ตอนที่ 3 ข้ากับภรรยาคนที่สาม
ตอนที่ 3 ข้ากับภรรยาคนที่สาม
....ไจ๋ซีหยุน....
กุนซือแคว้นเถียนไจ๋ซีหยุน อัจฉริยะรู้รอบด้านฉลาดหลักแหลมเก่งกาจสมคำล่ำลือทั่วทุกแคว้นไม่มีใครไม่รู้จักชื่อข้าคำสั่งของคนรักย่อมต้องทำให้ได้คนรักของข้าเป็นถึงฮองเต้ที่มีความสามารถพวกเรารู้จักและชอบพอกันมากจนเป็นที่อิจฉาของผู้คนในตอนั้นตอนนี้ข้าได้รับมอบหมายให้มาตามจอมทัพผู้เก่งกาจกลับแคว้นเถียนคนผู้นั้นก็คือ หลี่เจ๋อหลิน
"เจ้าคืนท่านแม่ทัพแคว้นของข้ามานะ เจ้าคนสกปรกใจหยาบช้า ต่ำทราม!"
เสียงด่าท้อก้นด่ามากมายล้วนออกมาจากปากเรียวสวยพ่นคำด่าต่อว่าบุรุษตรงหน้าอย่างไม่นึกเก่งกลัวต่อผู้ใดทั้งสิ้นคนอย่างไจ๋ซีหยุดไม่เกรงกลัวใครอยูแล้ววาจาด่าคนตายให้ฟื้นย่อมเป็นเขาที่ทำได้
"ที่นี้ไม่มีแม่ทัพแคว้นเจ้าหรอกที่นี้มีแต่ภรรยาข้าเท่านั้น"
"สามหาวนัก เจ้าคนถ้อย!!!"
"ซีหยุน เจ้าบังอาจด่าทอสามีของข้างั้นหรอ"
"ท่านแม่ทัพกลับแคว้นเรากันเถอะ ท่านจะอยู่ที่นี้ทำไมกัน"
"ข้ามีสามี ก็ต้องอยู่กับสามีของข้าน่ะสิข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น"
"ท่านจะทอดทิ้ง แคว้นเถียนไม่ได้นะท่านแม่ทัพกลับแคว้นของเราเถอะนะ"
"เจ้าเป็นกุนซือมากความสามารถอย่างเจ้า สามารถหาคนที่ดีกว่าข้าได้แน่นอนอีกอย่างฝ่าบาททรงมีรับสั่งไล่ข้าออกจากแคว้นและปลดข้าออกจากตำแหน่งแม่ทัพเพราะข้าแต่งให้บุรุษไปแล้ว เจ้าขอร้องข้าแบบนี้ถึงข้าใจอ่อนยอมกลับไปฝ่าบาทก็จะต้องสั่งประหารข้าน่ะสิ"
"ในเมื่อท่านจะอยู่ที่นี้ ข้าก็จะอยู่ด้วยกันกับท่านที่นี้เช่นกัน!"
"เจ้ามาอยู่ที่นี้ในฐานะอะไร"
หยางเฟิงเอ่ยถามอย่างสงสัยร่างสูงโปร่งของไจ๋ซีหยุนขยับเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมาทำให้ทุกคนตกใจไปในทันที
"ภรรยาคนที่สามของท่านยังไงล่ะ"
"ห่ะ!! "
"เจ้าบ้าไปแล้ว"
"ข้าพึ่งแต่งงานได้สองเดือนเจ้าจะเข้ามาเป็นภรรยาคนที่สามของสามีข้างั้นหรอ"
"ใช่ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเจ้าต้องมาสู่ขอข้าที่แคว้นเรียนตามพิธีการของแคว้นเถียนไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้ท่านกลายสภาพเป็นขันทีไปเลย!!"
"เจ้าๆๆๆ น่าไม่อายมายุ่งกับสามีข้ายังบังคับบีบคั้นเขาอีกเจ้ามันคนต่ำทรามจริงๆ"
"ใจเย็นๆท่านแม่ทัพเรื่องนี้ข้าแค่ต้องการจะช่วยชีวิตพวกท่านทั้งสามเท่านั้นเองข้าขอตัว"
เป็นไปได้อย่างไรในเมื่อฝ่าบาทส่งจดหมายมาให้ข้านำตัวท่านแม่ทัพกลับแคว้นหรือมีเหตุอันใดกันแน่
แคว้นเถียน
หลังที่ข้ากลับมาที่แคว้นเถียนก็ได้ล่วงรู้ถึงแผนการกำจัดท่านแม่ทัพที่ฝ่าบาทต้องการจะทำเพราะถ้าท่านแม่ทัพไปอยู่ที่อื่นจะต้องนำพาคนอื่นแคว้นอื่นมาจัดการแคว้นเถียนแน่นอนเพื่อให้แคว้นปลอดภัยจึงจำเป็นต้องกำจัดท่านแม่ทัพและครอบครัวให้หมดสิ้นข้าจึงนำความลับเหล่านี้ไปคุยกับนายผู้เฒ่าตระกูลหลี่เพื่อให้มีทางหลบหนีไปที่ชายแดนแคว้นเซียงกับแคว้นเฉินได้ในทันทีเพียงไม่นานคนตระกูลหลี่พากันหลบหนีออกจากแคว้นเถียนไปหาบุตรเขยที่ชายแดนระหว่างแคว้นเซียงกับแคว้นเฉินซึ่งแคว้นเถียนไม่สามารถเข้าไปทำอะไรใครได้ในพื้นที่ของแคว้นสองแคว้นนั้น
รุ่งเช้าตัวข้านั้นได้นอนนคิดมาหลายคืนและคิดตัดสิ้นใจได้ว่าถ้าข้าไม่หลงเหลือประโยชน์ใดๆกับฝ่าบาท ฝ่าบาทก็จะทำเช่นนี้กับข้าเช่นกันข้าควรจะถอยห่างเสียดีกว่าชีวิตข้าไม่สำคัญก็จริงแต่ท่านแม่ของข้านั้นสำคัญอย่างยิ่งข้าจึงได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทในเช้าวันรุ่งขึ้น
"ถวายพระพรฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นๆปีหมื่นๆปี "
"เจ้ากลับมาแล้วหรือ ข้ารอเจ้านานแล้วล่ะ พวกเจ้าออกไปก่อนเจ้าเข้ามาหาข้าสิ"
"ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องที่จะทูลฝ่าบาทพะย่ะค่ะ"
"คนดีของข้าเจ้ามีเรื่องอันใดถึงรีบร้อนขนาดนี้"
"กระหม่อมมาทูลฝ่าบาทเรื่องการแต่งงานของกระหม่อมกับหยางเฟิงว่าที่สามีของกระหม่อมพะย่ะค่ะ"
"คนดีเจ้าจะแต่งงานงั้นหรอ"
"พะย่ะค่ะฝ่าบาท "
"เจ้าเคยสัญญากับข้าไว้ว่าเจ้าจะมีข้าเป็นคนรักคนเดียวเท่านนั้นนี้เจ้าจะผิดสัญญากับข้างั้นหรอ หยุนเอ๋อ"
"ในตอนนั้น กระหม่อม อายุเพียง 12 ขวบไม่รู้เรื่องราวใดจึงไม่รู้แจ้งถึงความรักว่าอันใดคือความรัก และในตอนนี้ฝ่าบาทเป็นแค่องค์ชายที่ไม่มีใครเอ็นดูเท่าไหร่"
"พอกระหม่อมเข้าวังมากับบิดาเพื่อมาเป็นเพื่อเล่นกับฝ่าบาท กระหม่อมก็แค่คิดว่ากระหม่อมรักพระองค์แต่พอพระองค์เติบใหญ่เป็นถึงกษัตริย์แคว้นเถียน กระหม่อมมิบังอาจเทียบผู้ใดได้ ขอพระองค์ทรงส่งเสริมกระหม่อมด้วยพะย่ะค่ะ"
"เจ้าตัดใจได้งั้นหรือ เจ้าเฝ้ามองข้ามาหลายปีเจ้าตัดใจได้แล้วจริงหรือ"
"พะย่ะค่ะ กระหม่อมตัดใจได้แล้วขอให้พระองค์ทรงส่งเสริมการแต่งงานของกระหม่อมในครั้งนี้ด้วยเถิดพะยะค่ะ"
"เจ้าจะทำอะไรก็ทำเถอะข้าเหนื่อยแล้วต้องการพักผ่อนเจ้าออกไปเถอะ"
"ขอบพระทัยฝ่าบาทขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นปีหมื่นๆปี"
ข้าเดินออกมาจะท้องพระโรงก็เจอเข้ากับฮองเฮาผู้ทรงงดงามแต่จิตใจหยาบช้าผู้ที่แย่งคนรักของข้าไปต่อหน้าต่อตาข้าได้เพียงแค่มองใบหน้างดงามที่แฝงไปด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิตนั่นแล้วยังทำให้ข้ารู้สึกรังเกียจขยะแขยงขึ้นไปอีกนางสมควรตายนักเมื่อไม่กี่เดือนก่อนความสัมพันธ์ของข้ากับฝ่าบาทเป็นไปได้ด้วยดีแต่พอฝ่าบาทแต่งตั้งฮองเฮามาเหยียบย้ำใจของข้าทำร้ายใจของข้าแล้วคนที่ข้ารักกลับเอาแต่หลอกใช้ข้าอยู่ร่ำไป เมื่อฮองเฮาเห็นข้ามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทก็จะส่งคนมาทำร้ายข้าหรือไม่ก็ท่านแม่ที่อยู่ที่จวนอยูเสมอบางครั้งปล่อยข่าวว่าข้าเป็นภรรยาลับของท่านแม่ทัพหลี่จนมีฝ่าบาทปัญหากับท่านแม่ทัพอยู่เรื่อยมาสบโอกาสที่ท่านแม่ทัพถูกบังคับให้แต่งงานเป็นข้าเองที่วางแผนพาท่านแม่ทัพหนีออกมาจากจวนได้
"ข้าก็นึกว่าใครที่ไหนที่แท้ก็คือกุนซือไจ๋ซีหยุนนี้เองเจ้ามาที่นี่คือต้องการอะไรจากฝ่าบาทอีกล่ะ"
"ถวายพระพรฮองเฮากระหม่อมมิบังอาจที่จะมาทูลขออะไรจากฝ่าบาทหรอกพะยะค่ะ พระองค์อย่าคิดมากเลยพะย่ะค่ะกระหม่อมมีงานขอตัวไปทำงานก่อนพะย่ะค่ะ ทูลลา"
"เจ้านี้ บังอาจนักใช้เรือนร่างชี้นำฝ่าบาทแล้วยังลบลู่ข้าผู้เป็นถึงฮองเฮาอีก!"
เพี๊ยะ!!!!
ฝ่ามืออันงดงามตบมาที่ใบหน้าของข้าอย่างแรงจนข้านั้นล้มลงในทันทีแค้นนี้ข้ารอคิดบัญชีเจ้าแน่ฮองเฮาก่อนที่ข้าจะได้เอาคืนเสียงของฝ่าบาทก็ดังขึ้น
"หยุดนะฮองเฮา นี้เจ้าจะทำอะไรหยุนเอ๋อ!!"
"ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ"
"อย่าคิดว่าเจ้า เป็นฮองเฮาแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรเจ้านะ ถ้าเจ้ายังขืนทำแบบนี้อีกข้าจะสั่งถอดเจ้าออกจากการเป็นฮองเฮาซะ!!"
"ฝ่าบาท!!"
"หยุนเอ๋อ เจ้ากลับไปได้แล้ว ส่วนฮองเฮาข้าจะให้เจ้าไปถือศีลที่วัดหนึ่งเดือน!"
"ไม่นะเพคะฝ่าบาท !!"
ข้ากลับมาถึงจวนของข้าก็เห็นท่านแม่นั่งเล่นอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ข้าจึงเดินเข้าไปหาท่านแม่ที่รอข้ากลับจวนทุกวันโอบกอดท่านแม่อย่างคนึงหา หน้าอันงดงามไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปตามอายุของท่านแม่ยังคงงดงามอยู่เช่นเดิมข้ามองใบหน้างดงามนั่นแล้วรู้สึกเจ็บใจขึ้นมายังบอกไม่ถูก
"ท่านแม่ข้าคิดถึงท่านยิ่งนักข้าไม่อยู่มีใครทำอะไรท่านแม่หรือไม่"
"ไม่หรอกแม่สบายดีไม่มีใครมาทำอะไรแม่หรอกนะเจ้ามาก็ดีมาทานอาหารเย็นเถอะ"
"ขอรับข้าผิดเองออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วกลับมาเย็นทำให้ท่านแม่เป็นห่วงยิ่งนัก
"เจ้าเด็กคนนี้อย่างคิดมากแม่รอทานอาหารพร้อมเจ้าเพราะแม่เหงามากสมบัติมีมากแต่แม่ก็เหงานมากเช่นกันเมื่อไหร่เจ้าจะออกเรือนเสียที"
"ถ้าข้าออกเรือนข้าก็จะเอาท่านแม่มาอยู่ด้วยข้าจะไม่ทิ้งท่านให้อยู่คนเดียวอีกแล้วและข้าก็กำลังจะแต่งงานด้วย"
"จริงหรือเจ้าจะแต่งงานกับใครกัน"
"เอาไว้ถึงเวลาเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกไม่นานข้าก็จะได้มีเวลามาอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่แล้วนะขอรับ"
"แม่จะรอวันที่เจ้าพร้อมนะ"
"ขอรับท่านแม่งั้นเราไปทานข้าวกันจะได้เข้านอนเร็วๆนะขอรับ"
ในค่ำคืนที่เงียบสงบข้าและท่านแม่เข้านอนแล้วแต่มีบางอย่างที่ดูผิดปกติ จู่ๆข้าก็กลิ่นควันไฟมาจากที่ใดไม่รู้จู้โจมเข้ามาทันควัน ข้าเด้งตัวขึ้นทันที่แล้วรีบวิ่งไปที่ห้องท่านแม่ของข้าทันที ข้ารีบพาท่านแม่ออกมาจากจวนที่ไฟกำลังไหม้อยู่ ข้าพาท่านแม่ออกมาได้ทันควัน แต่เหมือนว่าโชคชะตาเล่นตลกมีกลุ่มโจรหนึ่งใส่ชุดดำมาราวสามสิบคนวิ่งเข้ามาจับตัวข้าและท่านแม่เอาไว้
"ปล่อยข้านะ!"
"เป็นบุรุษที่งดงามเสียจริง จับมันเอาไว้ข้าจะยัดเหยียดความเป็นความสุขให้กับมัน ฮ่าาๆๆๆๆ"
"ปล่อยข้านะ !!!"
"ฮ่าๆๆ"
"ขาวจริงๆด้วย ฮ่าๆ"
"ปล่อยข้า!!!!"
"อย่าดิ้น อึก!!!"
ฉึบ!!!!!
โจรที่กำลังจะขืนใจข้ากลับหยุดชะงักจู่ๆหัวของมันก็หลุดออกมาต่อหน้าต่อตาข้าเลือดใหลเปื้อนตัวข้าไปหมด ข้าตกใจสุดขีดไม่สามารถทำอะไรได้เลยข้าได้ยินแค่เสียงท่านแม่กรีดร้องด้วยความตกใจเท่านั้น พวกโจรพากันหันไปมองคนที่มาใหม่อย่างพร้อมเพรียงกันคนที่มาใหม่นั้นก็คืออดีตแม่ทัพใหญ่หลี่เจ๋อหลินนั้นเองมาพร้อมกับหยางเฟิงคนที่ข้าเคยคิดว่าไม่เอาไหนคนนั้น
"เจ้าบังอาจมากที่มายุ่งกับกุนซือไจ๋เชียวหรือ"
"เจ้าคือใคร!!!"
"ข้าหลี่เจ๋อหลิน ฮูหยินรองของสกุลลัวอดีตแม่ทัพใหญ่แคว้นเถียเจ้าคงเป็นคนของฮองเฮาสินะข้าจำเจ้าได้"
"ฆ่าพวกมันซะ!!"
การต่อสู้ห่ำหั่นกันอย่างดุเดือดเลือดพร่านอย่างหน้ากลัว ชายชุดดำนับสามสิบกว่าคนต่างรุมเข้าใส่ท่านแม่ทัพอย่างกระหายอยากจะฆ่าท่านแม่ทัพอย่างมาก ส่วนคนที่เข้ามาช่วยท่านแม่ทักอีกคนคือ ฮูหยินใหญ่ของหยางเฟิงที่อายุยังน้อยแต่วรยุทธ์กลับเก่งกาจเทียบเท่าท่านแม่ทัพอย่างมาก ภายในเวลาไม่มากนักเหล่าชายชุดดำก็ล้มลงพื้นดินกันหมด ถ้าข้าเข้ามาเป็นฮูหยินสามข้าจะไม่รังแกพวกเด็ดขาด
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ซีหยุน"
"ท่านแม่ทัพ"
"เจ้าไม่เป็นอันใดนะใส่เสื้อคลุมของข้าก่อนเถิด"
"ท่านแม่ไม่เป็นไรนะ"
"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"
"ไม่เป็นอันใดขอรับท่านแม่ ท่านไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วข้าจะได้โล่งใจที่ท่านไม่เป็นอันใด"
"ซีหยุน ข้ากับฮูหยินใหญ่ตัดสิ้นใจช่วยเจ้าแล้ว อีกสองอาทิตย์ข้าจะให้ท่านพี่จัดงานแต่งเจ้าที่แคว้นเถียนก่อนที่จะย้ายไปที่จวนของพวกเรากัน"
"ขอบคุณท่านแม่ทัพมากขอรับที่ช่วยข้า"
"เจ้าอยู่กับข้ามานานตอนนี้ถูกคนปองร้ายที่เจ้ายื่นคำขอกับข้าก็เพื่อการนี้สินะ"
"เจ้าคงอยากมีเรื่องคุยกับข้าสินะ"
"ขอรับ"
"งั้นเจ้าไปที่จวนเก่าของข้าก่อนก็แล้วกัน"
ข้าเดินทางมาถึงจวนเก่าที่เคยเป็นจวนตระกูลหลี่ในอดีตตอนนี้กลายเป็นโรงเตี๊ยมไปเสียแล้ว
"ซีหยุนมาคุยกับข้าที่ห้องของข้า"
"ขอรับ"
"ซีหนุน ที่เจ้าอยากที่จะแต่งงานกับสามีของข้าเพราะอะไรช่วยบอกเหตุผลมาหน่อยได้มั้ย"
"เมื่อเดือนก่อน ฝ่าบาทเรียกพบแล้วให้ข้ามาตามท่านกลับแคว้นแต่ข้าเริ่มสงสัยเพราะข้าไม่รู้ว่าท่านโดนปลดออกจากการเป็นแม่ทัพแล้วแต่ฝ่าบาทกลับให้ข้ามานำท่านกลับแล้วข้ามารู้ว่าฝ่าบาทต้องการกำจัดท่านและครอบครัวท่านข้าจึงรีบไปบอกนายผู้เฒ่าตระหลี่ให้รีบหนีไปหาพวกท่านที่จวนของสามีท่าน วันนี้ข้าได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้วบอกกับฝ่าบาทว่าว่าข้าจะแต่งกับหยางเฟิงข้าขอให้ท่านช่วยข้าได้หรือไม่ข้าขอร้องเพราะข้าไม่อยากให้ท่านแม่เป็นอันตรายข้านั้นตายได้แต่ท่านแม่จะตายไม่ได้เพราะทุกอย่างข้านั้นเป็นคนทำผิดเอง"
"พวกข้าตัดสิ้นใจช่วยเจ้าอยู่แล้ว แต่เจ้ายังรักฝ่าบาทเช่นนี้เจ้าตัดใจได้หรือ"
"ไม่ได้แล้วอย่างไร ได้แล้วอย่างไร ข้าก็ไม่มีสิทธิ์อยู่ดีข้ายอมที่จะแต่งให้กับสามีท่านดีกว่าจะไปเป็นสนมแล้วทำให้ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างเช่นในตอนนี้"
"ข้าเข้าใจ"
"ขอบคุณท่านแม่ทัพ ขอบคุณฮูหยินใหญ่ที่ช่วยข้า"
"เจ้าอยู่กับข้ามานาน ข้าไม่ช่วยเจ้าแล้วจะไปช่วยใคร"
"ขอบคุณพวกท่านมากๆขอรับ"
หลังจากนั้นไม่นานเกินรอข้าก็แต่งเข้าสกุลลัวเป็นฮูหยินสาม แม้ใจข้าจะยังรักฝ่าบาท แต่กาลเวลาอาจเปลี่ยนแปลงข้าได้อย่างแน่นอนเพราะตอนนี้ข้าไม่อาจเลือกฝ่าบาทได้อีกแล้วข้าไม่อาจทำแบบนั้นแล้วข้าไม่อาจทำแบบนั้นได้อีก เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของข้าคือท่านแม่
"เจ้าทำหน้าอะไรของเจ้า"
"ทำไมข้าจะทำหน้าแบบนั้นไม่ได้"
"นี้คือคืนเข้าหอของเราสองคนทำไมเจ้าถึงทำหน้าเหมือนจะตายแบบนั้น"
"ทำไมข้าจะทำไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการหนีจากฝ่าบาท ข้าไม่ยอมแต่งให้กับคนเจ้าชู้เช่นเจ้าหรอก"
"ถ้าฮูหยินของข้าบังคับให้แต่งงาน ข้าไม่ยอมให้เจ้าหรอก!"
"เจ้าคิดว่าตัวเองดีนักหรือไง!"
"ทำไม ข้าไม่ดีหรือไงเหอะ เจ้าก็อยากแต่งงานกับข้านั้นแหละ"
"เจ้าคนหลงตัวเอง!"
"ใช่เพราะข้านั้นรูปงามไม่ว่าสตรีหรือบุรุษต่างก็อยากแต่งให้ข้าทั้งนั้น"
"แต่ไม่ใช่ข้า..."
"แต่เจ้าก็แต่งให้ข้าแล้ว ไม่ทันแล้วล่ะที่เจ้าจะหนี"
"นี้เจ้ากำลังจะทำอะไร อย่าเข้ามานะ"
"คืนเข้าหอก็ต้องร่วมเตียงกันสิหรือเจ้าไม่เคยหลับนอนกลับเจ้าฮองเต้นั้น"
"เจ้า!!!"
"เจ้าจะปฏิเสธข้า? หน้าตาแบบนี้โดนเปิดบริสุทธิ์ไปนานแล้วสิ..."
เพี๊ยะ!!!!!!
"โอ๊ยยย นี้เจ้ากล้าตบข้าที่เป็นสามีหรือ"
"ใช่เพราะเจ้าปากไม่มีหูรูดไง กล่าววาจาอะไรออกมารู้บ้างมั้ย คนสารเลวออกจากห้องนอนข้านะ"
"ไม่คืนนี้ข้ากับเจ้าต้องนอนร่วมเตียงกันไม่อย่างนั้นฮูหยินข้าตีข้าตายแน่"
"ข้าบอกให้ออกไป...อื้อออ..."
ข้าถูกเจ้าคนชั่วสารเลวที่พึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสามีที่พึ่งแต่งงานกันเมื่อเช้านี้เองจู่โจม ทำเอาข้าที่ตัวเล็กว่าโดนเจ้าเด็กที่พึงอายุเพียง 15-16 ปีผู้นี้ข่มเห่งข้า ข้าไม่ยอมเขาแน่แต่เขากลับไม่ยอมปล่อยข้า เขาจุมพิตข้าอย่างหนักหน่วงก่อนจะดึงชุดแต่งงานของข้าออกบนร่างกายของข้าไม่เหลืออะไรปกปิดร่างกายเลยสักนิดใบหน้าของข้าร้อนผ่าวเพราะความกลัวและความเขินอายที่บุรุษผู้หนึ่งกระทำอะไรที่แปลกแยกแตกต่างจากผู้อื่นตัวของข้าไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้แต่กลับถูกชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีกำลังปลุกปล้ำกระทำย่ำยีทำเอาตัวของข้าถึงกับปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเพราะความรู้สึกเสียใจ
หยางเฟิงหยุดชะงักมองใบหน้าของค่าที่กำลังร้องไห้อยู่ก่อนที่จะค่อยๆดึงผ้าห่มมาปกปิดร่างกายและล้มตัวลงนอนกอดข้าเอาไว้ก่อนที่จะปลอบใจตัวของข้าเองก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาแต่ก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่ดีในค่ำคืนแห่งการแต่งงานการเข้าหอในคืนนี้ก็คือการที่เราสองคนต่างนอนโดยที่ไม่ได้ร่วมเรียงกันตามประเพณีแต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรพอพวกเราก็ทำตัวตามปกติข้าเองก็ทำนิ่งเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรอีก
"เมื่อคืนพวกเจ้าทั้งสองคนหลับกันดีหรือไม่"
"ดีขอรับนายท่านใหญ่"
เสียงของนายท่านใหญ่ดังขึ้นมา ก่อนจะจ้องมองมาที่ข้าที่กำลังทานอาหารเช้าอย่างสงบเสงี่ยมไม่กล้าที่จะพูดอะไรเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายมีสถานะอย่างไรไม่ทำตัววุ่นวายดีกว่าอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นดีที่สุดเพราะไม่อยากที่จะถูกไล่ให้ออกจากจวนไม่อย่างนั้นก็ไม่พ้นที่จะกลายเป็นบุรุษที่ถูกทิ้งหลังจากแต่งงานได้เพียงคืนเดียวเป็นขี้ปากชาวบ้านให้คนสอดรู้สอดเห็นได้นินทาลับหลังเป็นแน่
"ไม่ต้องเรียกนายท่านใหญ่หรอกนะ เรียกข้าว่าท่านพี่ใหญ่ก็พอ ข้าอนุญาตให้เจ้าเรียกเช่นนั้น"
"ขอรับ"
"สามีท่านทานอาหารรสชาติเป็นเช่นไรบ้าง"
"เช้าวันนี้อาหารไม่เลวเลยใครเป็นคนลงมือทำหรือแม่ครัวคนใหม่ใช่หรือไม่"
"เป็นฮูหยินรองเป็นคนลงมือทำอาหารในเช้าวันนี้เพื่อเป็นการต้อนรับฮูหยินสามของจวน"
"เข้าใจแล้วขอบใจมากนะฮูหยินรอง"
"ไม่เป็นอะไรขอเพียงท่านพี่เจริญอาหารในแต่ละเช้าข้าก็มีความสุขแล้ว"
ตัวของข้าจ้องมองบรรยากาศในเรือนหลังนี้ ช่างดูเงียบเหงาเหลือเกิน แต่ว่าถ้าจะให้ดีก็ควรมีดอกไม้ประดับสักหน่อยก็คงจะดีกว่านี้ไม่อย่างนั้นเรือนก็ดูเงียบเหงาและเศร้าสร้อยท่านแม่ทัพที่ตอนนี้กลายเป็นฮูหยินรองก็ค่อยๆก้าวย่างอย่างมั่นคงสง่าผ่าเผย เดินมายังเรือนของข้าโดยไม่ได้มีสีหน้าที่ไม่พอใจใดๆเลยทำให้รู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีกทีเมื่อคืนลงมือทุบตีสามีสุดที่รักของท่านแม่ทัพ
"ที่เรือนแห่งนี้เป็นเช่นไรบ้าง"
"ดีขอรับท่านแม่ทัพ"
"เจ้าเรียกพี่ร้องเถอะ ข้ารู้ดีว่าตัวของเจ้ารู้สึกเช่นไรเจ้าไม่ยินยอมที่จะแต่งงานก็จริงแต่ในเมื่อแต่งงานมาแล้วเจ้าก็ควรให้เกียรติสามีของพวกเราทุกคนเมื่อคืนนี้ข้ารู้หมดแล้วว่าเจ้ายังไม่ได้เข้าห้องหอกับสามีของพวกเราแต่เจ้าในฐานะภรรยาก็ต้องปรนนิบัติสามีหลีกเลี่ยงไม่ได้เข้าใจที่พูดหรือไม่"
"เข้าใจแล้วขอรับจะปฏิบัติอย่างดี"
"ข้าไม่ได้บังคับเจ้าหรอกนะ แต่ก็ควรรู้เอาไว้ว่า เจ้าเป็นคนเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้เอง"
"พี่รองเรือนของท่านแม่อยู่ที่ใดหรือขอรับ"
"เรือนของท่านป้าถูกจัดอยู่ในส่วนด้านในเจ้าไม่ต้องห่วงอย่างไรเสียก็เป็นมารดาของเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดูและดูแลเป็นอย่างดีไม่ให้ขาดตกบกพร่องใดๆทั้งสิ้นไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลเรื่องนี้เอง"
"ขอบคุณท่านพี่รอง ที่ท่านให้ความกรุณาพวกเราสองแม่ลูก"
"ช่างเถิดเราก็เหมือนครอบครัวเดียวกันในยามที่ข้าตกทุกข์ได้ยากลำบากในสนามรบก็มีเจ้าที่ช่วยเหลือเป็นดังพี่น้องและสหายเราไม่ต้องห่วงเจ้าอยู่ที่นี่จะได้รับการคุ้มครองเป็นอย่างดี"
"ขอรับท่านพี่รอง"