ริษยาของสตรี 2
“ท่านแม่ทัพ” เพ่ยอิงเอ่ยเรียกขานเสียงเบาหวิว นางยังคงซาบซ่านอยู่มาก เหงื่อกาฬไหลเยิ้มเต็มไปหมด
หยวนจงนอนตะแคงข้างเอามือหนึ่งค้ำศีรษะตนเองเอาไว้ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นมาตรงใบหน้าแดงก่ำของเพ่ยอิง ก่อนจะค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วไล้เกลี่ยเม็ดเหงื่อที่พร่างพราวออกจากวงหน้าของนาง เขาทำด้วยท่าทางสุภาพอ่อนโยนยิ่ง
เพ่ยอิงถึงกับสะท้านเฮือก ร่างงามสั่นระริก ประหนึ่งถูกขึ้นคร่อมแล้วควบจังหวะอีกรอบ
ริมฝีปากแดงสดบนใบหน้าหล่อเหลาจึงยกโค้งขึ้น เผยรอยยิ้มละมุนละไมราวเทพเซียนจำแลง ตามด้วยเสียงทุ้มต่ำทรงเสน่ห์แหบพร่าพาหัวใจหญิงสาวสะท้าน
“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ ว่าหากเรื่องของเราสอง ล่วงรู้ไปถึงเมียรักของข้า จักเกิดสิ่งใด”
หญิงสาวคล้ายกับถูกต้องมนต์ด้วยปลายนิ้วกรุ่นร้อนและเสียงแหบเสน่ห์ของชายหนุ่ม นางจึงเอ่ยตอบเสียงแผ่ว “บ่าวรู้เจ้าค่ะ” จริงแท้ว่าองค์หญิงเหม่ยฮว๋าผู้ร้ายกาจ ไม่ปล่อยนางไปแน่
หยวนจงยังคงคลี่ยิ้มล่อลวง แล้วเอ่ยอีกครา “แต่ว่า ฮว๋าเอ๋อร์ของข้ายังไม่ตั้งครรภ์ หากเจ้าตั้งครรภ์ก่อนนาง ย่อมไม่เหมาะสม”
เพ่ยอิงมองแม่ทัพหนุ่มด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม “มันจะไม่เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ”
เสียงทุ้มพร่ายังคงเอ่ยข้างใบหูเล็กของเพ่ยอิง “อืม...แต่เรื่องนี้ป้องกันยากเสียด้วย เจ้าอาจจะตั้งครรภ์กะทันหันก็เป็นได้”
หญิงสาวรีบส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ หากบ่าวตั้งครรภ์ บ่าวได้ตายพร้อมลูกในท้องด้วยฝีมือองค์หญิงเหม่ยฮว๋าแน่!”
“อ่า...” หยวนจงครางในลำคอแล้วเอ่ยเนิบนาบฟังแล้วเสียวซ่านนัก “ทำอย่างไรดีเล่า ข้าติดใจเจ้าเสียแล้ว ห้ามได้หรือ หืม...”
เพ่ยอิงมองสบตอบสายตาเรียวคมอย่างแน่วแน่ ร้อนวูบวาบไปหมด “หากเป็นเช่นนั้น บ่าวยอมตาย แต่จะไม่ยอมตั้งครรภ์เจ้าค่ะ”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอบอุ่น ดวงตาทอประกายลึกล้ำ “เจ้าจะตายได้อย่างไร เจ้าทำให้ข้าพึงใจถึงเพียงนี้ ข้าอยากยกฐานะของเจ้าเหลือเกิน เจ้าอย่าคิดสั้นเช่นนั้นเชียว”
เพ่ยอิงได้ยินดวงตาวาบหวามพลันเปล่งประกายสั่นไหว แม้จะมิได้เป็นถึงภรรยาเอก แต่อาจจะได้เป็นถึงอนุที่มีบริวารติดตาม มิใช่เมียบ่าวผู้ต่ำตมเยี่ยงดินโคลน
“อา...ท่านแม่ทัพ ท่านพูดจริงหรือเจ้าคะ” นางถามอย่างตื่นเต้นเกินเก็บข่ม
หยวนจงพยักหน้าเบาๆ ช้าๆ ให้นางหนึ่งที กิริยาล้วนนุ่มนวลถนอมสาวงาม
ชายหนุ่มก้มหน้าไล้ปลายจมูกเสียดผิวแก้มแดงยามกระซิบกระซาบ “แต่หากฮว๋าเอ๋อร์เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา อย่าว่าแต่ยกฐานะให้เจ้าเลย แม้แต่ที่ยืนก็คงไม่มีให้เจ้ากระมัง” ใบหน้าหล่อเหลาบ่งบอกว่ากำลังรู้สึกหนักใจยิ่ง กังวลมากด้วย
ความคิดชั่วร้ายพลันไหลวูบเข้ามาในสมองของสาวใช้ในทันที หึ! หากเป็นเช่นนี้ องค์หญิงเหม่ยฮว๋าก็ทรงอย่าฝันเลยว่าจักได้ตั้งครรภ์กับท่านแม่ทัพของข้า...
รอยยิ้มละมุนของหยวนจงยังคงประดับตรงมุมปากได้รูปเปี่ยมเสน่ห์ หากแต่สายตาคู่คมกลับแปรเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นเย็นชา หากคิดจะกำจัดสตรีขี้อิจฉาได้แนบเนียนไร้ที่ติ ย่อมต้องใช้สตรีที่ริษยาได้ชั่วร้ายไม่ต่างกันนี่ล่ะ!
แน่นอนว่าสามีรับอนุมิใช่เรื่องผิด บุรุษมากภรรยา มีสตรีอุ่นเตียงเต็มเรือนนั้นต่อให้เป็นฮ่องเต้ก็ว่าเขาเรื่องนี้มิได้ แต่หากภรรยาไม่สามารถมีบุตรนั้นช่างแตกต่าง หรือหากนางต้องยาพิษจากฝีมือสาวใช้ผู้เป็นสินเดิมของนางเล่า
ฮึ! แค่คิดก็สนุกแล้ว...
หนึ่งชั่วยามต่อมา
ภายในเรือนของเหม่ยฮว๋า มีโฉมสะคราญที่ผ่านการเสพสมจากสามีเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากำลังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์หลังมื้ออาหารยามสาย พลางปรายสายตาที่เขียนเอาไว้อย่างประณีตมองไปทางสาวใช้ของตน แล้วเอ่ยเรียกเสียงห้วน
“ซือฮุย”
“เพคะ องค์หญิง” ซือฮุยรีบขานรับพลางโขกศีรษะอย่างนอบน้อมและแสดงความเคารพยำเกรงต่อสตรีตรงหน้าอย่างเหลือล้นประหนึ่งนางตรงหน้ายิ่งใหญ่กว่าโอรสสวรรค์ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ สตรีผู้ถือตนว่าสูงเทียมฟ้าจะพิโรธจนฟ้าถล่มลงมา ทั้งๆ ที่แต่งงานเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพแล้วแท้ๆ ยังถือตัวว่าเป็นองค์หญิงวัยสะพรั่ง
“เพ่ยอิงเล่า ไปตายที่ใด ไยข้าไม่เห็น” เหม่ยฮว๋าถามหาสาวใช้อีกคนด้วยรูปประโยคไร้ปรานี
แต่ยังไม่ทันที่ซือฮุยจักหาคำตอบใดมากล่าวอ้าง เพ่ยอิงพลันรีบคลานเข่าเข้ามา ใบหน้าของนางยังคงแดงซ่านไปถึงลำคอ ท่าทางเหน็ดเหนื่อยอิดโรยยิ่ง และแน่นอนว่านางไร้ริ้วรอยฝากรักให้ได้เห็น กระทั่งริมฝีปากยังไม่บวมแดงแต่อย่างใด เพราะหยวนจงมิได้ลงปากลงลิ้นกับนาง
ท่านแม่ทัพช่างรอบคอบนัก เพ่ยอิงคิดในใจอย่างปลื้มปริ่ม
เหม่ยฮว๋าหรี่ตามองแล้วถามเสียงดุ “เจ้าไปที่ใดมา เพ่ยอิง”
สาวใช้รีบโขกศีรษะก่อนตอบกลับ “ทูลองค์หญิง หม่อมฉันไปดูแลจัดการสั่งงานบ่าวหน้าเรือนให้ดูแลความเรียบร้อยเพคะ”
เพ่ยอิงแก้ตัวได้แนบเนียนนัก ทั้งๆ ที่ไปร่วมรักกับสามีของสตรีตรงหน้ามาถึงสามรอบอย่างเร่าร้อน
ซือฮุยปรายหางตามองเพ่ยอิงอย่างริษยานัยน์ตาแดงเดือด นางย่อมรู้ดีว่าท่านแม่ทัพขยำได้หนำใจปานใด
อิจฉายิ่ง!
ถึงแม้ว่าสองสาวใช้จะรู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี หากแต่พวกนางย่อมฉลาดพอที่จะมิให้สตรีผู้ร้ายกาจตรงหน้าได้รู้เรื่องราวของพวกนางเป็นอันขาด
เพราะว่าหากเหม่ยฮว๋ารู้ขึ้นมา ว่าท่านแม่ทัพจับพวกนางที่เป็นสาวใช้คนสนิทกลืนกินจนพวกนางสุขสมกันถ้วนหน้า นรกก็นรกเถิด อาจกลายเป็นด้อยไปเลยก็ได้เมื่อเทียบกับความร้ายกาจของสตรีนามว่า เหม่ยฮว๋า...