ตอนที่ 2
“เธอกล้าพูดกับลูกค้าวีไอพีของฉันแบบนี้ได้ยังไง เธอไม่รู้หรือไงว่าผู้ชายคนนี้คือใคร คามิเอล การ์รัสโซ่ อย่าบอกนะว่าเธอโง่เง่าจนไม่รู้จัก!”
เสียงตวาดจากหัวหน้างานทำให้วาดจันทร์หน้าซีดเผือด หล่อนก้มหน้างุด และตอบเสียงแผ่วเบาด้วยความหวาดกลัวว่าจะตกงาน
“จันทร์... จันทร์ขอโทษค่ะ”
“ฉันจะให้ใบเตือนเธอ และแน่นอนว่ามันจะมีผลกับโบนัสปลายปีนี้แน่ๆ”
ความอำมหิตของหัวหน้างานทำให้วาดจันทร์ยิ่งหวาดกลัว หล่อนเงยหน้าขึ้นมองและพูดวิงวอน
“บอสคะ จันทร์ขอโทษค่ะ ต่อไปจันทร์จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
หัวหน้างานของหล่อนกำลังจะซัดถ้อยคำบาดหัวใจออกมาอีก แต่เสียงกระด้างของคามิเอลหยุดเอาไว้เสียก่อน
“อย่าให้ถึงต้องให้ใบเตือนกันเลยครับ ผมไม่อยากให้ตัวเองเป็นต้นเหตุให้ใครต้องถูกตำหนิหรือถูกไล่ออก”
“มันไม่เกี่ยวกับคุณคาร์ลหรอกค่ะ แต่มันเป็นกฎของทางห้างเรา ลูกค้าคือพระเจ้า พนักงานที่นี่ต้องปฏิบัติตามนโยบายของเราค่ะ”
หัวหน้างานของหล่อนยังยืนยันที่จะทำโทษหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่รู้ว่าคามิเอลนั้นกำลังคิดอะไรอยู่เพราะเขาตั้งหน้าตั้งตาจะช่วยหล่อนเสียเหลือเกิน
“ถ้านโยบายของคุณคือ ลูกค้าคือพระเจ้า ดังนั้นคุณก็ต้องฟังความต้องการของผม”
“เอ่อ...” หัวหน้างานของหล่อนเริ่มพูดไม่ออก และคามิเอลก็วางอำนาจต่อไป
“ผมต้องการให้คุณลืมเรื่องใบเตือนไปซะ แล้วให้วาดจันทร์มาดูแลผมก็พอ”
หัวหน้างานของหล่อนปรายตามองหล่อนอย่างสงสัย เพราะเห็นคามิเอลออกรับแทน แต่หล่อนก็ก้มหน้าหลบสายตาเสียก่อน หัวหน้างานของหล่อนจึงต้องทำตามความต้องการของคามิเอลอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้
“ทุกอย่างจะเป็นไปตามความต้องการของคุณคาร์ลทั้งหมดค่ะ”
รอยยิ้มที่ระบายยิ้มบนใบหน้าหล่อลากไส้ของคามิเอลมีผลต่อจังหวะการหายใจของหล่อนอย่างรุนแรง หัวใจของหล่อนแทบหยุดเต้นสิ่งที่ได้เห็น
“ขอบคุณมากครับ รับรองว่าผมจะรายงานเรื่องนี้กับหัวหน้างานของคุณ เชิญคุณตามสบายครับ”
คำพูดสุภาพแต่มีความหมายเชื้อเชิญให้จากไปของคามิเอลทำให้หัวหน้างานของหล่อนต้องก้มหน้ารับคำ และเดินจากไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นพ่อเจ้าประคุณก็หันไปสั่งคนของตัวเองด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ทรงอำนาจแบบสุดๆ ของตัวเองด้วยเช่นกัน
“มาติน โจชัว ไปรอที่รถ อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะตามไป”
“ครับนาย...”
สองหนุ่มสายเลือดตุรกีเดินจากไปแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่หล่อนกับคามิเอล การ์รัสโซ่แค่สองคนเท่านั้นที่ยืนประสานสายตากันอยู่ วาดจันทร์ตัวสั่น หัวใจก็สั่น และพยายามจะเดินหนี แต่น้ำเสียงเลือดเย็นของคนตัวโตก็หยุดการเคลื่อนไหวของหล่อนเอาไว้เสียก่อน
“จำเรื่องใบเตือนไม่ได้หรือไงวาดจันทร์”
คนถูกเตือนหันขวับกลับมามองทันที หล่อนเม้มปากแน่น “คุณจะขู่ฉันอย่างนั้นหรือคะ”
คามิเอลอมยิ้มและเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าหล่อนใกล้มากยิ่งขึ้น ใกล้จนหญิงสาวได้สัมผัสถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำยาโกนหนวดได้เป็นอย่างดี ผู้ชายคนนี้ทำให้หล่อนสะท้านสะเทือนไปทั้งตัวได้อย่างเหลือเชื่อที่สุด
“เปล่า ก็แค่เตือนความจำน่ะ เพราะถ้าเธอไม่ดูแลฉัน หัวหน้าของเธอก็จะเล่นงานเธอ”
“ฉันจะไปตามพนักงานคนอื่นให้ ในห้างนี้มีพนักงานแผนกเสื้อผ้าบุรุษมากมาย ครึ่งร้อยได้เลยมั้ง” หล่อนตอกกลับเขา แต่เขาก็สวนกลับมาอย่างทันควัน
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันต้องการให้เธอเป็นคนดูแลฉัน และเลือกเนคไทให้กับฉัน”
“แต่ฉัน...”
หญิงสาวอึกอักพูดไม่ออก หน้าตาแดงก่ำเพราะความรู้สึกลึกๆ ในหัวใจของตัวเองกำลังสำแดงฤทธิ์เดช บ้าที่สุด ทำไมจะต้องรู้สึกอยากให้เขาจูบ จูบ... เหมือนสามครั้งที่ผ่านมาด้วยนะ วาดจันทร์แทบร้องไห้กับความคิดน่าสังเวชใจของตัวเอง
“อย่าบอกนะว่าที่เธอปฏิเสธที่จะดูแลฉัน มันเป็นเพราะว่าเธอกลัวฉัน”
ใบหน้าหล่อลากดินของเขาก้มต่ำลงมาหา ต่ำมากๆ จนหล่อนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดลงมาบนใบหน้า โอ้... นี่เขาจงใจทำให้หล่อนคลั่ง หรือว่ามันแค่เรื่องบังเอิญกันนะ
“กรุณาถอยออกไปค่ะ” หล่อนเตือนเขาเสียงแปร่งพร่า
คามิเอลระบายยิ้มหยัน พร้อมกับถอยออกไปตามคำเตือนของหญิงสาว
“เอาล่ะวาดจันทร์ ฉันมีประชุมในอีก 45 นาทีต่อจากนี้ ดังนั้นเธอมีเวลาประมาณ 30 นาทที่จะเลือกเนคไทที่เหมาะสมกับบุคลิกของฉันให้กับฉัน”
คนฟังเสมือนถูกมัดมือชก “คุณกำลังบังคับฉันนะ”
“ตรงกันข้ามสาวน้อย ฉันแค่กำลังรอให้เธอทำหน้าที่ของเธอต่างหาก”
คนตัวโตพูดจบก็เดินหายเข้าไปในกลุ่มของเสื้อผ้าบุรุษตรงหน้า วาดจันทร์กัดปากแน่น ไม่มีทางเลือกจำต้องเดินตามเขาไป
“เธอว่าฉันควรจะเลือกเนคไทสีไหนดี”
เขาเดินมาหยุดตรงหน้าตู้ที่มีเนคไทราคาแพงระยับ รอยยิ้มบางๆ จากคนตัวโตทำให้หัวใจของหล่อนหล่นไปกองกับพื้นได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนน่าขายหน้า
เอาล่ะ รีบๆ ทำ รีบๆ เลือกให้เขา ทุกอย่างจะได้จบ และหล่อนกับเขาจะได้ไม่ต้องพบหน้ากันอีก หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองแบบนั้น ก่อนจะรีบมุ่งหน้าทำหน้าที่ของตัวเองขึ้นมาในทันควัน จนคามิเอลอดหรี่ตามองด้วยความแปลกประหลาดใจไม่ได้
“แล้วคุณชอบสีไหนล่ะคะ”
“ฉันชอบเข้มๆ น้ำตาล น้ำเงิน หรือไม่ก็ดำไปเลย” เขาตอบเสียงเยือกเย็น พลางหยิบเนคไทลายขวางสีน้ำเงินเส้นหนึ่งขึ้นมามองอย่างสนใจ
หญิงสาวมองตามก่อนจะเอ่ยถาม “คุณชอบเส้นนี้หรือคะ”
คามิเอลพยักหน้ารับน้อยๆ “ใช่ ฉันว่ามันก็ไม่เลวนะ”
วาดจันทร์อมยิ้มน้อยๆ พลางจ้องไปที่เสื้อเชิ้ตลายตารางที่เขาสวมใส่ และพูดขึ้น “ใช่ค่ะ มันสวย สวยมาก แต่มันจะไม่เหมาะกับเสื้อเชิ้ตลายตารางของคุณน่ะสิคะ”
คนฟังเลิกคิ้วสูง คล้ายกับไม่เข้าใจ “ทำไมเธอคิดถึงว่ามันจะไม่เหมาะล่ะ ฉันชอบเส้นนี้นี่”
“ก็ถ้าคุณใส่เสื้อเชิ้ตสีพื้นน่ะไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ถ้าคุณใส่เสื้อเชิ้ตลายตารางสีฟ้าแบบนี้ มันจะไม่เหมาะอย่างยิ่งค่ะถ้าคุณจะเลือกเนคไทลายขวางมาใส่น่ะค่ะ”
“แต่ฉันชอบ”
“งั้นคุณพอคุณใส่มัน คุณก็จะไม่ต่างอะไรจากม้าลายเลยสักนิด”
วาดจันทร์เผลอหัวเราะออกมา และรอยยิ้มหวานๆ ที่เป็นธรรมชาติของหล่อนก็ทำให้คามิเอลที่กำลังจ้องมองอยู่นั้นตะลึงตะลานไปชั่วขณะ ทั้งๆ ที่พยายามบอกกับตัวเองว่าวาดจันทร์ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าผู้หญิงหิวเงินเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กระนั้น... เขาก็อดที่จะคิดถึงหล่อนไม่ได้ รสจูบจากกลีบปากนุ่มที่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งป่าของหล่อนมันติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขาไม่เสื่อมคลาย อยากจะลืม อยากจะลบไม่ออกไปจากสมอง แต่ก็ทำไม่เคยสำเร็จเลยสักที เพราะอย่างนี้นี่ไง เขาถึงต้องดั้นด้นมาซื้อเนคไทถึงห้างสรรพสินค้าที่วาดจันทร์ทำงานอยู่ ทั้งๆ ที่ภายในห้องเสื้อผ้าของเขามีเนคไทเกือบๆ หนึ่งพันเส้นได้มั้ง นี่เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ใช่... ต้องบ้าไปแล้วจริงๆ นั่นแหละ
“เวลาเธอยิ้ม... เหมือนโลกทั้งใบยิ้มไปด้วยเลยนะ”
คำพูดของเขาทำให้คนที่กำลังหัวเราะอยู่รู้สึกตัว หล่อนมองเขานิ่ง มองลึกเข้าไปในดวงตาคมกริบหวานฉ่ำของเขาอย่างเผลอตัวเผลอใจ
“คุณ... หมายถึง...”
คามิเอลระบายยิ้มบางๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของคู่สนทนา “ตอนนี้ฉันเหลือเวลาอีกแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้นนะสาวน้อย ช่วยเลือกเนคไทให้ฉันที”
วาดจันทร์ยืนตัวชาวาบ หน้าแดงปลั่งไม่ผิดจากผลตำลึงสุก หล่อนเบิกตากว้างมองเขา และความขัดเขินทำให้หล่อนต้องก้าวถอยหลังหนี
“เอ่อ... ฉันจะรีบเลือกให้ค่ะ”
แล้ววาดจันทร์ก็ก้มหน้ามองบรรดาเนคไทในตู้โชว์อยู่สองสามอึดใจ ก่อนที่มือขาวสะอาดจะเอื้อมเข้าไปหยิบเนคไทสีน้ำเงินเรียบๆ แต่ดูหรูหราน่ามองออกมา
“เส้นนี้ชอบไหมคะ มันเข้ากับเสื้อเชิ้ตของคุณมาก”
“ก็สวยดี” คามิเอลตอบ แต่สายตาไม่ละไปจากดวงหน้างามแม้แต่วินาทีเดียว
วาดจันทร์หลบตา ก่อนจะเอื้อมไปหยิบเนคไทอีกเส้นขึ้นมา “หรือว่าคุณจะชอบเส้นนี้คะ สีดำ เหมาะกับบุคลิกของคุณดี”
“ทำไมเธอถึงคิดว่าสีดำเหมาะกับบุคลิกของฉันล่ะ”
ดวงตาคมกริบหรี่แคบจ้องหน้าหล่อนอย่างคาดคั้น ทำไมนะ ทำไมหล่อนถึงได้ใจสั่นสะท้านทุกครั้งที่สบสายตาของผู้ชายหล่อระเบิดคนนี้ ทำไมจะต้องหวั่นไหวมากๆ แบบนี้ด้วย ท่องเอาไว้สิ ท่องเอาไว้ว่าคามิเอล การ์รัสโซ่คือแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนคือผืนดินที่แผ่นฟ้าสูงส่งไม่มีทางลดสายตามองต่ำลงมาหา ไม่ว่าจะนานสักแค่ไหนก็ตาม วาดจันทร์บอกตัวเองอย่างขมขื่น
“คือ...”
“ทำไม...”
คำถามคาดคั้นของเขาดังขึ้นพร้อมๆ กับการที่เขาสาวเท้าเข้ามาหา หล่อนยืนนิ่ง ตัวหินเป็นหินขยับเขยื้อนไม่ได้ ทำได้แค่เพียงมองเขาด้วยสายตาตื่นตระหนกเท่านั้น
“บอกมาสิว่าทำไมถึงคิดว่าฉันเหมาะกับสีดำ”