บท
ตั้งค่า

บทที่2.คว้าดาว......

“ตายแน่เลย ช่วงนี้จะเอาเงินที่ไหนซื้อข้าวกิน” หญิงสาวยังคงบ่นต่อ ไม่ได้คิดถึงความเดือดร้อนของพรรณี ที่ห่วงคือตนเองแค่นั้น

“คิดจะทำงานมั้ยล่ะ ผมมีคนรู้จักที่สามารถทำให้ช่อมีเงินได้ง่ายๆ แค่...” เลย์ขยักคำพูดไว้ เขารอให้ช่อชบาสนใจ เมื่ออาชีพที่เขาจะเสนอ หากหญิงสาวสนใจ...เขาคงสบาย เพราะหาที่ ‘เกาะ’ ใหม่ได้

ช่อชบาดันตัวลุกขึ้นนั่ง “งานอะไรคะ?” หล่อนร้องถาม งานสบายๆ รายได้ดีมีด้วยเหรอ

เลย์อมยิ้ม เขารั้งช่อชบาเข้ามากอดไว้หลวมๆ พร้อมกับก้มลงกระซิบข้างหู

และนั้นก็เป็นก้าวแรกของช่อชบา กับอาชีพเสริมตอนไม่มีสตางค์

ประเทศไทย...เวลา 5:00 นาฬิกา...

เป็นความตื่นเต้นของสามสาวต่างวัย หลังจากลงแรงตำน้ำพริกกันจนดึกดื่น เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เมวิกา ติ๋มและนาง จึงแหกตาตื่นมาตลาดสดแต่เช้า เพื่อหาซื้อผักสดไว้สำหรับเป็นผักเคียง สำหรับการเป็นแม่ค้าขายน้ำพริกครั้งแรก

“ติ๋ม มาตลาดแต่เช้าเลยนะ”

แม่ค้าสาวที่รู้จักกับติ๋มเป็นอย่างดีร้องทัก

“แวว...ฉันกับป้านางคิดจะขายน้ำพริกที่ตลาดนัดหน้าหมู่บ้านก็เลยมาหาซื้อผักสดน่ะ” ติ๋มคุยจ้อยๆ

“ดีๆ เดี๋ยวฉันแวะไปอุดหนุน ฝีมือป้านางสุดติ่ง รับรองขายดีแน่”

บ้านใกล้เรือนเคียง มีอาหารก็มักจะแบ่งปันกัน ดังนั้นฝีมือของนางจึงเป็นที่รู้จักดี

“สาธุ!!” นางยกมือท่วมหัว

“อ้าว คุณเม...มากับเขาด้วยเหรอคะ”

แววหันไปทักเมวิกาที่ยืนอยู่หลังสุด

หญิงสาวยิ้มรับไม่ได้พูดอะไรต่อ

“คุณเมเรียนจบแล้วกำลังหางานทำน่ะแวว นี่คุณเมก็ออกทุนให้ด้วยล่ะ”

“อ้าว...แล้วงานบ้านล่ะติ๋ม ออกไปขายของ คุณนายของแกไม่ว่าเอาเหรอ?”

ในเมื่อนางกับติ๋มเป็นคนงานในบ้านของพรรณี แล้วแบบนี้จะไม่มีปัญหาภายหลังหรือไง

“คุณนายไม่ว่าหรอก ฉันต้องกินต้องใช้ ก็คุณนายน่ะ!!” ติ๋มเกือบแฉพรรณีจนหมดดีที่เมวิกากระแอมปรามไว้เสียก่อน “อะแห้ม!!”

“ช่างเถอะๆ อย่าลืมล่ะ แวะไปอุดหนุนฉันด้วย...จะได้มีสตางค์มาคืนคุณเม”

“เออๆ เดี๋ยวช่วยโฆษณาให้...นู้นๆ ร้านผักเจ้านั้นน่ะผักสด ราคาถูกด้วย ทั้งแจกทั้งแถมเลย แม่ค้าใจดี”

แววชี้นิ้วไปยังร้านผักเจ้าหนึ่ง ที่ลูกค้าแน่นเป็นพิเศษ เนื่องจากความใจดีของคนขาย จึงมีลูกค้ามาใช้บริการกันเนืองแน่น

ตะกร้าใบใหญ่บรรจุผักสดจนแน่น แถมมีถุงหิ้วอีกหลายถุงแต่กลับใช้สตางค์ไปไม่เท่าไหร่ เมื่อคุยถูกคอกับแม่ค้าผักสด

รอยยิ้มแต้มเต็มหน้าเมื่อมีความหวังกรำกรายเข้ามาในชีวิต

“แหมๆ หัวเราะระริกระรี้มากันเชียว หายหัวไปไหนกันหมด ฉันเรียกจนปากจะฉีกไม่มีใครอยู่สักคน”

ทันทีที่โผล่เข้ามาในเขตรั้วบ้าน เสียงแหลมปรี๊ดของพรรณีก็ทำลายบรรยากาศดีๆ เกือบหมด

ติ๋มถอนลมหายใจ เดินผ่านหน้าพรรณีไปโดยไม่คิดจะตอบคำถาม

“อ้าว!! อีนี่ ปากไม่มีหรือไง งานบ้านไม่รู้จักทำออกไปแรดที่ไหนกันมา” พรรณีตวาดซ้ำ ติ๋มปรายตามอง ก่อนจะไหวไหล่ใส่

“คุณนายจะเอาอะไรคะเดี๋ยวนางไปเอาให้เอง”

นางตัดรำคาญ จึงร้องถามความต้องการของเจ้านายสาว

“เตือนอีติ๋มมันด้วยนะนาง อย่ามาทำเป็นกระด้างกระเดื่องใส่ฉันนัก เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือยังไงยะ ฉันเป็นเจ้านายของมันนะ มันน่ะเป็นขี้ข้าจำใส่กระลาหัวไว้ด้วย”

พรรณีกล่าวเสียงดังด้วยความเดือดดาล นางถลึงตาใส่ทั้งนางและเผื่อแผ่ไปยังลูกเลี้ยงที่ยืนอยู่ด้านหลังนางด้วย

“ไปตลาดมาค่ะ...เย็นนางจะทำกับข้าวใส่ตู้ไว้นะคุณนาย จะกินก็หาเอา นางกับติ๋มจะออกไปขายของที่ตลาดนัด”

นางเอ่ยบอกนายจ้าง

พรรณีตวาดแหว “แกสองคนจะให้ฉันหากินเอง...แต่จะออกไปข้างนอก ได้ยังไง!!”

“คุณนาย ติ๋มไม่อยากจะพูดแล้ว ถามหน่อยเดือนละ3000 กับกินกันทั้งบ้าน พอยาไส้มั้ยคะ? ไม่ให้ติ๋มดิ้นรนออกไปหางานเสริม ก็จ่ายค่าจ้างมาเถอะค่ะ ติ๋มกับป้าจะได้ออกไปอยู่ข้างนอก ไม่ต้องมารองมือรองตีนใครด้วย”

ติ๋มแหวมาจากด้านใน สาวใช้สุดแสบหมดสิ้นความเกรงใจ เมื่อเจ้านายไม่ทำตัวให้น่านับถือ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel