ตอนที่ 3.ผิดพลาดเกือบแผนแตก..
“เธอชื่ออะไร?”
“อย่ารู้เลยค่ะ ไม่มีประโยชน์หรอก” ณิรินตอบเสียงแห้ง พยายามขืนตัวและรั้งตัวเองออกจากพันธะนาการ
“อย่างน้อยเธอก็ควรบอกชื่อฉันนะ” คาลวินท้วง
“หากคุณรับปากว่าจะปล่อย ฉันถึงจะบอกค่ะ” ณิรินต่อรอง สัญชาติญาณเตือนเธอ ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา หากเธอไม่อ่อนข้อให้เขาบ้าง วันนี้ภารกิจของเธอพังแน่
“ได้ ฉันชื่อคาลวิน หากเธออยากไปกับฉัน เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันนะ”
ณิรินพยายามจะไม่โกรธ เธอฝืนยิ้มให้ “ปล่อยฉันก่อนสิคะ แล้วฉันถึงจะบอก”
“อย่าลูกไม้แล้วกับฉันกันนะคนสวย หากเธอรู้ว่าฉันเป็นคนอารมณ์ร้อนแค่ไหน เธอจะไม่บิดพลิ้วเลย” เหมือนคาลวินจะรู้ล่วงหน้า หากเขาปล่อยมือ เขาจะไม่ได้อะไรจากหญิงตรงหน้าเลย
คาลวินยอมปล่อยมือ ณิรินยิ้มหวานให้แล้วก็พูดช้า “ในสายตาของคุณฉันคงต่ำต้อยไร้ค่าที่สามารถซื้อด้วยเงินได้ แต่ขอโทษนะคะ ฉันแค่มาทำงานไม่ได้คิดมาขายตัว ที่นี้คุณคงรู้คำตอบของฉันแล้ว ขอตัวค่ะ คุณเรียกคนอื่นมาบริการเถอะค่ะ ฉันไม่ได้โกรธคุณเลย แค่อยากอธิบายให้เข้าใจ ผู้หญิงไม่ได้ไร้ศักดิ์ศรีทุกคนหรอกนะคะ”
ณิรินเดินจากไป คาลวินมองตาม หลังจากนั้นเขาก็ทิ้งตัวลงนั่ง พยายามลดความระอุร้อนในใจ เขาไม่ควรทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองด้วยการตามไปรั้งผู้หญิงต่ำๆ คนนั้นไว้ คาลวินปรายหางตามอง
ผู้หญิงคนนั้นเดินไปหยุดที่โซนVIP ถัดจากโต๊ะเขา
“เรียกน้องๆ คนอื่นแทนดีไหมครับ?” คาลวินส่ายหน้า
เขาหมดอารมณ์และไม่มีความอยากสนุกไปเสียแล้ว
“คิดสตางค์เถอะ” เขามาคนเดียว ดีนที่เป็นเลขาฯ และการ์ดของเขาไม่ได้มาด้วย คงเพราะกร่ำงานหนักติดๆ กันมาหลายเดือน คาลวินตั้งใจที่จะมาพัก แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องมาเจรจาธุรกิจแทนมารดาที่นี่ ดีนเลยมีความจำเป็นต้องไปหาข้อมูลคู่ค้า ที่มารดาตั้งใจจะร่วมหุ้นส่วน คาลวินส่งเครดิตการ์ดของเขาให้ แล้วก็ฉวยแก้วมาดื่มบรั่นดีที่เหลือ
“ใจเย็นๆ สิณิริน ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกนะ” ใครบางคนเดินมาหยุดอยู่ใกล้โต๊ะเขา คาลวินปรายหางตามอง หัวคิ้วเขายกขึ้นสูง รู้สึกแปลกใจหน่อยๆ
ผู้ชายท่าทางดีแต่สีหน้าเคร่งเครียด กับผู้หญิงคนนั้น ท่าทางเหมือนมีเรื่องอะไรกันอยู่ คาลวินลดสายตามองต่ำ เรียวแขนกลมกลึงของหญิงผู้นั้นถูกจับยึดไว้
“ปล่อยค่ะ” ณิรินกระซิบเสียงต่ำ พลางรั้งมือของติณแรงๆ
“ณิริน ขอเถอะ อย่าบอกเรื่องนี้กับตะวันเลยนะ” ติณพูดเสียงแหบ เขาไม่อยากผิดใจกับทานตะวัน ทั้งๆ ที่กำหนดวันวิวาห์ใกล้เข้ามา
ณิรินตวัดตามอง เธอยกมือกอดอก “คุณไม่ควรทำแบบนี้ตั้งแต่แรกค่ะ” ช็อตเด็ดที่เธอเห็นเต็มตา ติณไม่สามารถหาข้อแก้ตัวได้เลย ผู้หญิงของเขาไม่ใช่พนักงานที่นี่ หญิงผู้นั้นเป็นลูกค้าที่ติณพามาด้วย คำกล่าวหาของณิรินไม่เกินจริง ติณกำลังนอกใจพี่สาวของเธอ เขาควรมีความซื่อสัตย์มากกว่านี้ หากติณตั้งใจจะแต่งงานกับทานตะวันจริงๆ
อังคณาเดินเข้ามาสมทบ พลางกดยิ้มมุมปากตอนที่กวาดตามองชายตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“หากงานแต่งล่มขึ้นมา เธอรับผิดชอบไหวเหรอ?” พอขอร้องไม่ได้ผลก็ออกลูกพาลพาโลเสียแล้ว
ณิรินยิ้มมุมปาก “ถ้าล่มขึ้นมาจริงๆ ก็ดีสิคะ พี่สาวฉันไม่ควรร่วมหัวจมท้ายกับผู้ชายไม้เลื้อยอย่างคุณ”
“นี่ณิริน เธอปลีกวิเวกนานแล้ว เธอไม่เข้าใจเรื่องทางโลกหรอกนะ”
ณิรินกลอกตา ส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่ใช่ฤๅษีค่ะ ฉันเข้าใจโลกดีกว่าคุณแน่นอน”
“ป่วยการต่อปากต่อคำกับไอ้หมอนี่ เธอกลับบ้านเถอะ ให้พี่ตะวันเป็นคนตัดสินใจ” อังคณาพูดแทรก แล้วก็ทำท่าจะรั้งณิรินเดินหนี
“หากเธอทำแบบนั้น ‘บริษัทม่านไม้ของพี่สาวเธอเจ๊งแน่” ณิรินขมวดคิ้ว ท่าทางมั่นอกมั่นใจของติณทำให้ณิรินสะดุด ต้องมีบางอย่างที่เธอยังไม่รู้ เกี่ยวกับเรื่องที่สองตระกูลจะดองกันแน่ๆ
คาลวินขมวดคิ้ว เขาได้ยินชัดๆ ชื่อบริษัทนั่นคุ้นหูพิกล คาลวินนิ่งคิด ‘ม่านไม้’ เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาดูข้อความที่มารดาส่งให้ คาล วินกดยิ้มมุมปาก เป็นชื่อบริษัทที่เขาต้องมาเจรจาเพื่อร่วมทุนด้วยนั่นเอง ความเบื่อหน่ายกับภาระที่กดทับบนสองบ่าหายเป็นปลิดทิ้ง การมาครั้งนี้ของเขาน่าจะมีอะไรสนุกๆ ให้ทำเยอะแยะเลยทีเดียว