บท
ตั้งค่า

ความผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้

เมื่อมองไปที่เหม่ยอิงก็ได้สติ นึกเสียใจที่เอาอารมณ์มาลงที่นาง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จำต้องด้วยเสียงพูดเย็นๆที่เปล่งออกมาว่า"ไม่ได้"

"เช่นนั้นหม่อมฉันก็ไม่มีสิ่งใดแล้วเพคะ ออ! ขอบพระทัยที่ชวนไปงานชมดอกเหม่ยฮวา หม่อมฉันไม่สะดวกเพคะ ทูลลาเพคะ" ฮึ! ทำไมต้องใช้เสียงนี้พูดดีๆก็ได้ ชิ! ใครสน ไปก็ได้ เมื่อคิดเช่นนั้นเหม่ยอิงก็หันหลังเดินจากไป

ด้านองค์ชายสามนั่งนิ่งไม่ขยับ หลีจิ้งได้แต่มองแบบเห็นใจ ด้วยรู้ว่าจวนหลังนั้นคือจวนท่านแม่ขององค์ชายที่ไปอาศัยตอนออกจากวังหลวงและสิ้นชีวิตที่นั้น แม้นไม่ไปดูแล แต่ก็ไม่ยอมขายหรือรื้อทิ้ง ปล่อยไว้แบบนั้น

เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว หลินหลงก็เดินไปที่ห้องหนังสือ นั่งเงียบคนเดียวทั้งคืน

ส่วนเหม่ยอิงตรงกันข้าม หลังจากกลับมาที่จวนก็เปลี่ยนชุดกระโดดข้ามรั่วออกไป จนถึงชายป่ามองซ้ายแลขวา นางรับรู้มานานแล้วว่ามีคนมาเฝ้าดูแต่คิดว่าไม่ได้ทำร้ายนางจึงเฉยรอบนี้นางจะไม่ยอม คิดได้ดังนี้ จึงรีบวิ่งเข้าป่าหายไปในพริบ ฟู่จง ผู้ได้รับคำสั่งให้เฝ้าดูหาตัวนางไม่เจอจึงยืนงง โดยไม่ทันระวังจึงโดนยาพิษที่นางวางไว้ เมื่อรู้ว่าโดนยาจึงนิ่ง

เหม่ยอิงเดินออกมาจากใต้ต้นไม้ เอ่ยว่า "ข้ารู้ว่าเจ้ามาจากไหน เป็นคนของใคร แต่โทษทีข้าไม่พอใจนายเจ้าอย่างมาก เจ้าจึงโดนลงโทษ ฝากไปบอกนายของเจ้าด้วยว่าต่อไปนี้ไม่มีอะไรต้องพบเจอกัน เมื่อใดที่พบเจอเมื่อนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็นข้า" พูดจบก็จากไป

และเมื่อฟู่จงกลับรายงานหลินหลงเสร็จ อาการก็กำเริบขึ้นมา แสดงให้เห็นว่านางเอาจริง

หลีจิ้งทนไม่ไหวที่จะเห็นลูกน้องตนเองตายจึงออกมาพบ เหม่ยอิงที่จวนหวัง "ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้นะขอรับ ผิดที่ข้าลงโทษข้าแทนเถิดขอรับ คุณหนูอิงอิง"

เหม่ยอิงมองคนที่กำลังคำนับหัวแตกจนเลือดไหล จึงกล่าวว่า "เราแจ้งไปแล้ว ส่วนเรื่องจวนเราไม่ได้คิดมาก แค่เสียใจทึ่เราพูดดีๆแต่โดนกระทำแบบนั้น มันเสียความรู้สึก ก็เท่านั้น อีกอย่างคนของเจ้าไม่ตายแค่อาการกำเริบอีก 3 วันก็จะหายเป็นปกติ" ไปเถอะเราไม่อยากเห็นใคร หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคนคนนั้น"

หลีจิ้งคำนับ ขอบคุณ แล้วจากไป

เช้าวันต่อมา เหม่ยอิง เดินไปขอพบป้าหวังและคุยเรื่องที่เมื่อเรียบร้อย จึงนำคนจำนวนหนึ่งไปทำความสะอาด และตกแต่ง โดยนางอ้างว่าพักในจวนไม่เหมาะสม นางจะไปพักกับพวกเด็กๆ นางยินยอมให้มีผู้ติดตามไปด้วยจำนวนหนึ่ง ป้าหวังจึงยอม

หลังจากย้ายออกมาจึงถามหญิงสาวที่ดูแลเด็กๆว่ามีชื่อว่าอะไรนางตอบว่าไม่มีชื่อ ส่วนตัวตอนที่เป็นแววดาว นางชอบชื่อ ชิงชิง จึงตั้งชื่อให้หญิงสาวว่า ชิงชิง ส่วนเด็กคนอื่นๆตัังชื่อเรียงตามอายุใครมากกว่าเพื่อนเรียก ฟางอี้ ฟางเอ้อ ฟางซาน ฟางซื่อ ฟางอู่ ฟางลิ่ว ฟางชี ฟางปา ฟางจิ่ว โดยคำหน้าชื่อคือแซ่ฟางของสองสามีภรรยาฟาง

หลังจากจัดแจงที่อยู่เข้าที่เข้าทางแล้ว ชิงชิง ขอรับใช้ข้างกาย และชีเอ๋อ จิ่วเอ๋อ เพราะทั้งสามเป็นเด็กผู้หญิง นางก็ตกลงเพราะไม่อยากพูดมาก ดูจากความตั้งใจแล้วคงปฏิเสธไม่ได้

ทางฝั่งองค์ชายสามยังไม่ยินยอม เะราะอยากอธิบายให้นางเข้าใจ จึงขอให้องค์ชายห้าเป็นคนออกหน้าแทน โดยให้เหตุผลว่า ครอบครัวตระกูลหวังทำคุณให้แคว้น จึงให้คุณชายหวังเหวินชวนและหลานสาวคุณหนูอิงอิงเข้าร่วมงานชมดอกเหม่ยฮวาที่จัดขึ้นในครั้งนี้ด้วย

เหม่ยอิงมีเวลาไม่มากในแคว้นนี้แล้วจึงรีบจัดการเรื่องต่างให้เสร็จเพื่อจะได้เดินทางต่อไป

ถึงวันงานชมดอกเหม่ยฮวา ซึ่งหวังเหวินชวนกับเหม่ยอิงขัดไม่ได้ ป้าหวังให้นางมานอนค้างที่จวนหวังเพื่อเตรียมตัวล่วงหน้า 3 วัน เริ่มจากอาบน้ำแร่ แช่น้ำนม ขัดสีฉวีวรรณ ต่างๆจน เหม่ยอิงน้ำตาตก นึกในใจ มันหนักกว่าฝึกทหารซะอีกนะเนี่ย ฮื่อๆๆๆ

ป้าหวังให้นางสวมใส่ชุดสีม่วงอ่อน ถักผมเปียครึ่งหัวก่อนผูกด้วยผ้าสีเดียวกับขุด เนื่องด้วยนางไม่ปักปิ่น จึงใช้ผ้าผูกแทน แต่งหน้าอ่อน แลดูหน้ารีกอย่างยิ่ง พอเตรียมตัวเสร็จป้าหวังยืนยิ้มจนตาหยี่มีน้ำที่หางตา อยากได้นางมาเป็นลูกของตนเสียเอง จะได้ชื่นชมทุกวันคืน

เดินทางมาถึงงาน โดยมีหวังเหวินชวนนั่งรถม้ามาด้วย จังหวะที่เหม่ยอิงกำลังจะลงจากรถม้าก็มีแขนยื่นมาให้เกาะ เหม่ยอิงเข้าใจว่าเป็นเหวินชวนจึงเกาะแขนลงจากรถม้า เมื่อลงเสร็จเรียบร้อยจึงหันไปด้วยรอยยิ้มหวานหยดจะกล่าวขอบคุณ แต่พอเห็นว่าเป็นผู้ใดเท่านั้น รอยยิ้มค้างทันที แต่ชั่วพริบตาก็เป็นปกติ ซึ่งผิดกับอีกคนที่มองเหม่ยอิงอย่าตกตะลึง เหมือนเห็นรอยยิ้มนั้น แต่พอนางหุบยิ้มลงก็หดหู่ใจในทันทีเช่นกัน "นางช่างงดงามนัก รอยยิ้มนั้นนางส่งให้ผู้ใด คิดว่าข้าเป็นผู้ใด" เมื่อคิดเข่นนั้นจึงหันไปมองหวังเหวินชวนตาขวาง

"พี่เหวินชวนเราไปกันเถอะ เจ้าคะ" นางกล่าวโดยไม่มองหน้า หลินหลง แม้นเพียงนิด

เหวินชวนยังไม่ทันตอบรับก็ถูกเหม่ยอิงลากเข้าไปในงาน "ไม่ได้ทำความเคารพองค์ชายเลย อิงอิง" เหวินชวนกล่าว

"พอเดี๋ยวเข้ามาในงานก็ต้องคำนับอยู่แล้ว ทำไมต้องทำหลายรอบด้วยเล่า ไปๆๆ"

เหวินชวน "...."

เมื่อนางเดินเข้าไปในงาน ทุกคนหันมามองอย่างตะลึงงัน หารู้ไม่ว่าสายตาคนที่เดอมตามหลังมาแทบจะแช่แข็งพวกที่มองเหม่ยอิงให้แข็งตายได้

ในกลุ่มสาวงามทั้งหลายมีกลุ่มหนึ่งที่มองมาทางเหม่ยอิง

และคนที่เอ่ยขึ้นมาคือไป๋เสวี่ยหมิง ลูกสาวเสนาบดีไป๋ "แค่หลานอดีตรองแม่ทัพ วางท่าซะยิ่งกว่าองค์หญิง อีกนะเพคะ " พูดจบหันไปมององค์เพื่อหาตัวช่วยในการกลั่นแกล้งเหม่ยอิง

"เจ้ารู้จักนางรึ " องค์หญิงตงฟางเหม่ยฮวา กล่าวขึ้นมา พร้อมกันหันมามองไป๋เสวี่ยหมิง

"เพคะ เคยเห็นนางเดินเข้าไปในจวนองค์ชายสามเพคะ คงไปให้ท่าองค์ชายสามแน่ๆเลยเพคะ" อายุไม่เท่าไหร่ยังขนาดนี้ ช่างน่าอายจริงๆเลยเพคะ

ด้านเหม่ยอิงหาได้รู้ไม่ว่ามีคนป้องร้ายตนอยู่โดยไม่รู้สาเหตุ ยังเดินชมดอกเห่มยฮวาสีขาว กลิ่มหอมฟุ้ง อย่างสบายใจอยู่

กับอีกคนที่อยากจับนางมานั่งข้างๆตนเพื่อไม่ให้ชายใดมองและคิดจะสร้างสัมพันธ์กับนางในดวงใจตน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel