บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

เมื่อไม่มีทางเลือกใดอีก จำต้องพูดตะกุกตะกักออกไป “คือว่า... คือ... คุณลึกลับ อ่านไม่ออก เหมือนๆ กับสีดำน่ะค่ะ ฉันหมายถึงแบบนี้”

คามิเอลไม่ได้ยิ้มอีกแล้ว เมื่อเขาตวัดสายตาจ้องหน้าหล่อนอีกครั้ง “แต่สีดำอย่างฉัน ก็ยังถูกนังแพศยาบางคนล้วงคอเอาได้อย่างง่ายดาย”

หัวใจของวาดจันทร์ตกลงไปถึงตาตุ่มทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน หรือว่าคามิเอลจะจดจำหล่อน หญิงสาวหน้าซีดเผือด ขยับเท้าจะก้าวถอยหลังหนี แต่ก็เกิดสะดุดเข้ากับขอบตู้โชว์ด้านหลังทำให้หล่อนเซจะล้ม แต่มือใหญ่ที่ร้อนผ่าวของคนตัวโตก็ตวัดคว้าเอวคอดของหล่อนเอาไว้ได้ทันท่วงที

“ระวังหน่อยสิสาวน้อย”

“ขอบ... ขอบคุณค่ะ”

วาดจันทร์พูดเสียงตะกุกตะกัก ก่อนจะขืนตัวออกจากอ้อมแขนกำยำ ซึ่งคามิเอลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หญิงสาวถอนใจอย่างโล่งอก

“เอ่อ งั้นตกลงเป็นเนคไทสีน้ำเงินก็แล้วกันนะคะ นี่ค่ะ”

หญิงสาวรีบยัดเนคไทที่ตัวเองคิดว่าเข้ากับเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มใส่มือหนาทันที จากนั้นก็ตั้งใจจะเดินจากไป แต่แล้วข้อมือบางก็ถูกรวบเอาไว้เสียก่อน

“จะไปไหน”

หญิงสาวถูกดึงให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับซาตานร้ายอีกครั้ง “ดิฉันจะรีบไปทำงานอย่างอื่นค่ะ”

“ยังก่อน เธอต้องดูแลฉัน”

วาดจันทร์หรี่ตามองคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจ “แต่ฉันก็เลือกเนคไทให้กับคุณแล้วนี่คะ เสร็จงานของฉันแล้ว ดังนั้นฉันจะไปทำงานอื่นต่อ หรือว่าคุณต้องการให้ฉันพาไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน”

คามิเอลส่ายหน้าน้อยๆ รอยยิ้มหยันๆ บนใบหน้าหล่อลากไส้ของเขาทำให้หล่อนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ บางครั้งผู้ชายคนนี้เหมือนมีแผนการอะไรอยู่ภายในใจ แต่พอสังเกต พอจะพิจารณาให้ถี่ถ้วน หล่อนกลับไม่พบสิ่งที่กำลังสงสัยเลยแม้แต่นิดเดียว

เขาไม่มีทางจำหล่อนได้ ใช่... ไม่มีทางจำได้อย่างแน่นอน ก็หล่อนในคืนนั้นกับวันนี้มันต่างกันลิบลับนี่น่า ผู้หญิงชุดสีทองในค่ำคืนนั้นที่คามิเอลถูกตาต้องใจสวยงามไม่ต่างจากนางฟ้า ในขณะที่หล่อนในวันนี้ต่ำต้อย และไม่เหลือเค้าความงามเลยแม้แต่นิดเดียว เด็กกะโปโล ผู้หญิงจรจัด นี่แหละคือหล่อนในวันนี้

“เรื่องจ่ายเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนอย่างฉัน”

ยะ หล่อนรู้ว่าเขาใหญ่ เขารวย และโคตรมีเงิน วาดจันทร์คิดอย่างหมั่นไส้

“แล้วอะไรที่เป็นปัญหาสำหรับคุณล่ะคะ”

คามิเอลอมยิ้ม วูบหนึ่งวาดจันทร์เห็นความเลือดเย็นในดวงตาคมกริบของเขา แต่แค่กะพริบตามันก็จางหายไป ทำให้หล่อนคิดว่าตัวเองตาฝาดไปเองเท่านั้น

“ผูกเนคไทให้กับฉัน”

“ว่าไงนะคะ?!”

“ฉันคิดว่าเธอได้ยินคำพูดของฉันชัดเจนทุกคำ”

คนฟังหน้าแดงก่ำ พลางบิดมือออกจากการเกาะกุมทันที จากนั้นก็ถอยหลังออกห่าง มองเขาอย่างหวาดระแวงไม่ไหวใจ

“แต่... ฉันคิดว่าคุณผูกมันเองได้”

“ทุกวันน่ะใช่ แต่วันนี้ฉันต้องการให้เธอผูกเนคไทให้กับฉัน”

“แต่ว่า...”

“ลืมไปแล้วหรือไงว่าที่ห้างของเธอน่ะ ลูกค้าคือพระเจ้า”

คามิเอลพูดจบก็เดินดุ่มๆ ตรงไปยังห้องลองเสื้อผ้า วาดจันทร์รีบเดินหน้าตาตื่นตามไป

“ผูกเนคไทไม่จำเป็นต้องเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้าก็ได้ค่ะ ตรงนี้ก็ได้”

คนตัวโตหยุดเดินหันมามองด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “แต่ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว เดินตามเข้ามา อย่าให้ฉันต้องไปรายงานพฤติกรรมของเธอกับหัวหน้าของเธอล่ะ”

แล้วพ่อเจ้าประคุณที่คาบความเอาแต่ใจมาตั้งแต่เกิดก็เดินหายเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า วาดจันทร์หัวใจเต้นแรง มองไปรอบๆ ตัวอย่างหวาดหวั่น แต่เพราะไม่มีเลือกจึงจำเป็นต้องกัดฟันเดินตามคนตัวโตเข้าไป

คามิเอลอมยิ้มอย่างพึงพอใจที่วาดจันทร์เดินตามตัวเองเข้ามา เขาเอื้อมไปลงกลอนประตู และนั่นก็ทำให้วาดจันทร์หน้าตาซีดเผือดด้วยความตกใจ

“คุณ... ล็อกประตูทำไม”

คนถูกถามไหวไหล่กว้างของตัวเองน้อยๆ อย่างไม่แยแสสิ่งใดในโลก “ฉันชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องการตกอยู่ในสายตาของใคร”

“แต่ฉัน... ฉันไม่ชอบอยู่กับผู้ชายในที่รโหฐานแบบนี้ มันเสียหาย” วาดจันทร์กำเนคไทในมือแน่นจนมันแทบขาด มองเขาอย่างขุ่นเคือง

“อย่างเธอ... มีอะไรให้เสียได้อีกหรือ”

“นี่คุณ... อย่ามาดูถูกฉันนะ”

ดวงตาเขียวปั๊ดของวาดจันทร์ทำให้คามิเอลไม่อยากจะต้องปากต่อคำด้วยอีก เขาเหลือบตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนทองของตัวเอง ก่อนจะพูดออกมา

“เธอมีเวลาผูกเนคไทให้ฉันห้านาที ลงมือซะ”

คนถูกออกคำสั่งเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรงแทบหลุดออกมาจากขั้ว ให้ตายเถอะ ทำไมยิ่งหนี ทำไมยิ่งพยายามจะอยู่ให้ห่างไกล แต่สุดท้ายกลับต้องมาใกล้ชิดถึงขนาดนี้นะ ดูสิ... ตาบ้าคามิเอล การ์รัสโซ่ ยืนอยู่ห่างจากหล่อนแค่คืบเดียวเท่านั้นเอง

งาน...ท่องเอาไว้วาดจันทร์ว่ามันคืองาน รีบทำ มันจะได้จบๆ กันไปซะที รีบทำเข้า... รีบทำ... หญิงสาวตะโกนบอกตัวเองก้องสมอง

“ก็ได้... ฉันจะรีบผูกเนคไทให้กับคุณ”

คามิเอลซ่อนยิ้ม แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าวาดจันทร์นั้นแพศยามากแค่ไหน และเขาจะต้องเอาคืนให้สาสม แต่พอได้อยู่ใกล้ๆ กับหล่อน เขากลับลืมทุกความอาฆาตไปเสียจนหมดสิ้น มีแต่เพียงความรู้สึกวูบวาบหวานฉ่ำที่หล่อเลี้ยงไปทั้งเรือนกายเท่านั้น

“งั้นก็เริ่มสิ” คนตัวโตเอาสองมือของตัวเองไพล่หลังเอาไว้

“งั้นก็ก้มลงมาหน่อยได้ไหมคะ คุณตัวสูง ฉันผูกไม่ถึงหรอกนะ”

“นั่นมันเรื่องของเธอ ใครใช้ให้เกิดมาตัวเท่ามดล่ะ”

คำพูดไม่แยแสของคนที่ยืนนิ่งอยู่ทำให้วาดจันทร์ต้องเม้มปากแน่น และก็จำเป็นอย่างที่สุดที่จะต้องเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อให้สามารถตวัดเส้นเนคไทรอบลำคอแกร่งของเขาได้ แต่เพราะปลายเท้าไม่มั่นคงหล่อนจึงเซไปชนกับแผ่นอกกว้างถึงสามครั้งกว่าจะสามารถทำได้สำเร็จ

หญิงสาวหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขิน เพราะเกรงว่าคามิเอลจะคิดว่าหล่อนให้ท่า แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกคิดไป เพราะคนตัวโตยังคงยืนนิ่งไม่ได้แสดงท่าทางสะทกสะท้านอะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว แทนที่วาดจันทร์จะรู้สึกโล่งใจกับท่าทางเฉยชาของคามิเอล ตรงกันข้ามหล่อนกับรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกต่างหาก เพราะหล่อนสะท้านไปทั้งตัวและหัวใจเมื่อได้สัมผัสกับเขา แต่เขาสิ... ยืนเฉยเหมือนกับว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ก็อย่างว่าล่ะนะ หล่อนในสายตาของเขามันก็แค่พนักงานห้างต่ำต้อยนี่ แถมยังหน้าตามอมแมมน่าเกลียดอีก คามิเอล การ์รัสโซ่ไม่มีทางมองซ้ำสองหล่อน วาดจันทร์คิดอย่างขมขื่นสุดๆ

“เลิกจ้องฉันแล้วรีบๆ ผูกเถอะวาดจันทร์ อย่าลืมสิว่าฉันมีประชุม”

คนที่กำลังจมปลักอยู่ในบ่อเหวแห่งความทุกข์ทรมานสะดุ้งได้สติในทันที วาดจันทร์หน้าร้อนผ่าวกับคำพูดตรงไปตรงมาของคามิเอล

“ฉัน... กำลังพยายามอยู่...”

และวาดจันทร์ก็พยายามอย่างที่พูดจริงๆ แต่ด้วยมือไม้ที่สั่นเทาก็ทำให้หล่อนต้องผูกมันซ้ำๆ อยู่หลายครั้งกว่าจะสามารถทำสำเร็จได้

“สะ เสร็จแล้วค่ะ”

คามิเอลหรี่ตาลงมองเนคไทที่วาดจันทร์เป็นคนผูกให้ด้วยสายตาไร้ความรู้สึก “ขอบใจมาก เธอนี่มีฝีมือในการเลือกและผูกเนคไทจริงๆ เลย วันหน้าฉันคงจะต้องมาใช้บริการเธออีกแน่ๆ”

“เอ่อ...”

หญิงสาวยังไม่ทันจะตอบอะไรออกไป เอวคอดของหล่อนก็ถูกรวบและถูกดึงเข้าไปหาร่างกายกำยำของคามิเอลเสียก่อน

“คุณ... จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะคะ”

“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า แค่จะให้รางวัล”

คนตัวโตก้มหน้าต่ำลงมาหา ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเขย่าโสตประสาทของหล่อนได้อย่างรุนแรงเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

“รางวัล...?”

“ใช่ รางวัล... ที่เธอเลือกและผูกเนคไทให้ฉันได้อย่างยอดเยี่ยมยังไงล่ะ”

แล้วเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้พูดอะไรออกไปอีก ปากร้อนผ่าวสุดเร้าใจของเขาทาบประกบลงมาหาอย่างรวดเร็ว เขาขยี้ บดเคล้าจนกลีบปากของหล่อนแทบจะฉีกขาด แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่สาแก่ใจ ยังไม่เพียงพอกับความโหยหาที่อัดแน่นอยู่ภายใน เพราะเขายังคงเดินหน้า จูบอย่างบ้าระห่ำ ปากของเขาแนบชิดประกบอย่างแน่นหนา ลิ้นแกร่งบุกรุกเข้าไปในช่องปากหวานฉ่ำของหล่อนทันทีที่หล่อนเผลอตัวร้องคราง เขาตวัด ดูดดื่ม ทุกสัมผัสความหอมหวาน ดื่มกินทุกอณูแห่งความอภิรมย์จากกลีบปากของหล่อน ทุกอย่างมันสวยงาม ทุกอย่างมันเต็มไปด้วยความซาบซ่านรัญจวนใจ และทุกอย่างคงเดินหน้าต่อไปอีก ถ้าคนตัวโตไม่ผละออกห่างไปเสียก่อน ทิ้งให้หล่อนลอยคว้างอยู่ท่ามกลางความโหยหาที่ยังไม่อิ่มเอมตามลำพัง

“ฉันมีประชุมต่อ...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel