บทที่1.ความฝัน....
“อย่าไปสนใจคุณนายเลย คุณเมจะไปมั้ยคะ ติ๋มว่า...หุ่นแบบคุณเมนี่ผ่านชัวร์ โครงหน้าแบบนี้กำลังอินเทรนด์”
ถึงจะเป็นแค่คนรับใช้ แต่เรื่องขวนขวายหาความรู้ใส่ตัว ติ๋มไม่เคยเป็นรองใคร...หล่อนชอบอ่าน หนังสือสารพัดอย่างที่ติ๋มหยิบมาอ่าน เป็นการเพิ่มความรู้แบบอัตโนมัติ เมื่อมันซึมซับความรู้นั่นใส่ไว้ในหัวสมอง
เมวิกาอมยิ้ม “ก็ว่าจะลองไปดู ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร...ถือเป็นประสบการณ์ด้วย...คนไปกันเยอะ เมไม่ได้หวังหรอกติ๋ม”
ห้องเสื้อชั้นนำ แถมยังอยู่ถึงปารีส มีหรือสาวๆ จะไม่รีบไปตบเท้ามาร่วมคัดเลือก เมวิกาไม่ได้หวัง เธอแค่อยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และหากมันสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ ก็ดีไม่น้อย
“สาธุ!! ขอให้คุณเมผ่านเถอะเพี้ยง!! ติ๋มอยากเห็นหน้าคุณนาย เวลาที่รู้ว่าคุณเมได้ไปเมืองนอกเหมือนคุณช่อ”
สาวใช้ตัวแสบยกมือขึ้นพนมเหนือศีรษะ หล่อนบนบานศาลกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ท่านทั้งหลายดลบันดาลให้เมวิกาประสบความสำเร็จ เพื่อจะได้เห็นความผิดหวังของพรรณี เมื่อเมวิกาเป็นทายาทของคุณเมธีแท้ๆ แต่กลับไม่ได้แตะต้องสมบัติที่ท่านสั่งสมมาสักนิด เป็นเพราะพรรณีงุบงิบเอาไปเป็นเจ้าของจนหมด...
“กูช่วยบนด้วยคน เจ้าพ่อไหนที่ว่าแน่ ช่วยคุณเมด้วยนะเจ้าคะ อิฉันจะเอาเป็ดไก่ มาแก้บนให้”
นางร่วมด้วยช่วยกัน สองสาวผู้ภักดีประนมมือขอพรสิ่งที่มองไม่เห็น เพื่อเป็นแรงใจให้กับเจ้านายสาวสุดอาภัพคนนี้
“ขอบคุณค่ะป้านาง ติ๋ม เมจะพยายาม”
หญิงสาวยิ้มกว้าง เธอยกมือขึ้นประนมหว่างอก รับน้ำใจสองสาวใต้บังคับบัญชาที่เป็นแรงใจให้ตนเอง
“คุณเมเอาสตางค์มาให้ป้ากับนังติ๋ม…แล้วคุณเมจะเอาที่ไหนใช้คะ”
สาวใช้สูงวัยติง นางมองธนบัตรยับๆ ที่กำไว้แน่นในมือ สลับกับมองสบนัยน์ตานายสาว
“เมมีค่ะ” เมวิกาทำงานพาร์ทไทม์ เธอมีเงินเก็บนิดหน่อยพอจะเจียดมาให้นางกับติ๋ม เพราะพวกเขาก็จำเป็นต้องใช้ เธอไม่เข้าใจพรรณีเหมือนกัน รายได้จากเงินปันผลของบรรดาบริษัทหลายบริษัทที่บิดาเป็นหุ้นส่วนก็น่าจะพอใช้จ่ายในบ้าน รวมทั้งส่งให้ช่อชบาใช้ แต่ทำไมพรรณีถึงไม่จ่ายเงินเดือนลูกจ้าง
“โธ่...แม่คุณ” นางน้ำตาซึม เก็บสตางค์ไว้ในกระเป๋าเสื้อแอบเช็ดน้ำตาเมื่อซาบซึ้งกับน้ำใจของเมวิกา
“คุณเม...หิวมั้ยคะ?” ติ๋มเอ่ยถาม นางมองเจ้านายสาวด้วยความซาบซึ้ง
“อืม...นิดหน่อย ว่าจะหาอะไรรองท้อง แล้วจะเสี่ยงออกไปหางานทำน่ะ”
หญิงสาวยิ้มอ่อน ติ๋มจึงกุลีกุจอ ลุกไปจัดหาให้ “นั่งเฉยๆ ค่ะ ติ๋มจัดให้เอง...สู้ๆ นะคะ ติ๋มกับป้าเอาใจช่วย”
คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ติ๋มภาวนาให้ศักดิ์สิทธิ์เห็นใจในวิบากกรรมของเมวิกา จนช่วยดลบันดาลสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเธอบ้าง
ข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยแกงมะเขือกับไก่ ติ๋มยกมาวางไว้ให้เมวิกาบนโต๊ะ พร้อมกับน้ำสะอาดหนึ่งแก้ว
“วันนี้ป้านางว่าจะทำบัวลอย คุณเมรีบกลับมาทานด้วยนะคะ”
ถึงจะมีงบจำกัด แต่คนประหยัดอย่างนางก็รู้จักใช้ นางซื้อของกินที่ต้องใช้ไว้ ถูๆ ไถๆ อยู่ได้จนถึงสิ้นเดือน เมื่อนายจ้างให้สตางค์เท่าที่ใช้ ไม่เคยเผื่อเหลือ มีแต่ขาด...
“พอดีคนข้างบ้านเอามะพร้าวมาให้น่ะค่ะคุณเม เลยมีกะทิทำขนม...เหลือจากแกงนั่นแหละค่ะ”
นางเปรยยิ้มๆ แล้วจึงลงมือทำงานที่ค้างไว้ต่อ...ปล่อยให้เมวิการับประทานอาหารมื้อเช้าไปเงียบๆ
หลังจากเดินทางไปทิ้งเอกสารสมัครงานไว้ตามบริษัทที่เสิร์ชหาได้ใน อินเทอร์เน็ต เมวิกาจึงมาเดินคร่าเวลาเตร่ไป เตร่มาในห้างสรรพสินค้า เพราะการจราจรบ่นถนนกำลังคลาคล่ำด้วยรถยนต์ เมื่อผู้คนตบเท้ากันออกมาหาอาหารมื้อกลางวันใส่ปากใส่ท้อง ตามประสามนุษย์เงินเดือน เมื่อยังอยู่ในช่วงต้นเดือนสามารถกินหรูอยู่แพงได้...แบบยังไม่เดือดร้อนเงินในกระเป๋าสตางค์
ร่างสมส่วนในชุดเรียบร้อย หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวคอปก กับกระโปรงยาวคลุมเข่าสีเทาอ่อน แต่นั่นไม่สามารถกลบรัศมีเฉิดฉายของเมวิกาได้เลยสักนิด เธอมีเสน่ห์ชวนมองทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะลุกยืน นั่ง เดิน เมวิกามักจะตกเป็นเป้าสายตาคนรอบข้างเสมอ แต่บุคลิกภายนอกของเธอดูน่าเกรงขาม จึงไม่ใคร่มีหนุ่มๆ คนไหนกล้าเดินเข้าไปทักทาย ได้แต่แอบเมียงๆ มองๆ อยู่ห่างๆ