหน้าก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนไล่ลงมายังลำคอระหง ไหปลาร้า แล้วมาหยุดอยู่ที่หน้าอกแบนราบไร้ส่วนโค้งนูน จากนั้นก็ลองย้ายมาจับท่อนแขนนุ่มนิ่มพลิกเล่นไปมาด้วยความสนใจ
ดวงตาเรียวหงส์เป็นประกายสดใสหลุบลงจ้องเขม็งแขนขาที่เปลี่ยนจากร่างโปร่งแสงเป็นกายหยาบ มีเนื้อหนังจับต้องได้ สัมผัสเรียบลื่นดุจแพรไหมให้ความรู้สึกดีอย่างน่าประหลาดจนเขาเผลอลูบไล้เพลินไปหน่อย ก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดแปลกไป
เด็กหนุ่มหุบยิ้มฉับ เก็บสีหน้าเคลิบเคลิ้มหลงใหลจนหมดสิ้น อาการตื่นเต้น
ดีใจก่อนหน้าปลิวหายไปในพริบตา เพิ่งตระหนักได้ถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองอย่างจัง
“ผิวมันนุ่มนิ่มเกินไปรึเปล่าวะ แล้วไหนจะยังเรียบลื่นไม่หยาบกระด้างเหมือนพวกผู้ชายอีก นี่อย่าบอกว่านะเราหลุดมาอยู่ในร่างผู้หญิงน่ะ? ซวยแล้ว!”
วงคิ้วโก่งสวยดั่งคันศรเลิกขึ้นด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด นัยน์ตาฉายแววตื่นตกใจสุดขีด ใต้ฝ่ามือเรียวงามคือผิวกายเนียนนุ่มชุ่มชื้นเหมือนผิวเด็ก แค่บีบเพียงเล็กน้อยก็คล้ายกับจะมีหยดน้ำไหลออกมา เนียนละเอียดไร้ตำหนิไม่ต่างจากผู้หญิง รูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นราวกับไร้กระดูก แค่ถูกลมพัดแรงเข้าหน่อยก็คล้ายกับจะปลิวตามไปด้วยยังไงยังงั้น
“ผะ...ผู้หญิงจริงๆ งั้นเหรอเนี่ย?” เพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าตัวเองเป็นชายหรือหญิง มือเรียวบางจึงเลิกผ้าห่มขึ้นจ้องไปยังกึ่งกลางกาย ก่อนที่สองตาจะเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน ริมฝีปากอ้าค้างเปล่งเสียงร้องอุทานไม่ออกแม้เพียงครึ่งคำ
นี่มันไม่ใช่ผู้หญิงแล้ว! เขาเข้ามาอยู่ในร่างของผู้ชายที่มีหนอนน้อยยืนยันเพศชัดเจน เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่สัมผัสได้ตอนนี้กลับทำให้เขาไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างนี้คืออะไรกันแน่ เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ทำไมร่างกายถึงคล้ายคลึงกับผู้หญิงนักเล่า เด็กคนนี้คงไม่ใช่กระเทยหรอกใช่ไหม?!
เด็กหนุ่มในร่างใหม่ถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอ รีบหันขวับไปมองด้านข้างก็เห็นกระจกทองเหลืองวางไว้บนโต๊ะไม้เก่าๆ อยู่บานหนึ่ง เขายื่นมือสั่นระริกไปคว้ามันขึ้นมาส่องดูด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นระทึก รู้สึกกลัวที่จะรู้คำตอบยังไงก็ไม่รู้สิ
และทันทีที่เห็นเงาสะท้อนในนั้น เขาก็ถึงกับผงะหน้าถอดสี ร่างกายไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ
เจ้าของร่างนี้เป็นคนสวยมาก ใบหน้าเรียวรูปไข่เล็กเท่าฝ่ามือ เครื่องหน้าทั้งห้ารับกันอย่างเหมาะเจาะงดงามไร้ที่ติ คิ้วโก่งสวยปลายชี้ขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเรียวคมกระจ่างใสเหมือนน้ำในทะเลสาบ จมูกโด่งรั้นเชิดงอน ริมฝีปากแดงระเรื่อเอิบอิ่มน่าสัมผัส
ใบหน้านี้ดูอ่อนเยาว์เหมือนเด็กอายุสิบห้าสิบหก อาบย้อมด้วยรัศมีเย็นตาของแสงจันทร์นวลกระจ่าง ทั่วทั้งร่างราวกับเปล่งแสงได้ พานให้สองตาพร่ามัวไปชั่วขณะ เรียกได้ว่างดงามล่มบ้านล่มเมือง สะท้านสะเทือนแผ่นดินไม่ต่างจากนางมารร้ายยั่วราคะตนหนึ่งเลยทีเดียว!
เสียก็แต่ว่า ‘เขา’ คนนี้แท้จริงแล้วเป็นผู้ชายหาใช่หญิงสาว ไม่อย่างนั้นก็คงจะน่าพิสมัยมากกว่านี้ แต่นี่มันออกจะน่าขนลุกไปสักหน่อยหรือไม่
บนโลกใบนี้ยังมีอะไรที่แปลกพิสดารแบบนี้อีกหรือ เพิ่งรู้ว่าผู้ชายก็สวยได้ไม่ต่างจากผู้หญิง แต่ว่านะ แล้วทำไมเขาถึงต้องมาอยู่ในร่างนี้ด้วย ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิงแบบนี้ ไม่กลายเป็นที่น่าขบขันถูกคนอื่นหัวเราะเยาะหรอกหรือ?
เขาอยากมีร่างกายบึกบึนกำยำ สามารถต่อยตีกับคนอื่นไปทั่วได้ โดยไม่ต้องออกแรงมากก็สามารถคว้าชัยชนะมาไว้ในกำมือ อยากคว่ำไอ้พวกอันธพาลที่ชอบรังแกคนอ่อนแอกว่าให้หมอบราบคาบกับพื้น จากนั้นทุกคนก็จะพากันยกย่องเชิดชูเขา สรรเสริญเขาว่าเป็นวีรบุรุษผู้กล้า ผู้ผดุงคุณธรรมชอบช่วยเหลือผู้อื่น!
ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ แต่เขาไม่มีความคิดที่จะช่วยเหลือใครหรอก ก็แค่โม้ไปงั้นแหละ
“โธ่โอ๊ย! น่าหงุดหงิดชะมัด ทำไมถึงจำอะไรไม่ได้เลยนะ แล้วร่างกายนี่ก็ดูอ่อนแอบอบบางเหลือเกิน ถ้าจะอ่อนปวกเปียกขนาดนี้ ทำไมไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงล่ะ เกิดเป็นผู้ชายทำไมให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะ แบบนี้มันตัวประหลาดชัดๆ สู้ใครเขาก็ไม่ได้ ไม่มีวันชนะ มีแต่จะถูกรังแกเปล่าๆ!”
เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ ใช้สองมือยันลงบนเตียงไม้เล็กแคบดันร่างตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง แต่เพราะเพิ่งฟื้นได้ไม่นานร่างกายจึงอ่อนแรงเอนเอียงไปมาแทบตกจากเตียง ดวงตาดำขลับเป็นประกายวาวใสเหมือนมีหยดน้ำอยู่ในนั้นฉายแววไม่พอใจ เม้มริมฝีปากแน่น ใช้เรี่ยวแรงอันน้อยนิดปัดผ้าห่มไปกองไว้ด้านข้าง หรี่ตาจ้องเขม็งเรือนร่างแบบบางที่ไม่ใกล้เคียงกับผู้ชายเลยสักนิด ดูยังไงก็เหมือนกับผู้หญิงมากกว่า
ดูเหมือนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่จะแตกต่างจากที่ที่เขาเคยจากมาอยู่มากเลยทีเดียว สาบเสื้อที่ไขว้ทับกันอยู่แบะอ้าเผยให้เห็นแผ่นอกบางขาวโพลนดุจหิมะ เสื้อสีแดงสดเหมือนดอกโบตั๋นยาวถึงข้อเท้า ถูกใช้ปกปิดเรือนร่างไว้อย่างลวกๆ ดูแล้วเหมือนแค่ทำส่งๆ ไปอย่างนั้นเอง
โทสะคุกรุ่นวาบผ่านดวงตาเรียวหงส์ ริมฝีปากอิ่มเย้ายวนขบเม้มแน่นขึ้นอีก รู้สึกขุ่นเคืองใจเป็นที่สุด เขารับไม่ได้กับสภาพนี้ก็จริง แต่จะไม่ยอมให้ใครบังอาจมารังแกร่างนี้เด็ดขาด เจ้าของร่างนี้อุตส่าห์ให้เขายืมใช้ร่างได้ชั่วคราว หากปล่อยให้ผู้อื่นกระทำย่ำยีเอาได้ง่ายๆ อีก มิเท่ากับเขาเป็นคนเนรคุณไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณคนหรอกหรือ
“ในหนังจีนกำลังภายในแต่งตัวแบบนี้รึเปล่าวะ เนื้อผ้าโปร่งบางวาบหวิวชวนให้คนหลงใหลเคลิบเคลิ้มนี่จะต้องมาจากยุคสมัยนั้นแน่ๆ แต่เราเป็นคนไทยไม่ใช่เหรอ ถ้าจะได้ร่างใหม่ก็น่าเป็นคนชนชาติเดียวกัน ไม่น่าจะต่างชาติต่างภาษา แตกต่างกันคนละโยดขนาดนี้ ชักใจคอไม่ดีแล้วสิ ตาแก่นั่นคิดจะทำอะไรกันแน่เนี่ย”
เด็กหนุ่มหน้าสวยทำเสียงฮึมฮัมในลำคออย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก หัวใจทั้งดวงราวกับถูกเปลวไฟแผดเผาจนร้อนระอุ นี่เขาตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกันแน่ ตกลงแล้วเจ้าของร่างนี้อยู่ที่นี่ในสถานะอะไรกัน